ตอนที่ 94 หนึ่งคลื่นสามทิศทาง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 94 หนึ่งคลื่นสามทิศทาง
ต๭นที่ 94 หนึ่งคลื่นสามทิศทาง จันวิภาตกตะลึง ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง เธออยากที่จะวิ่งหนีออกไป แต่ก็กลับถูกนวาระขวางทางเอาไว้ “จันวิภา การเป็นคนถ้าไม่รู้จักตัวเองมันไม่ดีนะ กำจัดเชื้อชู้ของเธอทิ้งไปเถอะ” ! สุมิตรไม่ได้พูดอะไร สายตาที่เยือกเย็นจ้องมองดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่อยากที่จะไปยุ่งด้วย พอคิดว่าในท้องของจันวิภามีเลือดเนื้อเชื้อไขของนราวิชญ์อยู่ ภายในใจของเขามันก็ยากที่จะสงบลง จันวิภาตระโกนด้วยเสียงที่แหบแห้ง “สุมิตร มีปัญหาอะไรนายก็มาหาฉัน จะด่าจะตีฉันอย่างไงก็ได้ แต่เด็กบริสุทธิ์ นายอย่าได้ใจร้ายใจดำอย่างนี้เลย” “ฉันใจร้อนงั้นหรอ? จันวิภา เธอลองถามใจตัวเองดู มีครั้งไหนบ้างที่เธอได้รับบทเรียน นึกไม่ถึงเลยว่าจะอยากให้เชื้อพันธุ์ลูกชายชู้นราวิชญ์นั่นเกิดมา ที่แท้ก็ต้องการเห็นผลงานที่เป็นพยานความรักของพวกเธองั้นหรอ?” สุมิตรหัวเราะเยาะ เดินเข้าไปหาบอดี้การ์ดแล้วออกคำสั่ง “กำจัดเด็กโสโครกที่อยู่ในท้องของเธอทิ้งซะ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้!” เมื่อเสียงสิ้นสุดลง ชายฉกรรจ์ทั้งสองเดินเข้ามาข้างหน้า ลากจันวิภาลงมาจากเตียงอย่างป่าเถื่อน เพื่อไปทางแผนกสูตินารี “ปล่อยฉันนะ!” จันวิภาร้องไห้ออกมา สุมิตรไม่ไหวติงเลยแม้แต่น้อย พอคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของนราวิชญ์แล้ว เขาก็ไม่อาจที่จะใจอ่อนได้! จันวิภาขัดขืนอย่างรุนแรง ดิ้นรนจนสุดชีวิต ใช้แรงที่มีทั้งหมดในร่างกาย แต่ด้วยเหตุนี้ ระหว่างขาทั้งสองข้างของเธอจึงมีเลือดไหลออกมา จันวิภาตกตะลึง หยุดการกระทำที่ขัดขืนลง หรือว่าทารกน้อยจะจบสิ้นลงทั้งอย่างนี้? ไม่ยอม......ทารกน้อยของเธอ......จะจบลงทั้งอย่างนี้งั้นหรือ...... ณ ตอนนี้ ทันใดนั้นจู่ๆประตูก็ถูกเตะเปิดออกจากด้านนอก “ปล่อยเขา!” เสียงดังขึ้นมา นราวิชญ์บุกเข้ามาแล้ว ที่แท้เขาก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง แต่แรกนราวิชญ์ก็ไม่ได้วางใจอยู่แล้ว จึงกลับมาดู ไม่คาดคิดเลยว่าพึ่งจะกลับมาแท้ๆกลับได้เห็นเรื่องเช่นนี้เข้า เธอโดนรังแกอีกแล้ว นราวิชญ์หันมามอง จึงได้เห็นจันวิภาที่ใบหน้าขาวซีด ผมพันกันยุ่งเหยิง ทั้งยังมีเลือดไหลออกมาอีก ดวงตาของเขาแดงขึ้นมาทันที “สารเลว!” นราวิชญ์ก้าวไปข้างหน้า ปล่อยกำปั้นออกไปสองหมัดทันที แล้วโค่นล้มชายฉกรรจ์สองคนนั้นลง จากนั้นจึงเข้ามาประคองจันวิภา “จันวิภาเธอไม่เป็นไรนะ?” ชายฉกรรจ์สองคนนั้นจึงฉวยโอกาสเข้ามาโจมตีนราวิชญ์ทันที แต่ทว่ากลับถูกสุมิตรโบกมือให้ล่าถอยออกไป สุมิตรมองนราวิชญ์อย่างเย็นชา แล้วพูดขึ้นอย่างเหยียดหยาม “นราวิชญ์ นายคิดจริงๆหรอว่าฉันสุมิตรผู้นี้จะเป็นคนที่โดนรังแกได้ง่ายๆ? เรื่องของครอบครัวฉันนายมายุ่งซ้ำแล้วซ้ำอีก นายจะทำอะไรกันแน่?” เมื่อนราวิชญ์เห็นว่านายฉกรรจ์ทั้งสองคนหยุดมือลงชั่วขณะ ดังนั้นจึงพยุงจันวิภาขึ้นไปบนเตียง จากนั้นจึงตะโกนด้วยเสียงแห่งความโกรธ “สุมิตร นายยังเป็นคนอยู่มั้ย? ทำไมนายถึงทำกับจันวิภาอย่างนี้?” สุมิตรพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “ไม่งั้นแล้วจะทำไม? จะให้นางร่านนี้คลอดลูกของแกที่บ้านวิบูลย์ธนภัณฑ์งั้นหรอ?” “ฉันก็บอกแล้วว่าไม่ใช่ไง!” เมื่อนราวิชญ์ได้ยินเสียงของสุมิตรที่ไร้ซึ่งเหตุผลและหยาบคาย ภายในใจจึงโกรธขึ้นมาอีกครั้งอย่างยากที่จะควบคุม เท้าข้างหนึ่งกระแทกไปที่ด้านข้างของสุมิตร สุมิตรแฝงกายปิดบังตนเองอยู่ในเส้นทางสายนี้มานานหลายปีแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะถูกนราวิชญ์โจมตีได้อย่าง่ายดาย เขาเอียงตัวหลบฝ่าเท้าอย่างนุ่มนวล หัวเราะเยาะแล้วพูดขึ้น “ฉันจะดูว่านายมีความสามารถที่จะต่อกรฉันได้ไหม” พูดไปพลาง ชายทั้งสองคนก็ได้ประมือกัน “แกมันสารเลว ไม่เหมาะสมกับจันวิภาหรอก” นราวิชญ์ตะคอกออกไป สุมิตรหัวเราะ “นายนี่มันขยะจริงๆ เป็นชู้กับภรรยาของฉัน และก็ยังปรารถนาที่จะให้เด็กเวรนั่นเกิดมาอีก!” เมื่อคนทั้งสองยากที่จะเอาชนะกันได้ ทันใดนั้นจู่ๆธนภาคก็ปรากฏตัวออกมา “นี่มันเกือบจะมีคนตายอยู่แล้ว ทำไมพวกนายยังจะวิวาทกันอยู่อีก!” ธนภาคยืนอยู่ตรงประตูห้องผู้ป่วย จ้องมองดูคนทั้งสองคนที่อยู่ข้างไหนตะโกนด่ากันด้วยความโกรธแค้น เมื่อสุมิตรฟังจบ จึงเตือนเขาอย่างเยือกเย็น “ธนภาค นายอย่ามายุ่งให้มันมากนัก ฉันจะเตือนนายไว้ นี่มันเป็นเรื่องของครอบครัวฉัน” ธนภาคยักไหล่ขึ้น เขาไม่สนใจคำเตือนของสุมิตร ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในครอบครัวของใครก็ไม่สามารถเล่นกับชีวิตของมนุษย์ได้” พูดไปพราง เขาก็เดินเข้ามาตรงๆ โน้มตัวแล้วอุ้มจันวิภาที่อยู่ข้างๆขึ้นมา ก้าวเท้ายาวแล้วเดินออกไป เพื่อต้องการไปหาหมอให้รีบช่วยชีวิตโดยด่วน! นราวิชญ์อึ่งไปครู่หนึ่ง ไม่สนใจสุมิตรอีกต่อไป ก้าวขาแล้ววิ่งตามธนภาคไป ห้องคนไข้ที่อึกทึกครึกโครมเมื่อครู่นี้จู่ๆก็เงียบสงัดลงทันที ณ ตอนนี้มีเพียงแต่เสียงหอบที่หนังหน่วงของสุมิตร แต่เขาไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ ทำเพียงแค่นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างกาย มองไปทางหน้าต่าง หลับตาทั้งสองลงอย่างเจ็บปวด ภายในใจคิดถึงใบหน้าที่ขาวซีดของผู้หญิงคนนั้น จันวิภา......จันวิภา......เขากำลังลังเลว่าจะไปดูจันวิภาดีหรือไม่ บางทีเขาอาจจะกำลังเป็นห่วงจันวิภา แต่ทว่าตนเองไม่ต้องการที่จะยอมรับมัน ในเวลานี้ผู้ที่มีความหดหู่และโกรธแค้นที่สุดไม่ใช่ใครอื่น คนนั้นคือนวาระนั่นเอง เธอไม่เข้าใจจริงๆว่านางร่านอย่างจันวิภามีอะไรดี นราวิชญ์ทำให้เธอเจ็บปวดเช่นนี้ ทั้งยังตอนนี้แม้แต่ธนภาคก็ป้องกันเธอ เมื่อคิดเช่นนี้ ความโกรธของนวาระก็ได้หยุดนิ่งลง ในใจเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอิจฉา กระทั่งกำหมัดจนเล็บจิกเข้าไปในอุ้งมืออย่างเจ็บปวดโดยที่ไม่ทันได้สังเกต ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าสุมิตรจะสงบจิตใจของตนเองลงได้ จากนั้นจึงมองไปยังเตียงที่อยู่ด้านหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ เตียงในตอนนี้ว่างเปล่า ผ้าห่มสีขาวถูกย้อมไปด้วยคราบเลือดอยู่เล็กน้อย มันช่างเสียดแทงสายตาเสียจริง กำหมัดจนแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆ สุมิตรหลับตาลง ดูเหมือนว่ารอบๆตัวเขาบรรยากาศจะเย็นลงมาอย่างฉับพลัน ทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ แม้แต่นวาระก็มองดูสุมิตรอย่างงุนงง และไม่กล้าที่จะไปยั่วยุเขา สุมิตรนั่งอยู่ในห้องคนไข้เป็นเวลานาน จุดซิการ์ขึ้นมาสูบจนหมด คิดถึงสายตาที่สิ้นความหวังและใบหน้าที่ขาวซีดก่อนหน้านี้ของจันวิภา ในใจจึงเกิดความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอยู่เล็กน้อย ทำไมตนเองถึงเจ็บปวดใจกับนางแพศยานั่นกันนะ ?! หัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ย หลังจากดับซิการ์ สุมิตรก็ยืนขึ้นมา แล้วเดินออกไป ไม่สนใจนวาระที่อยู่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย 
已经是最新一章了
加载中