ตอนที่86 ลาก่อนหยก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่86 ลาก่อนหยก
ต๭นที่86 ลาก่อนหยก หลังจากซื้อของมาแล้ว ทั้งสองคนก็พูดคุยและรับประทานกันอย่างสนุกสนาน แต่พึ่งกินไปได้เพียงไม่กี่คำ ทันใดนั้นเองจู่ๆกระเพาะอาหารของจันวิภาก็เกิดอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรง เธอวางกล่องข้าวลง แล้วรีบวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำ เดิมทีก็ไม่ได้กินอาหารมากมายอะไรขนาดนั้น จนแทบจะเรอออกมา จันวิภารู้สึกว่ากระเพาะของตนเองหดตัวลงเกือบจะเท่ากับกำปั้น ความเจ็บปวดจากการฉีกขาดที่รุนแรงทำให้ร่างกายของเธอเย็นลง และใบหน้าขาวซีด หลังจากอ้วกออกมาจนหมด จึงใช้น้ำทำความสะอวดรอบหนึ่ง จันวิภานั่งลงอยู่ข้างๆเตียงของพัชรีอย่างงุนงง “เธอเป็นอะไรไปอีกแล้วเนี่ย?” พัชรีเอ่ยถามด้วยความวิตก “จันวิภา เธอไม่เป็นไรนะ?” จันวิภาโบกสะบัดมือ มองไปยังอาหารที่อยู่ข้างๆแล้วพูดขึ้น “เธอกินไปเถอะ จู่ๆฉันก็เกิดไม่อยากอาหารแล้ว เลยกินไม่ลง!” พูดจบ หลังจากที่จันวิภาจัดเตรียมสิ่งของที่ต้องใช้พักอยู่ที่โรงพยาบาลให้พัชรีเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงลุกขึ้นแล้วเตรียมที่จะเดินออกไป ถ้าจะต้องเดินออกจากโรงพยาบาลแล้วจึงจำเป็นที่จะต้องผ่านห้องผู้ป่วยของนวาระดังนั้นจันวิภาจึงกลัวอยู่เสมอ กลัวว่าจะไปพบเข้ากับสุมิตร แล้วถูกเขากลั่นแกล้งอีกครั้ง ดังนั้นจึงรีบก้าวเท้าเร็วขึ้น ยังดีตอนที่ออกจากโรงพยาบาลเธอไม่ได้เจอกับสุมิตร ตอนที่กำลังหายใจเข้าออกลึกๆด้วยความโล่งอกอยู่นั้น จึงพบว่าสุมิตรกำลังยืนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ข้างรถที่จอดริมถนน หัวใจของจันวิภาแน่นขึ้น หันตัวและเดินกลับไปโดยไม่รู้ตัว แต่กลับถูกสุมิตรเรียกให้หยุดเอาไว้ สุมิตรยืนอยู่ตรงนั้น ดูราวกับพื้นที่ทั้งหมดจะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งเพราะการดำรงอยู่ของเขา จึงทำให้ร่างกายที่บอบช้ำและเหนื่อยล้าของจันวิภาสั่นเทามากยิ่งขึ้น “ทำไม? เธอแน่ใจหรอวะจะหนี?” คำพูดที่เยือกเย็นของสุมิตรพุ่งออกมาได้อย่างแม่นยำราวกับลูกศร จันวิภาไม่อาจที่จะหลบได้ เนื่องจากไม่จำเป็นที่จะต้องหลบอีกต่อไป จันวิภาจึงกัดฟัน หลับตาลง จากนั้นจึงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วเดินไปทางด้านหน้าของสุมิตร “เข้าไป” สุมิตรไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แล้วพ่นสองคำนี้ออกมา จันวิภาถูกสุมิตรพาตัวเข้าไปในรถอย่างขื่นขม แต่ทว่า ไม่นึกเลยว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรให้เธออึดอัดใจ แค่เพียงแต่พาเธอกลับบ้านก็เท่านั้น และเนื่องจากกระเพาะของจันวิภาไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอจึงหลับตลอดทาง อย่างไรก็ตามในช่วงกลางดึก มันขมุกขมัว จันวิภารู้สึกว่ากำลังจมดิ่งลงไป เหมือนถูกสิ่งของอะไรบางอย่างกดทับเอาไว้ จันวิภาเบิกตากว้าง กลับเห็นว่าสุมิตรกำลังกดเรือนร่างของเธออยู่ในตอนนี้ “อ๊า!!!” จันวิภาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่เพราะการต่อต้านของเธอ ทำให้การรุกรานของสุมิตรราบรื่นยิ่งขึ้นไปอีก หัวใจของจันวิภาแทบที่จะพังทลายลง เธอลืมไปว่านี่คือบ้านของสุมิตร และสุมิตรก็ยังมีกุญแจห้องของทุกห้อง แม้ว่าเธอจะล็อคประตูไว้แล้วจะอย่างไรล่ะ ดวงตาของสุมิตรส่องประกายแสงออกมาเล็กน้อยในตอนกลางคืน ดวงตาที่ราวกับหมาป่าที่ละโมบ ทำให้จันวิภารู้สึกหวาดกลัวและหนาวเย็นจนเข้ากระดูกดำ การเชื่อฟังและขัดขืนต่างก็ไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง จันวิภาถูกทำอย่างทารุณเกือบจะหนึ่งคืนเต็ม....... ในตอนสุดท้าย ร่างกายของจันวิภาแทบที่จะชินชา แต่ทว่าสุมิตรกลับปฏิเสธโอกาสที่เธอจะได้ร้องขอ คืนที่ยาวนาน ทรมานเหมือนนรก...... แต่ทว่า จันวิภาก็ไม่รู้ว่าตนเองโชคดีหรือไม่ เพราะว่าสุดท้ายแล้วก็ยังไม่ตายจากไป แต่ทว่าร่ายกายกลับอ่อนล้าจนถึงขีดสุด แต่ถึงกระนั้น จันวิภาก็ยังตื่นขึ้นมาตอนเช้า ในเมื่อสุมิตรไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เธอถูกกักกัน จึงไม่ได้มีข้อจำกัดในการกระทำของเธอ เธอยังคงเตรียมพร้อมที่จะไปโรงพยาบาลเพื่ออยู่เป็นเพื่อนกับพัชรี พึ่งจะมาถึงชั้นล่าง จันวิภาก็ได้พบว่าสุมิตรได้ส่งนวาระกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นวาระเอนตัวพิงอยู่ในอ้อมกอดของสุมิตรแล้วต้องมองไปที่จันวิภาอย่างทะนงตน ทันใดนั้นจันวิภาก็รู้สึกว่าโลกทัศน์ของตนเองช่างวุ่นวายเสียจริง ในใจไม่รับรู้รสอะไรทั้งสิ้น และเธอก็ไม่รู้ว่าสุมิตรคิดอะไรอยู่ เขาดูเหมือนว่าจะมีความรู้สึกต่อนวาระแต่กลับไม่ยอมปล่อยตนเองไป...... นี่มันช่างน่าขำเสียจริง! ใช้ภาษาอะไรก็ได้มาเพื่ออธิบายความเลวร้ายของสุมิตรก็คงจะไม่มากเกินไป ยังดีที่ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมา วันรุ่งขึ้นจันวิภายังคงไปเยี่ยมเยือนพัชรีเหมือนเช่นเคย แต่ทว่าตอนที่กำลังจะกลับบ้าน จันวิภาก็ได้ไปชนเข้ากับนวาระ และนั่นจึงทำให้จันวิภาเหลือบไปเห็นก้อนหยกที่ห้อยอยู่บนคอของนวาระโดยไม่ได้ตั้งใจ และหยกก้อนนั้นก็เคยเห็นมันอยู่บนคอของเวธัสมาก่อน มันเหมือนกับตนเองกำลังสูญเสียไปเฉกเช่นเดียวกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? จันวิภาตกตะลึง และรู้สึกได้ทันทีว่าจะต้องมีปัญหาอะไรบางอย่างอยู่ในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงตระโกนเรียกนวาระให้หยุด นวาระหันตัวกลับมาแล้วมองไปที่จันวิภาอย่างใจร้อน พูดอย่างเยาะเย้ยถากถาง “คุณหญิง ท่านมีอะไรจะสอนสั่ง?” จันวิภาไม่สนใจคำเยาะเย้ยถากถางของนวาระเธอชี้ไปที่หยกก้อนนั้นที่ห้อยอยู่บนคอของเขาแล้วพูดขึ้น “หยกก้อนนี้เธอเอามันมาจากไหน?” ตอนที่จันวิภาพูดมันเอ่อล้นไปด้วยพลัง ปฏิกิริยาก็รุนแรงมากเช่นกัน นี่จึงทำให้นวาระครุ่นคิดอยู่ในใจของเขาครู่หนึ่ง : ที่แท้หยกนี่เป็นของจันวิภางั้นหรอ? เป็นไปไม่ได้น่า? นวาระระงับความสงสัยที่อยู่ในใจของจันวิภา ก่อนอื่นเธอต้องบอกเป็นนัยกับตนเองว่าหยกก้อนนี้เป็นของเธอ เป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น บนโลกใบนี้จะมีหยกที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกันอยู่สองสามอันก็นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เมื่อคิดเช่นนี้ นวาระก็ได้สงบใจลง เธอเงยหน้าแล้วพูดขึ้น “เอามาจากไหน? เรื่องนี้ฉันคงต้องไปถามบรรพบุรุษ? ทำไม? มีปัญหาอะไรหรือไง?” จันวิภาขมวดคิ้วจนแน่น สงสัยอยู่เล็กน้อย แต่ทว่ากลับส่ายหัวแล้วพูดออกไป “ไม่มีไร” จากนั้นจึงหันตัวแล้วเดินจากไป “รอเดี๋ยว ไม่ใช่ว่าเธอมีหยกที่เหมือนกับหยกก้อนนี้อยู่งั้นหรอ?” นวาระเอ่ยถามขึ้นมาทันที จันวิภายังคงคิดเกี่ยวกับรายละเอียดของหยกตนเอง แต่นวาระพูดว่าเป็นของบรรพบุรุษที่ทิ้งเอาไว้ให้ เช่นนั้นก็ไม่รู้แล้ว ดังนั้นจึงพยักหน้า จากนั้นจึงเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน นวาระถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอมองดูหยกอย่างขุ่นเคือง คิดไม่ถึงเลยว่าแค่ใส่เอาไว้วันแรกก็เกิดหายนะเข้าให้แล้ว อีกแค่นิดเดียวความลับก็เกือบจะแตกออกมา "มันเป็นลางสังหรณ์" นวาระจ้องมองดูหยกก้อนนั้น แล้วครุ่นคิด บางทีจันวิภาอาจจะเป็นคนที่สุมิตรตามหามาโดยตลอด และตอนนี้ตนเองก็เป็นคนที่สวมรอยอยู่ แต่ไม่ว่าจะเป็นสุมิตร ธนภาค หรือแม้กระทั่งจันวิภาก็อาจจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยก็ได้ นวาระไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างสุมิตรกับจันวิภา ทำไมสุมิตรจึงไม่รู้ว่าจันวิภาคือ “แมวป่าตัวน้อย” ที่ตนเองกำลังตามหาอยู่กัน? นวาระสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ในใจไม่สงบ ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกมา เช่นนั้นอย่าไปพูดถึงสุมิตรเลย เธอจะตายอย่างไรก็ยังไม่รู้ จันวิภาจะโจมตีเข้ามาทันที แล้วตนเองจะต้องถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้า “จะต้องไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้เป็นอันขาด มันต้องไม่เกิดขึ้น!” นวาระกำหยกจนแน่น ตัดสินใจจะตรวจสอบเรื่องราวในวันนั้นให้ละเอียดถี่ถ้วน และการกำจัดจันวิภาก็จะสามารถรับประกันความผิดพลาดของตัวเองได้ 
已经是最新一章了
加载中