ตอนที่ 112 นราวิชญ์อีกแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 112 นราวิชญ์อีกแล้ว
ต๭นที่ 112 นราวิชญ์อีกแล้ว สุมิตรรีบมายังที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วราวกับสายลม จากเวลาเต็มหนึ่งชั่วโมงก็ถูกเขาทำให้มันสั้นเหลือเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อเขามาถึงหน้าประตูบ้านพักที่ทรุดโทรมแห่งนี้แล้ว จู่ๆเขาก็หยุดก้าวลง “สุมิตร เป็นอะไรไป?” ธนภาคที่เดินมาถึงด้านหน้าก่อนได้ถอยหลังกลับไปแล้วเอ่ยถามกับสุมิตร สุมิตรจ้องมองประตูที่อยู่ข้างหน้า ในสองคิดถึงเรื่องครั้งนั้นที่อยู่ในโรงแรมไม่หยุดหย่อน ผู้หญิงคนนั้นที่ดุร้ายเหมือนดั่งแมวป่าตัวน้อย ดุเดือดเลือดพล่านและไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ และยังแผ่นหลังตอนที่เธอกำลังหนีไป หยกสีเขียวมรกตที่ทำหล่นเอาไว้ ทุกอย่างในวันนั้นมันช่างน่าจดจำอะไรเช่นนี้ ราวกับทุกอย่างพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ สุมิตรไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ผู้หญิงที่เหมือนกับแมวป่าตัวน้อยคนนั้นทำไมถึงตายไปเสียแล้ว “ไม่เป็นไร” สุมิตรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาปรับสภาพจิตใจของเขา พูดด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น “เข้าไปเถอะ” แม้ว่าจะเตรียมพร้อมมาดีแล้ว แต่เมื่อเห็นศพนวาระกับตาตนเอง สุมิตรจึงยังคงมีความรู้สึกที่ทุกข์ระทมเป็นอย่างมาก ข้างๆศพของนวาระยังมีศพของพวกอันธพาลอยู่อีกสี่ศพ พวกเขาทั้งหมดต่างนอนกระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ เรือนร่างเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยมีด พอมองดูก็รู้ว่าถูกฟันจนตาย และนวาระที่นอนคว่ำลงกับพื้น ร่างกายถูกปกคลุมไว้ด้วยเศษผ้าอยู่สองสามชิ้น มีลูกน้องที่ใจกล้าเดินไปผลิกร่างของเธอกลับมา นี่มันมองดูไม่รู้เลย หลังจากมองเสร็จทุกคนต่างก็เบือนหน้าหนีไปข้างๆอย่างไม่รู้ตัว “แม่งเอ้ย!” สุมิตรส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธ เข้ากระแทกมือไปตรงลูกน้องที่อยู่ข้างๆอย่างรุนแรง นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความกระหายเลือด “ใครแม่งเป็นคนทำวะ!” นวาระตายได้น่าเวทนาจริงๆ ใบหน้าที่แต่งมาอย่างจัดจ้านเนื่องจากความกลัวมันจึงบิดเบี้ยวไปเสียหมด บนคอมีรอยแผลเป็น คาดว่าน่าจะถูกรัดคอจนตาย นี่ยังไม่น่าเวทนาที่สุด บนร่างเธอมีรอยแผลฟกช้ำสีเขียวอมม่วงอยู่หลายจุด อาจเป็นเพราะโดนตี หรือถูกคนทำร้ายอย่างป่าเถื่อน สุมิตรเผชิญหน้ากับความโกรธแค้นที่ลุกลามขึ้น ลูกน้องที่ถูกเตะจนล้มลงทำได้เพียงลุกขึ้นมาแล้วหลบซ่อนตัวอยู่ข้างๆ บรรดาผู้คนทั้งหมดต่างเงียบไม่พูดไม่จา ไม่มีใครกล้าส่งเสียง และก็ไม่มีใครกล้าเหลือบมองศพของนวาระ สามารถอธิบายได้เพียงแค่ว่าน่าอนาถมากเท่านั้น แรงกดดันที่อยู่ในบ้านอันทรุดโทรมใกล้ที่จะระเบิดออกมาแล้ว ด้านนอกประตูมีลูกน้องค่อยๆเดินย่องเข้ามา เมื่อธนภาคเห็นเขา จึงรีบเข้าไปขวางทันที ใช้สายตาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกน้องรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติภายในห้องอย่างชัดเจน เตรียมที่จะกระซิบข้างหูธนภาค แต่ก็ได้ยินสุมิตรคำรามขึ้นมาด้วยความโกรธ “ไสหัวมาพูดที่นี่!” เมื่อลูกน้องเห็นสถานการณ์เช่นนี้ จึงทำได้เพียงระงับความกลัวที่อยู่ภายในก้นบึ้งของหัวใจเอาไว้ ฝืนใจให้เสียงของตนเองไม่สั่น “บะ บอสครับ เราพึ่งจับคนที่อยู่ใกล้ๆมาได้ เขาดูท่าทางลับๆล่อๆ เหมือนกับรู้เรื่องอะไรบางอย่าง ต้องการเอามันมาสอบถามไหมครับ” “เอามันเข้ามา” สีหน้าของสุมิตรในตอนนี้ช่างหม่นหมองเสียจนน่ากลัว ราวกับว่าใครก็ตามที่เข้าใกล้ เขาก็จะสามารถทำให้บุคคลนั้นตายได้ทันที ลูกน้องทำงานได้อย่างรวดเร็ว สุมิตรพึ่งจะพูดไปยังไม่ทันถึงครึ่งนาที ก็มีคนถูกกดเข้ามาในบ้านที่ทรุดโทรม ชายคนนั้นถูกลูกน้องกดให้คุกเข่าลงกับพื้น สุมิตรจ้องมองอย่างเยือกเย็น เปิดริมฝีปากที่บางเบาขึ้นพูด “แกรู้อะไรมาบ้าง?” บางทีอาจจะถูกบรรยากาศรอบตัวสุมิตรทำให้หวาดกลัว ชายคนนั้นทั่วทั้งตัวสั่นเทา ไม่พูดออกมาแม้ประโยคเดียว เมื่อเห็นเช่นนี้ สุมิตรจึงจ้องมอง ลูกน้องที่กดเขาอยู่นั้นได้ตีเข้าไปอย่างแรงทีหนึ่ง เสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาดังกึกก้องอยู่ในบ้านแห่งนี้ “อ๊ากกกกก!ฉันพูดแล้ว!ฉันพูดแล้ว!” เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ลูกสมุนจึงจะหยุดมือลง และเริ่มกดเขาใหม่อีกครั้ง ให้เขาแหงนหน้าขึ้นมองสุมิตร “จริงๆแล้วเรื่องนี้พวกเราทำเอง เพราะผู้หญิงคนนี้ต่อต้านผู้หญิงของบอส ดังนั้นบอสก็เลยส่งพวกเรามาฆ่าผู้หญิงคนนี้ซะ!” ชายคนนั้นทั่วทั้งตัวสั่นเทา ชายที่ชื่อสุมิตรที่อยู่ทางด้านหน้านั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว คนธรรมดาที่ต้องเผชิญหน้ากับเขาต่างก็ใจฝ่ออย่างอดไม่ได้ “บอสของพวกแกคือใคร?” “คือ......นราวิชญ์!” “นราวิชญ์อีกแล้ว!” สุมิตรใช้เท้าย่ำไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น ทันใดนั้นก็กรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา สีหน้าของสุมิตรหม่นหมองเสียจนเย็นยะเยือก “นราวิชญ์......จันวิภา!ฉันจะให้พวกมันลิ้มรสหนี้เลือด! ฉันจะไม่ยกโทษให้พวกแกแน่!” ทำไมนราวิชญ์ถึงได้ลงมือโหดเหี้ยมเช่นนี้? มันต้องเป็นเพราะนางสารเลวจันวิภาแน่ๆ นางร่านที่ไม่รักษาพรหมจรรย์! ดีๆๆ ในเมื่อแกโหดเหี้ยม ก็อย่ามาโทษฉันว่าไม่ยุติธรรม!ฉันจะให้แกได้ดู ว่าใครกันแน่ที่โหดกว่า! “สุมิตร ฉันรู้สึกว่า......เรื่องนี้มันต้องมีความเข้าใจผิดกันแน่ๆ” ธนภาคลังเลอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจก้าวมาข้างหน้าแล้วพูดห้ามปราม บังเอิญจริงๆ มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว! ครั้งที่แล้วที่สงสัยเรื่องที่นวาระใส่ร้ายธนภาคยังไม่ได้ตรวจสอบมันให้ชัดเจน ครั้งนี้ก็มาอีกแล้ว และครั้งนี้ทำไมมันถึงได้บังเอิญขนาดนี้ พวกเขาพึ่งมาถึงที่นี่ จู่ๆก็มีพยานอยู่บริเวณใกล้เคียง แล้วก็พึ่งจะถูกคนของเขาจับกุมอีก! คนก็ตายไปนานขนาดนี้แล้ว ทำไมพวกเขาถึงยังอยู่ที่นี่อีกล่ะ? ! เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผล ยิ่งไปกว่านั้นทางเขาพึ่งจะเริ่มตรวจสอบ แต่ทางด้านนวาระตายแล้ว นี่มันเหมือนกับ จงใจฆ่าคนปิดปากอย่างไรอย่างนั้น เมื่อถึงตอนนั้นหากเขาธนภาคคนนี้ค้นพบอะไรบางอย่างเข้า หลักฐานก็คงจะโดนเก็บไปหมดแล้ว ความสงสัยนี้ผุดขึ้นมา และมันก็ยิ่งทำให้ธนภาคมั่นใจในความคิดตนเองมากยิ่งขึ้น เบื้องหลังของนวาระ จะต้องมีคนอยู่แน่ คิดจะป้ายสีนราวิชญ์ และให้พวกเขาจมดิ่งลงสู่ความไม่ยุติธรรม และมีความคิดที่เป็นอคติต่อพวกเขา! ขณะนี้ ธนภาครู้สึกแต่เพียงว่าเบื้องหลังนี้อาจจะมีความลับที่ทำให้ฟ้าถล่มดินทลายอยู่ ความดำมืด ทำให้ผู้คนมี่อาจมองเห็น จับไม่ได้ และหยั่งไม่ถึง เมื่อคิดเช่นนี้ จึงรู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด เมื่อมีความตระหนักเช่นนี้ ธนภาคจึงกล้าเดินเข้าไปข้างหน้าแล้วห้ามปราบสุมิตร แต่สุมิตรในตอนนี้ตกอยู่ในสภาพที่โกรธจัดเข้าเสียแล้ว เขาหันกลับมาแล้วชกไปที่ธนภาคหนึ่งหมัด แล้วพูดตะคอกไปหาเข้า “ธนภาค นายยังเป็นคนอยู่มั้ย?!” พูดไปในขณะที่คว้าคอเสื้อของธนภาคก่อนที่เขาจะมีท่าทีตอบสนอง บังคับให้เขามองศพของนวาระที่อยู่บนพื้น แล้วพูดตะโกนออกมา “ธนภาค นายมองเธอสิ นายมองดูให้ดีๆว่าผู้หญิงคนนี้เคยพูดคุยและหัวเราะด้วยกันกับนาย!นวาระ เมื่อวานซีนเธอยังอยู่ต่อหน้านาย ยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้เธอกลับตายไปแล้ว! ตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่ที่พื้น!หรือถูกคนฆ่าตายกันล่ะ!” ดูเหมือนว่าสุมิตรจะสูญเสียการควยคุมไปเสียแล้ว แต่มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น เขาแค่เจ็บปวดใจกับผู้หญิงที่ยากจะลืมในคืนนั้น ที่ต้องมาตายเช่นนี้! คิดไม่ถึงเลยว่าแมวป่าตัวน้อยของเขาจะตายลงเช่นนี้! ตายแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง! ธนภาคอดกลั้นต่อความโกรธเกรี้ยวของสุมิตรอยู่เงียบๆ จริงๆแล้วเขาต้องการระบายออกกับใครสักคน มันต้องมีสักวัน ที่เขาธนภาคคนนี้จะเอาความจริงมาแสดงต่อหน้าสุมิตร หลังจากที่กลุ่มของสุมิตรออกไป ภายในบ้านพักที่แสนจะทรุดโทรมและว่างเปล่าก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความเงียบสงัดไร้ซึ่งเสียง ทันใดนั้นเอง ในมุมมืดที่ไม่มีผู้ใดเห็นก็ได้มีเสียงฝีเท้าดังออกมาเบาๆ รูปร่างใบหน้าที่ชั่วร้ายและมีเสน่ห์ของสุพจน์ค่อยๆถูกแสงจากทางด้านนอกหน้าต่างสาดส่องลงมา เขาสอดมือทั้งสองเข้าไปในกระเป๋า ยิ้มที่มุมปากเบาๆ มันเป็นรอยยิ้มที่แปลกประหลาด “หึ สุมิตร นายยังมีวันนี้ เกมของพวกเรา พึ่งจะเริ่มต้นขึ้น......” 
已经是最新一章了
加载中