ตอนที่ 76 คู่รักใหม่ของเขางั้นหรอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 76 คู่รักใหม่ของเขางั้นหรอ
ต๭นที่ 76 คู่รักใหม่ของเขางั้นหรอ จันวิภาโกรธเสียจนตัวสั่นอยู่เล็กน้อย “สุมิตร นราวิชญ์ก็พูุุดไว้ชัดเจนแล้วว่าเขายอมแพ้ฉันแล้ว ครั้งนี้เขาเดินทางไปต่างประเทศเพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับนายครั้งที่แล้ว เขาจะอยู่ห่างจากฉัน และนายก็อย่าทำให้มันเกิดปัญหาอีก” “อย่าทำให้มันเกิดปัญหาอีก!” สุมิตรเปล่งเสียงหึ “จะบอกเธอให้นะ จันวิภา ไม่ว่าเธอจะทำเรื่องอะไรฉันก็มองออกหมดแหละ คำพูดของเธอ ฉันไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว” “หุบเขาเจียงซานยากที่จะเคลื่อนไหว นางแพศยาก็ยังคงเป็นนางแพศยาอยู่วันยันค่ำ” หลงจากสุมิตรพูดประโยคนี้จบจึงหันตัวแล้วเดินจากไป นี่ทำให้จันวิภาประหลาดใจเป็นอย่างมาก เธอคิด สุมิตรจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้ล่วงละเมิดการข่มขู่นาง แต่เขาแค่มาเยาะเย้ยนางกี่คำแล้วก็เดินจากไป แต่ถึงกระนั้น จันวิภาก็ยังรู้สึกโกรธและไร้พลัง เธอตะโกนที่ด้านหลังของสุมิตร “นายจะเชื่อหรือไม่ สารเลว!” …… นอนไม่หลับทั้งคืน วันรุ่งขึ้นจันวิภาเดินออกประตูไปก็ได้เห็นเงาของผู้หญิงคนหนึ่ง ราวหับจะตระหนักได้ถึงสายตาของจันวิภา ผู้หญิงคนนั้นหันตัวกลับมา สายตาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจเฉกเช่นเดียวกัน ทั้งยังอ้าปากออกมาเล็กน้อย “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” ทั้งสองคนเอ่ยถามเกือบจะพร้อมเพียงกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจันวิภา เธอไม่คิดไม่ฝันเลย นวาระคนนั้นที่เห็นอยู่เมื่อวานนี้หลัดๆจะปรากฏตัวออกมาที่นี่ เมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากัน เสียงเปิดประตูดังขึ้น สุมิตรเดินออกมาจากด้านในห้อง และเขายังคงสวมชุดนอนเอาไว้อยู่ หลังจากเดินออกมา จึงจับไหล่ของนวาระอย่างเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากจูบกันบนเส้นผมที่อยู่ถัดจากหูของนวาระ หลับตาลงแล้วเพลิดเพลินไปกับกลิ่นอายของเธอ สุมิตรไม่สนใจสายตาของจันวิภาที่ดูอย่างไม่เชื่อสายตาอยู่เลยแม้แต่น้อย ราวกับจันวิภาเป็นอากาศธาตุ และอ่อนโยนกับผู้หญิงคนนั้น ใบหน้าของนวาระดูแดงก่ำอยู่เล็กน้อย เมื่อเธอเห็นสุมิตรยังคงต้องการที่จะจูบคอของเธอต่อ เธอจึงผลักสุมิตรออกไปเบาๆ และใช้สายตาแสดงออกว่ายังมีจันวิภายืนมองอยู่ข้างๆ สุมิตรเงยหน้าขึ้นมามองจันวิภา ดวงตาเต็มไปด้วยความเกียจคร้านและยังมีความเยือกเย็นที่ทำให้คนรู้สึกประหม่าอยากเดินจากไป “เขาเป็นใคร?” นวาระชี้ไปทางจันวิภา “คุณจะไม่ควรจะแนะนำตัวหน่อยหรอ?” จันวิภารู้สึกว่ามันน่าขำ เมื่อวานนวาระก็คงจะรู้แน่ชัดอยู่แล้วว่าตนเองเป็นภรรยาของสุมิตร แต่ทว่าวันนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน? “เธอเป็นภรรยาของฉัน” สุมิตรโอบเอวนวาระ ฝ่ามือของเขาค่อยๆขยับผ่านชุดนอนไถลเข้าไป นวาระตกใจอยู่เล็กน้อย ไม่รู้จะทำอย่างไรดีในขณะนี้ จันวิภาเม้มปากเน้นจนปากซีดอยู่เล็กน้อย สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เธอหมดคำจะพูดอะไรจริงๆ ในตอนนี้นวาระกลับถลึงตาจ้องมองสุมิตรแล้วพูดขึ้นว่า “สุมิตร คุณไม่เคยบอกฉันเลยว่าคุณมีภรรยาแล้ว คุณควรบอกฉันให้เร็วกว่านี้หน่อยนะ” สุมิตรโอบไปที่ไหล่ของเธอแล้วพูด “นวาระ ที่ฉันชอบนะมันเธอ” นวาระส่ายหัวแล้วพูด “ไม่ สุมิตร แม้ว่าฉันจะรู้ว่าคุณเป็นคนพรากครั้งแรกของฉันไป แต่ฉันไม่ยอมให้ตนเองเป็นเมียน้อย แล้วทำลายครอบครัวของคนอื่นหรอก ฉันทำไม่ได้” นวาระพูดจบก็หันตัวเดินไป แต่ทว่าพึ่งจะเดินออกไปได้เพียงก้าวเดียวก็ถูกสุมิตรดึงเข้ามาสู่อ้อมแขน เขากอดนวาระจนแน่น แล้วพูดขึ้นอย่างอบอุ่น “นวาระ ที่ฉันแต่งงานกับจันวิภาก็แค่เพื่อผลประโยชน์เท่านั้นแหละ ในสายตาของฉันเธอไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ และไม่มีคำพูดที่จะทำลายครอบครัวได้ คนที่ฉันรักน่ะคือเธอ” สุมิตรกล่าวในขณะที่ใช้นิ้วมือของเขาลูบคลำเส้นผมอ่อนนุ่มนั่นของนวาระ สายตาไร้ซึ่งความเยือกเย็นใดๆ มีแต่เพียงแค่ทำให้จันวิภารู้สึกเหน็บหนาวราวกับคนแปลกหน้า จันวิภาไม่เคยคิดเลยว่าสุมิตรจะมีช่วงเวลาที่แสนจะอบอุ่นเช่นนี้ และที่เสียดสีเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือ เขาอ่อนโยนกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธอ สุมิตรไม่สนใจจันวิภา เรียกสาวใช้ออกมา แล้วพูดกับสาวใช้ “ไปจัดเตรียมห้องให้คุณนวาระ และจัดวางของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันไว้ให้หมด” สาวใช้คนนั้นพยักหน้า จากนั้นจึงมองจันวิภาอย่างเย้ยหยันและย่ามใจ โค้งเคารพนวาระอย่างเคารพ “คุณนวาระ เชิญทางนี้นะคะ” นวาระจ้องมองจันวิภาที่มีสีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆด้วยความกังวลอยู่เล็กน้อย แล้วมองมาที่สุมิตรอีกที สุมิตรตบไหล่ของเธอด้วยความอบอุ่น “ไปเถอะ ไม่เป็นไร” นวาระพยักหน้า แล้วเดินตามสาวใช้ไป จันวิภาที่เห็นเรื่องราวทั้งหมดนี้ ไม่ได้ร้องไห้สักแอะ มีแต่เพียงความท้อแท้ที่อยู่ในหัวใจ เธอไม่เคยหักหลังสุมิตร แม้ว่ามันจะเป็นความเข้าใจผิดที่ถูกสุมิตรเยาะเย้ยถากถางจนถึงขนาดทรมานร่างกาย เธอก็อดทนอดกลั้นมันเอาไว้ แต่ทว่าครั้งนี้ จันวิภาไม่อาจที่จะยอมรับการอยู่ร่วมกันของสุมิตรกับคนรักใหม่ของเขาได้ จันวิภากลับไปที่ห้องหยิบกระเป๋าเดินทางของตนเองออกมาคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างใจลอยพร้อมกับหยิบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าสัมภาระ ความอัปยศอดสูที่อยู่ภายในใจเป็นดั่งมีดที่ทิ่มแทง ความคิดเช่นนั้นของเธอได้ตอกทะลวงเข้าไปสู่หัวใจ แต่ทว่าจันวิภากลับไม่ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา และไม่มีความเศร้าโศก เธอเงียบสงบเสียจนน่าแปลกประหลาดตั้งแต่ต้นจนจบ เธอหิ้วกระเป๋าเดินทาง เตรียมที่จะออกไป แต่สุมิตกลับปรากฏตัวออกมาต่อหน้าเธออีกครั้ง “เธอคิดจะทำอะไร?” สุมิตรขวางจันวิภาเอาไว้อยู่ข้างหน้า ไฟที่สาดส่องลงมาจากบนเพดาน ทำให้เงาของเขาสูงใหญ่ และทำให้เขาดูเย็นชามากขึ้นไปอีกภายใต้แสงไฟ “เรื่องมันก็เห็นชัดๆอยู่” จันวิภายกกระเป๋าสัมภาระขึ้นมาและอ้อมไปทางด้านข้างของสุมิตร แต่ในวินาทีต่อมา ข้อมือของจันวิภาก็ได้ถูกมือที่ใหญ่โตและแสนจะเย็นเฉียบของสุมิตรบีบเอาไว้ มือที่ถือสัมภาระอยู่ได้ปล่อยลงมาด้วยความเจ็บปวด สุมิตรโยนกระเป๋าเดินทางไปไว้ข้างๆ จ้องมองแผ่นหลังของจันวิภาแล้วพูดขึ้น “เธอคิดว่าบ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์เป็นที่ที่เธออยากจะมาก็มาอยากจะไปก็ไปอย่างนั้นหรอ? จันวิภา เธอคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันง่ายเกินไปแล้ว เธอคิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆงั้นหรอ?” จันวิภาไม่ได้หันตัวกลับมา และพูดอย่างเยือกเย็น “อยากมาก็มา? อยากไปก็ไป? หึ สุมิตร เดิมที่ฉันก็ไม่ได้อยากจะมาที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ชีวิตฉันดีอยู่แล้ว แต่ทันใดนั้นนายก็บุกรุกเข้ามาในชีวิตของฉัน แล้วลากฉันมาที่นี่ ทรมานฉัน ปู้ยี่ปู้ยำฉัน และทำลายฉัน” “ฉันขอถามนายหน่อย ฉันทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อนายกันแน่หรือ?” จันวิภาพูดเสียงสูงอยู่เล็กน้อย สุมิตรกอดไหล่ของจันวิภา บังคับให้ร่างกายของเธอเผชิญหน้ากับตัวเอง จากนั้นจึงใช้แรงบีบไปที่คางของเธอ แล้วพูดอย่างโหดเหี้ยม “เธอถูกขายมา แล้วฉันใช้เงินซื้อ ฉันจะจัดการอย่างไรก็ได้ เธอต้องเข้าใจเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา” “และ เรื่องที่เธอทำผิดต่อฉัน เกรงว่าฉันจะไม่ต้องพูดให้มากความ คืนแรกของงานแต่งงานเธอกลับปล่อยให้ตนเองตกลงไปสู้เหวลึก ทุกสิ่งที่ ทุกสิ่งที่คุณได้รับต้องโทษแม่ของเธอที่พานางแพศยาอย่างเธอเกิดขึ้นมาบนโลก” 
已经是最新一章了
加载中