ตอนที่46 คำสารภาพ ชีวิตนี้จะไม่แต่งกับเธอ
1/
ตอนที่46 คำสารภาพ ชีวิตนี้จะไม่แต่งกับเธอ
รักที่อันตราย หลงรักนายปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่46 คำสารภาพ ชีวิตนี้จะไม่แต่งกับเธอ
ตนที่46 คำสารภาพ ชีวิตนี้จะไม่แต่งกับเธอ ตอนนี้ ทันใดนั้นเอง แสงไฟที่อยู่ทั่วทั้งงานเลี้ยงต่างก็มืดสลัวลง ทำให้จันวิภาตกใจเป็นอย่างมาก เธอรีบกอดแขนสุมิตรที่อยู่ข้างๆทันที ท่ามกลางความมืดมิดสุมิตรได้ขมวดคิ้วขึ้นมา แต่ทว่ากลับไม่ได้ผลักเธอออกไป “นี่มันเรื่องอะไรกัน ตัดไฟงั้นหรอ?” จันวิภาเอ่ยถามอย่างแปลกใจ สิ่งนี้ทำให้สุมิตรจำใจอยู่เล็กน้อย ฟังสุมิตรที่เอ่ยปากขึ้นพูดอย่างเย็นชา “แม้ว่าผมจะเป็นเจ้าภาพ แต่ตระกูลชาติพยุงพงษ์ได้จัดงานเลี้ยงในวันนี้ขึ้นมา ผู้เฒ่าของตระกูลชาติพยุงพงษ์ตอนนี้ก็ชรามากแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะต้องเลือกทายาทเสียที แต่ก็ไม่ได้มีข่าวมานานแล้ว เกรงว่าคืนนี้จะประกาศตัวทายาทขึ้นมา” เสียงของสุมิตรสิ้นสุดลง ก็ได้มีแสงสาดส่องลงมายังเวทีที่อยู่ด้านหน้า จันวิภาเห็น ตรงกลางของเวทีมีชายชราผู้หญิงยืนอยู่ แม้ว่าเขาจะดูเหมือนแก่ชรา แต่ทว่าร่างกายกลับดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เห็นเขากำลังยืนอยู่บนเวที แล้วเริ่มกล่าวคำปราศรัยออกมาผ่านไมโครโฟน “ประการแรกเลย ต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ ผมตัวแทนจากบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปจำกัดขอขอบคุณสำหรับความรักใครและสนับสนุนของทุกคน ประการที่สอง เป้าหมายหลักของการจัดงานเลี้ยงในวันนี้ ประกาศผู้สืบทอดตำแหน่งต่อไปของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปจำกัดของพวกเรา......นราวิชญ์! ! ! "” เสียงของชายชราคนนั้นสิ้นสุดลง ก็ได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเวที เมื่อจันวิภาได้ยินชื่อนั้นก็ได้ตกใจขึ้นมา มองไปที่ใบหน้าของเขาอีกครั้ง ใบหน้ากลับยิ่งไร้ชีวิตชีวายิ่งกว่าเดิมเสียอีก ณ ตอนนี้ ชายหนุ่มที่อยู่บนเวที ที่แท้คือนราวิชณ์ที่เป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็กกับจันวิภา!!! ขยี้ดวงตาของตนเองอีกครั้ง จันวิภาไม่อยากที่จะเชื่อสายตา พี่นราวิชญ์ทำไมถึงได้กลายเป็นผู้สืบทอดของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปกัน? ! เวลานี้ หลังจากที่ประกาศผู้สืบทอดเสร็จ แสงไฟทั่วทั้งงานก็ได้สว่างขึ้นมา สุมิตรที่อย่างด้านนั้นมองมา เห็นจันวิภาที่กำลังประหลาดใจ เขาขมวดคิ้วขึ้นมา แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นด้วยความสงสัยอยู่เล็กน้อย “เธอเป็นอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” “ป เปล่า......” จันวิภาตกตะลึง ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น จ้องมองนราวิชญ์ที่อยู่ด้านบนเวทีอย่างงุนงง และนราวิชญ์ที่อยู่บนเวทีนั่น ก็ได้มองมาที่จันวิภาอย่างประจวบเหมาะ สายตาของคนทั้งสองประสานซึ่งกันและกัน จันวิภาจึงก้มศีรษะของเธอลงไปอย่างรีบร้อนทันที และไม่กล้าที่จะจ้องมองอีก จันวิภานึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับนราวิชญ์...... ช่วงเวลาในตอนยังเยาว์วัย ทั้งสองคนมักจะจูงมือกันไปเล่นอยู่เสมอ เมื่อพวกผู้ใหญ่เห็นต่างก็หัวเราะพวกเขาทั้งสอง มีอยู่ครั้งหนึ่งป้าของจันวิภาได้เอ่ยถามนราวิชญ์ “นราวิชญ์ เธอกับวันวิภาของเรามักจะออกไปเล่นด้วยกันบ่อยๆ ถ้าเติบโตขึ้นมาแล้วจันวิภาไปแต่งงานกับคนอื่น งั้นพวกเธอจะยังเล่นด้วยกันได้อีกหรอ?” ในตอนนั้นที่นราวิชญ์ได้ยินประโยคนี้ จึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างไร้ซึ่งความลังเล “จันวิภาเป็นของผม ผมจะไม่ให้เธอไปแต่งงานกับคนอื่นหรอก!” จันวิภายังจำคำสัญญาที่นราวิชญ์ได้ให้ไว้กับเธอได้ “จันวิภา ผมจริงจังนะ รอจนผมโตเป็นผู้ใหญ่ ผมจะขอเธอแต่งงานมาเป็นภรรยาของผม ทั้งชีวิตจะดีกับเธอแค่คนเดียว” ต่อมานราวิชญ์ก็ได้หายตัวไป จันวิภาได้รับข่าวมาว่า เขาถูกบังคับให้ออกนอกประเทศ แท้จริงแล้วหลังจากที่นราวิชญ์จากไป จันวิภาก็ไม่ได้เศร้าโศกเสียใจมากมายนัก เพราะเธอมักจะรู้สึกว่าพวกเขาจะได้พบกันอีกครั้ง ถึงแม้คนอื่นจะบอกกับเธอว่านราวิชญ์ไม่ต้องการเธอแล้ว จนกระทั่งมะลิวัลย์ต้องการให้เธอแต่งงานกับสุมิตร จันวิภาจึงจะปล่อยวาง แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเขาจะกลับมาอย่างนี้ ปรากฏตัวมาอีกครั้งหนึ่ง...... พี่นราวิชญ์...... จันวิภารู้สึกทุกข์ใจอยู่เล็กน้อย สุมิตรมองดูปฏิกิริยาตอบสนองของเธออย่างเยือกเย็น เพราะคิดว่าเธอเห็นผู้สืบทอดของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปนั้นหล่อเหลา จึงได้มีท่าทีเช่นนี้ จึงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อยทันที นิ่งไปชั่วขณะ สุมิตรจึงพูดขึ้นมาอย่างเหน็บแหนม “เป็นอะไรไป เมื่อกี้ที่จ้องถลึงมองนราวิชญ์อย่างนั้น อยากจะเกี่ยวเขาหรือไง?” จันวิภาส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ไม่ได้สนใจใบหน้าที่หม่นหมองของสุมิตร และเอ่ยปากพูดด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่ “ฉันไม่สบายนิดหน่อย อยากไปเข้าห้องน้ำ!” เธอพูดจบ จึงรีบวิ่งไปทางห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อสุมิตรเห็นจันวิภารีบร้อนขนาดนั้น ภายในใจจึงเกิดความสงสัย และมีความกังวลอยู่เล็กน้อย และในเวลานี้ ในขณะเดียวกันเขาก็พบว่าทายาทคนใหม่นราวิชญ์นั่นก็ได้หายไปเช่นเดียวกัน มีเพียงกรรมการบริหารเก่าเท่านั้นที่พาผู้อาวุโสของตระกูลไปดื่มอวยพรกับทุกคนที่อยู่ในงาน ทางด้านของสุมิตรกำลังดื่มอวนพรพอเป็นพิธี และรอจันวิภากลับมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาถึงมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี...... เมื่อคิดเช่นนี้ สุมิตรก็วางแก้วไวน์ลงจากมือทันที หลังจากหัวเราะและหาข้อแก้ตัว ก็หันตัวเดินจากไป เดินไปทางห้องน้ำที่จันวิภาพึ่งจะเดินไปเมื่อครู่นี้ …… ทางด้านของจันวิภา เธอวิ่งเหยาะๆจนมาถึงห้องน้ำ มองตนเองที่อยู่ในกระจก และเริ่มล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อให้ตนเองมีสติขึ้นมาหน่อย นราวิชญ์......เป็นเพื่อนสมัยเด็กของเธอ ทำไมจึงกลายเป็นทายาทของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปจำกัดได้กัน?! เขาหลอกตนเองมาตั้งแต่ต้นแล้วงั้นหรือ?! สะบัดหัวอย่างรุนแรง จันวิภาบังคับตนเองไม่ให้คิดอีก หลังจากล้างหน้าอีกครั้ง ในที่สุดจันวิภาก็หยุด หลังจากที่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหยาดน้ำที่อยู่บนใบหน้าแล้ว จึงเดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ได้พบกับรูปร่างที่คุ้นเคยอยู่ทางหน้าประตูทางเข้า เป็นนราวิชญ์จริงๆ! จันวิภาอึดอัดอยู่เล็กน้อย อยากที่จะหลบหนีออกไป แต่ทว่านราวิชญ์กลับก้าวเข้ามาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ขวางทางเดินของเธอเอาไว้ ยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยปากพูดขึ้น “จันวิภา พวกเราพบกันอีกแล้ว!” จันวิภากัดริมฝีปาก แหงนหน้าขึ้นมามองนราวิชญ์ที่อยู่ข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อหน้าเขา ทำได้เพียงเอ่ยปากพูดขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ “พี่นราวิชญ์ ทำไมพี่ไม่อยู่ทักทายแขกทางด้านหน้าล่ะ......” “ฉันไม่ต้องทักทายเธอด้วยหรือไง? เธอก็เป็นแขกของฉันนะ!” นราวิชญ์หัวเราะ มันช่างเป็นท่าทางที่อบอุ่นและสง่างาม จันวิภานิ่งไปชั่วขณะ ก้มศีรษะต่ำลง ท้ายสุดแล้วจึงเอ่ยปากพูดออกไปอย่างทนไม่ได้ “ทำไมพี่ถึงได้กลายเป็นทายาทของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปกัน? รู้จักพี่มาก็นานหลายปีแล้ว วันนี้ฉันพึ่งจะรู้ว่าพี่เป็นคุณชายของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ป!” ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอแล้ว ฉันก็ไม่มีทางที่จะกลายเป็นคุณชายของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปแน่นอน...... นราวิชญ์ไม่ได้ตอบคำถามของจันวิภา แต่กลับพูดพึมพำออกมาแทน “ฉันเองก็คาดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกลายเป็นภรรยาของคุณชายสุมิตร......” “......” จันวิภาสีหน้าหม่นหมอง ก้มศีรษะลงไป และไม่ตอบอะไรอีก บรรยากาศอึกอัดจนถึงขีดสุด ณ เวลานี้ ทันนั้นนราวิชณ์ก็ได้เงยหน้าขึ้นมา จับมือของจันวิภาเอาไว้แล้วพูดขึ้น “จันวิภา เมื่อกี้นี้ตอนที่เห็นเธออยู่ในอ้อมแขนของสุมิตร เธอรู้ไหมว่าหัวใจฉันเจ็บปวดขนาดไหน?” จันวิภานิ่งอึ้ง อยากที่จะสะบัดมือของนราวิชญ์ออกไป แล้วพูดอย่างรีบร้อน “พี่นราวิชญ์ อย่าพูดอีกเลย วันนี้ฉันได้เป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว พี่ทำอย่างนี้มันไม่ค่อยดีนะ” “มีอะไรไม่ดี แต่เดิมเธอควรจะเป็นภรรยาของฉัน!” นราวิชญ์กลับไม่ยอมปล่อย เขายังคงจับต่อไป ขณะเดียวกันยังหัวเราะขึ้นมา “จันวิภา ครั้งที่แล้วเธอพูดว่าเธอหลงรักเงินตรา เธอหลงรักอำนาจ ตอนนี้ฉันมีทั้งอำนาจและบารมีแล้ว ฉันอยากให้เธอมาเป็นภรรยาของฉัน จะได้ไหม?” จันวิภานิ่งอึ้งไปอยู่ครู่หนึ่ง คาดไม่ถึงเลยว่านราวิชญ์จะมีความคิดเช่นนี้ จึงรีบพูดออกไป “พี่นราวิชญ์ พี่ต้องเข้าใจนะ ตั้งแต่ที่ฉันแต่งงาน ระหว่างพวกเราทั้งสองมันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว ไม่ว่าพี่จะมีเงินหรือมีอำนาจ ไม่ว่าพี่จะเป็นผู้สืบทอดของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปจำกัดหรือไม่ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว......” “ไม่!!!” นราวิชญ์อุทานออกมาดังๆ เขาไม่อาจปล่อยวางได้จริงๆ “จันวิภา ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นภรรยาของใคร ฉันไม่ถือสา แต่งแล้วก็หย่าล้างกันได้ ฉันไม่ถือสาเรื่องพวกนี้ ฉันต้องการที่จะแต่งกับเธอ!” “พี่......พี่บ้าไปแล้วหรือไง พี่รู้ไหมว่าตอนนี้พี่กำลังพูดอะไรอยู่?” เมื่อได้ยินคำสารภาพของนราวิชญ์ ภายในใจของจันวิภาจึงรู้สึกละอายใจและผิดหวังเป็นอย่างมาก “ใช่ ไม่ผิด ฉันบ้าไปแล้ว จันวิภา เพื่อเธอแล้วฉันเลยเป็นบ้าอย่างนี้......” นราวิชญ์ตระโกนออกมาเสียงดัง …… สุมิตรที่อยู่ทางด้านนั้น เขาเดินมาหาจันวิภาที่ห้องน้ำ ทันใดนั้นเองจึงได้ยินเสียงลอยมาจากตรงซอกที่อยู่ไม่ไกลมากนัก จึงหยุดชะงักทันที “จันวิภา เธอฟังดีๆนะ ฉันนราวิชญ์ชั่วชีวิตนี้จะต้องเอาเธอมาเป็นภรรยาให้ได้ ไม่ว่าเธอจะแต่งงานหรือไม่ หรือจะแต่งกับใคร ผมไม่สนใจ ฉันจะไม่ยอมให้เธอไม่แต่งกับฉัน!” สุมิตรยังไม่ทันที่จะเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ได้ยินเสียงสารภาพอันอบอุ่นนั่นของนราวิชญ์ และฝ่ายตรงข้ามที่เขาพูดด้วยก็คือจันวิภา สุมิตรกำหมัดแน่นขึ้นมาทันที เขาโกรธจนถึงขีดสุด ดีจริงๆจันวิภา เธอนี่มันดีจริงๆ แค่มาเข้าห้องน้ำก็ยังเกี่ยวผู้ชายได้ และยังคาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นทายาทของบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ป หึ!
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่46 คำสารภาพ ชีวิตนี้จะไม่แต่งกับเธอ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A