ตอนที่34 โลกนี้มันกลม   1/    
已经是第一章了
ตอนที่34 โลกนี้มันกลม
ต๭นที่34 โลกนี้มันกลม หลังจากที่เดินสำรวจบริเวณจวนเฉิงเชี่ยงแล้ว สุดท้ายหลินหมื้นชิงก็เลือกมุมที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก นั่งมองซ้ายมองขวาพอเห็นว่าไม่มีคนก็ออกแรงกระโดดขึ้นกำแพงโดยยืมแรงจากคำแพงเล็กน้อย นางปีนขึ้นบนกำแพงได้อย่างง่ายดาย เสี่ยวซิ้วเห็นคุณหนูของตัวเองกินขึ้นบนกำแพงได้อย่างง่ายดายก็เลยยืนอึ้ง นางกระพริบตาปริบๆอ้างปากค้างอยู่กับที่ "เหตุใดคุณหนูถึงได้ปีนขึ้นไปง่ายดายนักล่ะเจ้าคะ?คุณหนูไปเรียนวิทยายุทธมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?" เสี่ยวซิ้วทำหน้าตาตกใจสุดขีด นางรับใช้หลินหมื้นชิงมาตั้งหลายปี ไม่เคยรู้มาก่อนว่าหลินหมื้นชิงมีวิทยายุทธ แล้วเหตุใดถึงได้เก่งขึ้นกระทันหันล่ะ? "เอ่อ…...ที่ข้าใช้ไม่ใช่วิทยายุทธหรอก ข้าแค่จับเทคนิคแล้วยืมแรงจากกำแพงขึ้นมาเท่านั้นเอง ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเสียหน่อย จะรีบตามขึ้นมาได้แล้ว" การที่ตัวเองมีวิทยายุทธ หลินหมื้นชิงก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เสี่ยวซิ้วเข้าใจ เสี่ยวซิ้วเป็นหญิงสาวไร้เดียงสา พอได้ยินคำแก้ตัวของหลินหมื้นชิง นางก็ปักใจเชื่อไม่ได้คิดอะไรมากเลยแม้แต่น้อย เสี่ยวซิ้วยกหินมากองเพื่อปีนขึ้นกำแพง แต่ก็ยังสูงไม่พอที่จะปีนขึ้นไป พอเห็นท่าทางยากเย็นแสนเข็ญของเสี่ยวซิ้วแล้ว หลินหมื้นชิงจึงได้ยื่นมือไปจับแขนของเสี่ยวซิ้วแล้วออกแรงดึงนางขึ้นมา เสี่ยวซิ้วยืนเอนซ้ายเอนขวาอยู่บนกำแพงด้วยความกลัว ขาก็สั่นยืนก็ไม่นิ่ง "คุณหนู บ่าวกลัวเจ้าค่ะ" เสี่ยวซิ้วหลับตาไม่กล้ามองลงไปข้างล่าง เพราะกลัวจะตกลงไป "วางใจเถอะ เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าลงไปเอง ไม่ต้องกลัวนะ" เห็นท่าทีหวาดกลัวของเสี่ยวซิ้ว หลินหมื้นชิงไม่รีรอจับแขนนางแล้วกระโดดลงไปทันที พอลงถึงพื้น เสี่ยวซิ้วก็ลืมตาด้วยความกลัง ในใจก็ยังคงตกใจไม่หาย "คุณหนูเก่งจังเลยเจ้าค่ะ อุตส่าห์โดดลงมาจากที่สูงขนาดนั้นได้ ถามเราทั้งคู่ก็ไม่ได้มีแผลใดๆเลย บ่าวเริ่มรู้สึกนับถือคุณหนูมากขึ้นแล้วสิ" เสี่ยวซิ้วมองหน้าหลินหมื้นชิงด้วยแววตาปลื้มปริ่ม ตั้งแต่ที่หลินหมื้นชิงฟื้นจากอาการป่วย ก็มีแต่เรื่องที่ทำให้นางประหลาดใจได้ตลอด "ยังมีเรื่องที่เจ้าต้องนับถือข้าอีกเยอะโขเลยล่ะ อีกหน่อยก็จะรู้เอง" การที่ถูกเสี่ยวซิ้วชม ทำให้หลินหมื้นชิงแอบยิ้มมุมปากด้วยความภูมิใจ "คุณหนูเจ้าคะ ในเมื่อออกมาได้แล้วเราจะไปไหนกันหรือเจ้าคะ?" เสี่ยวซิ้วมองตลาดที่อยู่ไม่ไกลนักด้วยแววตาตื่นเต้น วันๆก็อยู่แต่ในจวน นางเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ออกมาข้างนอกนี้กี่ปีแล้วเหมือนกัน "เดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปกินของอร่อย ในสมัยนี้มีของทานเล่นอะไรที่อร่อยๆบ้างหรือไม่?" หลินหมื้นชิงเห็นตลาดที่อยู่ไม่ไกลนัก อารมณ์ก็ดีขึ้นมาไม่น้อย "บ่าวเองก็ไม่รู้เจ้าค่ะ บ่าวไม่เคยออกมาข้างนอกแบบนี้เหมือนกัน เรื่องข้างนอกนี้บ่าวได้ยินจากปากคนอื่นในจวนเขาเล่าต่อกันมาเท่านั้น ก็เลยไม่อาจรู้ได้เจ้าค่ะ" คำถามของหลินหมื้นชิงทำให้เสี่ยวซิ้วตอบไม่ถูกเสียจริง เพราะนางถูกขายเข้าจวนตั้งแต่ยังเด็ก คอยดูแลรับใช้หลินหมื้นชิงตลอดไม่เคยออกไปไหนเลยสักครั้ง "ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าไม่รู้งั้นเราก็เดินเล่นแถวๆนี้เลยละกัน แต่การแต่งตัวของพวกเราโดดเด่นเกินไป ข้าว่าเราไปหาชุดมาเปลี่ยนกันดีกว่า" หลินหมื้นชิงก็ไม่ได้ตั้งความหวังกับคำตอบของเสี่ยวซิ้วสักเท่าไหร่ หลินหมื้นชิงคนเก่าเป็นคนสติไม่ดี วันๆก็ถูกขังอยู่แต่ในจวน เสี่ยวซิ้วที่เป็นบ่าวรับใช้ ก็คงต้องดูแลนางอยู่ในจวนเท่านั้น หลินหมื้นชิงดึงมือเสี่ยวซิ้วเดินเข้าร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง นางหยิบเงินที่มีอยู่น้อยนิดบนตัวให้เจ้าของร้านไป สักพักก็เปลี่ยนชุดบุรุษเดินออกมาแทน หลินหมื้นชิงสวมเสื้อคลุมยาวสีเขียวอ่อนสวมทับผ้าชีฟองสีสว่าง รวบผมขึ้นเป็นมวย ดูโดยรวมแล้วให้ความรู้สึกหล่อเหลาไม่เบา "คุณหนูสวมชุดบุรุษแล้วงามเหลือเกินเจ้าค่ะ" เสี่ยวซิ้วมองหลินหมื้นชิงที่สวมชุดบุรุษด้วยแววตาเป็นประกาย "เสี่ยวซิ้ว ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปเจ้าจะเรียกข้าว่าคุณหนูไม่ได้แล้วนะ เจ้าควรจะเรียกข้าว่าคุณชายหรือท่านชายเท่านั้น ถ้าเกิดเจ้ายังเรียกข้าว่าคุณหนูคนอื่นเขาก็รู้กันหมดน่ะสิว่าเราปลอมตัวมา!?" "เจ้าค่ะ คุณ…...คุณชาย" พอหลินหมื้นชิงพูดจบ เสี่ยวซิ้วก็พยักหน้ารับทันที แต่จะให้เปลี่ยนคำเรียกกระทันหันแบบนี้นางก็รู้สึกแปลกๆเล็กน้อย "เราไปกันเถอะ พอเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษก็รู้สึกสะดวกขึ้นเยอะเลย ไม่มีใครดูออกแน่นอน" หลินหมื้นชิงเดินก้าวเท้ายาวตรงไปทางตลาด นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้มาเที่ยวตลาดของเมืองในสมัยโบราณแบบนี้ ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเต็มไปหมด พอมาถึงตลาด แม้จะไม่คึกครื้นเหมือนตลาดในสมัยปัจจุบัน แต่ก็มีของหลายอย่างที่หลินหมื้นชิงไม่เคยเห็นและไม่เคยชิมมาก่อน พ่อเห็นขนมทานเล่นพวกนี้แล้ว หลินหมื้นชิงก็รู้สึกหิวจนท้องร้องจ๊อกๆไปหมด "เสี่ยวซิ้ว บนตัวเจ้ายังมีเงินเหลือหรือไม่?" หลินหมื้นชิงมองขนมทานเล่นพวกนั้นด้วยแววตาหิวโหย ละสายตาออกจากของพวกนั้นไม่ได้เลยจริงๆ การที่เป็นคนสมัยปัจจุบันแล้วข้ามมิติมาเจออะไรแบบนี้ ทั้งอาหารทุกอย่างที่ไม่เคยเห็นไม่เคยชิม มันถือว่าเป็นความทรมานอย่างนึงที่ทรมานยิ่งกว่าการถูกฆ่าเสียอีก "ไม่มีเลยเจ้าค่ะ……." สายตาของเสี่ยวซิ้วมองจ้องไปยังขนมทานเล่นพวกนั้น นางเกิดความอยากจนน้ำลายแทบไหล แต่ด้วยการที่ไม่มีเงินทั้งคู่ก็ได้แต่มองอย่างสิ้นหวัง "จวนเฉิงเชี่ยงดูแลคุณหนูกันแบบนี้หรอ? แม้แต่เงินทองเล็กน้อยก็ไม่มีให้?" หลินหมื้นชิงขมวดคิ้วแน่น พอไม่มีเงินอารมณ์ดีๆก็ปลิวหายไปหมด น่าหงุดหงิดเป็นบ้า "คุณหนู…….." เสี่ยวซิ้วก้มหน้าก้มตาไม่พูดไม่จา "เอาเถอะ ในเมื่อจวนเฉิงเชี่ยงไม่ให้เงินกับเรา งั้นเราก็หาวิธีหาเงินเองก็ได้" พอเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของเสี่ยวซิ้ว หลินหมื้นชิงก็รีบเปลี่ยนหัวข้อทันที เพราะน้ารู้ว่าเสี่ยวซิ้วเป็นแค่บ่าว เรื่องหลายเรื่องนางก็ตัดสินใจอะไรไม่ได้ "แต่ว่าเราจะไปหาเงินได้จากที่ไหนล่ะเจ้าคะ?หรือไม่เราก็กลับกันเถอะนะเจ้าคะ?" เสี่ยวซิ้วไม่คิดว่าพวกเขาจะหาเงินได้หรอก เพราะในสมัยนี้การหาเงินเป็นเรื่องยากมาก ถามพวกเขาก็ไม่ได้มีเวลามากพอมาหาเงินด้วย "เรื่องแค่นี้ไม่ยากสำหรับคุณหนูของเจ้าหรอก จะคอยดูละกัน" หลินหมื้นชิงยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วทอดสายตามองไปยังตลาด ทันใดนั้นเอง ก็มีชายสวมชุดขาวมือถือพัด เดินเข้ามาในระยะสายตาของหลินหมื้นชิงพอดี ด้านหลังของชายคนนั้นมีผู้ติดตามมาด้วยหลายคน แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนมียศมีตังค์ หลินหมื้นชิงเรือนสายตาไปที่ถุงเงินตรงเอวของเขาทันที ถุงเงินตรงเอวของเขาพองป่อง ดูมีเงินอยู่ไม่น้อย "เสี่ยวซิ้ว เจ้ารอข้าที่นี่นะเดี๋ยวข้ากลับมา" หลินหมื้นชิงยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินตรงไปที่ชายคนนั้น "คุณ…...คุณชายจะไปไหนเจ้าคะ?" พอเห็นหลินหมื้นชิงเดินจากไปเสี่ยวซิ้วก็ได้แต่ยืนกังวลอยู่ที่เดิม เสี่ยวซิ้วอยากจะวิ่งตามไป แต่เมื่อกี้คุณหนูสั่งไว้ว่าให้นางยืนรออยู่ที่เดิม เสี่ยวซิ้วเพลงก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง แต่ในใจก็ยังคงกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เป้าหมายอยู่ตรงหน้าแล้ว หลินหมื้นชิงค่อยๆเดินเร็วขึ้นเรื่อยๆ ช่วงที่เดินผ่านตัวเป้าหมาย หลินหมื้นชิงก็ออกมือกระชากอย่างรวดเร็ว นางกระชากถุงเงินข้างเอวของชายหนุ่มมากำไว้ในมือ การกระทำอันรวดเร็วนี้ทำให้คนอื่นไม่อาจสังเกตทันได้ พอขโมยมาได้หลินหมื้นชิงก็ยกมุมปากยิ้มได้ใจทันที สิ่งที่เรียนมาจากศตวรรษที่ 21 พอมาถึงสมัยโบราณแบบนี้กลับได้ใช้พอดี โชคดีที่ชาติที่แล้วนางเป็นนักฆ่า เพราะถ้าเป็นคนธรรมดาคงได้ตายตั้งแต่ฟื้นมาวันแรกแล้วล่ะ ชายชุดขาวหยุดเดินแล้วหันไปมองหลินหมื้นชิงที่เพิ่งเดินผ่านเขาไป ชายหนุ่มยักคิ้วแล้วยิ้มมุมปากอย่างเซ็กซี่ เมื่อกี้ตอนที่ถุงเงินที่คาดอยู่ข้างเอวถูกขโมยไป จะมีเหรอที่เขาจะไม่รู้ เขาก็แค่ทำเป็นไม่รู้เท่านั้นแหละ กลางวันแสกๆแบบนี้ ริอาจมีคนกล้าขโมยถุงเงินของเขา เขานับถือความใจกล้าของขโมยนั้นเสียจริง "ท่านชายขอรับ คนเมื่อกี้ขโมยถุงเงินของท่าน เหตุใดท่านจึงไม่ห้ามละขอรับ?" ผู้ติดตามของชายชุดขาวถามด้วยความสงสัย "ไม่เคยมีใครกล้าขโมยของข้ามาก่อน นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเสียด้วยซ้ำ ข้าเริ่มรู้สึกสนใจคนคนนั้นเข้าล่ะสิ" มะเฟืองยิ้มมุมปาก สายตาของเขามองไปยังทางที่หลินหมื้นชิงจากไป แววตาเป็นประกายด้วยความน่าสนใจ "แต่ว่าท่านชายขอรับ เงินในถุงเงินของท่านมีอยู่ไม่น้อยเลยนะขอรับ ถ้าถูกขโมยไปก็เสียดายแย่" ถึงมะเฟืองจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ผู้ติดตามของเขาก็แอบเสียดายไม่น้อย "ไม่เป็นไรหรอกก็แค่เงินเล็กน้อย ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอก" หลังจากเดินจากมาไกล หลินหมื้นชิงก็หยิบถุงเงินในแขนเสื้อออกมานับ ในระหว่างที่นางกำลังยิ้มดีใจ ก็ได้มีดาบมาทาบไว้บนไหล่ของนางทันที หลินหมื้นชิงตกใจรีบเงยหน้าขึ้นไปมอง ในเสี้ยววินาทีที่นางเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเซียวชี่จือ ใจของหลินหมื้นชิงก็หล่นไปอยู่ตาตุ่มทันที สายตาเลิ่กลั่กไปมา "ภายใต้การดูแลของข้า ยังจะมีคนกล้าขโมยของอีก อยากตายนักหรือไง?" เซียวชี่จือนั่งอยู่บนม้า เขามองต่ำลงมาที่หลินหมื้นชิงด้วยสายตาเยือกเย็นเรากลับดาบที่คมกริบคอยควบคุมหลินหมื้นชิงไว้ "ในเมื่อท่านอ๋องจับได้คาหนังคาเขาเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะแก้ตัว จะฆ่าจะแกงก็เชิญ" ทีแรกหลินหมื้นชิงคิดจะแก้ตัว แต่พอเห็นว่าเป็นเซียวชี่จือ พอดูจากนิสัยของเขาแล้วคงไม่ฟังเหตุผลอะไรหรอก ในเมื่ออธิบายไปก็เสียเปล่า งั้นก็ยอมแต่โดยดีเลยละกัน เซียวชี่จืออึ้งเล็กน้อย แค่เสี้ยววินาทีในสมองของเค้ากลับมีใบหน้าของหลินหมื้นชิงลอยเข้ามา แต่คนตรงหน้าเป็นผู้ชาย ทำไมเขาถึงได้โยงเข้ากับหลินหมื้นชิงได้ล่ะ? กิริยาแน่วแน่ๆในตอนที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา เหมือนกับหลินหมื้นชิงไม่มีผิด เซียวชี่จือดึงสติตัวเองกลับมาแล้วมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้ง แววตาของเขาแสดงความอยากฆ่าคนออกมาอย่างเห็นได้ชัด "ได้!ถ้าเจ้าอยากตายนักข้าก็จะสนองเจ้าเอง" น้ำเสียงของเขาเย็นชาไม่มีความรู้สึกใดๆเลยแม้แต่น้อย หลินหมื้นชิงกลัวจนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะฆ่านางจริงๆน่ะ? นางก็แค่ขโมยเงินเพียงเล็กน้อย เซียวชี่จือคงไม่ถึงขั้นจะฆ่านางหรอก นางเป็นถึงพระชายาในอนาคตของเขา ถ้าเกิดเขาฆ่านาง อีก 10 วันข้างหน้าเขาก็ต้องแต่งงานกับผีน่ะสิ! "ท่านอ๋อง ท่านคงไม่คิดจะฆ่าข้าจริงๆหรอกใช่หรือไม่?" หลินหมื้นชิงเหล่ตาไปมองดาบที่ค้ำอยู่บทคอพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ถ้าบอกว่านางไม่กลัวตายงั้นก็คงเป็นคำโกหก นางพึ่งจะเกิดใหม่ยังอยากมีชีวิตรอดให้ได้นานกว่านี้ 
已经是最新一章了
加载中