ตอนที่ 47 บทลงโทษ ความโกรธของสุมิตร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 47 บทลงโทษ ความโกรธของสุมิตร
ต๭นที่ 47 บทลงโทษ ความโกรธของสุมิตร ไม่อยากที่จะพัวพันกับนราวิชญ์อีกต่อไปแล้ว จันวิภาจึงฉวยโอกาสตอนที่ไม่ทันระวัง สะบัดมือเขาหลุดออกไป “นราวิชญ์ ฉันแต่งงานแล้วนะ เป็นภรรยาของสุมิตรแล้ว นี่เป็นเรื่องที่เปลี่ยนไม่ได้ พี่ปล่อยวางซะเถอะ อย่าบังคับให้ฉันอยู่ด้วยกันกับพี่เลย!!!” หลังจากจันวิภาตระโกนพูดออกไปเสร็จ ก็วิ่งออกไปโดยที่ไม่หันหน้ากลับมามอง น้ำตาล่วงไหลลงมาอย่างเงียบๆ ทำให้ดวงตาพล่ามัว มองดูแผ่นหลังของจันวิภา มือของนราวิชญ์กำจนแน่นจนกลายเป็นกำปั้น แล้วพูดพึมพำกับตัวเองออกมา “จันวิภา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไปแน่!” จากนั้น หลังจากที่กลับเข้ามาในงานเลี้ยง จันวิภาตามหาอยู่นาน แต่กลับหาเงาของสุมิตรไม่เจอแม้แต่เงา จันวิภาไม่คุ้นเคยกับชีวิตเช่นนี้ และละอายใจที่จะถามคนอื่น ดังนั้นจึงตามหาอยู่ราวครึ่งชั่วโมง หลังจากที่หาสุมิตรยังไงก็หาไม่เจอ เธอจึงทำได้เพียงแต่กลับบ้านไป หลังจากที่กลับมาถึงบ้านบ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์ มองไปยังประตูที่ถูกล็อคเอาไว้อยู่ จันวิภาจึงไม่ได้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปดี คาดไม่ถึงเลยว่าประตูบ้านจะถูกล็อค? แต่ไหนแต่ไรมันไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? เดินไปเดินมา เคาะประตูอย่างแรง ทั้งตระโกนเรียกอยู่หลายครั้ง แต่หลังจากที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาคน จันวิภาจึงทำได้เพียงแค่ทำใจ เธอรู้ว่าประตูเข้าบ้านทางนี้จะมีคนเฝ้าดูอยู่ทุกวัน แต่ทว่าวันนี้กลับไม่มี และยังถูกล็อคเอาไว้อีก เกรงว่าจะเป็นการกระทำของสุมิตร! เมื่อคิดถึงสุมิตร ทันใดนั้นเองจันวิภาจึงไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย เธอทำอะไรผิดอีกแล้วล่ะ? คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำอย่างนี้กับตนเอง? แม้ว่ามันจะเป็นฤดูร้อน แต่ลมในยามราตรีกลับยังคงหนาวเย็นอยู่ นอกจากนี้ ณ ตอนนี้บนเรือนร่างของจันวิภายังคงสวมใส่เพียงแค่ชุดราตรีชุดเดียว มันยิ่งทำให้หนาวเย็นยิ่งขึ้นไปอีก หากว่าต้องแช่แข็งอยู่ข้างนอกนี้หนึ่งคืน เกรงว่าเธอคงจะต้องแข็งตายเป็นแน่! ภายในใจของจันวิภาคิดเช่นนี้ ดังนั้นจึงรีบหาสถานที่ที่สามารถเข้าไปข้างในได้ แต่กลับพบว่าบริเวณโดยรอบได้ถูกล็อคเอาไว้จนหมด ไร้หนทางที่จะเข้าไปได้ ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง จันวิภาจึงทำได้เพียงแค่หากำแพงรั่วสักที่หนึ่ง เพื่อเตรียมที่จะปีนกำแพงเข้าไป ในที่สุดก็ปีนเข้าไปได้อย่างยากลำบาก หลังจากเข้ามาในสวนของบ้านพัก จันวิภาคิดอยากที่จะเข้าไปในบ้าน แต่กลับไม่พบอะไรเลย ไม่เพียงแค่ด้านนอกเท่านั้น แม้แต่ด้านในเองประตูต่างก็ถูกล็อคเอาไว้จนหมดทุกบาน เธอไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้เลย “สุมิตร นายทำเกินไปแล้ว!!!” จันวิภาสาปแช่ง และตระโกนด่าออกมาด้วยความโกรธ ยามค่ำคืนช่างเหน็บหนาว จันวิภาหนาวเหน็บเสียจนทุกข์ระทม แต่ทันใดนั้นกลับเหลือบมองไปเห็นชั้นบนสุดของบ้าน มีแสงไฟเปิดอยู่อย่างริบหรี่ จันวิภาจำมันได้ ที่ตรงนั้นเป็นห้องของสุมิตร ในห้อง สุมิตรกำลังสวมใส่เสื้อโค้ทสีดำ สายตาเย็นชากำลังจ้องมองจันวิภาที่สั่นเทาอยู่ด้านนอกหน้าต่าง นัยน์ตาคับแคบลงอยู่เล็กน้อย “คุณชายอยากจะให้ดิฉันไปพาคุณหญิงกลับมาพักผ่อนที่ห้องไหมค่ะ?” สาวใช้ที่อยู่ข้างๆเอ่ยถาม สุมิตรขมวดคิ้ว คิดถึงเรื่องที่เห็นก่อนหน้านี้ของเธอกับนราวิชญ์ที่ดึงกันไปดึงกันมา จึงโมโหขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว “ไม่จำเป็น!” ให้เธอแข็งตายนั้นดีที่สุดแล้ว มันจะทำให้สมองเธอได้สติขึ้นมา รู้ว่าควรที่จะต้องทำอย่างไร และไม่ต้องทำอะไร! สาวใช้คนนั้นตกใจเป็นอย่างมาก จึงหุบปากลงในทันที และไม่เอ่ยพูดขึ้นมาอีก จันวิภามองแสงไฟที่อยู่บนห้องของสุมิตร หนาวเสียจนตัวสั่นงึกงัก ภาวนาให้เขามองเห็นเธอ และปล่อยให้ตนเองเข้าไปข้างใน แต่กลับคาดไม่ถึง ไฟที่อยู่ในห้องของเขานั้นมืดลงเสียแล้ว จันวิภาอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จามขึ้นมาทันที และอดไม่ได้ที่จะกัดฟัน สุมิตร แกนี่มันจิตใจเลวทรามอำมหิตจริงๆ! ไม่จินตนาการถึงการโอบกอดใดๆของสุมิตรอีก จันวิภาหดตัวลงอยู่ตรงมุม เธอจะต้องตัวสั่นงึกงักอยู่อย่างนี้ไปหนึ่งคืน เช้าตรู่วันที่สอง จันวิภาถูกความเหน็บหนาวปลุกจนตื่น ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา เงยหน้าขึ้น จึงได้พบว่าประตูบ้านได้ถูกเปิดออกแล้ว จึงรีบวิ่งถลันเข้าไปทันที จันวิภารับกลับเข้าไปในห้องแล้วอาบน้ำอุ่น หลังจากที่ร่างกายได้รับความอบอุ่นแล้ว จึงได้ไปหาสุมิตร มาถึงห้องของสุมิตร จันวิภาพึ่งจะเดินเข้าไป ก็ได้ตระโกนถามขึ้นมา “สุมิตร เมื่อคืนนี้ทำไมนายถึงกลับก่อนโดยไม่พูดอะไรสักคำ? นายรู้ไหมว่าฉันหานายตั้งนาน? และทำไมนายถึงไม่ให้ฉันเข้าบ้าน?” “นายรู้ไหมว่าเมื่อคืนฉันอยู่ข้างนอกอีกนิดก็หนาวตายแล้ว? ฉันทำผิดอะไรอีกล่ะ ถึงทำให้นายทำอย่างนี้กับฉัน? นายเข้าใจหรือเปล่าว่าฉันเป็นภรรยาของนาย? ทำไมนายถึงได้ทำอย่างนี้กับฉัน? นาย......เมื่อคืนในงานเลี้ยงนายยังปกป้องฉันอยู่เลยนี่......” พูดถึงประโยคสุดท้าย จันวิภาก็ได้กัดริมฝีปาก สำหรับสุมิตร เธอนั้นมองไม่ออกจริงๆ เห็นได้ชัดว่าเมื่อคืนนี้ในงานเลี้ยง ตอนเขาปกป้องเธอ และเป็นห่วงตัวเธอเองเป็นอย่างมาก แต่ทำไมกัน...... สุมิตรขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา หัวเราะแล้วพูดขึ้น “อยู่ต่อหน้าคนนอกผมต้องปกป้องเธอ เพื่อหน้าตาของผมเอง แต่ว่า เธอย่ามาแสดงละครต่อหน้าผม ผู้หญิงร่านก็คงยังเป็นผู้หญิงร่านอยู่วันยังค่ำ หญิงร่านที่ไม่มีแม้แต่ความบริสุทธิ์ ยังจะมาแสดงละครอะไรอีก!น่าขำ!” “ฉันแสดง?!” จันวิภานิ่งอึ้ง ฟังไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย เพราะอะไรเขาถึงได้หยิบเรื่องนั้นขึ้นมาพูดกันนะ เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงาน เธอเคยอธิบายไปแล้ว ว่าไม่ใช่เป็นเธอที่ยินยอม และเพราะอะไรเขาถึงไม่เชื่อเธอกันนะ? ถ้าหากสามารถทำได้ เธอก็ไม่อยากที่จะสูญเสียความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงานและถูกคนแย่งชิงครั้งแรกไปหรอก! เธอกัดฟันอย่างรุนแรง จันวิภาพูดอย่างไม่เต็มใจ “สุมิตร วันนี้นายต้องพูดให้ชัดเจน ฉันไปแสดงละครตอนไหนกัน?” พูดจบ จันวิภาจึงคว้าดึงชายแขนเสื้อของสุมิตรเอาไว้ ไม่ปล่อยให้เขาไป! สุมิตรจ้องมองจันวิภาที่อยู่ข้างหน้าอย่างเยือกเย็น เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก็โกรธขึ้นมาทันที ทันใดนั้นจึงเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เธอคิดดูให้ดีๆ ที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ได้ทำเรื่องสกปรกอะไรเอาไว้ ผมถึงได้ทิ้งเธอเอาไว้!” จันวิภานิ่งอึ้ง จ้องมองสายตาที่เย็นชาคู่นั้นของสุมิตร มันไม่เหมือนกับการล้อเล่น สีหน้าจึงหม่นหมองขึ้นมาทันที เมื่อคืนเธออยู่ที่งานเลี้ยง...... ทันใดนั้นเองจึงคิดอะไรออกขึ้นมา ในสมองของจันวิภาคิดออกมาได้ถึงทางเดินตรงห้องน้ำ คำพูดของเธอกับนราวิชญ์ จึงเอ่ยปากพูดออกไปอย่างรีบร้อน “เมื่อคืนนี้นายคงไม่ได้เห็นฉันพูดคุยกับนราวิชญ์หรอกนะ?” “หึ!” สุมิตรเปล่งเสียงออกมาอย่างเยือกเย็น “เธอยังกล้ายอมรับอีก นี่เธอยังมีความภาคภูมิใจใจตนเองอยู่บ้างไหม!” จันวิภาอึดอัดขึ้นมาทันที “เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด นายฟังฉันอธิบายก่อน” “ผมเห็นมันด้วยตาตัวเอง และได้ยินเองกับหู เธอยังต้องการที่จะอธิบายอะไรอีก? จันวิภา ฐานะเป็นภรรยาของผม แต่กลับหลบซ่อนพูดคุยกระหนุกระหนิงกันกับทายาทบริษัทพยุงพงษ์กรุ๊ปตรงทางเดินห้องน้ำ นี่เธอยังคิดว่าตัวเองไม่มีความผิดอยู่อีกหรอ? เธอนี่มารยาจริงๆ!” “เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิด สุมิตร นายต้องเชื่อฉันนะ ระหว่างฉันกับนราวิชญ์ไม่ได้มีอะไรกันเลย พวกเราก็แค่ตอนเป็นเด็กชอบเล่นอยู่ด้วยกันบ่อยๆก็เท่านั้นเอง เมื่อคืนฉันพูดกับเขาชัดเจนแล้ว จริงๆนะ!” จันวิภาอธิบายออกไปอย่างรีบร้อน “เธอไม่ต้องมาแสดงละครที่นี่ ผมไม่อยากฟังว่าเธอพูดอะไรกับผู้ชายคนอื่นมาบ้าง ผมแค่รู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงร่าน เสียความบริสุทธิ์ก่อนแต่ง เป็นผู้หญิงร่างที่ไม่มีความบริสุทธิ์อยู่เลย!” สุมิตรพูดจบ จึงสบัดจันวิภาออกไป ทันใดนั้นเองใบหน้าของจันวิภากลับแปรเปลี่ยนเป็นสีขาว เปิดปากออกเพื่อต้องการที่จะอธิบายอะไรบางอย่าง แต่กลับพบว่าตนเองไม่มีทางที่จะอธิบายอะไรได้เลย...... เสียความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงาน...... ก้มศีรษะลงไป ปิดปากจนสนิทแน่น หัวใจของจันวิภาแผ่ซ่านไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว ทุกข์ระทมเสียจนทำให้เธอหายใจไม่ออก 
已经是最新一章了
加载中