ตอนที่ 114 เธอเป็นผู้หญิงที่นายกำลังมองหา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 114 เธอเป็นผู้หญิงที่นายกำลังมองหา
ต๭นที่ 114 เธอเป็นผู้หญิงที่นายกำลังมองหา จันวิภาเคลียร์ลำคอให้ชัดเจน ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง มองสุมิตรแล้วพูดอย่างจริงจัง “จริงๆแล้วทำไมนายถึงแคร์นวาระขนาดนั้น นายเคยคิดบ้างมั้ย ว่าเธอไม่ใช่คนๆนั้นที่นายตามหา” ได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงหันตัวกลับมาจ้องมองจันวิภา ใบหน้าของเขาเยือกเย็น ริมฝีปากยิ้มขึ้นมาอย่างแปลกประหลาดแล้วพูดขึ้น “ทำไม ที่แท้เธอจะพูดว่า เธอคือคนๆนั้นที่ฉันตามหางั้นหรอ?” สุมิตรในตอนนี้คิดว่าจันวิภาแค่ต้องการให้เขาปล่อยนราวิชญ์ไป ดังนั้นจึงพูดเรื่องไร้สาระออกมาให้เขาฟัง “ฉัน......” จันวิภาอ้าปากจะพูด แต่จู่ๆเธอก็คิดถึงการวางตัวของสุมิตร หากตอนนี้เธอพูด คงจะถูกสุมิตรกล่าวหาว่าพูดโกหกเขาเป็นแน่ เกรงกลัวว่ามันจะเป็นความอัปยศในท้ายที่สุด เพราะสุมิตรไม่เชื่อเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว! จันวิภาไม่หันหน้าไปมอง สายตามองไปที่อื่น แล้วพูดออกไปอย่างลวกๆ “ฉันเปล่า ฉันแค่อยากบอกนาย ว่าอย่าสับสนกับเรื่องที่เป็นแค่ฉากหน้า สิ่งที่นายเชื่อ บางทีอาจจะหลอกนายก็ได้” น้ำเสียงสิ้นสุดลง ทันใดนั้นสุมิตรก็หัวเราะออกมาเบาๆ เขาเดินไปที่เตียง ยื่นมือออกมาบีบคางของจันวิภา บังคับให้เธอมองตนเอง “ฉันมีวิจารณญาณของตัวเอง ฉันรู้ ฉันจะเชื่อใครก็ได้ แต่จะไม่เชื่อนางร่านที่เกี่ยวผู้ชายไปทั่วอย่างเธอแน่!” กล่าวไป พร้อมกับสะบัดคางของจันวิภาออกไปอย่างแรง จากนั้นสุมิตรก็เดินออกจากห้องไป จันวิภาถูกสุมิตรสะบัดจนล้มลงบนเตียง เธอยื่นมือออกมาประคองตัวให้ลุกขึ้น ตาทั้งสองข้างจ้องมองสุมิตรที่เดินจากไปอย่างเย็นชา ในปากพูดออกมาเบาๆ “สุมิตร มันต้องมีสักวันที่นายจะรู้ความจริง เมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะทำให้นายเสียใจกับคำพูดของนายในวันนี้!” หลังจากสุมิตรเดินจากไป จันวิภาก็นอนไม่หลับอยู่ตลอด ประจวบเหมาะกับฟ้าที่กำลังจะสว่างพอดี เธอจึงลืมตาขึ้นมาจนถึงรุ่งสาง หลังจากสวมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว จันวิภาก็ลงไปกินข้าวชั้นหนึ่ง เมื่อมาถึงห้องโถงก็ได้พบว่าอาหารถูกวางไว้เรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่เห็นเงาของสุมิตร หลังจากที่จันวิภานั่งลง สอบถามสาวใช้ที่เช็ดแจกันอยู่ข้างๆ “สุมิตรล่ะ?” เมื่อสาวใช้เห็นจันวิภากำลังถามเธอ จึงยิ้มเยาะแล้วพูดออกไปอย่างเหยียดหยาม “นายน้อยออกไปทำงานแล้ว ใครจะว่างเหมือนเธอ” ดูเหมือนว่าจะคุ้นเคยกับการดูถูกเหยียดหยามของสาวใช้แล้ว จันวิภายักไหล่อย่างไม่สนใจ ปล่อยพวกเขาพูดไป สุมิตรไม่ยอมให้เธอออกไปเดินเล่น และมันก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากออกไปทำงาน เมื่อรู้ว่าสุมิตรไม่อยู่บ้าน จึงอยากรู้ว่าเขาจะจัดการกับงานศพของนราวะอย่างไร เมื่อวานเครียดซะขนาดนั้น เดาว่าคงจะไม่ได้นอนแล้วเดินออกไป เมื่อคิดถึงตรงนี้ ภายในใจของจันวิภาจึงจืดชืดมาก สุมิตรนายรู้บ้างไหม? ฉันต่างหากที่เป็นผู้หญิงคนนั้นที่นายตามหา! หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ จู่ๆก็คิดถึงคำพูดของสุมิตรที่พูดเอาไว้เมื่อวาน ครั้งที่แล้วก็เข้าใจผิดเรื่องที่นราวิชญ์ลอบสังหารสุมิตรไม่สำเร็จ ครั้งนี้ก็ถูกกล่าวหาว่าฆ่านวาระอีก สุมิตรคงไม่ยอมอ่อนข้อให้กับเขาแน่ ไม่ได้ เธอต้องรีบไปแจ้งข่าวให้นราวิชญ์รู้สักหน่อย ให้ช่วงนี้เขาระมัดระวังตัวเอาไว้ จันวิภาเก็บข้างของเตรียมที่จะออกไป ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าเธอถูกคนสะกดรอยตามมาข้างหลัง เมื่อมาถึงบริษัทของนราวิชญ์ พบว่าเขายังมาทำงานตามปกติ เหมือนกับเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย จันวิภาแอบย่องเข้าไปแล้วลากเขาเข้ามาในสำนักงานอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงพูดเรื่องนี้ขึ้น หลังจากที่จันวิภาและนราวิชญ์เข้ามาในสำนักงาน คนที่ติดตามเธออยู่นั้นก็ค่อยๆออกไปอย่างช้าๆ “......คืออย่างนี้ ตอนนี้สุมิตรเข้าใจผิดว่าพี่ฆ่านวาระ ตอนนี้ถ้าออกไปไหนต้องระวังหน่อยนะ อย่าให้ถูกเขาจับได้!” ในสำนักงานของนราวิชญ์ จันวิภาพูดเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้นราวิชญ์ฟัง ไม่สนใจเรื่องที่นวาระคิดจะฆ่าเธอ ในสายตาเร่าร้อน เธอไม่อยากให้นราวิชญ์ได้รับผลกระทบจากเรื่องของเธออีก หากเขาฮึกเหิมที่จะออกไปต่อสู้กับสุมิตรอีกล่ะก็ คนที่ขาดทุนก็คือเขา ความแข็งแกร่งของสุมิตรนั้นจันวิภารู้ดี “น่ารังเกียจ!” หลังจากฟังจบ นราวิชญ์ก็ได้ทุบโต๊ะลงไปอย่างแรง แล้วพูดออกมาอย่างโกรธเคือง “ที่แท้ก็ต้องการให้เขาเข้าใจผิด!ครั้งที่แล้วที่กล่าวหาว่าฉันส่งมือสังหารไปฆ่าเขาฉันยังไม่ทันได้คิดบัญชีเลย! ครั้งนี้มาอีกแล้ว! ที่แท้เป็นใครกัน ที่เกลียดชังฉันถึงขนาดนี้! ฉันคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นตัวเขาเองที่สร้างมันขึ้นมา!” ท่าทางของนราวิชญ์นั้นดูโกรธ สายตาเขาจ้องเขม็งมองไปที่โต๊ะ ราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “ไม่ เป็นไปไม่ได้ที่สุมิตรจะสร้างเรื่องขึ้นมาเอง!” จันวิภาเดินไปข้างๆเขา พยายามที่จะให้เขาใจเย็นลง “เธอคิดดู นวาระสำคัญขนาดนั้น เขาจะใช้ประโยชน์จากการตายของนวาระมาสร้างปัญหาให้เธอทำไม เรื่องนี้มันต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่!” จันวิภาคิดถึงชายหน้ากากเงินคนนั้น แต่รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะสงสัยเขา ทุกอย่างมันต้องการหลักฐาน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าชายคนนั้นช่วยชีวิตเธอเอาไว้ “ใช่แล้ว ฉันก็กำลังคิดถึงความเป็นไปได้เช่นนี้ ไม่กี่วันมานี้ฉันก็มองหาเงื่อนงำของเหตุการณ์นั้นอยู่ตลอด แต่คนพวกนั้นก็ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว และไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย มันหายไปอย่างกับระเหย! แปลก ทั้งหมดนี่มันแปลกจริงๆ!” มือทั้งสองของนราวิชญ์จับโต๊ะจนแน่น ราวกับกำลังอดกลั้นอะไรเอาไว้อยู่ จันวิภาไม่เคยคิดเกี่ยวกับมันอย่างลึกซึ้งมาก่อน เมื่อเห็นใบหน้าที่สงสัยของนราวิชญ์ ก็รู้ได้ทันทีว่าเบื้องหลังของเรื่องนี้ต้องซับซ้อนแน่ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดโน้มน้าวออกไป “ไม่ว่าจะเป็นอย่างไง ช่วงนี้พี่ก็ควรจะหลบซ่อนตัวก่อน อย่าให้สุมิตรจับได้เป็นอันขาด! รอจนหัวของเรื่องนี้มันโผล่ออกมาแล้ว พี่ค่อยกลับมาก็ยังไม่สาย!” “ที่แท้ก็จะให้ฉันซ่อนตัวเหมือนหนูข้างถนนงั้นหรอ? นี่มันไม่ได้เด็ดขาด ฉันนราวิชญ์คนนี้ไม่ใช่คนที่กลัวตาย!” นราวิชญ์รีบลุกขึ้นยืน เขาเดินไปๆมาๆอยู่หลายก้าว ทันใดนั้นก็หยุดแล้วพูดกับจันวิภาอย่างจริงจัง “ไม่เป็นไร เธอเชื่อฉันนะ ฉันจะหาหลักฐานมาให้ไว หลักฐานว่าฉันไม่ได้ทำเรื่องนี้” “ฉันเชื่อพี่ แต่......” มองนราวิชญ์ จันวิภามีลางสังหรณ์บางอย่างในใจ จากความเข้าใจของเธอที่มีต่อสุมิตร เรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น แต่เมื่อมองดูความเชื่อมั่นอันเต็มเปี่ยมของนราวิชญ์ จันวิภาก็ไม่อาจพูดความกังวลที่อยู่ในใจของเธอออกมาได้ กว่าสุมิตรจะกลับมาบ้านมันก็ตอนบ่ายแล้ว เขาพึ่งจะเดินเข้าประตูมา ก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟา เพราะสงสัยว่าจันวิภากับนราวิชญ์สมคบคิดกัน บวกกับความพิเศษของเรื่องนี้ ก่อนที่สุมิตรจะออกไปข้างนอกก็ได้ติดต่อให้คนติดตามจันวิภาเป็นพิเศษ เพราะเขาคิดว่าเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้น จันวิภาจะต้องรีบไปพึ่งพานราวิชญ์ด้วยความรู้สึกหวาดผวา แม้จะไม่ไปหาที่พึ่ง ก็คงจะไปปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้สุมิตรเห็นชายคนนี้อยู่ในบ้าน ก็ชัดเจนแล้ว จันวิภาออกไปพบกับนราวิชญ์จริงๆ ทันใดนั้นใบหน้าของสุมิจรก็เย็นลง เขากวาดสายตามองชายคนนั้นอย่างเยือกเย็น หลังจากที่ชายคนนั้นเห็นเขาจึงลุกขึ้นยืน เดินมาทำความเคารพต่อหน้าเขา แล้วเอารูปภาพที่อยู่ในมือส่งให้เขาดู สุมิตรรับรูปที่อยู่ในมือของเขา เหลือบมองดู วินาทีต่อมา เขาก็ได้สะบัดรูปภาพทิ้งลงพื้นอย่างรุนแรง สีหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว เห็นได้ชัดเลยว่าเขาโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว “ชายโฉดหญิงชั่วสมควรตายจริงๆ!ฆ่านวาระ และยังไปพูดคุยกันหนุงหนิงที่สำนักงานอีก!จันวิภา แกมันอีตัวที่น่ารังเกียจ!แกนี่มันจริงๆเลย!” ภายถ่ายที่ล่วงหล่นลงมาบนพื้น มันเป็นฉากที่จันวิภาจับมือลากนราวิชญ์เข้ามาในสำนักงานจริงๆ 
已经是最新一章了
加载中