ตอนที่ 95 ดูแลเขาอย่างระมัดระวัง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 95 ดูแลเขาอย่างระมัดระวัง
ต๭นที่ 95 ดูแลเขาอย่างระมัดระวัง ในอีกด้านหนึ่ง จันวิภาได้ถูกส่งตัวไปยังห้องผ่าตัดเพื่อดำเนินการรักษา นราวิชญ์และธนภาคทั้งสองคนกำลังรออย่างใจจดใจจ่อ พวกเขาทั้งสองยืนอยู่ที่ประตูด้านซ้ายและขวาของห้องผ่าตัด ราวกับเทพเฝ้าประตูอย่างไรอย่างนั้น ในช่วงเวลานี้นราวิชญ์ได้เพ่งสายตาไปที่ห้องผ่าตัดอยู่ตลอด ราวกับต้องการที่จะทะลุผ่านประตูเข้าไป ธนภาครู้สึกว่านราวิชญ์มีความตลกอยู่เล็กน้อย เขาไอออกมาสองครั้ง จากนั้นจึงพูดขึ้นมา “คิดไม่ถึงเลยว่าผู้สืบทอดของตระกูลจะมีความน่าหลงใหลเช่นนี้ หึๆ!” นราวิชญ์เหลือบสายตาจ้องมองธนภาคอย่างสงใส นี่จึงทำให้คิดขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้เขาได้อุ้มจันวิภาขึ้นมาแล้ววิ่งไปหาหมออย่างรีบร้อน เขาไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับฐานะของตนเอง แต่กลับพูดไปในทางตรงกันข้าม “ขอบคุณครับที่เมื่อครู่นี้คุณเข้ามาช่วยเอาไว้ ถ้าหากว่าผมกับสุมิตรยังวิวาทกันต่ออีกล่ะก็ จันวิภาก็คงจะเป็นอันตราย” แต่ธนภาคกลับแบะปากแล้วพูดขึ้น “ขอบคุณ? คุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดขอบคุณกับผม? ที่ผมช่วยไว้คือจันวิภา เธอคือภรรยาของสุมิตร ถ้าจะขอบคุณล่ะก็ควรเป็นสุมิตรขอบคุณ” ตอนที่ธนภาคพูด สายตาของเขาได้หลี่ลงจนเป็นรอยเย็บ ริมฝีปากยกโค้งขึ้นมาอย่างดูดี ซึ่งแตกต่างกับสุมิตร การหัวเราะเบาๆของเขาช่างดูสะอาดหมดจกเสียจริง ไม่มีการสบประมาทหรือหยอกล้อเลยแม้แต่นิดเดียว มันเป็นเสียงแค่รอยยิ้มที่บริสุทธิ์เท่านั้น นราวิชญ์อึ้งตะลึง แต่ในไม่ช้าเขาก็หัวเราะ แล้วแบะมือออกมา “คุณพูดถูกแล้ว แต่ผมเป็นพี่ชายของจันวิภา ผมพูดขอบคุณกับคุณก็คงไม่มากเกินไปหรอกมั้ง?” นราวิชญ์ไม่ได้โกรธคำพูดนั้นของธนภาคเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรื่นรมย์เสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นนราวิชญ์หรือธนภาค พวกเขาต่างก็อ่อนโยนและสง่างามอยู่เสมอ หลังนั้นหลังจากการพูดคุยกันง่ายๆไม่กี่ประโยค แม้ว่าทั้งสองจะไม่พูดด้วยวาจา แต่พวกเขาก็มีความประทับใจต่อกันมากขึ้น ตอนที่นราวิชญ์ต้องการที่จะถามเรื่องอะไรบางอย่างกับธนภาค ประตูของห้องผ่าตัดก็ได้ถูกเปิดออก หมอที่เข้าร่วมการรักษาถอดหน้ากากอนามัยของตนเองแล้วเดินออกมา จ้องมองดูนราวิชญ์กับธนภาค จากนั้นเขาจึงยิ้มแล้วพูดขึ้น “ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรครับ เด็กกับคุณนายต่างก็ปลอดภัยดี แต่ต้องใส่ใจกับการผักผ่อนหน่อย ตอนนี้คนไข้อยู่ในอารสลบ ต้องใส่ใจอย่างระมัดระวัง” ทั้งสองมองหน้ากัน แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก ท้ายที่สุดแล้วก็เกิดเป็นอะไรไปล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็นพวกเขาทั้งสอง หรือสุมิตร มันจะเป็นเรื่องที่มีปัญหา จันวิภาถูกส่งกลับมาในห้องผู้ป่วย เดิมทีนราวิชญ์คิดจะอยู่ที่นี่เพื่อคอยดูแลจันวิภา แต่กลับถูกธนภาคปฏิเสธไป “ความสัมพันธ์ของคุณกับจันวิภาเป็นเรื่องที่คลุมเครือเป็นอย่างมากในสายตาคนอื่น คุณกลับไปเถอะ ถ้าสุมิตรเข้าใจอะไรผิดขึ้นมาอีกล่ะก็ มันจะไม่ดีทั้งกับคุณและจันวิภา” นราวิชญ์มองจันวิภาที่ใบหน้าขาวซีดแล้วพูด “แต่จันวิภาต้องทำไง?” ธนภาคหัวเราะออกมา “ผมจะดูแลเอง คุณวางใจเถอะน่า” นราวิชญ์คิดอยู่พักหนึ่ง เขารู้สึกว่าธนภาคเป็นคนที่พึ่งพาได้ และตอนนี้ก็ไม่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้น จันวิภากำลังหมดสติอยู่ ถ้าหากว่าเขาวิวาทกับสุมิตรอีกล่ะก็ ก็คงจะไปรบกวนการพักผ่อนของเธออย่างหลักเลี่ยงไม่ได้ “อย่างนั้นก็ได้!” นราวิชญ์พูด ตอนที่กำลังเดินออกไปนั้น จู่ๆเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “ผมอยากรู้จริงๆว่าคุณยืนอยู่ข้างไหน?” ธนภาคหัวเราะออกมา แล้วพูด “สมองตายด้านจริงๆ ยังคิดจะแบ่งฝ่ายอยู่อีก? ผมแค่ชื่นชมจันวิภา ก็เลยเต็มใจที่จะดูแลเธอ พูดไม่ได้หรอกว่ายืนอยู่ฝั่งไหน” นราวิชญ์พยักหน้าอย่างครุ่นคิด หันหน้ากลับไปมองจันวิภาที่ใบหน้าขาวซีด แล้วพูดชี้แจง “งั้นก็ได้ ผมจะไปแล้ว ถ้ามีข่าวอะไรโทรมาหาผมเลยนะ" พูดจบ เขาจึงออกไปด้วยความจำใจอยู่นิดหน่อย ธนภาคอยู่ข้างเตียงของจันวิภาตลอด รอเธอฟื้นคืนสติ แต่ทว่าจันวิภาดูเหมือนจะฝันร้ายถึงอะไรบางอย่างอยู่ นอนหลับอย่างกระวนกระวาย คิ้วขมวดขึ้น ร่างกายพลิกไปพลิกมาไม่หยุดหย่อน เมื่อธนภาคเห็นสถานการณ์เช่นนี้ จึงคิดที่จะยื่นมือออกไปสมานคิ้วของเธอให้เรียบอย่างไม่รู้ตัว มือพึ่งสัมผัสผิวของจันวิภา ธนภาคนึกขึ้นมาได้ทันทีว่านี่เป็นผู้หญิงของเพื่อนสนิทตัวเอง ไม่อาจแตะต้องได้...... ภายใต้ความลังเล ธนภาคก็ค่อยๆเก็บมือกลับมา แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงเลยก็คือ วินาทีต่อมาจู่ๆจันวิภาก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น จับมือเขาเอาไว้จนแน่น จากนั้นจึงลุกขึ้นมานั่งอย่างตื่นตระหนก แล้วใช้เสียงที่แหบแห้งตระโกนออกมา “ลูกฉัน!!!” “อย่ากังวลไป เมื่อกี้เธอพึ่งจะโดนผ่าตัด หมอบอกว่าเธอไม่ควรมีอารมณ์ที่รุนแรงไปจนเกิดเหตุ” ธนภาคประคองจันวิภาขึ้นมานั่งพิง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลผ่อนคลาย ดูเหมือนว่าจันวิภาจะยังอยู่ในอารมณ์ที่เศร้าโศก และยังไม่ผ่อนคลาย สายตาที่ไร้ซึ่งสติ ในปากพูดพึมพำออกมาไม่หยุด “ลูก......ลูกของฉัน......” เมื่อเห็นจันวิภาซีดเซียนและน่าเวทนาเช่นนี้ ธนภาคจึงทนไม่ได้ ระงับความอยากที่จะโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขน เขาพูดปลอบใจอย่างอ่อนโยน “อย่าเป็นกังวลเลย ลูกของเธอปลอดภัยอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ต้องกังวล” เมื่อได้ยินเช่นนี้ สายตาของจันวิภาจึงได้หันมาทางธนภาค จองมองเขา ตกตะลึงอยู่เล็กน้อย จากนั้นจึงคว้าแขนเสื้อของเขาจนแน่น จ้องมองเขาอย่างใจจดใจจ่อ แล้วจึงเอ่ยถามขึ้น “นายพูดจริงหรอ? ลูกฉันยังอยู่? ลูกฉันยังอยู่จริงๆใช่มั้ย?” “ฉันพูดจริง” ธนภาคยื่นมือออกมาตบหลังจันวิภา พยายามทำให้เธอสงบลง คิดไม่ถึงว่าเมื่อจันวิภาได้ยินคำพูดเช่นนี้ จึงได้สงบนิ่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เธอปล่อยมือที่จับแขนเสื้อของธนภาคอยู่ออก แล้วค่อยๆเอนตัวกลับเข้าไปพิงเตียงอย่างช้าๆ มือหนึ่งลูบคลำท้อง จันวิภาพูดขึ้นด้วยความโล่งใจ “ดีจริงๆ มันดีจริงๆ”...... เมื่อเห็นรอยยิ้มกลับมาอยู่บนใบหน้าของจันวิภาใหม่อีกครั้ง ในใจของธนภาคจึงโล่งอก เขาค่อยๆเก็บมือที่อยู่กลางอากาศเข้ามาอย่างเงียบๆ แล้วเอ่ยถามอย่างห่วงใย “เป็นไงบ้าง ร่างกายเธอรู้สึกอย่างไง?” เมื่อได้ยินดังนั้น จันวิภาจึงจะมีสติกลับมา จ้องมองดูธนภาค พยักหน้าอย่างมีมารยาทแล้วเอ่ยปากพูด “ก็ดี ขอบคุณค่ะ” จันวิภาเคยพบกับธนภาคอยู่หลายครั้ง แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ฉันท์มิตรของเขากับสุมิตร เธอจึงไม่คาดคิดว่าวันนี้เขาจะมาเยี่ยมเธอ จันวิภาจำได้เพียงแค่ว่าก่อนที่จะหมดสติล้มลงไป เธอได้ถูกบอดี้การ์ดที่สุมิตรเรียกมากทั้งสองคนฉุดกระฉากจนเลือดไหลออกมาจากระหว่างขา เธอคิดว่าเด็กคงจะไม่รอดแล้ว ดังนั้นตอนที่ยังอยู่ในความฝัน จึงได้เห็นสุมิตรพูดว่าลูกของเธอไม่อยู่แล้วด้วยใบหน้าที่เยาะเย้ยและถากถาง “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เธอพักผ่อนให้มากๆ อยากกินหรือดื่มอะไรก็เรียกฉันได้ตามสะดวก” ธนภาคพูดขึ้นอย่างอบอุ่นและสง่างาม จันวิภาจ้องมองธนภาคอย่างแปลกประหลาดใจ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมสุมิตรถึงมีเพื่อนที่ดีเช่นเขาได้ หรือเป็นเพราะสุมิตรได้รู้ดีชั่วแล้ว จึงละอายใจแก่ตนเอง ก็เลยเรียกเพื่อนของเขามาให้ช่วยดูแลเธอ? ! ไม่ๆๆ จันวิภาไม่เชื่อง่ายๆหรอกว่าสุมิตรจะกลับใจ ครั้งที่แล้วตอนที่หลงเชื่อไป ตนเองก็เกือบถูกนวาระผลักตกบันได! ดังนั้น เธอจึงจะไม่เชื่อสุมิตรอีกเป็นอันขาด!!! 
已经是最新一章了
加载中