ตอนที่ 128 นายเปลี่ยนไปมากเลย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 128 นายเปลี่ยนไปมากเลย
ต๭นที่ 128 นายเปลี่ยนไปมากเลย คิดไม่ถึงเลยว่าเสื้อผ้าผู้ป่วยของจันวิภาจะถูกคนคลายออก เผยออกมาให้เห็นถึงทิวทัศน์ที่อยู่ด้านในครึ่งหนึ่ง! “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?!” สุมิตรพูดด้วยน้ำเสียงที่อึมครึม ราวกับว่ากำลังระงับอะไรเอาไว้อยู่ ความโกรธที่แผดเผาอยู่บนร่างกายของเขาทำให้คนที่เห็นมันรู้สึกหนาวเย็นและสั่นเทา เขาพึ่งจะรับโทรศัพท์จากธนภาคแล้วรีบมาด้วยความเร็วสูง ถึงขนาดที่ทิ้งธุรกิจบันเทิงที่สำคัญ แต่มันเกิดอะไรขึ้นต่อหน้าเขา เขาเองก็ยังไม่รู้! ธนภาคในตอนนี้ใจเย็นลงแล้ว เขากลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน แล้วพูดด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง “ไม่เป็นไร เมื่อครู่นี้เธอถูกไอ้นั่นวางยาน่ะ ตอนนี้ก็เลยหลับ คงจะตื่นขึ้นมาในไม่ช้านี้แหละ” ยา? ตอนนี้จันวิภากำลังตั้งครรภ์ สตรีมีครรภ์มักจะต้องหลีกเลี่ยงที่จะทานยา ทำไมถึงได้วางยาเธอล่ะ! ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็คือ เขาไม่รู้ว่าชุติเดชวางยาอะไรให้เธอกิน และมีจำนวนเท่าไหร่ ! นี่มันเป็นสิ่งที่แย่มาก! สุมิตรทุบกำแพงอย่างรุนแรง ดวงตาโกรธอย่างร้อนแรง เขาแทบรอไม่ไหวที่จะออกไปฆ่าชุติเดช! เมื่อเห็นเช่นนี้ ธนภาคจึงถอนหายใจออกมาแรงๆ ราวกับความโกรธเมื่อครู่นี้มันไม่ได้พุ่งเข้ามาหาเขา และพูดปลอบสุมิตร “อย่าโกรธเลย จันวิภาไม่ได้เป็นไรก็ดีแล้ว” เมื่อได้ยินดังนั้นสุมิตรจึงระงับความโกรธที่อยู่ในใจเอาไว้ เขากวาดสายตามองธนภาค และพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ “ขอบใจนายนะ ถ้านายติดต่อฉันมาไม่ทันล่ะก็ ฉันก็......” ถ้าธนภาคไม่ได้ติดต่อสุมิตรมา ผลลัพธ์ก็เหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การมาถึงของธนภาคสามารถขัดขวางการกระทำของชุติเดชได้ แต่สุมิตรกลับมาสาย คิดไม่ถึงเลย ว่าตนเองจะปฏิบัติหน้าที่บกพร่องเข้าเสียแล้ว! สุมิตรรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับความผิดพลาดของเขาเอง เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ เพียงแค่คำขอบคุณหนึ่งประโยคมันก็มีความหายมากพออยู่แล้ว “ไม่เป็นไร ฉันก็แค่ทำหน้าที่ของฉัน ยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้ฉันก็ได้ตรวจสอบเรื่องแมวป่าตัวน้อยด้วย เลยส่งคนมาเตรียมเอาไว้อยู่ทุกที่ วันนี้เรื่องเลวๆของไอ้คนนั้นถูกคนของฉันเห็นเข้า” ธนภาคไม่อยากจะบอกว่าเขาได้สั่งคนมาเฝ้าดูจันวิภาโดยเฉพาะ เขาเกรงว่าสุมิตรจะเข้าใจผิดอะไรอีก “พูดถึงแมวป่าตัวน้อยนั่น นายได้ตรวจสอบอะไรไปแล้วบ้าง?” สุมิตรพูดไปพลาง ติดกระดุมให้จันวิภาไปพลาง ธนภาคหันหน้าของเขาออกไปข้างๆ ธนภาคพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ยังไม่มีอะไร ฉันตรวจสอบเกือบจะได้แล้ว เชื่อว่าอีกแค่ไม่กี่วัน เรื่องจริงจะถูกเปิดเผยออกมา เมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะบอกนายให้รู้เป็นคนแรกแน่นอน” “งั้นหรอ?” สุมิตรติดกระดุมให้จันวิภาเสร็จแล้ว จ้องมองธนภาคแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจัง “นายพูดว่าเกือบจะได้แล้ว งั้นก็รู้แล้วว่าเป็นใครใช่มั้ย?” สุมิตรยังคงพูดอย่างตรงไปตรงมาเหมือนเช่นเคย แม้ว่าธนภาคจะคาดเดาได้ว่าเป็นใคร แต่เขากลับพูดออกมาโดยที่สีหน้าไม่สั่นไหว “ใช่แล้ว ฉันรู้ว่าเป็นใคร แต่ตอนนี้ฉันยังบอกนายไม่ได้ ฉันเคยพูดไปแล้ว ฉันจะต้องเอาหลักฐานมาให้นายแน่นอน” เมื่อเห็นธนภาคไม่อยากพูด สุมิตรจึงไม่ค่อยเต็มใจนัก ทำได้เพียงพยักหน้าแล้วพูดตอบไป “ก็ได้ งั้นนายก็รีบไปตรวจสอบให้มันกระจ่าง จากนั้นค่อยบอกฉัน” ธนภาคพยักหน้า ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกันอีก ภายในห้องผู้ป่วยตกลงสู่บรรยากาศที่เงียบสงบ “ทำไมจู่ๆนายถึงได้สนใจแมวป่าตัวน้อยถึงขนาดนี้?” จู่ๆธนภาคก็ถามขึ้นมา “เมื่อไม่นานมานี้ฉันจำได้ นายยังดื้อดึงจะเชื่อว่าแมวป่าตัวน้อยคือนวาระ ในตอนนี้ นายเชื่อว่านวาระไม่ใช่คนๆนั้นที่นายตามหาแล้วงั้นหรอ?” เมื่อได้ยินดังนั้น สุมิตรจึงจ้องมองจันวิภาที่หลับอยู่อย่างเงียบๆ สายตาของเขาอบอุ่น แล้วพูดกับธนภาคอย่างเหม่อลอย “ฉันแค่คิดคำพูดที่คนอื่นพูดขึ้นมาได้ มันหลายต่อหลายครั้ง มันก็ไม่ใช่ว่าตัวเองจะเชื่อไปเสียทั้งหมดหรอก แต่มันจริง บางครั้งการฟังความคิดเห็นของคนอื่นก็เป็นเรื่องดี” “งั้นหรอ?” มุมปากของธนภาคฉีกกระฉากขึ้นมาอย่างสวยงาม มองสุมิตรหัวเราะแล้วพูดขึ้น “สุมิตร ฉันว่าช่วงนี้นายเปลี่ยนไปมากเลยนะ” หลังจากที่จันวิภากระโดดตึก “งั้นหรอ ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น” สุมิตรยื่นมือออกมาจัดผมที่กระจัดกระจายอยู่ตรงหน้าผากของจันวิภาอย่างอ่อนโยน และพูดด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น ราตรี ค่อยๆมืดลงแล้ว ชายทั้งสองคนดูเป็นกังวล ยืนเฝ้าจันวิภาอยู่ในห้องคนไข้อยู่นานจึงจะจากไป …… วันรุ่งขึ้นจันวิภาตื่นขึ้นมา เห็นสุมิตรอยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “นายมาทำไมอีก? ไม่ได้บอกว่าจะไม่มาเจอหน้าฉันแล้วหรอ?” สุมิตรส่งข้าวต้มมาให้หนึ่งถ้วย และต้องการที่จะป้อนเข้าปากของจันวิภา “ฉันคิดถึงเธอ ก็เลยมา” “ไม่ต้อง ฉันมีมือ” ผลักช้อนที่สุมิตรป้อนมาอย่างเฉยเมย จันวิภาแย่งชามมาทันที แล้วกินโจ๊กหมูไข่เยี่ยวม้าที่อยู่ในชาม นี่เป็นครั้งแรกที่จันวิภาไม่ปฏิเสธอาหารที่สุมิตรส่งมาให้ สุมิตรนิ่งอึ้ง เพียงไม่นานเขาก็ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว แล้วพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “จันวิภา ในที่สุดเธอก็ยอมกินอาหารของฉันแล้ว” อันที่จริงแล้วตอนที่จันวิภายางชามมาเธอก็งุนงงเช่นเดียวกัน บางทีพี่เลี้ยงก็ป้อนอาหารเธออย่างนี้เช่นกัน เธอแย่งมาเสียจนคุ้นเคย แต่เธอก็ไม่แยแส เธอมีความเกลียดชังกับสุมิตร แต่กับการกินไม่ได้มีความแค้นด้วย แล้วทำไมจะต้องเอาไปลงกับอาหารด้วยล่ะ? พูดถึงพี่เลี้ยง จันวิภามองไปรอบๆห้อง แล้วเอ่ยถามขึ้น “ป้าพิมล่ะ?” เมื่อเอ่ยถึงพี่เลี้ยงคนนั้นที่เมื่อคืนนี้ไม่ขยันขันแข็ง สายตาของสุมิตรจึงหม่นหมอง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ “ฉันให้เขากลับไปแล้ว จากนี้ ฉันจะดูแลเธอเอง” เมื่อได้ยินประโยคนี้ จันวิภารู้ได้ทันทีว่ามีเรื่องเกิดขึ้น แม้ว่าป้าพิมจะอยู่กับเธอได้แค่วันเดียว แต่จันวิภาก็ยังคงชอบพี่เลี้ยงคนนี้มาก เขาเหมือนกับป้าข้างบ้านอย่างไรอย่างนั้น เขาทั้งใจดีและกรุณาต่อเธอ เกรงว่าสุมิตรจะไม่พอใจป้าพิม จันวิภามองสายตาของสุมิตรโดยตรงแล้วถามอย่างบีบบังคับ “ทำไมถึงให้เขากลับไป เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” “มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น?” สุมิตรถามกลับ เขามองจันวิภาอย่างจริงจัง แล้วพูด “ฉันอยากเจอเธอ ก็เลยมาดูแลเธอด้วยตัวเอง ไม่ได้หรือไง? พอแล้ว เด็กดี เธอรีบกินโจ๊กให้หมดเถอะ” เมื่อเห็นสุมิตรมีท่าทีเช่นนี้ จันวิภาจึงมั่นใจมากขึ้นว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่ แต่ไม่ว่าเธอจะบังคับเธอยังไงก็ตาม สุมิตรก็ไม่ยอมปริปากบอก สุมิตรยิ่งทำเช่นนี้ จันวิภายิ่งไม่สบายใจ ถึงอย่างไรมันก็ได้มีการตายของนราวิชญ์เป็นตัวอย่างอยู่ต่อหน้าเธอ จันวิภาทำใจเชื่อสุมิตรไม่ได้จริงๆ เขาพูดว่าไม่มีอะไร นั่นจะต้องมีอย่างแน่นอน สุมิตรไม่อยากจะบอกเหตุผลให้จันวิภาได้รู้ ไม่ต้องการให้เธอมีความทรงจำที่แย่ในคืนที่ผ่านมา ไม่ต้องการให้เธอกังวลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เธอแค่พักฟื้นร่างกายของเธอให้สบายใจก็พอแล้ว แต่จันวิภาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ เมื่อเธอดื้อดึงขึ้นมา ใครก็ฉุดเอาไว้ไม่อยู่ ตอนนี้โจ๊กก็ไม่กินแล้วถามสาเหตุของเรื่องต่อหน้าสุมิตร เดิมทีสุมิตรก็อารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่ามีแนวโน้มว่าจะทะเลาะกัน สุมิตรจึงรีบเอ่ยปากพูดขัดขึ้นมา “ฉันนึกขึ้นมาได้ว่ามีธุระที่บริษัท ฉันต้องรีบไปก่อนแล้ว” พูดไปพลาง เขาก็หันตัวแล้วเดินจากไป 
已经是最新一章了
加载中