ตอนที่ 52 ฟื้นขึ้นมา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 52 ฟื้นขึ้นมา
ต๭นที่ 52 ฟื้นขึ้นมา เซียวชี่จือเงยหน้ามองอู๋หชิง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำ สองวันที่ผ่านมา เขาสั่งให้อู๋หชิงจับตามองที่เรือนของหลินหมื้นชิงตลอดเวลา แต่ว่าผ่านไปสองวันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นจนถึงตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย ทำให้เขาเริ่มกังวล ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเป็นห่วงใครมาก่อนเลย แต่ว่าตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม ถึงได้เป็นห่วงหลินหมื้นชิงมาก เขาอยากรู้เรื่องของนางมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาถึงเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนี้ หากหลินหมื้นชิงผ่านมันไปไม่ได้ แล้วตายไปจริง ๆ การแต่งงานของพวกเขาสองคนก็ถือว่าสิ้นสุด ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางโทษเขา “เรียนท่านอ๋อง คุณหนูสามนางฟื้นแล้ว เมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน ตอนนี้น่าจะกำลังกินข้าวอยู่ขอรับ” หลังจากที่หมิงอ๋องถาม อู๋หชิงก็ตอบด้วยความสุภาพ ดวงตาของเซียวชี่จือเป็นประกาย ในใจก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เขาคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว “เอายาพวกนี้ส่งไปให้นาง นี่คือยาหนิงลู่ ลบรอยแผลเป็นได้” เซียวชี่จือวางขวดขาวบนโต๊ะ อู๋หชิงสีหน้าท่าทางการพูดแบบสั่งการ “ท่านอ๋อง ยาขวดนี้หายากมากเลยนะขอรับ ท่านจะมอบให้คุณหนูสามจริง ๆ หรอ?” อู๋หชิงมองไปที่ขวดยาที่อยู่บนโต๊ะ เขาตกใจแล้วมองจ้องไปยังเซียวชี่จือ เขาคิดว่าหูเขาฝาด ยาขวดนี้หายากมาก มีครั้งหนึ่งสนมของฮ่องเต้มีรอยแผลเป็น มาขอยากับท่านอ๋องของเขา ท่านอ๋องยังไม่ให้เลย ตอนนี้กลับให้กับคุณหนูสามของจวนท่านเสนาแบบง่าย ๆ อู๋หชิงจะไม่ตกใจได้ยังไง “ทำไม? เจ้ามีปัญหาอะไรกับข้าหรือไง?” คำพูดของอู๋หชิง ทำให้เซียวชี่จือขมวดคิ้วไม่พอใจ น้ำเสียงของเขาแข็งมาก ปกติเขาเป็นคนไม่ชอบพูดอะไรเป็นครั้งที่สอง คนรอบตัวของเขารู้ดีทุกคน แต่ว่าช่วงนี้อู๋หชิงกับท้าทายขีดจำกัดของเขา “ข้าน้อยพูดมากไป ข้าน้อยจะเอายาไปส่งเดี๋ยวนี้” เขารู้ว่าทำให้ท่านอ๋องของเขาโกรธแล้ว อู๋หชิงไม่กล้าพูดมากอีก หลังจากที่เขาพูดจบ ก็หยิบขวดยา แล้วออกไป หลังจากที่อู๋หชิงไปแล้ว เซียวชี่จือไม่ได้มีอารมณ์อ่านหนังสือต่อแล้ว ภายในใจเขาอยากจะไปเยี่ยมหลินหมื้นชิงมาก แต่ว่าเขากลับทนเอาไว้ ช่วงนี้ ในหัวของเขา มีแต่หน้าของหลินหมื้นชิงลอยเต็มไปหมด เขารู้สึกหงุดหงิดมาก ทำยังไงเขาก็ไม่สงบลงเลย ในห้องหลินไอ้ชิว นางนอนอยู่บนเตียงมาแล้วสองวัน ถึงแม้หมอจะบอกว่าไม่เป็นอะไรมากแล้ว แต่ว่านางก็ยังขยับตัวไม่ได้ แค่ขยับเบา ๆ ก็จะเจ็บไปทั้งตัว หลินไอ้ชิวพยายามลุกขึ้นมานั่ง นางคิดอยากจะลงจากเตียง แต่ว่ายังไม่ทันลุกขึ้นมา นางก็เจ็บจนต้องนั่งลงไปใหม่ ในตอนนี้หลิวซูอวิ๋นเดินเข้ามาพอดี เห็นนางนั่งกองลงกับพื้น ก็รีบเดินเข้ามา “ชิวเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมถึงไปนั่งที่พื้นอย่างนั้น? เจ้ายังไม่หายดี ทำไมไม่นอนอยู่บนเตียง?” หลิวซูอวิ๋นรีบพยุงนางขึ้นมา นางรู้สึกปวดใจที่เห็นนางเป็นแบบนี้ “ท่านแม่ ข้านอนอยู่บนเตียงตั้งสองวันแล้ว รู้สึกว่ากระดูกจะหักอยู่แล้ว ข้าอยากลุกขึ้นมาเดินสักหน่อย แต่ว่ายังไม่ทันได้ลุกขึ้น ก็เจ็บไปทั่งตัวแล้ว” หลินไอ้ชิวเจ็บจนน้ำตาไหล “แผลของเจ้ายังไม่หายดี รีบพักก่อนดีกว่า ช่วงนี้ก็อย่างเดินไปไหนมาไหน เกิดแผลฉีกขึ้นมาอีกจะทำยังไง?” หลิวซูอวิ๋นมองไปที่หลินไอ้ชิวด้วยความปวดใจ นางอดไม่ได้ที่จะกล่อมนาง “ท่านแม่ ตอนนี้ข้ามีสภาพแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะนังแพศยาหลินหมื้นชิง ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าไม่เคยโดนแบบนี้มาก่อน ที่ข้าต้องเป็นแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะนาง” พอนึกขึ้นมาได้ว่าจนตอนนี้ตัวนางยังลุกออกจากเตียงไม่ได้เลย หลินไอ้ชิวรู้สึกโกรธแค้นมาก ที่นางต้องเป็นแบบนี้เพราะหลินหมื้นชิง หากไม่ใช่เพราะนาง นางจะอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง? “ชิวเอ๋อร์ เจ้าอย่าเพิ่งคิดมากไปเลยนะ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดเจ้าต้องรักษาสุขภาพให้ดีก่อน เห็นเจ้าเป็นแบบนี้แล้ว ข้าปวดใจจริง ๆ” หลิวซูอวิ๋นจนปัญญาแล้วถอนหายใจ นางมองไปที่หลินไอ้ชิวด้วยสายตาที่เจ็บปวดมาก นางเป็นลูกสาวที่นางรักมากที่สุด แต่กลับถูกตีจนมีสภาพแบบนี้ จะให้นางทนไหวได้ยังไงกัน? “ท่านแม่ ที่ข้าต้องมีสภาพแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะหลินหมื้นชิง เรื่องนี้ข้าไม่ยอมจบแค่นี้แน่ ข้าจะต้องแก้แค้นนางให้ได้” หลินไอ้ชิวหน้าร้ายขึ้นมาทันที เมื่อคิดว่านางต้องเป็นแบบนี้ เป็นเพราะหลินหมื้นชิง นางก็โกรธจนอยากจะฆ่าคน “ชิวเอ๋อร์ แม่ว่า ช่วงนี้เจ้าอย่าเพิ่งไปหาเรื่องเด็กคนนั้นเลยนะ ตอนนี้หมิงอ๋องหนุนหลังนางอยู่ หากเจ้าไปหาเรื่องนางตอนนี้ มันไม่เป็นผลดีกับตัวเจ้าเลยนะ” หลิวซูอวิ๋นมองไปที่หลินไอ้ชิว เขาถอนหายใจด้วยความจนใจ นางอดไม่ได้ที่จะกล่อมนาง ถึงแม้ในใจของนางจะเกลียดหลินหมื้นชิงมากแค่ไหน อยากจะให้นางหายไปจากโลกไปตอนนี้เลย แต่หมิงอ๋องก็เป็นคนที่พวกเขาไม่ควรมีเรื่องด้วย “แต่ว่าหรือว่าจะให้จบเรื่องนี้ไปแบบนี้? ตั้งแต่เล็กจนโตข้าไม่เคยต้องโดนแบบนี้มาก่อน แต่ว่าเพราะนังตัวดีนั่น ทำให้ข้าต้องบาดเจ็บ เกือบตายไปแล้ว ข้ายอมไม่ได้จริง ๆ” ถึงแม้จะรู้ว่าที่แม่ของนางพูดมามีเหตุผล แต่ว่าหลินไอ้ชิวไม่อยากจะปล่อยไปง่าย ๆ นางเกลียดหลินหมื้นชิงเข้ากระดูกดำ นอกจากนางจะตายไป ไม่อย่างนั้น นางไม่มีทางยอมปล่อยนางไปแน่ “ชิวเอ๋อร์ นิสัยดื้อดึงของเจ้าควรจะเปลี่ยนได้แล้วนะ รู้ทั้งรู้ว่าหมิงอ๋องหนุนหลังนางอยู่ หากเจ้ายังจะไปหาเรื่องนางอีก เจ้ากำลังเล่นกับไฟนะ หรือว่าแค่นี้ยังเจ็บไม่พออีก?” หลิวซูอวิ๋นกังวลว่าหลินไอ้ชิวจะทำอะไรอีก เกิดไปมีเรื่องกับหมิงอ๋องขึ้นมาจริง ๆ ถึงเวลานั้นทั้งบ้านอาจจะไม่รอดเลย เรื่องแบบนี้จะให้เกิดขึ้นไม่ได้อีก “ท่านแม่ ท่านรักชิวเอ๋อร์มากที่สุด หรือว่าท่านไม่คิดจะช่วยชิวเอ๋อร์แล้ว หากท่านแม่ไม่ยอมช่วยข้า ข้าจะหาทางเอง” เดิมคิดว่าแม่ของนางจะต้องช่วยนางแน่ แต่คิดไม่ถึงว่า แม่ของนางกลับบอกให้นางปล่อยวาง หลินไอ้ชิวรู้สึกรับไม่ได้ นางเกลียดหลินหมื้นชิงมาก นางไม่มีทางปล่อยมันไปแน่ “ชิวเอ๋อร์ ที่แม่พูดแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับเจ้า แม่กังวลว่าหากเจ้าผิดใจกับหมิงอ๋อง ถึงเวลานั้นคนที่จะเสียเปรียก็คือเจ้า” นางถอนหายใจอย่างจนใจ “ข้าไม่สน นอกจากจะเห็นนางตาย ไม่อย่างนั้น ข้าไม่มีวันหายแค้น เราสองคนจะต้องมีคนหนึ่งรอด” หลังผ่านเรื่องในครั้งนี้แล้ว หลินไอ้ชิวยืนยันหนักแน่นว่าต้องการให้หลินหมื้นชิง นางไม่มีทางให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไป “ชิวเอ๋อร์ เจ้าเกลียดนางขนาดนั้นเลยหรอ?” สภาพของหลินไอ้ชิวเป็นแบบนี้มันทำให้หลิวซูอวิ๋นรู้สึกกลัว นางไม่รู้ควรจะเกลี่ยกล่อมยังไงดี “ใช่ ข้าเกลียดนาง นางอย่างทุกอย่างที่เป็นของข้าไป ข้าจะต้องให้นางตายให้ได้” สายตาของหลินไอ้ชิวร้ายมาก นางกำมือทั้งสองข้าง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและเกลียด “เอาล่ะ ช่วงนี้เจ้าก็พักผ่อนก่อน เรื่องของเด็กคนนั้น ไว้เราค่อยมาคุยกันวันหลัง รออีกสักพัก แม่จะช่วยเจ้าเอง” นางถอนหายใจด้วยความจนใจ หลิวซูอวิ๋นอยากจะทำให้หลินไอ้ชิวใจเย็นลง เพราะในเวลานี้ไม่เหมาะที่จะทำอะไร หลินไอ้ชิวแค้นมาก แต่ว่าในตอนนี้นางก็ทำอะไรไม่ได้มาก ทำได้แค่เกลียด ภายในเรือนชิงหย้วน หลังจากที่หลินหมื้นชิงกินบะหมี่ซุปใสไปถ้วยหนึ่งแล้ว ก็รู้สึกสบายตัวขึ้น ตอนที่นางสลบไปสองวัน นางไม่ได้กินอะไรเลย รู้สึกว่าหิวมาก “คุณหนู ท่านอิ่มหรือยัง? หากไม่อิ่ม ข้าจะไปทำให้ท่านอีก?” เห็นสีหน้าของหลินหมื้นชิงพอใจมาก เสี่ยวซิ้วก็อดยิ้มไม่ได้ “ไม่ต้องแล้ว ข้าอิ่มแล้ว ช่วงสองวันนี้เจ้าเฝ้าข้าตลอดไม่ได้พักเลย ตอนนี้ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้ารีบไปพักเถอะ” เสี่ยวซิ้วไม่ห่างนางเลยตลอดสองวัน นางเหนื่อยมาก ตอนนี้ขอบตาคล้ำมาก หลินหมื้นชิงเห็นแล้วก็อดปวดใจไม่ได้ “เสี่ยวซิ้วไม่เหนื่อย ข้าอยากอยู่กับคุณหนู คุณหนูเพิ่งจะฟื้น แผลยังเจ็บอยู่แน่ ข้าจะอยู่ที่นี่ คุณหนูอยากได้ออะไร ก็บอกข้าได้” ต่อให้นางจะเหนื่อยมากแค่ไหน แต่ว่าเสี่ยวซิ้วก็ไม่มีความคิดที่จะไปไหน คุณหนูของนางเพิ่งจะฟื้นขึ้นมา แผลยังไม่หายดี เกิดอยากจะกินน้ำ อยากจะได้อะไร นางจะได้อยู่คอยปรนนิบัติ “ไม่ต้องหรอก คุณหนูของเจ้าอดทนได้ แต่ว่าหากเจ้าไม่ยอมไปพัก เจ้าจะเหนื่อยเกินไป” เมื่อรู้ว่าเสี่ยวซิ้วเป็นห่วงนางมาก หลินหมื้นชิงก็รู้สึกอุ่นใจ ขณะที่นางกำลังพูดอยู่ ใบหน้าของนางก็อดยิ้มไม่ได้ “แต่ว่าเสี่ยวซิ้วไม่วางใจคุณหนู ให้ข้าอยู่ต่อดีกว่า?” หลินหมื้นชิงมองไปที่เสี่ยวซิ้วอย่างจนปัญญา ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้อยากจะอยู่ข้าง ๆ นางนักนะ “ก็ได้ ในเมื่อเจ้าอยากจะอยู่ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็นอนที่นี่ก่อน หากข้ามีอะไรจะเรียกเจ้าล่ะกัน” ถึงแม้เสี่ยวซิ้วจะเชื่อฟังมาก แต่ว่าเรื่องการดูแล นางไม่มีทางละเลยเด็ดขาด เสี่ยวซิ้วกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตู “ใคร?” หลังจากเสียงเคาะประตูดังขึ้น สีหน้าของหลินหมื้นชิงก็นิ่งลง นางถามอย่างระวัง “ข้าน้อยอู๋หชิง องครักษ์ประจำตัวของท่านหมิงอ๋องขอรับ” เสียงของอู๋หชิงนิ่งมาก ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ 
已经是最新一章了
加载中