ตอนที่ 43 ความโกรธและการปฏิเสธของสุมิตร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 43 ความโกรธและการปฏิเสธของสุมิตร
ต๭นที่ 43 ความโกรธและการปฏิเสธของสุมิตร วันที่ 2 ตอนเช้าตรู่ จันวิภาตื่นขึ้นแล้วให้คนขับรถพาเธอไปที่มหาลัยดนตรีA รายงานตัว มหาลัยดนตรี A มหาลัยชั้นน้ำของเมือง A คณะการดนตรีคือคณะที่มหาลัยA ตั้งขึ้นโดยเฉพาะและคณะย่อยๆที่เกี่ยวกับดนตรีอีก มหาลัยแห่งนี้มีชื่อเสียงมากในทั้งประเทศ มหาลัยมีคนอยู่ 3 ประเภทเท่านั้นที่จะมา บ้านมีตัง ตระกูลมีชื่อเสียง อย่างน้อยก็ในมีบริษัทหนึ่งแห่งอยู่ในมือ แล้วก็พวกข้าราชการชั้นสูงแล้วอย่างน้อยก็มีคนหนึ่งคนเป็นตำแหน่งแบบหัวหน้าเทศบาล นอกจากนี้ยังมีอีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือบุคคลที่มีความสามารถพิเศษพรสวรรค์ในด้านดนตรีให้ถูกโรงเรียนชักชวนเข้ามา แน่นอนบ้านก็ต้องมีเงินส่งเข้าเรียนหรือไม่ก็ได้รับทุนจากมหาลัย จันวิภายืนที่หน้าประตู มองประตูที่ตั้งสง่าของมหาลัย หลังจากนั้นถือเอกสารที่จำเป็นเดินเข้าไปในมหาลัย หาจุดรายงานตัวเจอ หลังจากจันวิภากรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วก็เดินไปจ่ายเงินด้วยตัวเอง แต่ยังดี เธอยังมีบัตรธนาคารอยู่ บัตรนั้นคือบัตรที่พ่อของเธอให้เธอใช้เมื่อเข้ามหาลัย ในนั้นมีเงินพอใช้อยู่ แต่ขณะกำลังรูดบัตรจ่ายเงินอยู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น “คุณจันวิภา ขออภัยด้วยบัตรของคุณถูกระงับแล้ว คุณจะเปลี่ยนบัตรไหม?” พนักงานรับเงินของมหาลัยมองจันวิภาอย่างไม่เรียวแล จันวิภาตกใจพักใหญ่ บัตรที่พ่อให้ทำไมถึงลูกระงับ! “เป็นไปไม่ได้....ลองอีกครั้งได้ไหม....ไม่น่าจะโดนระงับเป็นไปไม่ได้......” จันวิภาพูดน้ำเสียงงมีความเครียดขึ้น หลังจากลองใหม่อีกครั้ง พนักงานก็ส่ายหัวพูดกับจันวิภา: “ขออภัยอย่างสูง บัตรของคุณถูกระงับแล้วจริงๆ คุณกลับไปเถอะ คนที่จะรายงานตัวมีหลายคน!” นักเรียนที่ต่อแถวข้างหลังก็ตามน้ำไป นักเรียนพวกนี้ส่วนมากเป็นคุณหนูคุณชายที่เกิดบนกองเงินกองทอง มีเหตุผลต้องให้พวกเขารอด้วยเหรอ! จันวิภาไม่มีทางแล้ว เพียงแต่ขอโทษดีๆ แล้วเก็บของเดินออกตากประตูโรงเรียนไป บัตรที่พ่อให้เธอมาใช้ตอนเรียนไม่มีทางที่จะถูกระงับ ถ้าถูกระงับละก็คงมีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือ มะลิวัลย์เป็นคนทำ พอคิดถึงจุดนี้ จันวิภารีบกวักมือเรียกรถแท็กซี่ ดิ่งไปยังบริษัทของมะลิวัลย์หรือก็คือบริษัทของพ่อเธอนั้นเอง หลังจากนั้นถึงประตูของบริษัท จันวิภาถูกคนมาขวางไว้ ยามหน้าประตูดูเหมือนแปลกหน้า จันวิภาเกิดสงสัย คนนั้นก็จะไม่รู้จักจันวิภาจริงๆ พูดอย่างมีความรับผิดชอบขึ้น: “สวัสดีคุณผู้หญิง มาหาใคร? มีนัดหมายหรือไม่?” “ฉันมาหามะลิวัลย์ แล้วก็ฉันเป็นลูกสาวของประธานบริษัทนี้? ฉันชื่อจันวิภา!” จันวิภาพูด ในใจคิดว่านี้อาจจะเป็นความคิดของมะลิวัลย์ เธอเปลี่ยนยามหน้าประตูใหม่ทุกคน หลังจากยามได้ยินชื่อจันวิภา ก็ส่ายหน้าพูดขึ้น: “ขออภัยคุณผู้หญิง ประธานมะลิวัลย์ของเราบอกว่า ไม่ว่าใครก็ตามต้องนัดก่อนถึงจะเข้าไปได้ เชิญกลับเถอะ” จันวิภาตะลึง ยามคนนั้นหลบตา เธอเข้าใจทันที เกรงว่าแม้แต่ยามหน้าประตู มะลิวัลย์ก็บอกกล่าวเรียบร้อยแล้ว ได้แต่ยืนอยู่หน้าประตูบริษัท ขบฟันไปมาโทรหามะลิวัลย์ โทรศัพท์ติดแล้ว จันวิภาราวกับได้ยินเสียงของหัวเราะของมะลิวัลย์ “อ่า จันวิภานี้เอง ได้ยินว่าเธอจะรายงานตัวเข้ามหาลัยใช่ไหม ทำไมถึงโทรศัพท์มาล่ะ?” มะลิวัลย์ถามราวกับรู้เรื่องอยู่แล้วยิ่งทำให้จันวิภาโกรธเข้าไปใหญ่ “น้ามะลิ ฉันอยากจะรู้บัตรที่พ่อให้ฉัน ทำไมคุณถึงระงับมัน? นั้นเป็นเงินที่พ่อให้ฉันใช้เรียนมหาลัยนะ” จันวิภาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมะลิวัลย์ พยายามระงับเสียงของตัวเองให้นิ่งที่สุด “หมายถึงบัตรนั่นนะเหรอ นั่นนะต้องโทษที่ฉันลืมบอกเธอว่ามันถูกระงับแล้ว แต่เธอบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเธอแต่งงานออกไปแล้ว ทำไมถึงต้องใช้เงินจากที่บ้านล่ะ หมายความเธอไม่มีงานต้องให้คนเลี้ยง น่าจะเป็นสามีของเธอนะสุมิตรน่ะถูกไหม?” มะลิวัลย์หัวเราะอย่างเปิดเผย แต่ไม่ตอบคำถามของจันวิภาตรงๆ แต่กลับถามคำถามทิ่มแทงกลับมาแทน “แก.....” จันวิภาฟังจบ อารมณ์ก็ระงับไม่อยู่ รีบตอบกลับไปทันที: “ฉันจะหาเงินจากใครเรื่องของฉัน แต่เงินนั้นคือเงินที่พ่อเหลือไว้ให้ฉัน คุณระงับบัญชีนั้นคุณต้องมีเหตุผลให้ฉัน?” พูดจบ เธอก็มองตึกสูงที่อยู่ตรงหน้าอย่างอาฆาต และพูดเสริม: “ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบริษัท คุณเปลี่ยนทั้งยามและให้คนกันไม่เข้าไป พูดในสายไม่ชัดล่ะก็ ฉันขึ้นไปหาคุณตอนนี้” จันวิภาพูดแล้วจะเดินเข้าไปในบริษัท แต่ยามตรงหน้ากันเธอไม่ให้เข้าไปอีก “เธอไม่ต้องขึ้นมาหรอก ฉันกำลังมีประชุมสำคัญอยู่งี้แล้วกันฉันไว้คุยกับเธอแล้วกัน วันหลังมีเวลาค่อยคุยกัน” มะลิวัลย์รีบพูดแล้วตัดสายอย่างรวดเร็ว คนชั่วคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องทำงาน ในหัวจินตนาการถึงความอับอายและความโกรธของจันวิภาในใจก็มีความสุขสุดๆ จันวิภาได้ยินเสียงเร่งรีบนั้น เท่าก็กระทืบพื้นอย่างแรง โกรธมากแทบจะตาย แต่ว่าไม่มีทางเลือก ได้แต่เรียกรถกลับบ้านไป เพิ่งถึงบ้าน จันวิภาเห็นสุมิตรนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น รู้สึกว่าวันนี้ไม่ใช่วันพิเศษอะไร สุมิตรไม่อยู่ที่บริษัท กลับนั่งอยู่บนโซฟามองมาที่เธอ จันวิภารู้สึกกังวลใจแปลกๆ จริงๆ สุมิตรเห็นจันวิภากลับมาแล้วก็พูดกับเธอ: “มานี้” จันวิภาได้แต่ก้มหน้า เดินจ่ำจ่ำไป ยังไม่ทันได้นั่งก็ได้ยินคำถามของสุมิตรขึ้น: “วันนี้เธอไปไหน? ได้ยินว่าเธอบอกกับคนขับว่าไปมหาลัยการดนตรีA ใช่ไหม?” หลังจากจันวิภาสบถอยู่ในใจสักพักก็ได้แต่ฝืนพูดขึ้น: “ฉันไปมหาลัยรายงานตัวแล้ว เดือนที่แล้วฉันได้รับใบตอบรับ” สุมิตรอดหัวเราะอย่างเย็นช้าขึ้นไม่ได้: “เธออยู่บ้านดีๆไม่ได้เหรอ? แค่อยากจะหนีออกไป ยังจะไปยั่วผู้ชายในมหาลัยอีกหรอ?” จันวิภาได้ยินประโยคนี้ เดิมที่วันนี้อารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งโมโหอยู่อีกเลยพูดอย่างโมโหขึ้น: “ฉันเพิ่งจะ 20 เอง ไม่ไปเรียนแล้วจะทำไรกิน? ฉันชอบดนตรีไปเรียนดนตรีแล้วจะทำไม? ดนตรีคือความฝันของฉัน ฉันอยากเรียนดนตรีมาก!” สุมิตรมองนิ่งที่จันวิภาสักพักราวกับไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องสำคัญ: “ผู้หญิงของผมสุมิตร ต้องอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น ปรนนิบัตริฉันดีๆก็พอแล้ว!” “คุณ.....” จันวิภารำคาญ ยังไงเธอก็เจรจากับสุมิตรไม่ได้ ตอนแรกจะมายืมเงินเขา แต่ดูเหมือนตอนนี้คงไม่มีทางแล้ว จันวิภากัดปาก สุมิตรมองไปที่จันวิภาแล้วพูดอย่างเย็นชาขึ้น: “พยายามแต่งตัวเองดีๆ วันนี้มีงานเลี้ยงสำคัญอยู่ ฉันจะพาเธอไปร่วมด้วย เดี๋ยวเธอขึ้นไปเปลี่ยนชุด แล้วก็ไปกับผม” น้ำเสียงขอสุมิตรเหมือนกับห้ามปฏิเสธ จันวิภาเพิ่งเข้าใจว่าทำไมวันนี้สุมิตรถึงอยู่บ้าน ถอดหายใจหนึ่งที จันวิภายังไม่ทันตอบกลับ สุมิตรก็หันหน้าไปพูดกับสาวใช้ด้านข้างแล้ว: “เธอ 2 คน พาเธอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า!” 
已经是最新一章了
加载中