ตอนที่ 34 แผนการร้าย ติดกับเข้าแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 34 แผนการร้าย ติดกับเข้าแล้ว
ต๭นที่ 34 แผนการร้าย ติดกับเข้าแล้ว ในตอนนี้ สุมิตรเพึ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำ จึงทำให้กนกอรตกใจจนกระโดดเหยกขึ้นมาทันที เป็นผลทำให้มือไม่อ่อน และหยกก็ล่วงหล่นลงกับพื้น “ใครให้เธอขยับมัน?” สุมิตรตะคอกออกมาทันที เขารีบเดินและเก็บหยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันเป็นสิ่งของที่ล้ำค่า แม้แต่กนกอรเองก็ยังตกใจกลัวเขาจนแทบจะล้มทั้งยืน สุมิตรเงยหน้าขึ้น สายตาเยือกเย็น จ้องมองกนกอรอย่างโหดเหี้ยม ทำให้คำพูดของกนกอรที่อยากจะพูดอธิบายออกไปติดอยู่ในคำคอ “สุ......” กนกอรเอ่ยปากพูด ก็ได้ถูกสุมิตรขัดขึ้นมาทันที ทำได้เพียงแค่ฟังเจาตระโกนออกมาด้วยความโมโห “ไสหัวออกไป!” กนกอรตกตะลึง ร่างกายสั่นเทา ในใจมีความสับสนอยู่นิดหน่อย เธอไม่เข้าใจอยู่นิดหน่อย โดยปกติแล้วสุมิตรจะไม่ค่อยทำดีกับจันวิภาสักเท่าไหร่ และพวกเขาทั้งสองก็ดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกอะไรให้แก่กัน แล้วทำไมสุมิตรถึงได้ทะนุถนอมหยกของจันวิภากันนะ? นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ! ยังไม่ทันที่กนกอรจะมีเวลาพอที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ได้ยินเสียงตะวาดของสุมิตรดังออกมาไม่หยุดหย่อน “อย่าให้ผมต้องพูดถึงสามครั้ง รีบไสหัวออกไป!” กนกอรสะดุ้งโหยงขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเห็นสีหน้าของสุมิตรที่ย่ำแย่ ก็ไม่กล้าที่จะลังเลอีก แล้วจังรีบออกไปจกห้องของเขา หลังจากออกจากห้อง กนกอรจึงถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วพูดกระซิบกับตนเอง “คิดไม่ถึงเลยว่าสุมิตรจะโกรธได้น่ากลัวขนาดนี้ แต่ แท้จริงแล้วสุมิตรชอบจันวิภาหรือเปล่านะ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายสะแล้ว!” …… เช้าตรู่วันที่สอง หลังจากจันวิภาตื่นขึ้นมาก็พบว่าชั้นล่างไม่มีใครอยู่เลย สุมิตรกับกนกอรราวกับหายสาบสูญไป แม้ว่าจันวิภาจะสงสัย แต่ในใจกลับเงียบสงบ เธอคิดว่าถ้าหากสุมิตรกับกนกอรยังอยู่ละก็ มันก็คงจะยิ่งหนักมือกว่านี้อีก เมื่อคิดอย่างนี้ รอยยิ้มที่ไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยของจันวิภาก็ได้ปรากฏขึ้นมา หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ลงไปกินข้าวที่ชั้นล่าง เดินทีมันดูเหมือนจะเป็นวันที่ปกติธรรมดา แต่ทว่าหลังจากกินข้าวเสร็จ ทันใดนั้นเองจันวิภาก็ได้รับสายโทรเข้าของกนกอร “จันวิภา......จันวิภา ฉันมีเรื่องจะขอร้องให้เธอช่วยหน่อยได้ไหม?” เสียงโทรศัพท์ต้นสายของกนกอรกำลังร้องไห้อยู่ ทำให้จันวิภาแปลกใจอยู่เล็กน้อย จันวิภาคิดว่ากนกอรโทรมาหาเธอเพื่อที่จะพูดเรื่องของสุมิตร ดังนั้นจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างไม่ลังเลว่า “ทำไม? เธอจะมาพูดเรื่องสุมิตรอีกแล้วหรอ?” “ไม่ใช่ๆ......” กนกอรีบพูดตอบ น้ำเสียงดูรีบร้อนเป็นอย่างมาก “จันวิภา แม่เลี้ยงของฉันเล่นพนันมาแล้วแพ้หมดตัว และตอนนี้เธอกำลังพลิกแผ่นดินหาฉันอยู่เพื่อจะจับฉันกลับไป เธอรีบมาช่วยฉันหน่อยได้ไหม? พวกเราเป็นพี่น้องกันมาหลายปีแล้ว เรื่องก่อนหน้านี้ที่ฉันแย่งสามีของเธอน่ะฉันผิดเอง แต่ครั้งนี้ช่วยฉันหน่อยได้ไหม?” น้ำเสียงของกนกอรนั้นยิ่งต่ำและแหบแห้งขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีร่องรอยของความสิ้นหวังในน้ำเสียง นั่นทำให้จันวิภาทนไม่ได้อยู่เล็กน้อย “เธออยู่ที่ไหน?” จันวิภาเอ่ยถาม แต่ทว่าในตอนนี้ ปลายเสียงโรศัพท์อีกด้านกลับเปลี่ยนเป็นเสียงผู้ชาย เสียงของเขาหยาบคายและไม่น่าฟังเป็นอย่างมาก เอ่ยปากพูดตระโกนออกมา “ในหนึ่งชั่วโมง ถ้าหาเงินหนึ่งแสนมาไม่ได้ ชีวิตน้อยๆของกนกอรก็จบสิ้นกัน!” ประโยคนี้ทำให้จันวิภาตกใจกลัวจนเหงื่อไหลออกมาเย็นเฉียบ เธอยังต้องการที่จะถามอะไรบางอย่างอยู่ แต่ทว่าคนผู้นั้นกลับไม่ได้ให้โอกาสเธอเลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากพูดสถานที่แลกเปลี่ยนกับเธอเสร็จเรียบร้อยก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งไป “นี่......นี่ฉันควรทำไงดี? !” จันวิภาวางโทรศัพท์ และมีความลังเลอยู่เล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องที่กนกอรใสร้ายตนเองต่อหน้าสุมิตร กล้าทำเรื่องเช่นนั้นออกมาได้ ทำให้เธอโกรธแค้นเป็นอย่างมาก แต่ทว่า เมื่อคิดถึงกนกอรที่กำลังจะเป็นอันตรายถึงชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้ หากเธอไม่ช่วยแล้วล่ะก็...... ดังนั้น หลังจากที่คิดเกี่ยวกับมัน จันวิภาจึงยึดมั่นกับใจตนเองว่าจะต้องไปช่วยกนกอร สุดส้ายแล้วจิตใจก็ได้อ่อนลง ถึงอย่างไรทั้งสองคนนี้ก็เป็นเพื่อนรักกันอยู่นาน หลังจากตัดสินใจแล้ว จันวิภาจึงหยิบบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋า หลังจากถอนเงินแล้ว จันวิภาจึงได้ไปยังสถานที่แลกเปลี่ยนนั่นเพียงลำพัง สถานที่นัดคือในบาร์แห่งหนึ่ง ด้านในมีคนเยอะมาก จันวิภาคิดว่าชายคนนั้นกำลังหลบซ่อนเขาอยู่ แต่ดูเหมือนว่ามันไม่ถูกต้องนัก แต่ทว่าจันวิภาก็ไม่ได้คิดอะไรให้มากมาย แล้วต้องช่วยกนกอรออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด จันวิภาเดินไปๆมาๆอยู่ข้างในบาร์ แต่กลับหาชายคนที่ดูเหมือนกำลังรอเธออยู่ไม่เจอเลย ตอนนี้ จันวิภาจึงเข้าใจอะไรบางอย่างได้ทันที ตนเองคงจะถูกใครบางคนหลอกเข้าให้แล้ว จะมีใครที่ไหนกันที่จะแลกเปลี่ยนเงินก้อนใหญ่ขนาดนี้กันในบาร์ เมื่อคิดเช่นนี้ จันวิภาจึงรีบเดินออกจากบาร์ไปในทันที แต่ทว่า ณ ตอนนี้ ได้มีคนกลุ่มหนึ่งมารายล้อมเธอเอาไว้ และขวางทางเธอเอาไว้อยู่ กลุ่มนั้นมีชายวัยกลางคนเป็นหัวหน้า “น้องสาว อย่าพึ่งไปสิ ฉันเห็นเธอเดินถือกล่องขนาดใหญ่อย่างนี้เข้าไป เดินอยู่รอบนึงก็จะไปสะแล้ว? คนเรานี่ไม่กลัวกันบ้างเลย? อย่ากลัวไปเลย พี่ชายคนนี้จะหนุนหลังให้คุณเอง!” คำพูดเหลาะแหละของชายคนนั้น ทำให้จันวิภาไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เธอเงยหน้าขึ้นมามองชายคนนั้นอยู่แวบหนึ่ง จึงเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างเยือกเย็น “ฉันไม่ได้พักอยู่ที่นี่ ก็เลยต้องออกไป รบกวนพวกคุณหลบออกไปหน่อย” “โอ้ว น้องสาวเข้ามาในบาร์เถอะ ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรเลยก็จะไปสะแล้ว? นั่นมันเหมือนกับว่าบาร์ของเรามันรับแขกได้ไม่ดี มาๆๆ น้องสาวดื่มเหล้าสักแก้วแล้วค่อยไปเถอะ” คนๆนั้นแม้ว่าจะพูดมากขนาดนี้ แต่กลับมีความหยอกล้ออยู่ในน้ำเสียงนั่นอย่างกชัดเจน ทำให้ผู้ติดตามที่อยู่ข้างๆต่างพากันหัวเราะ เมื่อจันวิภาเห็นคนๆนั้นกำลังวุ่นวายกับตนเองอยู่ สีหน้าจึงเปลี่ยนเป็นอึมครึมขึ้นมาทันที “ไม่ต้อง พวกคุณหลบฉันหน่อย” อย่างไรก็ตามชายคนนั้นกลับฉีกยิ้มมากขึ้นไปอีก เขาดึงมือของจันวิภาเอาไว้ และเริ่มที่จะลงมือกับเธอ จันวิภาจึงรีบดิ้นขึ้นมาทันที แต่มันก็เกือบไร้ประโยชน์ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเองก็เหมือนกับมีคนตระโกนเรียกเธออยู่จากที่ไกลๆ ดังนั้นเขาจึงรีบปล่อยมือของจันวิภาออกไปทันที จันวิภาเห็นโอกาสเช่นนี้ จึงรีบวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่า จันวิภากลับไม่ได้สังเกตเห็น ในชั้นสองของบาร์ที่อยู่ไม่ไกลนัก มีคนสองคนกำลังจ้องมองเรื่องราวทั้งหมดที่อยู่ในชั้นล่าง ทั้งยังถ่ายรูปเก็บเอาไว้อีกด้วย และชายหนึ่งหญิงหนึ่งคู่นี้ช่างประจวบเหมาะกับกนกอรและชายคนนั้นที่กำลังโทรศัพท์อยู่เมื่อครู่นี้ คนทั้งสองสมรู้ร่วมคิดกัน ทางด้านของจันวิภายิ่งตรงไปตลอดทาง เหงื่อไกลออกมาจากหน้าผากของเธอ และด้วยความเร่งรีบผมจึงยุ่งกระจายอยู่เล็กน้อย เธอวิ่งไปพรางมองข้างหลังไปพลาง กลัวว่าคนที่อยู่ในบาร์พวกนั้นจะตามมาอีก โชคดีที่คนพวกนั้นดูเหมือนจะไม่ตามมา จึงทำให้จันวิภาค่อยๆวิ่งช้าลง หลังจาดแน่ใจว่าไม่มีใครตามเธอมาแล้ว จันวิภาจึงถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความโล่งอก แล้วตบไปที่หน้าอกของตนเอง ตอนนี้เธอจึงรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ของกนกอรแล้วโทรกลับไป แต่ทว่าโทรศัพท์ของกนกอรได้ปิดเครื่องเอาไว้อยู่ตลอด หลังจากจันวิภาพยายามอยู่หลายครั้ง จึงถอนหายใจออกมา และไม่โทรต่อไปอีก 
已经是最新一章了
加载中