ตอนที่ 124 เป็นเขาเองที่เข้าใจนราวิชญ์ผิด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 124 เป็นเขาเองที่เข้าใจนราวิชญ์ผิด
ต๭นที่ 124 เป็นเขาเองที่เข้าใจนราวิชญ์ผิด? “แหล่งข้อมูลนี้เชื่อถือได้มั้ย? ?!” สุมิตรกล่าว นึกถึงคำพูดของจันวิภาที่เคยพูดออกมา ฆาตกรไม่ใช่นราวิชญ์ แต่เป็นคนอื่น แต่ตอนนั้นตนเองกำลังโกรธอยู่ คำพูดของเธอเลยไม่ทะลุเข้ามาหา และยังเข้าใจเธอผิดอีก! บ้าเอ้ย!ตนเองทำเรื่องบ้าอะไรลงไป!มิลน่าล่ะจันวิภาถึงเกลียดเขาขนาดนี้ และไม่ยอมให้อภัยเขา! ธนภาคตบไหล่ของสุมิตร แล้วพูดอย่างจริงจัง “ข้อมูลนี้ฉันตรวจสอบมันด้วยตัวเอง เป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย ฉันรู้ว่าตอนนี้นายยังไม่อยากยอมรับ แต่เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้......” อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าธนภาคจะพูดอะไรออกมาอีก สุมิตรก็ทำได้เพียงแค่ก้มหัวลงไปมองไปที่พื้น แล้วเงียบไม่พูดไม่จา “เฮ้อ......นายค่อยๆคิดไปเถอะ ยังมีเรื่องของแมวป่าตัวน้อยนั่นอีก ฉันพบจุดน่าสงสัยอยู่นิดหน่อยเช่นกัน ฉันจะไปตรวจสอบให้ชัดเจนต่อ พอถึงตอนนั้นจะติดต่อนายมีอีกที” พูดจบ ธนภาคก็ถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วออกจากโรงพยาบาลไปอย่างเงียบๆ มันเป็นการดีกว่าที่จะให้เขาคิดเกี่ยวกับมัน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ฟ้าค่อยๆมืดลง สุมิตรยังคงรักษาท่าทางที่สงบนิ่งและไม่เคลื่อนไหว ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เขาจึงจะเริ่มแหงนหน้าขึ้นช้าๆ มองห้องผู้ป่วยที่อยู่ข้างหน้า สุมิตรเดินเข้าไปตัวแข็งทื่อไม่พูดไม่จาราวกับหุ่นยนต์ ภายในห้องผู้ป่วย จันวิภากำลังก้มศีรษะลงแล้วลูบท้องอยู่ รอยยิ้มของคนเป็นแม่นั้นมันสวยงามกว่าทิวทัศน์ทั้งหมดที่อยู่บนโลกใบนี้ สุมิตรจ้องมองเธออย่างอึ้งๆ อ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ลำคอกลับเหมือนว่ามีสิ่งของอะไรมาขวางกั้นทำให้พูดไม่ออก ตอนที่จันวิภาเงยหน้าขึ้นมา ก็ได้เห็นสุมิตรยืนงงอยู่หน้าประตู ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา และไม่สนใจเขา ไม่กี่วันมานี้ จันวิภาทำราวกับว่าเขาเป็นอากาศ อย่างไรก็ตามเขารักอย่างไรก็ยังรักอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เธอก็ไม่มีทางที่จะอภัยให้เขา เป็นเวลานาน สุมิตรจึงจะค่อยๆขยับเท้าเดิน เขาเดินไปนั่งลงข้างๆเตียง คิดอยากที่จะยื่นมือออกไปลูบท้องของจันวิภา แต่กลับลังเลไม่กล้าลงมือ “จัน......วิภา ฉันลูบเขาได้มั้ย?” จันวิภารีบใช้มือป้องท้องเอาไว้ แล้วส่งเสียงหึออกมาอย่างเยือกเย็น “ไม่ได้” เมื่อได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงหยุดมือค้างไว้อยู่บนอากาศอยู่ครู่หนึ่ง เขาค่อยๆเก็บมือกลับมา มองท้องของจันวิภา แล้วพูดอย่างจริงจัง “จันวิภา เธอวางใจเถอะ ไม่ว่าจะเป็นลูกใคร ฉันก็จะเลี้ยงเขาจนเติบใหญ่ และเลี้ยงดูในฐานะลูกของฉันเอง” นี่ มันก็ถือได้ว่าเป็นการตอบแทนนราวิชญ์ จันวิภายักคิ้วขึ้น ภายในใจหัวเราะเยาะออกมาอย่างไม่แยแส หึ เดิมทีมันก็เป็นลูกของนายนั่นแหละ! แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่มีแผนที่จะพูดความจริงออกมา ทำเพียงแค่บิดขี้เกียจที่เอว และพูดขับไล่ออกไป “นายไปเถอะ ฉันเหนื่อยแล้วอยากนอน” “ก็ได้ ฝันดีนะ ราตรีสวัสดิ์” สุมิตรลุกขึ้นยืนแล้วห่มผ้าห่มให้จันวิภา ห่มแม้แต่มุมรอบๆ เผื่อกันไม่ให้โผล่ออกมา ไม่กี่วันมานี้ที่เขาได้ดูแลจันวิภา ทำให้สุมิตรได้เรียนรู้วิธีดูแลคนอื่น ทั้งหมดนี้ จันวิภาทำเหมือนกับมองไม่เห็น เธอเคยพูดแล้ว มันจะมีวันหนึ่งที่จะทำให้เขาเสียใจกับการกระทำของตัวเอง ตอนนี้จันวิภาไม่มีคำพูดอะไร คำพูดที่เธอเคยพูดไป ต้องทำให้ได้ วันต่อมา หลังจากที่จันวิภาทานข้าวเข้าเสร็จ สุมิตรจึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาก่อน “แม้ว่าเธอจะไม่อยากเจอฉัน หลังจากี้ฉันก็จะไม่มาโรงพยาบาลแล้ว ฉันจะไปหาพี่เลี้ยงที่ดูแลเอาใจใส่มาดูแลเธอทีหลัง” เมื่อจันวิภาฟังจบ จึงทำเพียงแค่ส่งเสียงหึออกมาอย่างเยือกเย็น มันเป็นเรื่องดีที่สุมิตรจะออกไปจากเธอ ไม่ต้องมาคอยดูเธอทั้งวันจนทำให้รำคาญ พี่เลี้ยงชื่อป้าพิม หลังจากที่เธอมาแล้ว จันวิภายังไม่ทันที่จะได้ดีใจ ก็ได้ปรากฏแขกผู้ไม่ได้รับเชิญเข้ามา “เป็นนาย?!” จันวิภาถลึงตามองสุพจน์ และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ไม่ได้เห็นจันวิภามาหลายวันแล้ว เธอผอมมากกว่าเมื่อก่อน และใบหน้ายังขาวซีดขนาดนั้นอีก สุพจน์หยิบของมาวางข้างเตียงอย่างเจ็บปวด ยื่นมือออกมาลูบใบหน้าของจันวิภา “เธอดูเธอสิ ผอมจนเป็นอะไรแล้วก็ไม่รู้ มันทำให้ผมเจ็บปวดจริงๆ” จันวิภาปัดมือของสุพจน์ออกไป ราวกับคุ้นเคยกับคำพูดล้อเล่นของเขา แล้วพูดออกไปตรงๆ “นายมาที่นี่ทำไม?” สุพจน์ที่สวมใส่ชุดสูทสีดำขยับเนคไท ตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างเตียง ใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้นแกะสลัก เป็นดั่งทูตสวรรค์มายังแผ่นดินโลก และภาพวาดที่สวยงาม “ทำไมผมถึงมาไม่ได้?” สุพจน์ยิ้มออกมาเล็กน้อย น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยการเยาะเย้ย “พูดถึงสุมิตรดูเหมือนหมอนั่นจะปกป้องเธอเหมือนกับอยู่ในคุก และไม่ยอมออกห่างแม้แต่ก้าวเดียว ฉันเข้ามาเยี่ยมเธอไม่ได้แน่ แต่วันนี้เขากลับยอมออกไปง่ายๆ แต่เธอดันไม่ต้อนรับผมเสียนี่?” ชายคนนี้สามารถเอาชีวิตของนวาระได้อย่างง่ายดาย คงไม่ใช่คนธรรมดาเป็นแน่ จันวิภาคอยระวังอยู่ในใจ แล้วพูดอย่างคัดค้าน “คนที่ยุ่งอย่างนายมีเวลาว่างมาหาฉันด้วยหรอ?” “ไม่ๆ เธอพูดอย่างนี้ไม่ถูกแล้ว เธอเป็นเด็กน้อยที่อยู่ในใจผม เธอนอนโรงพยาบาล แล้วทำไมผมถึงจะไม่มาเยี่ยมคุณล่ะ?” สุพจน์จ้องมองจันวิภา แล้วพูดออกไปอย่างซื่อสัตย์ จันวิภาอดไม่ได้ที่จะหรอกตาขึ้นมา แล้วพูดอย่างเบื่อหน่าย “ตามใจนาย นายดูพอแล้ว ก็ควรไปได้แล้วมั้ย?” “เธอไม่ไปกับผมหรอ?” “ทำไมต้องไปกับนาย?” จันวิภาจ้องมองสุพจน์อย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะมีแค่คนเดียว แต่เขาก็เป็นผู้ชายตัวใหญ่ อาศัยเพียงความแข็งแกร่งของเธอแล้ว ไม่อาจสู้ได้ เมื่อได้ยินดังนั้น สุพจน์จึงลุกขึ้นยืน มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมย “ผมคิดว่าคุณอยากจะหนีออกไปจากสุมิตรเสียอีก” สุพจน์พูดออกมาเช่นนี้ มันได้เตือนสติจันวิภา! หลังจากที่เธอพักฟื้นร่างกายมาตลอดมาสองสามวันนี้จึงทำให้ไม่อาจหลีกหนีออกไปจากกันคุ้มกันของสุมิตรได้ แต่หลังจากที่ร่างกานเธอพักฟื้นดีแล้ว และตอนนี้เธอยังอยู่ในโรงพยาบาล เธอก็ไม่ได้คิดเรื่องหนีออกมาเลย แต่ด้วยความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกมันแตกต่างกัน ถ้าหากมีความช่วยเหลือของชายที่อยู่ต่อหน้าล่ะก็ แม้ว่าเธอจะยังอยู่ในโรงพยาบาล ก็ยังสามารถพึ่งพาความสัมพันธ์ของเขาในการหาโรงพยาบาลเพื่อค่อยๆพักฟื้นร่างกายอย่างช้าๆได้ ตอนนี้นัยน์ตาของจันวิภาส่งประกาย จ้องมองสุพจน์ด้วยความหวัง แล้วเอ่ยถาม “นายจะพาฉันออกไปจากที่นี่หรอ?” “แน่นอน” ปฏิกิริยาของจันวิภาทำให้ใจที่ทระนงของสุพจน์พอใจ แม้ว่าโดยปกติจะมีหลายคนที่มองเขาด้วยสายตาดังกล่าว แต่จันวิถาไม่เหมือนกัน เธอเป็นผู้หญิงที่เขาชอบ เมื่อได้ยินคำพูดของสุพจน์ จันวิภาจึงกระปี้กระเป่าขึ้นมาทันที มันเป็นเวลานานหลายวันแล้ว ในที่สุดก็มีข่าวดีมาหาเขาเสียที! “แต่ทว่า......” สุพจน์หันศีรษะของเขา จ้องมองจันวิภาแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจัง “ถ้าผมช่วยเธอหนีออกจากสุมิตร เธอจะเอาอะไรมาขอบคุณผม?” ไม่มีนักธุรกิจทำการค้าโดยไม่มีการฉ้อโกง! จู่ๆจันวิภาก็คิดถึงคำพูดนี้ขึ้นมาได้ เธอจ้องมองสุพจน์อย่างใจเย็น แล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้าสงบนิ่ง “งั้นนายอยากได้อะไร?” “ผมอยากได้คุณ” สุพจน์ยิ้มมุมปากอย่างมีเสน่ห์ ตอนที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา เผยออกมาให้เห็นถึงการข่มเหงอย่างแจ่มแจ้ง
已经是最新一章了
加载中