ตอนที่ 144 เจอคุณพ่อครั้งแรก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 144 เจอคุณพ่อครั้งแรก
ต๭นที่ 144 เจอคุณพ่อครั้งแรก “เธอเป็นใคร?” เลขานุการเดินเข้ามาหานิเวศน์ ใบหน้าจ้องมองเขาด้วยความสงสัย เมื่อครู่นี้ เธอได้รับโทรศัพท์จากพนักงานสาวแผนกต้อนรับที่ชั้นหนึ่งบอกว่ามีเด็กชายคนหนึ่งกล่าวว่าตนเป็นลูกชายของประธานกำลังขึ้นมาหาประธาน ตอนแรกเลขานุการคิดว่าพนักงานสาวแผนกต้อนรับนั้นกำลังล้อเล่นเลยวางสายอย่างไม่ใส่ใจ ประธานจะมีลูกชายได้อย่างไรกัน นี่มันเรื่องล้อเล่นที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่สิ่งที่ทำให้เลขานุการคาดไม่ถึงก็คือมีเด็กชายคนหนึ่งขึ้นมาจริงๆ! แต่เมื่อเลขานุการยิ่งเดินเข้ามาใกล้นิเวศน์ใจเขายิ่งเยือกเย็น ดวงตาคู่นี้ของเด็กชายคล้ายกับประธานเหลือเกิน ระหว่างชายตามองยิ่งคล้ายกับสุมิตรย่อส่วน แม้ว่าแก้มจะไม่คล้าย มีเพียงดวงตาที่คล้าย โอ้พระเจ้า เห็นภาพแบบนี้แล้วภายในใจของเลขานุการเกือบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เดิมทีเธอคิดว่าหากเธอลองทำอะไรสักอย่างจะต้องเกิดความรักในห้องทำงานประธานช่วงเวลาหนึ่งแน่นอน แม้ว่าจะแต่งงานกันไม่ได้ การได้เป็นมือที่สามของสุมิตรก็มีความสุขแล้ว! แต่สิ่งที่เธอทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือมีเด็กชายคนหนึ่งที่มีดวงตาละม้ายคล้ายคลึงกับสุมิตรขึ้นมาบนห้องแถมยังบอกว่าตนเป็นลูกชายของสุมิตร! “นี่เธอ......เธอเป็นลูกชายประธานจริงๆหรือ?” เลขานุการเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นไหวเล็กน้อย เธอจ้องไปยังดวงตาที่แสนเย็นชา อดไม่ได้ที่ในใจจะรู้สึกพ่ายแพ้ “อืม ใช่ครับ” เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูหัวใจของแม่ แน่นอนว่านิเวศน์ทำสีหน้าไม่ดี ใบหน้าที่แสนเย็นชาพลางเอ่ยอย่างขอไปที เลขานุการได้ยินดังนั้นก็ตกใจ นึกในใจว่าเป็นไปไม่ได้หรอก เรื่องที่ท่านประธานยังไม่ได้แต่งงานทุกคนในบริษัทล้วนรู้ทราบหมดทุกคน เขาจะมีลูกวัยขนาดนี้ได้อย่างไรกัน ไม่ใช่หรอก…… ไม่รอให้เธอได้คิดพิจารณาจนจบ มือเล็กนิเวศน์ผลักประตูเปิดเข้าไปในห้องทำงานของสุมิตร เลขานุการถึงมีปฏิกิริยาเงยหน้าตามไปอย่างตกใจ มองไปยังชายผู้แสนเย็นชาหน้าโต๊ะทำงาน ก้มหน้าเสียใจปนอายพลางเอ่ย “ขอโทษค่ะ……ท่านประธาน ดิฉันหยุดเขาไว้ไม่ได้……” สุมิตรได้ยินเสียงขึ้นจึงค่อยๆเงยหน้ามองไปยังด้านนอกประตู เห็นเลขานุการที่ไม่ได้ผิดแผกแปลกไปจากเดิม นึกอยากจะก้มหน้าทำงานต่อเมื่อหันกลับมาได้ครึ่งทางสายตาก็พลันเหลือบไปเห็นร่างเล็กอยู่หน้าประตู ทั้งร่างสวมชุดสำหรับเด็กสีดำขลับพร้อมแว่นตากันแดดอันใหญ่ห้อยไว้ที่คอเสื้อ สวมรอยยิ้มจางๆที่ใบหน้า ดวงตาที่สะกดสุมิตรไว้ มีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างคาดไม่ถึง ขณะที่สุมิตรกำลังสังเกตนิเวศน์ นิเวศน์ก็สังเกตพ่อที่เคยได้ยินมาตรงหน้าเขา ด้านบนสวมเชิ้ตสีขาวเรียบกริบ แขนเสื้อบนข้อมือสามารถบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ที่พิถีพิถัน ด้านล่างสวมกางเกงสูทสีดำขลับ ช่างเข้าชุดกับสูทตัวนอกที่แขวนอยู่ข้างกายสุมิตร โครงหน้าหล่อเข้มกับดวงตาที่เหมือนเขาราวกับแกะ สิ่งที่ต่างคือการแสดงสีหน้าที่ผ่านอะไรมามากมายอย่างสุมิตรเสริมให้เขามีกลิ่นอายของความเป็นผู้ใหญ่ อืม ไม่ผิดแน่ ชายที่เป็นพ่อเขาคนนี้มีคุณสมบัติเหมาะสม เขากลับประเทศครั้งนี้เพื่อมาดูหน้าของคนที่เคยทิ้งแม่และเขา หลายปีที่ผ่านมาทำไมไม่ตามหาเขากับแม่ เขาไม่สมควรจะเป็นพ่อเขาด้วยซ้ำ ท่ามกลางการประลองสายตา หนึ่งผู้ใหญ่หนึ่งเด็กชายจ้องกันโดยไม่มีใครปริปากเอ่ยก่อน “คุณคือคุณสุมิตรหรือครับ?” ผ่านไปนานสักพักนิเวศน์จึงทำลายความเงียบเสีย เขาพูดภาษาอังกฤษถาม อยากจะลองเชิงพ่อตนที่เพิ่งเจอ อยากรู้ว่าระดับภาษาอังกฤษเขาเป็นอย่างไร พลางพูดพลางเดินวางมาดไปยังโซฟาด้านข้างแล้วนั่งลงไปอย่างสบายอารมณ์ ไม่ลืมที่จะตบโซฟาเบาๆ สัมผัสความนุ่ม อดพยักหน้าเบาๆไม่ได้ให้กับรสนิยมที่ไม่ได้แย่ของพ่อเขา ท่าทางและคำพูดของนิเวศน์อยู่ในสายตาสุมิตรตลอด เด็กชายที่เข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญแถมพูดภาษาอังกฤษคนนี้ คิดว่าต้องเป็นเด็กเอเชียที่เติบโตต่างประเทศ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำขัน เอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษด้วยความอดทน “แล้วเธอคือ?” “ให้อะไรผมทานหน่อยสิครับ ผมเพิ่งลงจากเครื่องบิน หิวแล้ว โอ้แล้วอีกอย่างหนึ่ง ขอเครื่องดื่มด้วยนะครับ” นิเวศน์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ในร่างเด็กน้อยบนโซฟา นั่งไขว่ห้างดูน่าขัน สุมิตรรู้สึกสนใจเด็กคนนี้ หันไปสั่งเลขานุการเขาโดยเมินเฉยความหยาบคายของเด็กชาย “จัดการตามที่เขาบอก” “คือว่า……” เลขาได้ยินดังนั้นแล้วตกตะลึง แทนที่จะไล่เด็กคนนี้ออกไป แต่กลับทำตามที่เขาสั่งเสียอย่างนั้น! ไม่ทันได้พูดคัดค้าน หลังได้สบตากับสุมิตร เธอทำได้เพียงแต่ก้มหน้าตอบรับคำสั่ง ขณะที่กำลังออกไป เธอก็แอบกังวลว่าทั้งหมดที่เจ้าเด็กนั่นพูดเป็นเรื่องจริงหรือ เขาเป็นลูกท่านประธานจริงๆหรือ? คิดว่าไม่ใช่เสีย ไม่ต้องไปใส่ใจ! หลังจากเลขาปิดประตูลง ภายในห้องทำงานก็เงียบขึ้นมา นิเวศน์วางขาลงพลางมองไปรอบๆห้องทำงานของสุมิตรอย่างตั้งใจแล้วเดินไปรอบๆพลางมองนี่ จับนั่นไปเรื่อย สุมิตรวางงานตนแล้วมองสำรวจ มุมปากยกยิ้มมองร่างเล็กที่เดินไปเดินมาในห้องทำงานโดยไม่ได้เอ่ยขัดการกระทำ “《Furnace night talk》、《Pascal’s thoughts》……แล้วก็《Abundant society》、《Positioning》……” นิเวศน์มองหนังสือบนชั้นหนังสือ พึมพำกับตนเอง คิดในใจว่าพ่อตนแบบอย่างนักธุรกิจจริงๆ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองทึ่มนิดหน่อย เห็นนิเวศน์พึมพำกับตนเองหน้าชั้นหนังสือ ได้ยินเขาพูดภาษาจีนลางๆ เจ้าเด็กนี่คงพูดภาษาอังกฤษเพื่อแกล้งเล่นสนุกสินะ เห็นแบบนี้แล้วสุมิตรอดขำไม่ได้ จึงเอ่ยถามเป็นภาษาบ้านเกิด “เป็นอย่างไร อ่านตัวหนังสือบนนั้นออกไหม?” ได้ยินแล้วในใจนิเวศน์เต้นตุบๆ เมื่อครู่นี้เขาเผลอพูดภาษาจีนออกมา เมื่อกี้......ถูกจับได้เสียแล้ว แล้วน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาไอคิวเป็นเลิศ น้อยครั้งที่จะเผยต่อหน้าผู้อื่นด้วย เกรงว่าจะโดนพวกนักวิทยาศาสตร์เอาตัวไปวิจัย แต่อีกใจก็คิดว่าในห้องทำงานมีเพียงเขากับพ่อ เผยตัวสักหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง? นิเวศน์พยักหน้า ลืมบทสนทนาภาษาอังกฤษเมื่อครู่เสียหมด แล้วตอบอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอนครับ ปีนี้ผมห้าขวบแล้วนะครับ” อายุเท่านี้ อ่านหนังสือออกก็เป็นเรื่องปกตินี่ ห้าขวบเนี่ยนะ……ในใจสุมิตรย้ำกับตัวเอง จากนั้นพูดด้วยสีหน้าปกติ “ห้าขวบรู้ตัวหนังสือมากขนาดนี้ ไม่เลวเลยนะ” นิเวศน์ยิ้มเยาะในใจ เขารู้มากกว่านี้อีก พูดไปเดี๋ยวคุณช็อคตาย หลังนิเวศน์หมุนตัวกลับมา พบว่าห้องทำงานนี้ช่างน่าเบื่อจึงกลับมานั่งที่โต๊ะอย่างช่วยไม่ได้ เลขาบังเอิญยกของว่างเข้ามาให้พอดี มีเคเอฟซีชุดแฟมิลีมีลกับพุดดิ้งหนึ่งชิ้น เมื่อนิเวศน์เห็นของตรงหน้าก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ยัยผู้หญิงอกโตไม่มีสมองคนนี้คิดว่าเด็กทุกคนชอบอาหารขยะหรือยังไง? เคเอฟซีและแมคโดนัลต่างๆ เขากินที่อมเริกาจนเบื่อแล้ว เพราะมันคืออาหารขยะเขาเลยไม่ค่อยแตะมันเท่าไหร่ 
已经是最新一章了
加载中