ตอนที่ 64 ความอับอาย และเดียวดาย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 64 ความอับอาย และเดียวดาย
ต๭นที่ 64 ความอับอาย และเดียวดาย เมื่อเถ้าแก่เนี้ยกวาดสายตามองจันวิถา สุมิตรก็ได้ไปเสียแล้ว เถ้าแก่เนี้ยนั่งลงข้างๆจันวิภา มองจันวิภาใกล้ๆอย่างไร้ซึ่งมารยาท จากนั้นจึงยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า “เป็นคนที่สวยจริงๆ” จันวิภาเครียดขึ้นมาทันที พูดขึ้นอย่างรีบร้อน “สุมิตรได้พูดอะไรกับคุณไปหรือเปล่า?” เถ้าแก้เนี้ยยิ้มแล้วพูด “ดูเหมือนว่าเธอจะถูกเจ้านายขายให้มาเป็นเจ้าหญิงของที่นี่แล้ว แต่ตัวเองกลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย ฮิฮิ!” ทันใดนั้นทั่วทั้งร่างของจันวิภาก็ได้ตึงเครียดขึ้นมาทันที เธอพูดอย่างหวาดผวา “คุณพูดอะไรน่ะ? เป็นเจ้าหญิง?” เถ้าแก่เนี้ยหลี่ตาลง แล้วพยักหน้า สติของจันวิภาในเวลานี้ชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้นมาทันที ลุกขึ้นยืนเตรียมที่จะพุ่งออกไปนอกประตู คราวก่อนที่สุมิตรเอาเธอไปประมูลขายก็น่าเวทนามากอยู่แล้ว ครั้งนี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะให้เธอเป็นเจ้าหญิง ตอนนี้จันวิภาอดใจรอไม่ไหวที่จะวิ่งกลับไปหาสุมิตรแล้วหั่นเข้าเสียให้ออกเป็นชิ้นๆ แต่ทว่าเธอกลับไม่มีโอกาสเอาเสียเลย ชายชุดดำหลายคนเข้ามาขวางกั้นด้านหน้าของเธอเอาไว้ ภายใต้คำสั่งของเถ้าแก่เนี้ย เธอจึงถูกผลักกลับมาตรงโซฟา จันวิภานั่งหดตัวจนแน่นอยู่บนโซฟา กอดแขนทั้งสองข้างจนแน่นเพื่อป้องกันตัวเอง กอดแขนทั้งสองข้างของตนเองจนแน่นแล้วมองชายชุดดำพวกนั้นอย่างระมัดระวัง เถ้าแก่เนี้ยยิ้มแล้วพูด “คุณจันวิภา คุณจะหนีไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ไม่งั้นฉันจะรับผิดชอบไม่ไหวเอา” จันวิภาพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “พวกเธอทำอย่างนี้มันผิดกฎหมายนะ ฉันจะไปแจ้งความ” เถ้าแก่เนี้ยยิ้มแล้วพูด “แจ้งความ? คุณจันวิภาคุณอย่ามาพูดเรื่องตลกหน่อยเลย ที่นี่เดิมทีมันก็ไม่ใช่สถานที่ที่สะอาดอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว” จันวิภาหายใจถี่ขึ้น ร่างกายของเธอสั่นเทา และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปดี เถ้าแก่เนี้ยยิ้มอย่างมีความหมายแอบแฝง “ที่นี่ คุณสามารถทำตามใจตนเองได้ แอบเอาผู้ชายมาซ่อนไว้อยู่ตลอด ไม่ใช่เรื่องที่ลำบากใจหรือไงกัน?” จันวิภาโกรธขึ้นมา จึงตระโกนด่าออกไปทันที “ยายแก่หุบปากเสียที เธอคิดว่าทุกคนเขาจะมีความคิดเหมือนเธอกันหรือไง?” เมื่อเถ้าแก่เนี้ยเห็นจันวิภาไม่ไว้หน้ากัน ทั้งยังจะด่าทอกันอีก ทันใดนั้นเองจึงตบลงบนที่ใบหน้าที่บอบบางของเธอ จันวิภารู้สึกแต่เพียงความปวดแสบปวดร้อนที่อยู่บนใบหน้า ใบหน้าหันไปข้างๆ เถ้าแก่เนี้ยพูดขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม “นางเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้ ที่นี่ยังไม่มีใครกล้าพูดกับฉันขนาดนี้ นี่แกไปกินดีหมีมาหรือไงหะ? แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?” พูดจบ เถ้าแก่เนี้ยก็ได้ส่งสายตาไปให้เหล่าบอดี้การ์ดชุดดำ เหล่าบอดี้การ์ดเข้าใจได้ทันที ดึงมือของจันวิภาเอาไว้อย่างสุดกำลัง พาเธอไปเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เนี้ย เถ้าแก่เนี้ยยิ้มออกมาอย่างทะนงตน จุดบุหรี่ที่อยู่ในมือ แล้วสูบเข้าไปเบาๆ จากนั้นจึงพ่นควันออกไปที่ใบหน้าของจันวิภา จันวิภาไอออกมาอย่างรุนแรง แต่พอเธอเคลื่อนไหว ก็ได้ถูกมือที่ใหญ่คู่นั้นดึงผมของเธอเอาไว้อย่างรุนแรง จนแทบที่จะทำให้น้ำตาแห่งความเจ็บปวดของเธอเล็ดออกมา เถ้าแก่เนี้ยใช้มือไปลูบแก้มที่ราบเรียบขาวๆของจันวิภา แล้วค่อยๆใช้นิ้วมือม้วนปลายผมของเธอเล่นอีกด้วย เธอเข้ามาใกล้ใบหน้าของจันวิภา ทำท่าเหมือนจะแสร้งทำเป็นสงสารจันวิภา ถอนหายใจออกมาแล้วพูด “นี่คุณยาย ที่นี่มันไม่ใช่สถานที่ที่ดีเลิศ แต่เมื่อมาที่นี่แล้ว วิธีที่ใช้ในข้างนอกก็ไม่มีประโยชน์แล้ว จันวิภากัดฟันอย่างรุนแรง ร่างกายสั่นเทาอยู่เล็กน้อย นัยน์ตาทั้งสองข้างยังคงมีความดื้อดึงอยู่ สิ่งนี้ทำให้เถ้าแก่เนี้ยไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ผู้หญิงที่สวยอย่างนี้ ถ้าหากว่าเธอเป็นเด็กดีแล้วเชื่อฟัง บางทีอาจจะซวยน้อยลงก็ได้ เธอว่าจริงมั้ย?” จันวิภายิ้มเยาะเย้ย “สวะ!” ครั้งนี้เถ้าแก่เนี้ยไม่ได้โกรธ แต่กลับยิ้มหัวเราะร่าออกมา เธอพยักหน้าแล้วพูด “ไม่ผิด ที่นี่ ผู้หญิงก็เป็นได้แค่สวะ แต่ว่านะ เธอคิดว่าเธอมีดีอะไร? เจ้านายสุมิตรทิ้งเธอไว้ที่นี่ และให้โอกาสแก่เธอ เรื่องที่ควรทำก็คือ......” เถ้าแก่เนี้ยพูดยังไม่ทันจบ เสียงของจันวิภาก็ได้ดังขึ้นมา “อย่าได้ฝันเลย ยัยหมูแก่!” เสียงของจันวิภาดังมาก แต่มันกลับแหบแห้ง เสียงเช่นนั้นที่ได้ส่งผ่านไปถึงหูของทุกคนที่อยู่บริเวณโดยรอบ แม้แต่เถ้าแก่เนี้ยเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เธอโกรธเสียจนตัวบิด หยิบแก้วไวน์ แล้วสาดไวน์แดงทั้งแก้วไปที่หน้าของจันวิภา “ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ย นางร่าน เธอจะล่วงเกินใครที่นี่ก็ได้ แต่ไม่ใช่ฉัน คนที่ทำให้ฉันไม่พอใจ มันจะอยู่ไม่สุขอีกต่อไป” พูดจบ เธอก็หันหน้าไปพูดกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ “เอาคุณจันวิภาไปขังไว้ที่ห้องด้านหลัง แล้วให้สมองเธอตื่นขึ้นมาสักหน่อย!” ดังนั้น จันวิภาจึงถูกผู้ชายสองสามคนลากไปยังห้องเล็กที่อยู่ทางด้านหลังของบาร์ ภายในห้องเล็กนั้นมืดมิดเป็นอย่างมาก ไม่มีแสงไฟ ไม่มีเก้าอี้ ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง หลังจากที่จันวิภาถูกลากเข้าไปข้างในแล้ว แม้แต่เสียงเอะอะที่อยู่ทางด้านนอกก็ไม่สามารถที่จะได้ยิน ห้องเล็กๆที่มืดมิดคับแคบเป็นอย่างมาก จันวิภาเดินไปเพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็ชนเข้ากับผนังที่เย็นเฉียบเสียแล้ว เธอจึงทำได้เพียงแค่นั่งลงไป แล้วใช้มือโอบกอดตัวเองเอาไว้ สั่นเทาไม่หยุดหย่อน ไม่รู้เป็นเพราะว่ามันน่าหวาดหวั่น หรือเป็นเพราะความหนาวเย็นกันแน่ “สุมิตร แกมันสารเลว วิปริต ป่าเถื่อน ต้องมีสักวัน ที่ฉันจะทำให้แกขายขี้หน้า และฉันจะแก้แค้นทีละอย่างๆแน่นอน!!!” ภายในความนึกคิดนี้ ทันใดนั้นเองจันวิภาก็นึกถึงนราวิชญ์ขึ้นมาได้ทันที ถ้าเขาอยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว แต่ทว่า สุดท้ายแล้วนี่ก็แค่เป็นความฝันอยู่ จันวิภาหลับลงไปอย่างซึมกะทือ ทันใดนั้นเองจึงถูกความเย็นปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หนาวเสียจนเธอสั่นสะท้าน เป็นเช่นนี้ต่อไปมันไม่ใช่หนทางที่ดีแน่ จันวิภารู้สึกว่าถ้าหากต่อต้านอยู่ตลอดล่ะก็ ร่างกายของเธอก็จะต้องรับการทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน เมื่อคิดเช่นนี้ จันวิภาจึงมีแผนการในใจ รีบเดินไปคลำหาประตูของห้องเล็กๆที่มืดมิดทันที แล้วใช้ฝ่ามือทุบบานประตูอย่างแรง “มีใครอยู่มั้ย มีใครอยู่มั้ย เปิดประตู เปิดประตูที!ปล่อยฉันออกไป!” ทันใดนั้นเองจึงมีรูเล็กๆปรากฏขึ้นมาที่ประตู ดวงตาที่เยาะเย้ยคู่หนึ่งปรากฏออกมาให้เห็นอยู่ที่นั่น “จะเรียกอะไรนักหนา อยากตายหรือไง” เสียงที่หยาบคายของคนๆนั้นเงียบสงัดลง แล้วรูโหว่เล็กๆนั่นก็ถูกปิดลงไปในทันที จันวิภาตกตะลึง แล้วใช้แรงทุบประตูอีกครั้ง “ฉันอยากออกไป” “คุณจันวิภา คุณแน่ใจหรอว่าคุณจะออกไป?” ช่องประตูเล็กๆถูกเปิดขึ้นมาอีกครั้ง เสียงของผู้ชายที่อยู่ด้านนอกดังเข้ามาข้างใน “คุณก็น่าจะรู้นี้ ถ้าหากออกไปข้างนอกมันจะหมายถึงอะไร” “ฉันอยากจะออกไป เรียกเธอมาหาฉันที” จันวิภาพูดพร้อมกับทุบประตู ชายคนนั้นเข้ามาใกล้ช่องประตูเล็กๆ ยิ้มอย่างเย้ยหยัน แล้วพูด “คุณจันวิภา คุณรอสักประเดี๋ยวแล้วกัน” เพียงไม่นาน จันวิภาก็ได้มาเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เนี้ยอีกครั้ง ครั้งนี้ประตูได้ถูกเปิดออกมาแล้ว กลิ่นอายที่แปลกประหลาดและเสียงเพลงที่หนวกหูของไนต์คลับทะลักพรั่งพรูเข้ามาทันที หลังจากที่จันวิภาคิดถึงเรื่องที่จะต้องทำแล้ว ในใจก็เกิดความรู้สึกทีบ้าคลั่งขึ้นมาอยู่นิดหน่อย ตบหน้าอกของตนเอง เธอแหงนหน้าขึ้นมอง จึงได้เห็นเถ้าแก่เนี้ยยืนพิงประตูแล้วกำลังกอดอกอยู่ คิ้วทั้งสองกระดกขึ้นด้วยความประหลาดใจ แล้วหัวเราะขึ้นมา “โฮ่ คุณจันวิภา ไม่รู้ว่าคุณตามฉันมาเพราะมีอะไรจะสั่งฉันอย่างนั้นหรอ?” จันวิภาระงับแรงกระตุ้นที่จะด่าเธอเอาไว้ได้ แล้วพูดออกไปอย่างสงบนิ่ง “ฉันคิดได้แล้ว เธอจัดการได้ตามใจชอบเลย” 
已经是最新一章了
加载中