ตอนที่36 ตกตะลึง ไหวพริบของจันวิภา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่36 ตกตะลึง ไหวพริบของจันวิภา
ต๭นที่36 ตกตะลึง ไหวพริบของจันวิภา จันวิภาขึ้นไปชั้นบนอย่างหวาดผวา วางแผนการว่าจะหาหลักฐานได้อย่างไง แต่พอเงยหน้าขึ่นมาก็ได้เห็นกนกอรที่กำลังยืนอยู่ด้านบนจ้องมองเธออยู่ การแสดงออกของกนกอรนั้นเหมือนกับหัวเราะอยู่ ราวกับกำลังดูเรื่องตลก。 จันวิภาสูดหายใจเข้าลึกๆ ระงับความโกรธที่อยู่ในใจ จ้องมองกนกอรอย่างเยือกเย็น แล้วเดินจากไป แต่ทว่ากนกอรกลับใช้ขาขวางเธอเอาไว้ เธอยิ้มและเอ่ยปากพูดขึ้น “จันวิภา เป็นอะไรไป เรื่องมักง่ายของเธอถูกปิดโปงงั้นหรอ? ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ วันนั้นดูเธอโกรธฉันขนาดนั้น ส่วนใหญ่ก็เสแสร้งสินะ!ฉันจะคอยดูว่าเธอจะโกหกอย่างไงต่อไปอีก” จันวิภาถลึงตาจ้องมองกนกอร “กนกอร ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอจะมีจิตใจโหดเหี้ยมเหมือนงูพิษขนาดนี้” กนกอรหัวเราะฮ่าๆ ดูลำพองใจเป็นอย่างมาก แต่ใบหน้ากลับแฝงไว้ด้วยความสงสัย จึงเอ่ยปากพูดขึ้น “จันวิภา เธอกำลังพูดอะไร? ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจ เธอไม่ต้องการให้แผนการของตนเองถูกเปิดโปง ก็เลยจะมาเอาชนะฉัน ใส่ร้ายฉัน!” จันวิภาขี้เกียจจะสนใจเธออีก ยกเท้าขึ้นมาแล้วก้าวยาวเพื่อต้องการจะออกไป แต่ทว่ากนกอรกลับไม่ยินยอม แล้วพูดขึ้นมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม “แต่ว่า ฉันจะรอนะว่าเธอมีอะไรจะพูดหลังจากนี้อีกสามวัน!” จันวิภางุนงง จากนั้นจึงเดินจากไปแม้แต่หน้าก็ไม่หันกลับมามอง และไม่สนใจเธออีก กนกอรกัดฟัน และไม่วางใจอยู่นิดหน่อย หลังจากเดินหลับมาถึงห้อง จึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา และลบข้อความกับรูปของวันนั้นที่ผู้ชายคนนั้นส่งมาให้ ทำให้ไม่กี่วันมานี้เธอระวังตัวมายิ่งขึ้นไปอีก หลังจากรอชายคนนั้นตอบกลับมา กนกอรจึงจะวางใจขึ้นมายู่นิดหน่อย แต่ทว่ากลับคาดไม่ถึง วันแรกจากทั้งสามวัน จันวิภาทำดูท่าทางสบายๆเป็นพิเศษ ไม่มีอะไรผิดปกติเลยแม้แต่น้อย กินและดื่มราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทางด้านของสุมิตรก็ไม่ได้สนใจจันวิภา และก็ไม่ได้พูดถามอะไรออกมา นี่มันกลับยิ่งทำให้กนกอรกระสับกระส่ายมายิ่งขึ้นไปอีก วันที่สองมาถึง ตอนเช้าตรู่ หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ สุมิตรก็ขับรถไปที่บริษัท กนกอรจ้องมองดูใบหน้าที่สงบนิ่งของจันวิภา ไม่สบายใจอยู่นิดหน่อย จึงเอ่ยปากพูดออกไป “เฮ้ นี่มันก็ผ่านไปวันหนึ่งแล้วไม่ใช่หรอ ทำไมเธอถึงยังจะนิ่งอยู่อีกล่ะ หรือว่าเธอมีแผนที่จะปล่อยมันไปทั้งอย่างนี้?” จันวิภากำลังวางแผนที่จะกลับไปยังห้อง โดยไม่สนใจกนกอร แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เวลานี้ จะมีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งถลันเข้ามาจากประตูด้านนอก เธอเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างอึกกะทึก “แย่แล้ว!แย่แล้ว!เกิดเรื่องแล้ว!” กนกอรกับจันวิภาตกใจไปพร้อมๆกัน ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ได้ยินสาวใช้คนนั้นร้องตระโกนออกมาอย่างต่อเนื่อง “มีคนก่อเรื่องขึ้นข้างนอก!” น้ำเสียงของเธอสิ้นสุดลง คนที่ก่อเรื่องขึ้นที่ประตูบุกเข้ามาที่ห้องรับแขกแล้ว “ออกมาให้หมด!”คนนั้นใส่ชุดเสื้อสีดำและไส่หมวก ที่ดูหน้าอย่างชัดไม่ได้ “พวกเธอออกมาให้หมด และไปหาสุมิตร คนเลวนั้นให้ออกมา!” จันวิภาก้าวเดินไปข้างหน้า หน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องมองดูเรื่องตลกของพวกเขา แล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “พวกนายคิดจะทำอะไรน่ะ? สุมิตรไม่ได้อยู่ที่นี่ ถ้าจะหาเขาก็ไปหาที่บริษัท มาเอะอะโวยวายที่นี่ทำไม!” พูดจบ กนกอรก็เดินมาพอดี หลังจากที่คนพวกนั้นเห็นจันวิภากับกนกอร แล้วจ้องมองกันอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังยืนยันว่าคนไหนที่มีประโยชน์มากกว่ากัน ณ เวลานี้ หนึ่งในคนพวกนั้นเอ่ยปากด่าขึ้น “ถ้าหาเจอ พวกเราจะมาที่นี่หรอไงอย่าพูดไร้สาระให้มันมาก! วันนี้ต้องฟังคำสั่งของพวกเรา ไม่งั้นก็ตายมันทั้งหมดนี่แหละ!” พูดจบ ชายคนนั้นก็หยิบระเบิดออกมาจากบนร่างกายของเขา ซึ่งทำให้จันวิภากับกนกอรตกใจกลัวเป็นอย่างมาก หลังจากสอบถามอยู่หลายครั้ง จันวิภาถึงได้รู้ว่าบริษัทของพวกเขาถูกสุมิตรทำลายไป ดังนั้นจึงมาที่นี่เพื่อเล่นนอกเกม แต่ความโกรธของจันวิภาก็ไม่ได้หายไปแต่อย่างใด และตระโกนด่าใส่คนพวกนั้น “มีธุระก็ไปหาสุมิตร ถ้าไม่มีธุระก็กลับไปซะ!” ณ ตอนนี้กนกอรกลับกลัวอยู่เล็กน้อยจนตัวหดอยู่ในห้อง ทันใดนั้นจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมา “คนนี้เป็นภรรยาของสุมิตร ถ้าพวกนายอยากล้างแค้นก็เอาเลย” จันวิภาตกตะลึง หันหน้ากลับมามองกนกอร ความโกรธแค้นที่อยู่ในใจนั้นยากที่จะสงบลงได้ เมื่อคนพวกนั้นได้ยินสิ่งที่กนกอรพูด จึงได้จับจันวิภาเอาไว้ทันที จันวิภาขมวดคิ้วขึ้นมา ชี้ไปทางกนกอรแล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “พวกนายไปจับเขาเถอะ เขาเป็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ของสุมิตร เข้าห้องอยู่ด้วยกันทุกวัน มีประโยชน์กว่าฉันแน่ๆ!” “จันวิภา แก!” กนกอรโกรธจัด แต่เวลานี้กลับสำลักจนพูดไม่ออก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจันวิภาจะกล้าทำกับเธออย่างนี้ “จันวิภา ทำอย่างนี้มันจะส่งผลดีกับเธอตรงไหนกัน? เธอไม่ได้ชอบสุมิตร มันจะไม่ดีกว่าหรอไม่มาสนับสนุนฉัน? ตอนนี้ไม่ว่าจะพูดอย่างไง เธอก็คือเมียของสุมิตร คนพวกนี้ต้องการตัวนายน้อยสุมิตร และเธอก็เป็นภรรยาสุมิตร ก็ควรจะน้อมรับหน่อยไม่ใช่หรอ?” กนกอรกล่าว จันวิภาหลี่ตาทั้งสองลงจ้องมองกนกอร แม้ว่าวันนี้จะได้เรียนรู้ระดับความไร้ยางอายของกนกอรได้สำเร็จ แต่ในใจก็ยังคงกลัดกลุ้มอยู่ดี จันวิภายิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น “กนกอร เธอพูดไม่ใช่หรอไงว่ารักนายน้อยสุมิตรมากเลย และเต็มใจที่จะมอบทุกสิ่งให้กับเขา? ตอนนี้มีคนมาหาถึงหน้าประตูแล้ว เธอไปสิ? จะหดหัวทำไม? หรือที่เธอบอกว่ารักนักรักหนานั่นจะโกหก?” “แก......” กนกอรโกรธจนหน้าแดง เนื่องจากสุมิตรไม่อยู่ เธอจึงไม่พะว้าพะวัง ทันใดนั้นจึงได้ด่าจันวิภาชุดใหญ่อย่างไม่สนใจภาพลักษณ์ใดๆ จันวิภาขี้เกียจจะสนใจเธอ หันหน้ากลับไปเหลือบมองชายพวกนั้น แล้วพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ฉันรบกวนพวกนายที่กำลังทำเรื่องพวกนี้หน่อย ว่าคิดให้ดีๆ ว่าอย่าขโมยไก่จนเสียข้าวสาร!” คนพวกนั้นประหลาดใจ ไม่เข้าใจความหมายที่จันวิภาพูด จันวิภาจึงพูดอธิบาย “สุมิตรเป็นอัจฉริยะในโลกธุรกิจ ตัวคนเดียวโดดเดี่ยว พวกนายคิดดูให้ดีๆ สุมิตรสามารถทำลายบริษัทของนายได้ แล้วจะไม่สามารถแก้ปัญหาให้พวกนายได้หรือไง?” หลังจากจันวิภาพูดจบ คนพวกนั้นก็นิ่งอึ่งขึ้นมาทันที นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำเรื่องอย่างนี้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เธอพูดขึ้นมานั้นเป็นเรื่องจริง หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว จึงรีบเอ่ยปากขึ้นถาม “งั้นเธอพูด พวกเราควรจะทำอย่างไง? ถ้าพูดจาโอหังขนาดนั้น แต่ไม่มีวิธีล่ะก็ พวกเราก็จะฆ่าเธอทิ้งสะแล้วฝังพร้อมกับสามีเธอ!” จันวิภาขมวดคิ้ว หลังจากครุ่นคิดอย่างจริงจังแล้ว จึงเอ่ยปากพูดขึ้นมา “ฉันขอแนะนำให้นายปล่อยฉันไป ถ้าพวกนายไม่ฆ่าฉัน สุมิตรก็จะไม่ทำอะไรพวกนาย!แต่ถ้าพวกนายฆ่าฉัน ถึงอย่างไรฉันก็ยังเป็นภรรยาของสุมิตรอยู่ พวกนายก็น่าจะรู้ว่าสุมิตรจะแก้แค้นอย่างไรจริงไหม? นายคิดว่า จะมีชีวิตรอดอยู่อีกหรอไง?” เมื่อคนพวกนั้นได้ฟังคำพูดเช่นนี้ จึงสั่นไหวขึ้นมาทันที และหารือกันอีกครั้ง จึงพูดออกมา “แต่ บริษัทของพวกเราถูกสุมิตรทำลายไปแล้ว แล้วพวกเราควรทำอย่างไงล่ะ?” จันวิภากัดฟัน แล้วพูดออกมาอย่างกระโชกโฮกฮาก “นั่นเป็นเพราะตัวพวกนายเองไม่มีความสามารถ ทำบริษัทโดยไม่มีประสบการณ์อะไรเลยแม้แต่น้อย? หากนายยังเป็นผู้ชายอกสามศอกอยู่ก็ไปสร้างบริษัทขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ไม่งั้นก็ร้องไห้อยู่ที่นี่แหละ!” คนพวกนั้นถูกจันวิภาพูดผลักดันจนจิตใจสั่นไหว หนึ่งในนั้นนิ่งเงียบอยู่นาน แล้วเอ่ยปากพูดกับจันวิภาขึ้นมาทันที “เธอคิดว่าถ้าพวกเราทำมันอีกครั้ง จะสำเร็จงั้นหรอ?” “จะสำเร็จหรือเปล่าฉันไม่รู้ แต่ท่าทีของพวกนายในตอนนี้ เมื่อเจอเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ทำแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งใด! พวกนายที่เป็นอย่างนี้ มันเป็นท่าทางของคนขี้ขลาด!ไม่สู้ย้อนกลับไปคิดทบทวนดูให้ดีๆ ว่าจะเริ่มสร้างขึ้นมาใหม่อย่างไง!” คนพวกนั้นรู้สึกประทับใจ หลังจากหยุดนิ่งไปจึงพูดขึ้น “งั้นก็ดี พวกเราจะปล่อยเธอไป แต่ว่า เธอจะต้องรับปากเราว่าจะไม่ให้สุมิตรกลับมาแก้แค้น!” จันวิภาพยักหน้า คนพวกนั้นจึงถอนหายใจออกมาทันที และรีบปล่อยจันวิภากับกนกอร จากนั้นจึงหลบหนีออกไป ณ ตอนนี้ สุมิตรที่อยู่ตรงมุมห้องข้างๆได้เดินออกมา สายตาของเขาลึกซึ้ง จ้องถลึงมองจันวิภาอย่างเงียบๆ ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “จันวิภา......” ผู้หญิงคนนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะสงบได้ถึงขนาดนี้ ความกล้าหาญเช่นนี้ ทำให้สุมิตรรู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย แต่เดิมทีเมื่อกลับมาเห็นฉากเช่นนี้ สุมิตรคิดที่จะลงมือเอง แต่เมื่อเห็นจันวิภาเช่นนี้แล้ว จึงหยุดมือลง แล้วจ้องมองดูเงียบๆ ความตกตะลึงที่อยู่ในใจ มันยากที่จะอธิบายออกมาได้ 
已经是最新一章了
加载中