บทที่ 16 หนูจะพยายามเรียนรู้จากพี่มาให้ได้มากที่สุดค่ะ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 16 หนูจะพยายามเรียนรู้จากพี่มาให้ได้มากที่สุดค่ะ
บ๗ที่ 16 หนูจะพยายามเรียนรู้จากพี่มาให้ได้มากที่สุดค่ะ นภสรจ้องนรมนตาขวาง สิ่งที่บิดจากความเป็นจริงนั้นอยู่คู่กับชีวิตเธอมาตลอด คืนนั้นของเธอกับปองพล มันเป็นเรื่องไร้สาระจริงๆ อาจจะเพราะว่าในใจมีความรู้สึกผิดต่อเขา เธอจึงรู้สึกว่าปองพลไม่ใช่ผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องแบบนั้น “คุณปู่คะ คุณปู่จะว่าหนูยังไงหูนไม่สนใจหรอก แต่คุณปู่อย่าด่วนปรักปรำคนที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันแบบนี้ได้มั้ยคะ คุณปู่คือผู้มีอำนาจในบ้านไชยกาล คุณปู่มีศักดิ์ศรี มีวิจารณญาณของตัวเอง อย่าให้คนอื่นมาชักนำไปในทางที่ผิดแบบนี้เลยค่ะ” นภสรมองนรมนด้วยสายตาเย็นยะเยือก ใบหน้าที่สดใสนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา เพิ่มเสน่ห์ให้เธอเป็นเท่าตัว นรมนเม้มปากไม่ยอมพูดอะไร ผู้ชายมากมายต่างก็ชอบท่าทีที่ดูเย็นชาของนภสร เพราะฉะนั้นจึงพยายามคิดหาวิธีทำลายชื่อเสียงของเธอมาโดยตลอด แต่ไม่คิดเลยสุดท้ายแล้วจะยังมีคนยอมแต่งงานกับเธอจริงๆ เธอคิดว่าผู้ชายคนอื่นๆที่เข้าหานภสร ส่วนมากก็แค่มาเล่นๆกับเธอเท่านั้น “ไม่สนใจงั้นเหรอ? แกหาว่าฉันปรักปรำแกงั้นเหรอ?” ธมกรโกรธจนไม่อาจหยุดยั้งได้ อยู่มามากกว่าครึ่งค่อนชีวิต หลานสาวของตัวเองกลับกล้าพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงติเตียนสั่งสอนแบบนี้ นภสรเอ่ยคำพูดที่ขัดต่อความในใจออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไป : “สิ่งที่คุณปู่สั่งสอนมามันถูกแล้วค่ะ แต่เป็นหนูเองที่มันไม่รักดี แต่เรื่องสายเลือดหนูไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว หนูเองก็เคารพนับถือคุณปู่มาตลอด และก็ชื่นชมกับคำพูดที่มีน้ำหนักและน่าเชื่อถือของคุณปู่ค่ะ” เธอรู้ว่าธมกรให้ความสำคัญกับเรื่องของสายสัมพันธ์ทางสายเลือดมาก แถมยังชอบให้คนพูดชื่นชมแกในทางที่ดี เพราะฉะนั้นจึงได้ใช้วิธีตะล่อมแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะยังไงเธอจะต้องเอาหุ้นส่วนนั้นมาให้ได้! ตามคาด เมื่อธมกรฟังคำพูดของเธอจบ สีหน้าเริ่มแสดงความพึงพอใจ ก่อนจะปัดมือ : “ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว งั้นแกก็มาฝึกงานที่บริษัทดูก่อนก็แล้วกัน ถ้าทำมันออกมาได้ดี ฉันก็จะพิจารณาเรื่องการแบ่งหุ้นส่วนให้” นภสรหลับตาลงเบาๆ น้ำเสียงอ่อนนุ่ม : “ขอบคุณค่ะคุณปู่” สายตาของนรมนแสดงถึงความไม่พึงพอใจ จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งคืออีกเพียงนิดเดียวก็จะสามารถทำให้คุณปู่ผิดหวังในตัวเธอได้อย่างสมบูรณ์! ครั้งนี้ก็เช่นกัน เธอคิดว่าจะสามารถอาศัยโอกาสนี้ ทำให้คุณปู่ไล่มันออกไปจากบ้านไชยกาล ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายคุณปู่จะยอมให้โอกาสมันแบบนี้! ธมกรรู้สึกเพลียขึ้นมา เขาโบกมือ : “ฉันจะกลับบ้านแล้ว พวกเธอพี่น้องสองคนคุยกันเองแล้วกัน หัดเยนรู้จากพี่นรมนเขาบ้าง” “หนูจะพยายามเรียนรู้จากพี่มาให้ได้มากที่สุดค่ะ” นภสรหันไปหานรมนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นรมนยิ้มตอบ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ดูกระอักกระอ่วนที่สุด นภสรมองร่างของธมกรเดินลับหายไป ก่อนจะหันหน้ากลับมามองนรมน นัยน์ตาแฝงไปด้วยความยั่วยุ : “ถ้าฉันเขาไปฝึกงานที่บริษัท พี่ต้องแนะนำและสอนฉันเยอะๆนะคะ!” เธอเก็บความโมโหเอาไว้เต็มอก คำพูดนี้เธอเคยพูดไว้เมื่อตอนที่นภสรกลับมา แต่เธอไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เธอคิดว่าเมื่อเกิดเรื่องแบบนั้นแล้ว คุณปู่ก็จะหมดทิ้งและไม่สนใจเธออีก! “วางใจได้เลย ถ้าเธอเข้าฝึกงานในบริษัท ฉันจะตั้งใจสอนเธออย่างดีเลยล่ะ” “ตั้งใจสอนอย่างดี” ประโยคนี้ นรมนเน้นย้ำมันอย่างหนัก แถมยังแฝงไปด้วยความดุดัน แต่นภสรกลับไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิด เธอเชื่อว่าคนทุกคนบนโลกนี้ไม่ได้ตาบอด จนมองไม่เห็นอีกมุมหนึ่งของนรมน “งั้นฉันก็ต้องขอขอบคุณพี่ล่วงหน้านะคะ” นภสรยังคงมีสีหน้าแบบเดิม ดูแสดงถึงความจริงใจพอสมควร นรมนโกรธจนเหวี่ยงแขนเดินจากไป เมื่อนรมนเดินจากไปแล้ว นภสรสอนก็ถอนหายใจยาว นั่งอยู่สักพักถึงจะเดินออกจากร้านไป เธอคิดไว้อยู่แล้วว่าคงจะไม่มีทางได้หุ้นส่วนกลับมาง่ายๆหรอก แต่ว่ามีโอกาสได้เข้าไปฝึกงานในบริษัทไชยกาลก็นับว่าไม่เลวเหมือนกัน อย่างน้อยๆก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย เป็นเพราะมัวแต่คิดอะไรอยู่ในใจ ก็เลยทำให้เธอเดินชนเข้ากับบริกรที่ถือถาดเดินมาทางนี้พอดี เสียงดัง “ปึก......เพล้ง” ขวดไวน์และแก้วไวน์ที่อยู่บนถาดร่วงลงพื้นพร้อมกัน ก่อนจะร่วงถึงพื้น ไวน์แดงที่อยู่ในแก้วหกใส่ตัวเธอเต็มไปหมด วันนี้เธอสวมเสื้อเชิ๊ทสีขาวมา รอยสีแดงจากไวน์นั้นดูโดดเด่นสะดุดตามาก ทั้งนภสรและบริกรต่างก็ยืนอึ้งไป นภสรทำหน้าบูดหน้าบึ้ง เพราะรู้ว่าเป็นความผิดของตัวเอง จึงรีบเปิดปากพูดก่อน : “ขอโทษค่ะ” บริกรถึงกับร้องไห้โฮออกมา พูดออกมาด้วยเสียงสั่นเทา : “นี่......นี่มันเป็น......Lafite ปี 1870......” 
已经是最新一章了
加载中