ตอนที่78 นั่นคือลูกของเธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่78 นั่นคือลูกของเธอ
ตอนที่78 นั่นคือลูกของเธอ เช้าวันรุ่งขึ้น ตรีภพมาหาจรีภรณ์ที่ห่างเหินกันไปนาน มองไปยังจรีภรณ์ที่กำลังเล่นอยู่กับเด็กน้อยคนหนึ่ง เมื่อวานเขาได้ยินข่าวว่าลูกสาวเลิกกับชนุตต์แล้ว ทำให้เขาทั้งโมโหทั้งร้อนใจ หากรู้ว่าเด็กนั่นจะทิ้งลูกสาวเขาเช่นนี้ ก่อนหน้านี้เขาจะไม่ยอมยกที่ดินแถวเฉิงตงให้เขาเป็นอันขาด แต่ยังดี ที่ตอนนี้ความสุขของลูกสาวดูดหมือนไม่เพียงแต่ไม่ลดลงแล้ว เขายังได้รับโครงการใหญ่มาอีกหนึ่งโครงการอีกด้วย คิดมาถึงตรงนี้ในใจกลับรู้สึกโหวงๆ จะว่าไปลูกสาวก็เช่นกัน เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมเธอไม่บอกคนเป็นพ่ออย่างเขาเลยซักคำ? สรุปแล้วเขายังเป็นพ่อเธออยู่รึเปล่า จะให้เขาไม่ต้องสนใจเธอเลยอย่างนั้นหรือ? ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ได้นึกถึงลูกสาวของตัวเองเลย เขารู้ ว่าเรื่องราวตอนนั้นเป็นเขาเองที่เป็นคนผิด แต่ว่าผ่านไปหลายปีขนาดนี้แล้ว ทำไมเธอถึงยังไม่ยกโทษให้เขาเสียที เขารู้ว่าเธอเป็นหัวแข็ง แต่ไม่คิดว่าดื้อขนาดนี้ ตรีภพค่อยๆเดินลงมาจากรถ เขาเงยหน้าขึ้นมองพิจารณาที่นี่อย่างละเอียด ยิ่งทำให้รู้สึกถึงรสชาติของชีวิตขึ้นไปอีก ภรรยาและลูกสาวของเขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ เพียงแต่ลูกสาวที่เขารักที่สุดคนนี้กลับอยู่ที่นี่เพียงลำพัง ไม่ได้ เขารู้สึกว่าเขาจะทนดูลูกสาวตัวเองใช้ชีวิตด้วยความลำบากเช่นนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว วันนี้เขาจะต้องคุยกับเธอ จึงเดินไปทางจรีภรณ์ “ลูก” ตรีภพเดินไปหยุดอยู่ตรงด้านหลังของจรีภรณ์พร้อมส่งยิ้มไปให้เธอ จรีภรณ์หันมามองทางต้นเสีย ขมวดคิ้วถามกลับไปอย่างระแวดระวัง “พ่อมาทำไมคะ?” “พ่อมาหาลูกน่ะ” ตรีภพมองเธอด้วยใบหน้าอันแสนอ่อนโยน เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูจะระวังตัวเองของเธอแล้ว ทำให้ในใจของเขารู้สึกสลดลงเล็กน้อย “มาหาฉัน?” เธอหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ท่านนายกมีเวลาว่างถึงขั้นมาหาฉันถึงในเมืองชนบทแบบนี้เลยหรือคะ?” เมื่อเห็นความเย็นชาของลูกสาวตัวเองแล้วนั้นตรีภพรู้สึกเสียใจยิ่งนัก เขาเอ่ยกับจรีภรณ์ด้วยใบหน้าที่จริงจัง “พ่อผิดเอง ตอนนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความสับสนของพ่อเอง ลูกยกโทษให้พ่อได้ไหม?” “ยกโทษให้คุณ? คุณสมควรกับการยกโทษให้หรือ? ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะคุณออกนอกลู่นอกทางก่อน แม่ก็คงจะไม่ผิดหวังเสียใจ แล้วก็คงเป็นเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น คุณตรีภพคะ แค่คำว่าให้อภัยคุณคิดว่าจะลบล้างทุกอย่างได้อย่างนั้นหรือคะ?คุณคิดผิดแล้วล่ะค่ะ” เธอมองเขาอย่างโกรธแค้น ในสายตาของเธอเขาก็ไม่ต่างไปกับจิรภาส คนที่ออกนอกลู่นองทางหักหลังชีวิตการแต่งงาน คนแบบนี้สมควรแก่การให้อภัยได้อย่างไร? “ไม่ใช่อย่างนั้นลูก ฟังพ่อก่อน” ตรีภพอธิบายอย่างร้อนใจ “ตอนนั้นพ่อกับแม่ของลูกเรารักกันมาก หากไม่ใช่เพราะเหล้าในครั้งนั้น พ่อไม่มีวันหักหลักแม่ของลูกแน่นอน ตอนนั้นนพนากับแม่ของลูกเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกันมาก และตอนนั้นพ่อก็ดื่มหนักไป แล้วก็เกิดเรื่องแย่ๆเหล่านั้นขึ้น ตอนนั้นนพนาก็บอกกับพ่อว่าไม่ต้องให้พ่อรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น เธอจะเก็บไว้เป็นความลับ และเพราะเหตุนี้ พ่อเองก็รู้สึกผิดมาตลอด จนมาวันที่แม่ของลูกเกิดอุบัติเหตุ พ่อถึงรู้ว่าเธอตั้งท้อง และเด็กคนนั้นก็เป็นลูกของพ่อ พ่อไม่รับผิดชอบไม่ได้ จึงรับพวกเขาเข้ามาอยู่ที่บ้าน....” ตรีภพยังเคยพูดถึงเรื่องในตอนนั้น รู้สึกละอายใจยิ่งนัก แต่คำพูดเหล่านี้จรีภรณ์กลับยิ่งคิดว่าเป็นล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น เธอมองตรีภพกลับไปอย่างเย้ยหยัน “แล้วกับคนที่ไปแย่งคนอื่นมาแบบนี้ยังเรียกว่าคนดีได้อีกหรือเปล่าคะ? ดูเหมือนคุณจะรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณเขามากเลยสินะคะ” “ไม่ใช่แบบนั้นนะลูก พ่อสาบานได้ ว่านับตั้งแต่ครั้งนั้นพ่อกับนพนาก็ไม่ได้มีการคบหาอะไรกันอีกเลย แล้วก็ไม่เคยไปเจอกันเป็นการส่วนตัว จนกระทั่งแม่ของลูกจากไป พ่อถึงรู้สถานการณ์ของเขา” “ท่านนายกคะ” จรีภรณ์มองเขากลับอย่างดูแคลน “ถ้าคุณรักแม่ฉันจริงล่ะก็ หลังจากที่เกิดเรื่องนั้นแล้วคุณก็ควรจะบอกกับแม่ ขอให้แม่ให้อภัยคุณสิ ไม่ใช่ว่าปิดบังมาตลอด คุณยังกล้าพูดว่าการตายของแม่ยังไม่เกี่ยวกับคุณอีกหรือคะ? หากไม่เป็นเพราะแม่เสียใจมากมายขนาดนั้น ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แต่พอมาตอนนี้ คุณกลับลบล้างทุกอย่างด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ จนกระทั่งแม่ตายไป ถ้าคุณไม่ทำแบบนั้น แม่จะตายไหม?” “พ่อรู้ พ่อผิดเอง” ตรีภพมองจรีภรณ์อย่างละอายใจ “คุณอย่าพูดเลยค่ะ ตอนนั้นคุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบแม่ลูกคู่นั้น แต่คุณก็ยังรับพวกเขาเข้ามาในบ้าน คุณตรีภพ คุณพูดว่าคุณละอายใจ มีอะไรให้คุณต้องรู้สึกแบบนั้นคะ สุดท้ายแล้วก็ไม่ใช่เพราะยศตำแหน่งของคุณหรอกหรือ? เท่าที่ฉันรู้ ตอนนั้นคงเป็นตอนที่คุณได้รับตำแหน่งใหม่มานี่ หากให้คนอื่นรู้ว่าคุณมีบ้านเล็กบ้านน้อย เกรงว่าชีวิตทางการเมืองของคุณคงจะต้องสิ้นสุดลงสินะคะ” คำพูดเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของตรีภพกลายเป็นสีแดง เขาไม่คิดเลยว่าลูกสาวของเขาจะมองปัญหาได้ละเอียดถึงเพียงนี้ ยิ่งทำให้เขาไม่กล้ามีหน้าที่จะมองเธอ และในตอนนั้นเอง หนูดีเดินออกมาจากตรงนั้น แล้วเข้ามากอดเธอ “แม่ครับ คุณตาคนนี้เป็นใครหรือครับ ดูเหมือนแม่กำลังโกรธเลย” “หนูดีครับ ฟังแม่นะ เรื่องของผู้ใหญ่เด็กๆไม่ควรถามนะครับ ไป เดี๋ยวแม่พาหนูดีไปเล่นนะครับ” จรีภรณ์มองหนูดีอย่างอบอุ่น นั่งลงเพื่ออุ้มหนูดีขึ้นมา โดยไม่ได้สนใจตรีภพที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความตกตะลึง จนกระทั่งจรีภรณ์อุ้มเด็กคนนั้นแล้ว เขาจึงดึงสติกลับมา เขามองไปยังจรีภรณ์และหนูดีอย่างประหลาดใจ เขารู้สึกในหัวสมองของเขาประมวลผลอะไรไม่ได้เลย คำที่เรียกแม่ของเด็กคนนั้นเขาก็ได้ยินอย่างชัดเจน เด็กคนนั้นเรียกจรีภรณ์ว่าแม่ เรียกว่าแม่เช่นนั้น ลูกสาวของเขาก็หย่ากับจิรภาสไปแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วเด็กคนนั้นมาจากไหน หรือเป็นเด็กที่เธอรับมาเลี้ยงดู? ตรีภพจ้องมองหนูดีแล้วพิจารณาอย่างละเอียด แต่ยิ่งมองก็ยิ่งไม่ใช่ เด็กคนนี้ดูเหมือนจรีภรณ์ราวกับออกมาพิมพ์เดียวกันขนาดนี้ จะเป็นเด็กที่รับเลี้ยงมาได้อย่างไร และเมื่อสักครู่สายตาของคนเป็นแม่ที่มองลูก เขาเห็นมันได้อย่างชัดเจน ว่าเช่นนั้นแล้วแสดงว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของลูกสาวของเธอ หลานของเขา เขาจะได้เป็นคุณตาแล้ว คิดได้ดังนั้นตรีภพจึงรีบเดินไปยังจรีภรณ์แล้วเอ่ยถามอย่างดีใจ “ลูกของลูกหรือ?” เธอมองตรีภพ พลางหัวเราะเยาะแล้วตอบกลับไป “ใช่ค่ะ” “เขาเป็นลูกของหนูจริงๆหรือ?” เขาถามกลับซ้ำอีกครั้งด้วยความตื่นเต้น “ทำไมคะ? ฉันมีลูกมันแปลกตรงไหนหรือคะ?” เธอถามกลับ “ไม่เลย ไม่ ทำไมลูกไม่บอกพ่อให้เร็วกว่านี้ว่าลูกมีลูก ถ้าลูกบอกให้เร็วกว่านี้ พ่อจะไม่ยอมปล่อยให้พวกหนูออกมาลำบากแบบนี้ หรือมารับพวกหนูให้กลับไปอยู่ที่บ้านให้เร็วกว่านี้” “ท่านนายกคะ จะไม่ถามหน่อยหรือคะว่าเด็กคนนี้เป็นลูกใคร?” แววตาของเธอแฝงความไม่จริงจังนั่นไว้ “ลูกใครหรือ?” “ถ้าฉันบอกว่าเขาเป็นลูกของจิรภาส ไม่รู้ว่าท่านนายกจะยอมให้ลูกสาวสุดที่รักของท่านยอมตัดใจรึเปล่านะคะ?” “จิรภาส?” ตรีภพรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ค่อนข้างกระชั้นชิดเกินไปจนเขาตั้งตัวรับมือไม่ทัน ชญาภาหมั้นกับจิรภาสไปแล้ว หากตอนนี้ให้ชญาภาถอนตัวเองออกมาจะเป็นการฝืนใจเธอเกินไปหรือเปล่า แต่ในเมื่อจิรภรณ์เอ่ยออกมาเองแล้วนั้น ไม่ว่าอย่างไร เขาก็แคร์ลูกสาวคนนี้อยู่แล้ว จรีภรณ์มองแววตาที่ดูลังเลของเขาแล้วนั้น ในใจรู้สึกเย็นชาขึ้นไปอีก “ทำไมคะ? ท่านนายกรู้สึกเจ็บปวดงั้นหรือ?” “ไม่ใช่ลูก พ่อแค่ตกใจไปหน่อย เรื่องเด็กคนนี้ลูกไม่เคยบอกพ่อเลย” ตรีภพรู้ว่าเมื่อสักครู่ความลังเลของเขาทำให้ลูกสาวตัวเองไม่พอใจ จึงรีบอธิบาย “คุณวางใจเถอะค่ะ เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของจิรภาส หรือถ้าใช่ ฉันก็ไม่กลับไปหาเขาหรอก” “แล้วเด็กคนนี้คือลูกใคร?” ได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกโล่งใจ “เด็กคนนี้เป็นลูกของผู้ชายอีกคน เดิมทีหลังลูกคลอดออกมาแล้วเราจะแต่งงานกัน แต่เสียดาย ที่เขาเกิดอุบัติเหตุเข้าเสียก่อน” ใบหน้าของจรีภรณ์ปรากฏให้เห็นถึงความเจ็บปวดเสียใจ นอกจากที่ว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเขาแล้วนั้น เธอรู้สึกเสียใจจริงๆ ได้ยินสิ่งที่ลูกสาวตัวเองบอกกับเขาแล้วนั้นกลับยิ่งรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีก เขาไม่เคยรู้เลยว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้จรีภรณ์ทนทุกข์ลำบากถึงเพียงนี้ “กลับไปอยู่บ้านเรานะลูก พ่อสัญญาว่าหลังจากลูกกลับไปพ่อจะดูแลลูกเป็นอย่างดี” “กลับไปอยู่บ้านกับคุณหรือคะ?” เธอหัวเราะอย่างเย็นชา “ท่านนายกไม่กลัวตกเป็นเรื่องซุบซิบนินทาหรอกหรือคะ? หากมีคนไปขุดคุ้ยเรื่องเมื่อก่อน แล้วหน้าที่การงานของคุณล่ะคะ?” “ลูกไม่ต้องกังวลไป พ่อคิดดีแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปให้พ่อได้ดูแลหนูได้ไหม พ่อจะไม่มีวันทำให้หนูเจ็บปวดอีกแล้ว” ตรีภพมองจรีภรณ์ด้วยความเสียใจ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ควรค่ากับการเป็นพ่อคนเอาเสียเลย ลูกสาวเผชิญกับการใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพียงลำพัง แล้วยังมีเจ้าตัวน้อยนี่อีก เป็นความยากลำบากที่รับรู้ได้ โทษเขาเพียงคนเดียว โทษเขาที่แทบจะไม่มีเวลามาดูแลเธอเลย มิเช่นนั้นเขาจะไม่ยอมให้เธอต้องลำบากเช่นนี้ “หรือคะ? ดูแล้วคุณคงคิดวิธีรับมือไว้แล้วสินะคะ แต่อาจจะต้องทำให้คุณผิดหวัง เพราะฉันคงไม่กลับไปกับคุณ ฉันไม่สามารถอยู่ร่วมชายคากับแม่ลูกคู่นั้นได้ ฉันรู้สึกรังเกียจ” “จรีภรณ์ลูก” “คุณกลับไปเถอะค่ะ ฉันจะไม่กลับไปกับคุณ นอกเสียจากคุณจะให้พวกเขาย้ายออกไป มิฉะนั้นก็เสียเวลาเปล่าค่ะ” เธอปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด ตรีภพเห็นท่าทางที่ยังคงยืนกรานของจรีภรณ์เช่นนั้น จึงได้แต่ถอนหายใจแล้วกลับไป เมื่อตรีภพกลับไป จิรภาสก็เดินลงมาจากรถ เขาเดินไปยังจรีภรณ์แล้วคว้ามือเธอไว้เอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “จรีภรณ์ คุณบอกผม คุณกับคุณตรีภพเกี่ยวข้องเป็นอะไรกัน?”
已经是最新一章了
加载中