ตอนที่ 92 ลอบทำร้ายไม่สำเร็จ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 92 ลอบทำร้ายไม่สำเร็จ
ต๭นที่ 92 ลอบทำร้ายไม่สำเร็จ ขณะพูดนวาระก็ยกมือขึ้น เพื่อจะตบจันวิภา แต่ถูกนราวิชญ์หยุดไว้ก่อน “อะไรกัน? ทำร้ายคนอื่นไม่สำเร็จ ตอนนี้ยังจะตบเขาต่อหน้าฉันเหรอ?” น้ำเสียงของนราวิชญ์เย็นชาสุดสุด ราวกับว่าอีกสักพักอาจจะฆ่านวาระทันทีเลยก็เป็นได้ นวาระส่ายหน้าเสแสร้งทำไม่รู้เรื่องพูด: “ทำร้าย? ฉันทำร้ายใคร เธอเดินไม่ดูทางเอง แล้วมาโทษฉันได้ยังไง?” นราวิชญ์หัวเราะเยาะออกมาอย่างทนไม่ไหวแล้วพูดขึ้น: “ตั้งแต่เริ่มจนจบฉันมองเธออยู่ว่าเธอเป็นคนผลักจันวิภา เธอทำผิด ไม่ใช่ว่าสมควรจะถูกตบหรอกเหรอ? แล้วตอนนี้ยังคิดจะตบกลับอีกเหรอ ฉันเห็นเธอโดนตบ แล้วเธอก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ฉันก็เลยไม่ลงมือ ทางที่ดีเธอควรขอโทษจันวิภาดีกว่านะ” “ขอโทษงั้นเหรอ? แกอยากให้ฉันขอโทษนางสำส่อนนี่เหรอ? ชายชู้อย่างแกนี่ถือว่าเหมาะสมดีนะ หึๆ” ปากของนวาระพูดไม่สนใครหน้าไหนทั้งนั้น พยายามเหมือนจะปาเกลือเข้าที่แผลในใจของจันวิภา แล้วยังท้าทายฟางเส้นสุดท้ายของนราวิชญ์อีก ทนได้แต่จะไม่ทนแล้ว นราวิชญ์เดินไปข้างหน้า ตบเข้าที่ใบนห้าของนวาระหนึ่งที นี้เป็นครั้งแรกที่เขาตบผู้หญิง! นวาระเจ็บปวดเสียจนจนหน้างอขึ้นมาทันที ชี้ไปทางทั้งสองคนแล้วพูดขึ้น: “จะบอกพวกแกนะ ตอนนี้ฉันเป็นผู้หญิงที่สุมิตรรักมากที่สุด เป็นเมียของเขาในอนาคต พวกแกสักวันยังไงต้องโดนสุมิตรลงโทษ ชายโฉดหญิงชั่ว พวกแกหนีไม่รอดแน่” นวาระอาศัยความหลงมัวเมาของสุมิตร เลยยกฐานะนี้ขึ้นมาข่ม นราวิชญ์ไม่ใช่คนที่จะถูกอำนาจมาคุกคามได้ง่าย เขาไม่สนใจที่จะฟังคำพูดไร้สาระของนวาระต่อไป เดินเข้าไปถีบนวาระลงบันไดทันที ขณะที่นวาระกำลังโอดครวญอยู่ ร่างกายของเธอเพิ่งจะหายเจ็บตัวดี ตอนนี้กลับหกล้มเจ็บไปทั้งตัวอีก แค่จะปีนขึ้นมายังจะปีนไม่ไหวเลย “จันวิภา พวกเราไปกันเถอะ อยู่ไกลจากนางบ้านี้หน่อยก็ดี” นราวิชญ์เพียงแค่ชายตามองอย่างเย็นขา แล้วดึงจันวิภาเดินจากไป นวาระล้มไปที่พื้น พยายามสุดแรงเกาะกำแพงพยุงตัวยืนขึ้น มองเห็นเงาของจันวิภาและนราวิชญ์ ก็กัดฟันแน่นอย่างเคียดแค้น แต่สายตาโกรธแค้นไม่สามารถทำอะไรนราวิชญ์และจันวิภาทั้งสองคนได้ ได้แต่ทำให้ใจของตัวเองกระสับกระส่ายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ในที่สุดนวาระก็ลุกยืนขึ้นมาได้ แต่เพราะขาพลิก จึงยืนได้ไม่มั่นคง ดวงตาก็มืดลง ล้มลงไปที่พื้น แล้วสลบไปทั้งอย่างงั้น นราวิชญ์พยุงจันวิภากลับห้องพักไป เขารู้สึกว่าร่างกายของจันวิภายังคงสั่นเทาอยู่เล็กน้อย จันวิภากำลังสั่นอยู่ เธอไม่เคยคิดว่าโลกแห่งความจริงนี้จะมีคนที่เลวร้ายอย่างนี้อยู่ เธอไม่เคยคิดจะแย่งตำแหน่งนายหญิงกับนวาระเลย และก็ยังไม่เคยคิดจะลอบทำร้ายเธอเลย แต่นวาระกลับเจ้าเล่ห์ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเข้ามาทำร้ายเธอ แล้วยังคิดจะลอบฆ่าเด็กที่อยู่ในท้องของเธออีก! นราวิชญ์ทนไม่ไหวกับสภาพของจันวิภาในตอนนี้ จึงหยุดเดินลง จันวิภานิ่งไปครู่หนึ่ง ถึงจะรู้สึกถึงความผิดปกติของนราวิชญ์ เลยหยุดก้าวเดินแล้วเอ่ยถามขึ้น: “เป็นอะไรเหรอพี่นราวิชญ์?” นราวิชญ์จับมือของจันวิภา แล้วพูดอย่างตั้งใจจริง: “จันวิภาไปกับฉันเถอะ ถ้าเธอยังอยู่กับสุมิตรล่ะก็ ไม่ถูกสุมิตรทำร้ายก็ต้องโดนนางบ้านวาระฆ่าแน่ ไปกับฉันเถอะนะ!” จันวิภาตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง น้ำตาก็ไหลออกมาทั้งอย่างงั้น เธอฝืนยิ้มอย่างเจ็บปวดแล้วพูดขึ้น: “ขอบคุณนะพี่นราวิชญ์ แต่ต้องขอโทษด้วยฉันตอบรับคำขอของพี่ไม่ได้ ฉันไปไม่ได้....ฉันไปไม่ได้....” นราวิชญ์รั้งจันวิภาที่อยู่ข้างหน้าของตนเองเอาไว้ เขาพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน: “จันวิภา มองตาฉัน เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอขนาดไหน? เธอเป็นแบบนี้ต่อไป คนที่จะเจ็บปวดไม่ใช่แค่เด็กและเธอ แล้วยังมีฉันอีกคน ฉันก็เจ็บปวดเหมือนกันเมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ ฉันเจ็บไปทั้งตัวและหัวใจแล้วเธอรู้ไหม?” จันวิภาน้ำตาไหลรินมองที่นัยน์ตาของนราวิชญ์ นัยน์ตาสีดำคู่นั้น มีเงาของเธอสะท้อนกลับมา มีความเจ็บปวดของเขา ราวกับนัยน์ตาของเขามีเพียงเขาและเธอเท่านั้น และเรื่องอื่นๆที่ไม่อาจย้อนกลับมาได้ หัวใจของจันวิภาเริ่มเต้นขึ้น จึงรีบเบนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าที่จะมอง เธอปรารถนาให้มีคนมาดีกับเธอ แต่มันไม่ควรที่จะเป็นเช่นนี้ นราวิชญ์จับหน้าของจันวิภา ให้เธอดูตัวเอง แล้วยิ้มอย่างเจ็บปวดพูด: “เธอรู้ไหม? จันวิภา ตอนที่เธอถูกนางบ้านั่นผลักลงไปฉันเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน? ความรู้สึกนั้น เหมือนกับเสียของสำคัญเลย เธอเข้าใจไหม?” จันวิภาเข้าใจแน่นอน เพราะในตอนนั้นเธอคิดถึงลูกในท้องของเธอ ในใจก็เย็นวาบขึ้น ต่อมาจึงรู้สึกอึดอัดใจ แต่ แล้วมันจะยังไงต่อไปล่ะ? มะลิวัลย์ขายเธอให้กับสุมิตร ทำให้เธอต้องเป็นภรรยาของเขา สุมิตรเอาเรื่องของพ่อมาขู่เธอ เธอไม่มีสิทธิ์จะต่อต้านตั้งแต่แรกอยู่แล้ว.... ถ้าได้ติดต่อนราวิชญ์เร็วกว่านี้สักไม่กี่ปี หรือ ไม่กี่เดือน ผลลัพธ์มันคงจะแตกต่างกันออกไป...... น่าเสียดาย ตอนนี้คิดมากไปก็ไร้ค่า จันวิภาหลับตาลง ไม่ยอมที่จะประสานตากับนราวิชญ์เพื่อไม่สัมผัสอารมณ์ที่ลึกซึ้งนั้น เธอกลัวจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดในใจของเขา แล้วก็กลัวว่าตัวเองยอมรับความจริงไม่ได้แล้วเดินไปกับนราวิชญ์ จันวิภาส่ายหน้าอย่างแรงแล้วพูดขึ้น: “ฉันรู้พี่นราวิชญ์ เรื่องทั้งหมดฉันรู้แล้ว แต่ฉันไปกับพี่ไม่ได้ ฉันตั้งใจว่าจะตัดสินใจอย่างนี้จริงๆ ไม่ใช่รีบตัดสินใจ พี่เข้าใจฉันเถอะนะ!” นัยน์ตาของนราวิชญ์เปลี่ยนเป็นมืดสนิท ราวกับถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนาชั้นหนึ่ง ช่วงเวลานี้มีแต่ความโศกเศร้า “จันวิภา เธอโง่ โง่จริงๆ......ทำไมต้องทำกับตัวเองแบบนี้ล่ะ.....” นราวิชญ์สบถกับตัวเอง ใจเจ็บปวดสุดขีด จันวิภาหายใจลึกลึกหนึ่งที ยิ้มแล้วพูด: “ฉันไม่เป็นอะไรหรอก แต่พี่เนี่ย พี่นราวิชญ์ พี่ทำกับนวาระไว้เยอะเลย เดี๋ยวสุมิตรต้องมารบกวนพี่แน่ พี่รีบกลับไปจะดีกว่านะ!” นราวิชญ์กังวลใจ ในใจคิดเด็กโง่คนนี้คนถึงแต่คนอื่น หารู้ไม่ว่าตัวเธอเองนี่แหละที่ได้รับความเจ็บปวดที่สุดในสถานการณ์ตอนนี้ มองเห็นจันวิภาฝืนยิ้ม นราวิชญ์ยิ่งเจ็บใจกว่าเดิม แล้วก็ถึงจุดที่ทนไม่ไหว ดึงจันวิภาเข้ามาที่อ้อมอก จันวิภารู้เพียงว่าในอกของเธอแน่น ทั้งตัวอยู่ในอ้อมอกอันแสนอบอุ่นของนราวิชญ์ ไม่มีทางที่จะดิ้นหลุดไปได้ นานแล้วนะที่ไม่ได้รับความอบอุ่นแบบนี้ อ้อมกอดของนราวิชญ์ช่างแตกต่างกับความป่าเถื่อนของสุมิตรอย่างสิ้นเชิง ราวกับแสงเจิดจ้าของดวงอาทิตย์วนอยู่รอบกายของจันวิภา ทำให้ใจของเธอสั่นไหวอยู่เล็กน้อย 
已经是最新一章了
加载中