ตอนที่ 89 พ่อของเด็กเป็นใคร   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 89 พ่อของเด็กเป็นใคร
ต๭นที่ 89 พ่อของเด็กเป็นใคร? จันวิถาตะลึง แหงนหน้าขึ้นมามองดวงตาของสุมิตรมันช่างเป็นดวงตาที่ทำให้ตนเองรู้สึกหวาดหวั่น จู่ๆเธอก็พูดไม่ออกไปเสียอย่างนั้น นั่นงุนงงอยู่ที่เดิม ดึงผ้าห่มจนแน่น แล้วส่ายหัวอย่างสุดแรง ส่ายหัวแทนคำว่าไม่รู้ หรือเพราะจันวิภาไม่เข้าใจคำพูดของสุมิตร ตัวของจันวิภาเองก็ไม่แน่ใจ เธออึ้งตะลึงไปเสียแล้ว และหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ที่แท้เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของสุมิตรงั้นหรือ? มุมปากของสุมิตรยกกระดกยิ้มขึ้นมาอ่างเหยียดหยาม ราวกับเยาะเย้ยตนเองอีกครั้ง “ดี ดีมากเลยจันวิภา แต่งงานกับผมมาเดือนกว่า แต่ในตัวกลับมีเด็กที่อายุสองเดือน หืม? ยังจะพูดอีกหรอว่าตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงร่าน? เธอบอกผมมา ตอนนี้......” สุมิตรตะคอกออกมา ลำคอที่ขยับข้นลงเรื่อยๆอย่างไม่หยุดหย่อนนั่นแสดงอกได้ถึงความเกรี้ยวกราดของเขา จันวิภายังคงส่ายหัว ตอนนี้ในหัวของเธอขาวโพลนไปหมด เธอกำลังคิด แต่กลับคิดคำตอบไม่ออก ทันใดนั้นจึงจับผมของตนเองเอาไว้ เงยน้าขึ้นแล้วพูด “ถูกวินิจฉัยผิดพลาด มันอาจจะวินิจฉัยผิดพลาดก็ได้” สุมิตรหัวเราะเยาะออกมา “ยกเว้นช่วงเวลาล่าสุด ผมก็แทบจะไม่ได้ปล่อยในใส่เธอเลย เพราะเธอมันไม่เหมาะสม เธอเป็นนางร่าน ผมจะไม่ยอมให้เธอตั้งครรภ์ลูกของผมเด็ดขาด ปกติแล้วก็คงจะยังแสร้งทำเป็นมีคุณธรรมอยู่ แต่ตอนนี้ในท้องกลับมีเด็กของชายชู้อยู่ เธอยังมีอะไรจะพูดอีก หืม?” จันวิภานึกถึงครั้งแรกของตนเองเข้ามาทันที ตอนที่อยู่ในโรงแรมที่ถูกคนแปลกหน้าคนนั้นเอาไป ที่แท้คนที่พูดถึงก็คือชายแปลกหน้าคนนั้น? ถ้าหากว่าใช่คนแปลกหน้าคนนั้นจริงๆ เช่นนั้นจะทำอย่างไรได้อีกล่ะ? เขาไม่เพียงแต่พรากครั้งแรกของเธอไป ยังจะให้เธอตั้งครรภ์ลูกของเขาอีก ที่แย่ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เธอเป็นภรรยาของสุมิตร! จันวิภารู้สึกเหมือนเห็นนรกอยู่หน้าตนเอง และสุมิตรก็ได้ยืนอยู่ข้างหลังเธอด้วยความเย็นยะเยือก เพียงผลักเบาๆ มันก็เพียงพอที่จะทำให้เธอไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ “ฉันไม่รู้......วินิจฉัยผิด มันต้องวินิจฉัยผิดแน่ๆ เชื่อฉันสิ ให้ฉันไปวินิจฉัยอีกครั้งหนึ่งเถอะ สุมิตร ฉันขอร้องนายแล้ว” สุมิตรยังคงเย้ยหยันอยู่นั่นจึงทำให้เธอหมดหวัง เขาไม่มีวันที่จะเชื่อจันวิภาได้อีกแล้ว และความรู้สึกแห่งความสูญเสียครั้งนี้ทำให้สุมิตรในตอนนี้กลับทำให้ความโกรธสูงขึ้นจนถึงขีดสุด และอยากที่จะระเบิดออกมา สุมิตรจับแขนของจันวิภาเอาไว้ แล้วกระชากผมของเธอเข้ามาใกล้ๆ “นางแพศยา บอกมาว่าพ่อเด็กเป็นใคร บางทีผมจะลงโทษเธอให้เบาลงหน่อย ไม่งั้นเธอก็อย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน” “ฉันไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ......” จันวิภาพูดอย่างดิ้นรนและรีบร้อน “ ถ้างั้น พวกเรามาหย่ากินดีไหม นายปล่อยฉันไปดีไหม สุมิตร ฉันขอร้องนายแล้ว นายปล่อยฉันไปเถอะ” สุมิตรผลักจันวิภาออกไป มองจันวิภาจากทางด้านบน พูดออกมาอย่างโหดเหี้ยมและเหยียดหยาม “หย่า? ความคิดเธอนี่สวยงามจริงๆ เธออยู่ข้างผมเพื่อเตรียมรับโทษซะดีๆเถอะ ส่วนเด็กคนนี้ หึ เป็นธรรมดาที่จะต้องทำแท้ง” “ทำแท้ง?” จันวิภาหวาดผวา คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะต้องการให้เธอเอาเด็กในท้องออก? พอสุมิตรพูดจบจึงหันตัวแล้วเดินจากไป จันวิภาคิดถึงเด็กที่อยู่ในท้อง ดึงมือของเขาเอาไว้เพื่อขอร้อง “ขอร้องล่ะ สุมิตร เด็กบริสุทธิ์นะ ฉันจะคุกเข่าให้นาย ฉันคุกเข่าให้นายแล้วยังไม่พออีกหรอ? อย่าทำร้ายเด็กเลย ไม่ว่าอะไรก็ยอม” สุมิตรมองจันวิภาอย่างสะอิดสะเอียน แล้วพูดขึ้น “เธอคิดว่าใช้เคล็ดลับนี้จะทำให้ผมปล่อยเธอไปงั้นหรอ? จันวิภา ฉันให้โอกาสเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอก็กลับหักหลังผมครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน เธอสมควรที่จะได้รับการลงโทษแล้ว” สุมิตรผลักจันวิภาอีกครั้งหนึ่ง เดินออกไปข้างนอก แล้วได้ทิ้งคำพูดที่เยือกเย็นให้จันวิภาไว้อีกประโยค “เรื่องของเด็กไม่ช้าก็เร็วผมจะมาจัดการ ทางที่ดีเธอลงมือเองดีกว่า” จันวิภาล้มลงไปบนเตียง อยากจะร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออก อารมณ์ของเธอซับซ้อนอย่างถึงขีดสุด ทารก......ทารกน้อยของเธอ...... หยาดน้ำตาไหลหยดลงมาอย่างเงียบงัน จันวิภาเม้มริมฝีปากเอาไว้ ต้องทำให้สติกลับคืนมา ไม่ว่าอย่างไง ทารกจะต้องรอด จันวิภากัดฟัน ตัดสินใจที่จะเก็บทารกน้อยเอาไว้ ไม่ว่าทารกจะเป็นใคร เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ และเขาเป็นเด็กน้อยของตนเอง เมื่อจันวิภารู้สึกสิ้นหวัง เสียงฝีเท้าที่กระตือรือร้นดังขึ้นที่ประตู เธอเงยหน้าขึ้นมามอง คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกับนราวิชญ์ที่ไปอยู่เมืองนอกมา! จันวิภาคิดว่าตนเองตาลอยเสียแล้ว จึงขยี้ตาอยู่พักหนึ่ง แล้วพูดขึ้นอย่างสงสัย “พี่นราวิชญ์?” นราวิชญ์ยิ้มแล้วพยักหน้า จากนั้นจึงมานั่งข้างๆจันวิภา ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “พี่ได้ยินมาว่าเธอเข้าโรงพยาบาล ก็เลยรีบมาดู” “ฉันไม่เป็นไร แค่ร่างกายอ่อนแอนิดหน่อยเอง” จันวิภาฝืนยิ้ม แต่ทว่านราวิชญ์กลับมองไปยังดงตาของจันวิภา แล้วเอ่ยถาม “จันวิภา ไม่ใช่ว่าเธอมีเรื่องปิดบังพี่อยู่หรอ?” จันวิภากัดฟัน ในใจคิดว่าตนเองไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้ได้อีกต่อไป อีกทั้งตอนนี้เธอยังรู้สึกโดดเดี่ยวและทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นจึงเปิดปากบอกเล่าเรื่องราวที่ตนเองตั้งครรภ์ให้นราวิชญ์ฟัง หลังจากนราวิชญ์ฟังจบจึงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ก็คือตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใคร? แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาไม่ใช่ลูกของสุมิตร?” จันวิภาไม่ได้เล่าเรื่องที่เธอถูกข่มขืนในโรงแรมนั่นออกมา เธอทำเพียงแค่ส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “ฉันคิดว่าเขาเป็นลูกของสุมิตร แต่เวลาวินิจฉัยไม่ถูกต้อง ฉันเลยพูดว่าผลวินิจฉัยมันผิดพลาด แต่สุมิตรกลับไม่ยอมเชื่อฉัน ตอนนี้ฉันเลยไม่รู้ว่าควรทำไงดี” นราวิชญ์มีความลำบากใจอยู่เล็กน้อย เพราะถึงอย่างไรจันวิภาก็เป็นภรรยาของสุมิตร ถ้าหากว่าลูกของเธอไม่ใช่ของสุมิจรจริงๆล่ะก็ สุมิตรก็มีสิทธิ์ที่จะเอาเด็กออก นาวิชญ์ไม่มีสิทธิ์ที่จะจัดการกับเรื่องนี้เลย เขากับจันวิภาไม่ใช่ญาติกัน อีกทั้งความสัมพันธ์ยังคลุมเครือจนทำให้สุมิตรสะอิดสะเอียน “ทำไมไม่อย่าล่ะ?” นราวิชญ์ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมจันวิภาถึงยังทนต่อไปอีก จันวิภายิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูด “พี่นราวิชญ์ พี่คิดว่าฉันอยากทำโทษตัวเองหรอ? ฉันไม่สามารถหย่ากับเขาได้ แลฉันก็มีความลำบากใจอยู่” นราวิชญ์กุมมือของจันวิภาแล้วพูด “เธอบอกผมได้นะ บางทีผมอาจจะช่วยได้ ผมจะช่วยเธอด้วยแรงทั้งหมดที่มี” แต่เมื่อคิดถึงเรื่องพ่อของตนเอง จันวิภาจึงส่ายหัว แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ขอบคุณพี่มากนะ พี่นราวิชญ์” “โฮ่ นี่ถือเป็นการจับชู้ที่อยู่บนเตียงหรือป่าวเนี่ย คุณหญิง เด็กที่อยู่ในท้องคุณหรือว่าจะเป็นของชายชู้คนนี้?” นวาระรีบเดินเข้ามาทันที แล้วบังเอิญเห็นนราวิชญ์จับมือจันวิภาเอาไว้อยู่ นราวิชญ์ปล่อยมือจันวิภาออก มองนวาระอย่างไม่พอใจแล้วพูดขึ้น “ฉันเป็นพี่ชายของจันวิภา จะพูดว่าไม่รู้ก็ไม่แปลก แต่ผู้หญิงคนนี้ยังใส่ใจกับคำพูดที่ดีอยู่” นวาระยิ้มแล้วพูด “พี่ชาย? ฉันคิดว่าลูกของชายชู้ที่อยู่ในตัวนางร่านนี่ก็คงจะเป็นแก ยังจะมาพี่ชายอะไรอีก หน้าขำจริงๆ” จันวิภาและนราวิชญ์จ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชา แต่ทว่านวาระกลับไม่สนใจ แล้วพ่นคำพูดที่ขัดหูออกมา ในที่สุดนราวิชญ์ก็หมดซึ่งความอดทน เขาเดินไปข้างหน้า แล้วบีบคอของนวาระเอาไว้ “พี่นราวิชญ์ อย่าทำอย่างนี้ มันจะฆ่าคนได้” จันวิภาตระโกนออกไปอย่างสุดแรง แต่นราวิชญ์กลับทำเหมือนว่าไม่ได้ยินอย่างไอย่างนั้น ในตอนนั้น จันวิภาสังเกตเห็นได้จริงๆว่านราวิชญ์ผู้ซึ่งอ่อนโยนและสง่างามอยู่เสมอคนนั้นมีจิตสังหารที่เก็บซ่อนเอาไว้ เธอจึงคิดอยากที่จะหยุดนราวิชญ์เอาไว้ แต่ทว่าร่างกายเธอกลับอ่อนแอจนถึงขีดสุด แม้แต่ปีนออกจากเตียงยังปีนไม่ได้
已经是最新一章了
加载中