ตอนที่71 สมรู้ร่วมคิด   1/    
已经是第一章了
ตอนที่71 สมรู้ร่วมคิด
ตอนที่71 สมรู้ร่วมคิด ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จรีภรณ์ก็ถูกใครบางคนดึงเข้าไปกอด “กำลังคิดอะไรอยู่หรือ?”ชนุตต์กระชับอ้อมกอดอย่างแนบชิด “ไม่มีอะไรค่ะ กำลังคิดถึงคุณอยู่” เธอมองชนุตต์ที่กำลังหัวเราะหยอกล้ออย่างกับเด็ก “คิดถึงขนาดไหนกัน ไหนลองพูดออกมาให้ผมฟังหน่อยซิ” “อย่ากวนสิคะ” เธอพูดตัดบทชนุตต์แล้วเดินขึ้นรถไป ชนุตต์จึงได้แต่เพียงยักไหล่แล้วเดินตามไป “ไปไหนดี?”ชนุตต์เอ่ยถามขณะขับรถ “กลับบ้านสิคะ” “จริงสิ คุณเลิกงานแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงไปอยู่ที่ร้านกาแฟได้ล่ะ ไหน คุณจะแอบทำอะไรไม่ดีลับหลังผมหรือเปล่า?”ชนุตต์นึกขึ้นได้จึงเอ่ยถาม “ไม่มีหรอกค่ะ นิรมลมาหาฉันน่ะค่ะ” เธอไปอย่างเรียบๆ “อะไรนะ?”ชนุตต์ตกใจ “เขามาหาคุณทำไม? เขาพูดอะไรกับคุณหรือเปล่า?ทำอะไรให้คุณลำบากใจไหม? ” เขาเอ่ยถามอย่างตึงเครียดเขารู้อยู่แล้ว ว่าผู้หญิงอย่างนิรมลทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่เธอต้องการ และเธอก็มาหาจรีภรณ์จริงๆ ให้ตายสิ รู้แบบนี้เขาน่าจะกำจัดเธอให้ออกไปให้พ้นๆซะ จรีภรณ์เห็นท่าทางตึงเครียดของชนุตต์แล้ว เธอจึงหัวเราะออกมา แล้วเอ่ยถามด้วยท่าทางเดายากนั่น “เขาไม่ได้ทำอะไรให้ฉันลำบากใจหรอกค่ะ แต่เขาแค่มาเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟัง น่าประทับใจจริงๆ” “เรื่องอะไรกัน? ผมบอกคุณไว้ก่อนเลยนะ ผมกับเขา เราไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น ผมไม่เคยไปสนิทสนมกับเขาเลยด้วยซ้ำ คุณก็รู้ เรื่องการเกี่ยวดองแต่งงานกันแบบนี้ ครอบครัวเป็นคนจัดการทั้งนั้น ผมกับเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้นนะ”ชนุตต์รู้สึกร้อนใจ ไม่แน่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะต้องมาสร้างเรื่องโกหกอะไรกับจรีภรณ์อีกแน่ “คุณใจเย็นๆก่อน” เธอหัวเราะเขา “ถ้าฉันเชื่อเขาล่ะก็ ฉันคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอกค่ะ” ชนุตต์ฉุกคิดตาม จึงกล่าวกับจรีภรณ์อย่างจริงจัง “คุณจำไว้นะ ไม่ว่าใครจะมาพูดอะไรกับคุณ คุณต้องไม่เชื่อพวกเขานะถ้าคุณสงสัย คุณจะต้องถามผมก่อน รู้ไหม?” “ฉันรู้ค่ะ ฉันเชื่อคุณ” จรีภรณ์มองชนุตต์ท่าทางจริงจังตั้งใจของชนุตต์ ในใจรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก หลังจากถึงบ้านแล้ว หนูดีวิ่งเข้าไปกอดจรีภรณ์เห็นชนุตต์ที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าขุ่นเคืองอยู่ทางด้านหลังมารดาตัวเองแล้ว เดินไปหาเขาพร้อมกับเอ่ยเรียกพ่อ นั่นทำให้ชนุตต์ยิ้มออกมาอย่างดีใจในทันที ช่วงค่ำๆจรีภรณ์ชวนให้ชนุตต์อยู่ทานข้าวด้วยกัน ในใจเขารู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก เขารู้สึกว่าเขาควรจะมีครอบครัวเช่นนี้ มีบ้านที่อยู่ด้วยกันกับเธอ ขณะที่จรีภรณ์ทำกับข้าว ชนุตต์ก็เล่นอยู่กับหนูดี ทั้งหมดนี้ดูให้ความรู้สึกอบอุ่นละมุนหัวใจเป็นอย่างมาก ความสุขที่เรียบง่ายธรรมดาๆเช่นนี้ เขาไม่เคยมีมาก่อน เขารู้สึกอยากรักษาและทะนุถนอมความรู้สึกตอนนี้ไว้ให้ได้มากที่สุด จิตใจที่โดดเดี่ยวของจิรภาส พาตัวเองขับรถมายังบ้านของจรีภรณ์เหมือนตามปกติ ช่วงนี้เขามักจะมาที่นี่เสมอ มาหยุดมองดูซักพักให้รู้สึกตัวเองสงบ จนกระทั่งค่อยๆกลายเป็นความเคยชินไปเสียแล้ว แต่พอเขาเห็นรถของชนุตต์จอดอยู่แล้วนั้น เขาก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาอีก เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขายังอยู่ด้วยกัน? นี่เขายังไม่เลิกกันหรือ? จิรภาสขมวดคิ้วเพื่อคิดไตร่ตรองอย่างละเอียด วันนี้ที่เขาได้ทราบข่าวมาว่านิรมลไปหาจรีภรณ์ นัดคุยกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง หลังจากที่เขาทราบ จิรภาสทั้งรู้สึกดีใจและกังวลใจไปพร้อมๆกัน ที่เขาดีใจเป็นเพราะเขารู้ว่าหากนิรมลไปหาจรีภรณ์คนที่มีแผนการแบบเธอนั้นจะต้องทำให้จรีภรณ์ยอมถอยได้แน่ๆ แต่ที่กังวลเพราะเขากลัวว่าเธอจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จากนิสัยที่ตรงไปตรงมาไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยม กลอุบายอะไร ไม่มีทางสู้กับนิรมลได้อยู่แล้ว ผู้หญิงที่ต่อสู้ในครอบครัวตระกูลที่มีทั้งเงินทองและอิทธิพลมาตั้งแต่เด็ก สำหรับเรื่องแบบนี้แล้วแทบไม่ต้องดิ้นรนพยายามอะไรเลย ไม่เหมือนกับจรีภรณ์ที่มีทั้งความคิดและจิตใจบริสุทธิ์เช่นนี้ แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? นิรมลไม่ได้บอกให้จรีภรณ์รู้?หรือว่าจรีภรณ์จะรักชนุตต์มาก มากขนาดนี้เชียวหรือ? จิรภาสรู้สึกประหลาดใจ การเปลี่ยนแปลงของจรีภรณ์ทำให้เขาต้องรู้สึกทึ่ง เมื่อก่อนเธอเกลืยดคนที่สุรุ่ยสุร่ายแบบชนุตต์เป็นที่สุด แต่ตอนนี้ล่ะ เกิดอะไรขึ้น? นิรมลไปหาเธอถึงขนาดนั้นแล้ว จรีภรณ์ยังคงรับมือได้อีกหรือ? เมื่อก่อนเธอไม่เคยไปแย่งชิงอะไรกับใครเพื่อตัวเอง แม้กระทั่งตอนหย่ากันเธอยังไม่ถามเขาเลยซักคำ แตกลับหย่ากับเขาไปอย่างสบายใจ แต่วันนี้กับชนุตต์คนนี้ไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ หรือเธอจะรักเขาแล้วจริงๆ? เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ในใจเขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีก เขายอมรับว่าเขาเริ่มรู้สึกหึงเธอขึ้นมาอีกแล้ว เขาคงทนเห็นจรีภรณ์แต่งงานกับชนุตต์ไม่ได้ เขารู้สึกว่าเขาจะต้องทำอะไรซักอย่าง เขายอมให้เธอเกลียดเขา และหาทุกวิธีเพื่อให้เธอมาอยู่ข้างๆเขา จิรภาสคิดอย่างร้อนใจ เพราะหากแม้แต่นพนาเขาก็จะไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน สองสามวันนี้ นพนาสังเกตเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบสงบเช่นนี้ นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกร้อนใจ เดิมทีเธอรอให้นิรมลจัดการกับจรีภรณ์ แต่กลับไม่คิดว่าช่วงสองสามวันนี้จรีภรณ์จะใช้ชีวิตได้อย่างชื่นมื่นเช่นนี้ ส่วนทางด้านนิรมลก็ไม่มีข่าวคราวอะไรเลยเช่นกัน นับตั้งแต่ที่เธอตั้งใจบอกเรื่องนี้ให้นิรมลรู้ เธอก็รอดูเกมนี้ต่อว่าจะเป็นเช่นไร เธอเป็นคู่หมั้นของชนุตต์ นิรมลไม่มีทางอ่อนมือให้กับจรีภรณ์เป็นแน่ หลายปีก่อนหน้านี้เธอเคยพบกับผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอนิรมล เธอก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ง่ายเลย เธอดูออกว่าต่อให้นิรมลจะแสร้งทำเป็นดีแค่ไหน แต่ก็ยังสามารถมองเธอออกได้อย่างทะลุปรุโปร่งอยู่ดี แต่ตอนนี้ล่ะ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือเธอจะมองผิดไป? ชญาภาที่มองดูคนเป็นแม่ท่าทางปวดหัวเช่นนั้น เธอจึงรู้สึกกระวนกระวายด้วยเช่นกัน จริงๆแล้วก่อนหน้านี้เธอรู้สึกได้ว่าจิรภาสเหมือนมีอะไรจะคุยกับเธอ และเธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่เขาจะบอกคือเขาต้องการจะเลิกกับเธอนั่นเอง แต่โชคดีที่ในตอนนั้นเธอยังพอมีไหวพริบอยู่บ้าง ใช้โอกาสในช่วงที่เขารู้สึกละอายใจทำให้เขายังไม่มีโอกาสได้พูดออกมา แต่ถ้าเป็นครั้งต่อไปล่ะ เธอจะทำอย่างไร? ชญาภากำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้า และขณะนั้นเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น ทำให้นพนาตกใจ เอ่ยถามเสียงเบา "ใครโทรมากัน แกทำให้แม่ตกใจนะ" พูดจบก็ส่งสายตาไปยังห้องหนังสือ พลางบอกให้สัญญาณว่าวันนี้ตรีภพอยู่บ้าน ชญาภาแลบลิ้นออกมา เมื่อสักครู่กำลังปรึกษากันว่าจะรับมือกับจรีภรณ์กันอย่างไร พอเสียงมือถือเธอดังขึ้น เธอยังคิดว่าในบ้านจะยังมีใครมาแอบฟังได้อีก กลัวใครจะมาได้ยินไปได้ นั่นทำเอาเธอตกใจเสียจนลืมรับโทรศัพท์เสียนี่ “รับสิ” นพนาจ้องมองเธอ “ค่ะ”ชญาภาเพิ่งจะรู้สึกตัว จึงรีบหยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นเบอร์แปลก เธอจึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยพลางมองไปที่มารดา แล้วกดรับสาย “ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใช่คุณชญาภาไหมคะ?” พอกดรับ ก็เป็นเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากทางปลายสาย “คุณคือใคร?”ชญาภาเอ่ยถามเนื่องจากได้ยินปลายสายเรียกเธอแบบนี้ จึงรู้สึกระวังตัวขึ้นมาทันที แต่คาดไม่ถึงว่าปลายสายจะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ“สวัสดีคุณชญาภา ฉันนิรมลเอง คู่หมั้นของชนุตต์ ฉันอยากจะคุยกับคุณ” คำพูดของนิรมลทำเอาเธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อซักครู่ที่เธอรู้ว่าเป็นนิรมล เธอเกือบจะโยนมือถือทิ้งไปเสียแล้ว “เรื่องอะไร?”ชญาภาเอ่ยถามอย่างเคร่งเครียด ดูแล้วเธอกับนิรมลไม่ได้มีความแค้นต่อกัน ทำไมนิรมลถึงต้องการพบเธอ แต่เมื่อมารดาได้ยินลูกสาวถามเป็นเช่นนั้น นพนากลับรู้สึกหงุดหงิด รู้สึกว่าลูกสาวตัวเองโง่เสียจริงๆ เรื่องอะไร ยังจะมีเรื่องอะไรอีกหรือ ตอนนี้พวกเขาต้องอยู่ฝั่งเดียวกันสิ แน่นอนว่าเรื่องที่จะคุยก็ต้องเป็นเรื่องที่จะจัดการกับจรีภรณ์ ยังจะต้องถามอีกหรือ? แต่ดีตรงที่ปลายสายไม่ได้สนใจในท่าทีของชญาภาเลย กลับพูดต่อ “แน่นอนว่าฉันจะต้องพูดในเรื่องที่คุณสนใจสิ อย่างเช่น จะจัดการกับจรีภรณ์อย่างไร” นิรมลทำให้ชญาภารู้สึกอึ้ง และเธอกำลังจะเอ่ยถามต่อ แต่กลับถูกขัดด้วยสายตาของผู้เป็นมารดา และทำสัญญาณมือส่งให้ลูกสาวตัวเอง ชญาภาเห็นท่าทางร้อนใจของมารดาแล้วนั้น รู้ว่านพนากำลังว่าตัวเองอยู่ จึงเอ่ยปากรับคำกลับไป “ได้ นัดสถานที่มาได้เลย ไว้ไปคุยกันที่นั่น” “พรุ่งนี้ สิบโมงเช้า เจอกันที่ร้านกาแฟมิลาน” “ได้”ชญาภาตอบรับกลับไปทันที หลังจากที่วางสายไปแล้วนั้น เธอมองมารดาตัวเองอย่างกังวล เมื่อซักครู่เธอเกือบจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับไปแล้ว ยังดีที่นพนาอยู่กับเธอแบบนี้ “แกนี่ ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ” นพนาชี้ไปยังชญาภา เมื่อซักครู่ถ้าเธอไม่อยู่ด้วยคงแย่แน่ๆ ลูกสาวคนนี้ของเธอบางทีก็โง่จริงเชียว ไม่แปลกเลยที่ผ่านมานานขนาดนี้แล้วยังจัดการจิรภาสไม่ได้ซักที “แม่ แม่ว่าเขามาหาเราแบบนี้ หมายความว่าอะไรหรือ?” “จะเรื่องอะไรล่ะ? ก็ต้องมาหาแกเพื่อขอความร่วมมือจากแกน่ะสิ” นพนามองลูกสาวตัวเองอย่างหงุดหงิด “แต่ว่าแม่ ทำไมอยู่ดีๆถึงมาหาหนูล่ะ? แม่บอกเองไม่ใช่หรือว่าที่นิรมลมาที่เมืองซูก็เพื่อจะมาจัดการกับจรีภรณ์ไม่ใช่หรือ?” “เขามาเพื่อจัดการกับจรีภรณ์น่ะไม่ผิดหรอก แต่ตอนนี้น่ะ แม่คิดว่านิรมลเป็นฝ่ายโดนจรีภรณ์จัดการเองเสียมากกว่า” นพนาหัวเราะกับลูกสาวตัวเองอย่างเยือกเย็น นิรมลทำให้เธอผิดหวังจริงๆ เดิมคิดว่านิรมลจะทำให้จรีภรณ์ทนไม่ได้ ไม่คิดว่าจะไม่มีประโยชน์เช่นนี้ “หา?”เมื่อชญาภาได้ฟังผู้เป็นมารดาแล้วรู้สึกตกใจ เท่าที่เธอรู้จรีภรณ์ไม่ใช่คนที่จะมาใส่ใจเรื่องพวกนี้ไม่ใช่หรือ? แล้วอีกอย่างที่ได้ยินมารดาเคยพูดไว้ ว่านิรมลไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แล้วจะถูกจรีภรณ์สั่งสอนได้อย่างไรกัน? “ถ้าแม่เดาไม่ผิดล่ะก็ นิรมลมาที่เมืองซูคนแรกที่ไปหาก็คงจะเป็นจรีภรณ์เพื่อจะไปแสดงตัวให้จรีภรณ์ได้รู้ตัว แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกจรีภรณ์บีบไปแบบนั้น ดูแล้วมันจะฉลาดขึ้นมาเยอะเลยนะ” นพนานึกถึงครั้งที่แล้วที่เธอเคยไปเจอนิรมลอยู่กับจรีภรณ์ ตอนนั้นจรีภรณ์เดินกลับออกมา ทิ้งไว้เพียงนิรมลที่ดูเหมือนท่าทางโมโหเป็นฟืนเป็นไฟเพียงลำพัง จริงๆแล้วตอนนั้นเธออยากจะเข้าไปทักทายนิรมล แล้วยั่วยุนิรมลเสียหน่อย แต่วันนั้นเธอดันอยู่กับอาจารย์ธิพล จึงรู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไรเธอก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของตรีภพ หากให้คนอื่นรู้ล่ะก็วันดีๆของเธอคงจะต้องสิ้นสุดลงเป็นแน่ พอนึกถึงท่าทางอาจารย์ธิพลเวลาออกแรงกับเธอเมื่ออยู่บนเตียงแล้วนั้น ก็อดไม่ได้ที่รู้สึกร้อนๆบนใบหน้า เมื่อก่อนเวลาเธอรู้สึกเหงาเธอจะออกไปหาหนุ่มหล่อๆหน้าตาดีข้างนอก แต่ไม่มีใครที่จะเก่ง เชี่ยวชาญและสามารถทำให้เธอรู้สึกดีได้เท่าเขาเลยซักคน ชญาภาไม่ได้สังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงของผู้เป็นมารดา แต่กลับถามกลับไปด้วยความกังวล “แล้วตอนนี้เราจะทำอย่างไรล่ะแม่?”
已经是最新一章了
加载中