ตอนที่ 30 รวมญาติ
1/
ตอนที่ 30 รวมญาติ
ชายานักฆ่า
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 30 รวมญาติ
ตนที่ 30 รวมญาติ คุณหนูสาม? คุณหนูสามอยู่ข้างในหรือเปล่าคะ? เสียงสาวใช้ร้องเรียกอยู่ด้านนอก หลังจากที่หลินหมิ้นชิงสวมรองเท้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเปิดประตูออกมา “ข้าอยู่นี่ เจ้ามีเรื่องอะไรหรือ?” ทั้งจวนเฉิงเซี่ยงนี้ ไม่มีใครที่เห็นนางอยู่ในสายตาเลย ดังนั้น ครั้นที่เผชิญหน้ากับสาวใช้คนนี้ หลินหมิ้นชิงก็ไม่ได้มีสีหน้าที่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก “คุณหนูสาม คุณชายใหญ่ให้มาเรียนไปทานอาหารที่ด้านหน้า” เพราะเป็นคำสั่งของหลินจิ้นโจว จึงทำให้น้ำเสียงของสาวใช้คนนี้ยังคงมีความเคารพอยู่บ้างขณะที่บอกกับนาง “ให้ข้าไปกินข้าวที่ด้านหน้ารึ? เจ้าแน่ใจนะว่าให้มาบอกข้า?” สวรรค์ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ข้ามภพมาอยู่ที่นี่ ปีใหมครั้งหนึ่งจึงให้ไปปรากฏตัวครั้งหนึ่งอย่างนี้หรอ หลินหมิ้นชิง อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ “คุณหนูสามอารมณ์ขันเสียจริง หม่อมฉันมาตามคำบัญชาของคุณชายใหญ่ ไม่ได้บอกผิดอย่างแน่นอน” หน้าของสาวใจเปื้อนรอยยิ้มบางๆ และเอ่ยปากพูดอีกครั้ง “ข้ารู้แล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ข้าจะรีบไป” ก็แน่ใจแล้ว ว่าไม่ได้รับคำสั่งมาผิด แม้ว่าในใจของหลินหมิ้นชิงจะมีข้อคลางแคลง แต่ปากก็ยังคงเอ่ยตอบรับ “เพคะ หม่อมฉันทูลลา” สาวใช้คนนั้นตอบรับ หลักจากนั้นก็รีบหมุนตัวลาจากไป หลินหมิ้นชิงมองตามแผ่นหลังของนาง คิ้วที่งดงามค่อยๆขมวดเข้าหากัน ในลึกๆข้างในรู้สึกสับสน ทุกคนในจวนเฉินเซี่ยงต่างก็เห็นนางเป็นศัตรูทั้งหมด ครั้นจะให้นางไปเสวยอาหารที่ด้านหน้าด้วย นางเองก็แปลกใจไม่น้อยเช่นกัน “นายหญิง นี่ท่านคิดอะไรอยู่หรอกรึ?” เสี่ยวซิ้วที่ยืนอยู่ด้านหลัง มองเห็นท่าทีที่หดหู่ออกมาจากใบหน้านาง จึงเอ่ยถามออกมา “เสี่ยวซิ้ว เจ้าไม่รู้สึกว่ามันแปลกหรือ? ทั้งจวนเฉินเซี่ยง แทบจะทุกคนต่างก็เกลียดข้า แต่วันนี้กลับเรียกให้ข้าไปกินข้าวด้วย ข้ารู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆไป” คิ้วที่โค้งงามขมวดเข้าหากันอีกครั้ง ในแววตาของหลินหมิ้นชิงเต็มไปด้วยความสับสน นางไม่อาจจะเชื่อว่าเฉิงเซี่ยงและคุณนายเฉิงเซี่ยงจะใจดีขนาดนี้ “แต่ว่านายหญิง สาวใช้เมื่อครู่นี้ ก็เป็นคุณชายใหญ่เองที่ส่งมา ข้าคิดว่าคุณชายใหญ่คงไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอะไรต่อท่าน อีกอย่าง คุณชายใหญ่ไม่ได้เป็นคนที่มีใจขอโหดเหี้ยมพรรคนั้น” แม้ว่าจะไม่ได้รู้จักคุณชายใหญ่มากนัก แต่ก็แอบได้ยินจากสาวใช้ในจวนมาบ้าง ว่าแต่ไหนแต่ไรมา คุณชายใหญ่จะไม่ค่อยจะสุงสิงกับเรื่องใดๆ ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกว่านายหญิงจะได้รับอันตรายใดๆ “ช่างมันเถอะ ไม่ต้องคิดอะไรกันมากแล้ว พวกเขามีหรือไม่มีแผนการอะไร เราไปถึงเดี่ยวก็รู้เอง คนอย่างข้าหลินหมิ้นชิงไม่เคยอ่อนข้อให้กับผู้ใดอยู่แล้ว” แม้ว่าจะยังไม่รู้แน่ชัด ว่าพวกเขามีแผนการอะไรหรือไม่? หลินหมิ้นชิงไม่ได้ไปคิดต่อ ถ้าเกิดว่าพวกเขามีแผนการที่ไม่ชอบมาพาควรอย่างไร ไปถึงก็คงจะรู้เอง หลังจากพูดประโยคนั้นเสร็จ จึงมุ่งหน้าไปยังหน้าห้องทานอาหาร เพราะคำพูดของหลินหลิงเซียว ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารค่อนข้างจะเคร่งตึงยิ่งนัก สีหน้าของหลินไอ้ชิวดูออกว่าโกรธจนพูดไม่ออก และสีหน้าของคุณนายเฉิงเซี่ยงเองก็ไม่สู้ดียิ่งนัก ที่สำคัญคือพวกเขาต่างก็เกลียดหมินหมิ้นชิง สีหน้าอาการทั้งหมดของพวกนางอยู่ในสายตาของหลินหลิงเซียวตลอด สีหน้าเขานิ่งเรียบ ใบหน้าที่ดูดีไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมา ความคิดทุกคนที่อยู่ในที่นั้น นางกลับไม่ได้เก็บมาใส่ใจแม้แต่น้อย ไม่นาน หลินหมิ้นชิงก็มาปรากฏกายอยู่กลางสำรับอาหาร สายตาแวบแรกที่นางมองเห็นนั่นคือพี่ชายอย่างหลินหลิงเซียว เมื่อหลินหมิ้นเซียวมาปรากฏกายต่อสายตาทุกคน หลินหลิงเซียววางแก้วเหล้าในมือลง ใบหน้าหล่อเหลายากยิ่งที่จะเผยรอยยิ้มออกมาได้แบบนี้ เขาที่ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกไม่แยแสสิ่งใด ไม่ได้สนใจใครหรือเรื่องราวใดๆ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ตั้งแต่เมื่อคืนวานตั้งแต่แวบแรกที่พบกับหมินหมิ้นชิง เขากับมีความรู้สึกว่าผูกพันกับนาง “พี่ใหญ่” รู้ดีว่าหลินหลิงเซียวไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอะไรต่อตน หลินหมิ้นชิงจึงยิ้มมุมปาก พร้อมตะโกนเรียกพี่ใหญ่เสียงดัง “น้องชิง น้องมาแล้วหรอ” หน้าของหลินหลิงเซียวเปื้อนยิ้มอย่างจริงใจ กลับเปลี่ยนเป็นผู้ชายอบอุ่นขึ้นมามากโข หลินไอ้ชิวเห็นว่าเขาดีกับหลินหมิ้นชิงมากถึงเพียงนี้ ความอิจฉาก่อเกิดขึ้นมาเต็มอก พวกเขาโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก พี่ใหญ่คนนี้ มีท่าทีเย็นชาต่อตนตลอดมา แต่กับนางเด็กชั้นต่ำคนนี้กลับดีด้วยมากถึงเพียงนี้ ช่างไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว! หลินหมิ้นชิงเหลือบสายตามองข้ามแววตาริษยาคู่นั้น และพยักหน้าตอบกลับหลินหลิงเซียวอย่างพองาม “มานั่งนี่สิ มานั่งข้างๆพี่ใหญ่ตรงนี้เร็ว” หลินหลิงเซียวส่งสัญญาณมือ สั่งให้คนรับใช้รีบเอาเก้าอี้มาเพิ่มตรงข้างๆเขาอีกตัว หลินหมิ้นชิงรับรู้ถึงได้งแววตาของนายหญิงเฉินเซียงและหลินไอ้ชิวที่โกรธเกลียดจนปานจะกลืนกินตน คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย แต่ครู่ต่อมาก็ยังคงเลือกเดินเข้ามาตรงนั้น แม้ว่าผู้ที่ถูกตนเรียกว่าพี่ใหญ่จะไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจ แต่ทั้งสองก็ไม่นับว่าจะสนิทกันเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงยังรู้สึกเคอะเขินอยู่ ได้นั่งอยู่ข้างๆเขา หลินหมิ้นชิงเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรไปครู่ใหญ่เช่นกัน “งั้น เราเริ่มทานข้าวกันเถอะ” ความรู้สึกต่างๆในครานั้น หลินหลิงเซียวมองออกชัดเจน แต่เขาเลือกไม่ได้สนใจเท่านั้นเอง “พี่ใหญ่ นึกยังไงวันนี้เรียกข้าออกมากินข้าวด้วย แต่ไหนแต่ไรมาข้าก็ไม่เคยมาร่วมกินข้าวด้วยแบบนี้” หลินหมิ้นชิงหันหน้าไปมอง ใบหน้าที่หันข้างของหลินหลิงเซียว เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ นางรู้สึกประหลาดใจยิ่งนักที่อยู่ๆผู้ที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่ทำแบบนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ไม่นับว่าสนิทกันเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่เชิงว่าเป็นคนแปลกหน้ากัน วันนี้เขากลับเชิญตนมาร่วมวงกินข้าว ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเขามีเป้าหมายอะไรกันแน่ “วันนี้เป็นวันรวมญาติ เจ้าคือน้องสามของพี่ ย่อมมีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วม เมื่อก่อนเป็นพี่ที่มองข้ามไม่สนใจเจ้า ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป พี่ใหญ่จะดูแลเจ้าให้ดีกว่านี้” หลินหลิงเซียวมองหลินหมิ้นชิงด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน ด้วยแววตาที่ละมุนละไม ......อยู่ๆก็ได้ยินคำพูดแบบนี้ ยิ่งทำให้หลินมิ้นชิงตกใจเข้าไปใหญ่ ยิ่งหลินหลิงเซียวทำดีกับตน ก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ “พี่ใหญ่ วันนี้พี่เป็นอะไรกันแน่ พี่ดูเปลี่ยนไปอย่างประหลาด ทำไมพี่ถึงพูดดีกับนางเด็กต่ำต้อยนี้แบบนี้ ข้าต่างหากคือน้องสาวของท่าน แต่ท่านพี่กลับไม่เคยดีกับข้าเยี่ยงนี้มาก่อนเลย!” หลินอ้ายชิวข่มอารมณ์โมโหไม่ไหวจึงระเบิดออกมา นางชอบพี่ใหญ่มาตั้งแต่เล็ก อยากจะให้ดีกับนาง แต่เขากับนิ่งเย็นชาต่อนางมาโดยตลอด แม้ขนาดตอนพูดด้วย ก็พูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่ในวันนี้กลับทำดีต่อหลินหมิ้นชิงขนาดนี้ เรื่องนี้ทำให้นางไม่ยอมยิ่งนัก “น้องรอง พูดจาท่าทีอะไรแบบนี้? ดูสิทีท่าเจ้าตอนนี้ยังเหมือนคุณหนูผู้สูงศักดิ์อยู่ไหม?” หลังจากที่หลินหลิงเชียวได้ยินคำพูดของหลินไอ้ชิว สีหน้าเปลี่ยนไปโดยทันที น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยคำตำหนิและแฝงไปด้วยความรู้สึกอิดหนาระอาใจ ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลินไอ้ชิวซีดเผือดลงทันใด ผิ่นหน้ามองดูสายตาที่เกิดไม่สบายใจของหลินหลิงเซียว ตั้งแต่เด็กจนโต พี่ชายใหญ่คนนี้ของนาง ไม่เคยตำหนินางด้วยน้ำเสียงเช่นนี้มาก่อน แต่วันนี้เป็นเพราะหลินหมิ้นชิงแท้ๆเลย และอีกอย่างนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาตำหนินาง ในใจของหลินไอ้ชิวรู้สึกไม่ยุติธรรม ทั้งหมดนี้เป็นเพราะนางที่ชื่อหลินหมิ้นชิง เป็นคนแย่งความรักทั้งหมดของพี่ใหญ่ไปจากนาง พี่ใหญ่ควรจะมาเอาใจใส่ตนถึงจะถูก แต่ตอนี้พี่ใหญ่กับไปสนใจคนที่ตนเกลียดอย่างนาง “ท่านพี่ เมื่อก่อนท่านไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับน้อง กลับมาครานี้ท่านพี่เป็นอะไรไป ทำไมถึงดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคนแบบนี้ เมื่อก่อนท่านไม่ได้เป็นห่วงเป็นใยใครง่ายๆแบบนี้” หลินไอ้ชิวสูบลมหายใจ มองหลินหลิงเซี่ยวด้วยสีหน้าเสียใจ ขณะที่พูดประโยคนี้ น้ำเสียงก็เริ่มสะอึกอื้น “น้องชิว เจ้าคือน้องรองแห่งจวนเฉิงเซียง ทุกการกระทำคำพูดทั้งหมดของเจ้าล้วนส่งผลถึงชื่อเสียงของจวนเรา ต่อให้เจ้าไม่ชอบน้องสาม เจ้าก็แค่เก็บซ่อนไว้ในใจ อย่าแสดงมันออกมา เข้าใจไหม? อีกอย่าง เมื่อคืนวานข้าได้ยินมาว่า ในช่วงที่ข้าไม่อยู่จวนช่วงนั้น เจ้าก็ไปก่อเรื่องบางเรื่องไว้ ข้าหวังว่าจวนเฉิงเซียงของเราจะรักใคร่ปรองดองกัน ข้าไม่ชอบให้ที่ที่ข้าพำนักอยู่เต็มไปด้วยแผนการที่ไม่ดีต่างๆ” หลินไอ่ซิวที่ภายนอกดูอ่อนแอ ท่าทีที่เป็นมิตร แต่นิสัยจริงๆนางเป็นอย่างไร หลินหลิงเชียวรู้ชัดเจนดี เมื่อคืนวานหลังจากที่พบกับ หลินมิ้นชิงแล้ว เขารู้สึกว่าเหมือนนางจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคน และหลังจากได้สอบถามคนรับใช้ ถึงรู้ว่า ช่วงเวลาที่ตนไม่อยู่ มีเรื่องเกิดขึ้นเยอะแยะมากมายถึงเพียงนี้ ในคำพูดของหลินหลิงเซียวหมายถึงอะไรเขาได้แสดงเจตนาออกมาชัดเจน พอหลินไอ้ชิวฟังจบ สีหน้าเปลี่ยนไป มองไปยังแววตาของท่านพี่ กระวนกระวายอยู่ครู่หนึ่งและรีบเบือนหน้าหนี ตั้งแต่เด็กจนโต ท่านพี่ใหญ่ไม่เคยเตือนนางแบบนี้มาก่อน แต่ว่าวันนี้กลับแสดงตนเป็นปรปักษ์กับตนตลอด หรือว่าจะไปเข้าข้างคอยช่วยนางเด็กชั้นต่ำนี้จริงๆหรอ? “พี่ใหญ่ ข้าไม่เข้าใจท่านหมายถึงอะไร และข้าก็ไม่เข้าใจความหมายที่ท่านพูด ท่านไม่รู้อะไรเลยว่าช่วงที่ท่านไม่อยู่ นางหลินหมิ้นเซียงคนนี้รังแกข้าอย่างไรบ้าง พี่ใหญ่ เวลานี้คนที่ท่านจะช่วยคือข้าจึงจะถูก ทำไมท่านเอาแต่จะช่วยคนอื่นที่เป็นคนนอกกันเล่า!” หลินไอ้หลิงมองหลินหลิงเซียวอย่างไม่พอใจ ไม่ว่าจะพูดอย่างไง คำพูดทั้งหมดล้วนพูดเข้าข้างหลินหมิ้นชิง นางไม่ยอมแน่ ไม่ยอมจริงๆ!” ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่นานนี้ ไม่รู้ว่าหลินหมิ้นชิงกลั่นแกล้งนางไปกี่ต่อกี่ครั้ง พี่ใหญ่กลับมา หลังจากที่รู้เรื่องเหล่านั้น ก็น่าจะช่วยตนสิจึงจะถูกไม่ใช่หรอ? แล้วนี่ทำไมต้องไปช่วยคนนอกนั่นกัน! “คำพูดที่พี่ควรพูดพี่ก็บอกไปหมดแล้ว จะฟังหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่เจ้า” ไม่อยากเสียเวลาพูดกับหลินไอ้ชิวอีก หลังจากที่หลอนหลิงเซียวพูดประโยคนี้จบ ก็ยกแก้วเหล้าที่อยู่ไนมือ ขึ้นดื่ม ตั้งแต่ตนจนจบสีหน้าเขายังคงดูไม่มีอารมณ์ใดๆไม่เปลี่ยน ยังคงทำให้ผู้คนมองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ หลินหมิ้นชิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดที่เขาเตือนหลินอ้ายชิวให้ตัวเองเมื่อครู่นี้ ก็พลอยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา เธอข้ามภพมาอยู่ที่นี้ นอกจากสาวใช้คนสนิทอย่างเสี่ยวซิ้วแล้ว หลินหลิงเซี่ยวคือคนแรกที่ช่วยเธอ หลินหมิ้นชิงจึงรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา ถ้าเกิดว่าหลินหลิงเซี่ยวอยากจะช่วยเธอจริงๆจากใจ ต่อไปเธอก็จะไม่มองเขาเป็นศัตรูอย่างแน่นอน “พี่ใหญ่ ขอบคุณท่านมากที่วันนี้พูดช่วยข้ามากมายขนาดนี้ ข้ารู้ดีว่าคนที่อยู่ที่นั้นไม่ค่อยจะต้อนรับข้าเท่าไหร่ ดังนั้นข้าคิดว่าข้าจะไปจากที่นี้ดีกว่า แล้วก็.. ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ” หลินหมิ้นชิงไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดกับตัวเองยังไง แต่แค่ไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้ เพราะทุกคนที่อยู่ที่นี้ ไม่มีใครสนิทหรือเป็นญาติแม้แต่คนเดียว จะบอกว่ารวมญาติ แต่ตนกลับไม่ได้เกี่ยวพันใดๆกับคนในจวนเฉิงเซียงนี้เลย ยิ่งไม่สามารถที่จะเป็นคนในครอบครัวได้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 30 รวมญาติ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A