ตอนที่ 150 เจ้าเด็กน้อยที่แสร้งตกระกําลําบาก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 150 เจ้าเด็กน้อยที่แสร้งตกระกําลําบาก
ต๭นที่ 150 เจ้าเด็กน้อยที่แสร้งตกระกําลําบาก ได้ยินเช่นนั้นธนภาคจึงยิ้มออกมาบางเบา เขาย่อตัวลงพลางเอื้อมมือไปลูบหัวนิเวศน์แล้วยิ้ม “คลื่นรังสีก็คือเจ้าปีศาจตัวใหญ่กินคนได้ ถ้าเธอเล่นคอมพิวเตอร์มากเกินไปมันจะกินหนู” “……” “……” นิเวศน์อดยิ้มมุมปากเบาๆไม่ได้ เหตุผลที่เอ่ยออกมานั้น ธนภาคคงเห็นว่าเขาเป็นเด็กทึ่ม เหนื่อยเหลือเกินที่ไอคิวสูงเกินไป นิเวศน์แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างเด็กทั่วไปทำกันอย่างเคย และแสดงสีหน้าท่าทางอย่างเดิม กล่าวอย่างเข้าใจถ่องแท้ “อย่างนี้นี่เอง ถ้าผมนอนดึกมันจะปีนขึ้นมากินผมไหมครับ?” “ไม่หรอก ถ้าหนูกลัวก็มาหาอาข้างๆห้อง อาจะนอนเป็นเพื่อนเอง” ธนภาคดันเชื่อคำพูดนิเวศน์ ลูบหัวนิเวศน์อย่างประคมประหงม ได้เจอนิเวศน์เพียงครู่เดียว ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนนิเวศน์เป็นลูกตน น่าเสียดายที่เขายังไม่ได้แต่งงาน แม้แต่สุมิตรพยามโน้มน้าวเขาหลายครั้งหลายครา แต่เขาก็ไม่รู้ทำไมถึงไม่ได้รู้สึกสนใจผู้หญิงคนไหนเลย ยากมากกว่าธนภาคจะออกไป นิเวศน์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างอดไม่ได้ เขาชินแล้วกับไอคิวสูงของตน แถมสมรรถภาพทางจิตใจก็ยังดีมากเช่นกัน ไม่อย่างนั้นอาจจะเหนื่อยตายได้ เมื่ออยู่คนเดียวนิเวศน์ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เปิดคอมพิวเตอร์ ใช้อินเตอร์เน็ตเชื่อมไปยังบ้านที่อเมริกา เห็นกล้องวงจรปิดที่อเมริกา นิเวศน์เห็นแม่ตน ในวิดีจันวิภาเจอสมุดบันทึกบนโต๊ะแล้วกำลังรีบออกจากประตูห้อง นิเวศน์คำนวณดู เวลานี้ เธอควรจะถึงจีนแล้วล่ะมั้ง …… เมื่อจันวิภากลับมาถึงจีนฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว เผชิญหน้ากับประเทศที่ทั้งคุ้นทั้งแปลก ไม่ได้สูดอากาศนี้มานาน รู้สึกสับสนในใจ หกปีมาแล้ว ในที่สุดเธอก็มาเหยียบแผ่นดินจีน เธอคิดว่าจะไม่มีวันกลับมาอีกตลอดกาล แต่ไม่คิดว่าเป็นเพราะลูกชายตนทำให้เธอต้องมาตามเขากลับมา จันวิภานั่งอยู่ที่เดิมมองผู้คนเดินผ่านไปมา รอได้ตัวนิเวศน์ก่อนเถอะ ให้อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด! ต้องทำให้เขารู้ให้ได้ว่าคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวน่ะดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมีพ่อหรอก เฮงซวยทั้งนั้น! เพราะว่าดึกแล้วจันวิภาจึงหาโรงแรมพัก เธอได้ลูกชายสอนทักษะคอมพิวเตอร์นิดหน่อยเลยสามารถเข้าไปดูกล้องวงจรปิดได้ ใช้คอมพิวเตอร์ของโรงแรมหาว่าลูกชายเธอได้ไปบริษัทของสุมิตรหรือไม่ เมื่อทบทวนความจริงอีกครั้ง จันวิภาก็รู้สึกวิตกกังวล ระหว่างทางเธอก็คิดว่าหากสุมิตรเจอลูกชายตนแล้วจะทำอย่างไร? ด้วยนิสัยของนิเวศน์ที่ต้องพยามยืนยันตัวเองกับสุมิตรเป็นแน่ สุมิตรเมื่อรู้แล้วจะต้องจับเขาไว้แน่ ได้ยังไงกันล่ะ! ดังนั้นลูกชายเธอตอนนี้ต้องอยู่กับสุมิตรแน่นอน! ไม่ได้ ไม่ให้ลูกชายกับเขาเด็ดขาด! ไอคนเลว คนเฮงซวยอย่างสุดมิตรน่ะ! คิดไปคิดมา จันวิภายิ่งคิดยิ่งปวดหัว เธอจะเอาอะไรไปด้วยดีล่ะสู้ดีล่ะ ไปถึงจะทำอย่างไรดี! จันวิภาท่องเว็บบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดอย่างไร้จุดหมาย ดูไปสักพักก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอสนใจ ป้ายนั้นเขียนไว้ว่า 《ด่วน! บริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัดรับสมัครเลขานุการผู้จัดการใหญ่》 ตาเบิกกว้างเมื่อเห็นข้อมูลนี้ เธอนั่งหลังตรง จ้องเงื่อนไขการรับสมัครเลขานุการพบว่าคุณสมบัติเธอเหมาะเหม็ง จันวิภาพลันยิ้มกว้างอย่างดีใจ พระเจ้าช่วยเธอจริงๆ มีวิธีเข้าไปแล้ว จันวิภารีบเคาะแป้นพิมพ์อย่างไว ทำเรซูเม่ตนขึ้นมาส่งออนไลน์ไปหนึ่งฉบับ ปรินต์ออกมาอีกหนึ่งฉบับ รอพรุ่งนี้ไปสัมภาษณ์ อย่าเข้าใจเธอผิด เธอไม่ได้แต่งสวย และเธอกำลังแปลงโฉมเสียหน่อย เธอแต่งหน้าเข้มจัดอย่างหยาบๆ สวมชุดนักธุรกิจสีเทา มองดูแล้วเหมือนกับป้าแก่ๆคนหนึ่ง เตรียมการทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จันวิภามองตัวเองในกระจกหาดูว่าขาดอะไรไหม คิดไปคิดมาจันวิภาเห็นแว่นตาข้างกาย จึงดีดนิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ใช่แล้ว ขาดแว่นตา ตอนที่ปรากฏกายที่ห้องรับสมัครพนักงานบริษัทตะวันกรุ๊ปจำกัด จะได้ไม่ต้องสบตาใครรอบข้าง ยิ่งมีหญิงสาวสวยวัยสะพรั่งเห็นเธอก็ยิ้มออกมาแล้วเอ่ยด้วยเสียงที่จันวิภาได้ยินชัดเจน “แกดูเธอสิ ทั้งแก่ทั้งน่าเกลียดยังกล้ามาสมัครเลขานุการผู้จัดการใหญ่อีก กินยาผิดสำแดงหรือเปล่าเนี่ย?” หญิงข้างๆได้ยินจึงรีบพูดดังก้อง “จริงด้วย ฉันอยากพูดนานแล้วล่ะ ฉันเห็นเธอแล้วไม่ใช่กินยาผิดสำแดงหรอก แต่คงป่วยอยู่ต่างหาก” พลางพูดพลางชี้มาที่ศีรษะตน “……” “……” จันวิภาหัวเราะอย่างอดไม่ได้ เธอชี้มาที่ศีรษะตน หมายถึงศีรษะเธอป่วยหรือ? ด้วยไอคิวของหญิงสาวตอนนี้ ยิ่งฟังยิ่งงง จันวิภานั่งลง ไม่ว่าจะโดนวิจารณ์ลับหลังอย่างไร เธอก็ไม่ใส่ใจ ด้วยท่าทางของจันวิภายิ่งทำให้คนวิจารณ์ด้านข้างทนไม่ได้ “แกล้งเมินหรือ จริงๆเลย!” จันวิภานั่งอยู่ที่เดิม สักพักก็ถูกเรียก จันวิภาเงยหน้ามองไปด้านหน้า ตอนที่เดินผ่านหญิงสาวไม่กี่คนยังได้ยินพวกเจ้าหล่อนคุยกันว่าเข้าไปไม่นานเดี๋ยวก็ออกมาแล้วล่ะ จันวิภายกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในห้องรับสมัคร หลังเดินเข้าไป ผู้สัมภาษณ์ก้มหน้ามองเรซูเม่ของจันวิภาพลาง เงยหน้ามองการแต่งกายของจันวิภา อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พวกเขาไม่พอใจภาพลักษณ์ของจันวิภาอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดี จันวิภาก็ยังเผชิญหน้ากับผู้สัมภาษณ์ แนะนำตนอย่างมั่นใจ ขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด ผู้สัมภาษณ์ยิงคำถามใส่ตลอดเวลาพลางพยักหน้ารับ ท้ายที่สุดเขามองจันวิภาอย่างเสียดายพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ “คุณจันวิภา พวกเราชื่นชมประวัติคุณมาก ถ้าเป็นไปได้พวกเราอยากจ้างคุณมากแต่ว่าภาพลักษณ์ของคุณนั้น…” พูดจนถึงท้ายสุดเขาก็หยุดพูด มองจันวิภาด้วยท่าทางที่ทุกคนล้วนเข้าใจ ภายนอกจันวิภายังคงยิ้มอยู่แต่ภายในใจกังวล ทำอย่างไรดีนะ หากพวกเขาไม่จ้างเธอ เธอจะเข้าหาสุมิตรได้อย่างไร อย่าลืมว่าลูกชายสุดที่รักยังอยู่ในกำมือเขานะ! บ้าเอ๊ย! 
已经是最新一章了
加载中