ตอนที่30 คนขี้โกหก
1/
ตอนที่30 คนขี้โกหก
รักหวานๆของนายปีศาจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่30 คนขี้โกหก
ตนที่30 คนขี้โกหก นภสรเริ่มมึนงงที่หัวขึ้นมาเรื่อยๆ เธอแตะๆเลือดบนใบหน้าของตัวเอง ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน เดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว เธอต้องเรียกรถไปโรงพยาบาล เธอยังไม่อยากตาย พ่อเธอก็ยังอยู่ในคุก หุ้นก็ยังไม่ได้คืน นรมนก็ยังไม่ได้จ่ายตังให้เธอด้วย แต่เธอเกลียดพวกเขาเสียจริง เธอไม่ได้ทำผิดอะไรด้วยซ้ำ แต่ว่าเธอเป็นคุณหนูรองบ้านไชยกาล ทุกคนก็ต่างพากันมารังแกเธอ เหยียบเธอให้จมดิน ไม่มีทางที่จะให้อภัยได้เลยจริงๆ มีน้ำหยดเย็นลงมากระทบร่างกาย ดูเหมือนว่าฝนจะตก คนเดินผ่านไปผ่ามาบนท้องถนนหยุดลงข้างๆเธอ “คุณคะ คุณ คุณเป็นยังไงบ้าง?” “เธอสูญเสียเลือดไปมาก ต้องรีบส่งโรงพยาบาล..” “เดี๋ยวฉันโทรเอง...” นภสรอยากจะพูดว่าเธอไม่เป็นอะไร ยังไปโรงพยาบาลเองได้ แต่ปากก็ขยับไม่ออก ดวงตาค่อยๆมืดลง และสติก็เลื่อนลอยไป จนสุดท้ายก็ได้ยินเสียงคุ้นหูกังขึ้นมา “คุณนภสร” …… “ติ๊กต๊อก..” นภสรลืมตาขึ้นมา ทัศนะเห็นเพียงสีขาว สายตาของเธอพร่ามัว เธอกะพริบตาก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพดาน กลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อฟุ้งเต็มจมูกของเธอ นี่มันโรงพยาบาลนี่ “ฟื้นแล้วหรอ?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นในหูของเธอ มันเป็นเสียงที่เธอได้ยินก่อนที่เธอจะหมดสติ นภสรหันไปมอง ก็พบหน้าที่คุ้นเคยของพงศกร “พง...” เธอขยับปากจะพูด ก็พบว่าคอของเธอแห้งผากราวกับทราย พงศกรขมวดคิ้วขึ้น ความกังวลแวบเข้ามาในดวงตาสีฟ้าเย็นนั่น เขาหันไปรอบๆและหยิบแก้วน้ำ ปักหลอดให้เธอ เขาทำมันอย่างระมัดระวังก่อนจะเอาไปไว้ตรงบริเวณหน้าของเธอ “ดื่มน้ำก่อน” นภสรดื่มเข้าไปสองอึก คอก็รู้สึกดีขึ้นมาก แต่เสียงก็ยังคงแหบแห้งอยู่ “ขอบคุณ” “ไม่เป็นอะไรเลย ไม่ว่าใครเจออะไรแบบนี้เข้าก็ต้องช่วยทั้งนั้นแหละ” พงศกรเอาแก้วน้ำไปวางข้างๆ และก็ขมวดคิ้วขึ้นมา นภสรยิ้มขึ้นมา เธอไม่คิดเลยว่าจะเป็นพงศกรที่ช่วยเธอเอาไว้ แต่พงศกรไม่รู้อะไรว่าถ้าหากเป็นนรมนที่เป็นคนไปพบเธอในสภาพเช่นนั้น เกรงว่าเธอคงจะแทงซ้ำเพื่อที่จะให้เธอตายทันทีในตอนนั้นเลย ยังดีที่เป็นพงศกร พงศกรเห็นเธอยิ้มมาให้ ความสับสนก็แล่นเข้าไปอยู่ในตาของเขา “คุณอยากจะผมส่งข่าวให้ที่บ้านคุณมั้ย?” “ไม่ต้องหรอก ขอบใจนะ แค่พามาส่งโรงพยาบาลก็รบกวนมากแล้ว” นภสรส่ายหน้า ขนาดไม่ใช่เพื่อน เขายังพาเธอมาส่งโรงพยาบาล แค่นี้เธอก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว พงศกรขมวดคิ้ว ก่อนจะถามขึ้นอีก “แล้วสามีของคุณ ก็ไม่ติดต่อเขาหรอ?” ปองพล…. นภสรหยุดชะงักไป จากนั้นก็ส่ายหน้า “เดี๋ยวฉันไว้ค่อยบอกเขา คุณกลับไปก่อนเถอะ” “ได้เลย งั้นผมไปก่อนนะ” พงศกรหยิบโทรศัพท์ของเธอที่อยู่ข้างๆส่งให้ นภสรรับมา เป็นอีกครั้งที่เธอรู้สึกซาบซึ้งใจ พงศกรมองเธออย่างสับสน ก่อนจะหมุนตัวกลับออกไป ห้องผู้ป่วยไม่มีใครอยู่แล้ว นถสรจึงขยับนั่งพิง ลองจับๆที่หัว มันเต็มไปด้วยผ้าก๊อซ เธอเพิ่งจะยันตัวขึ้น หมอก็เดินเข้ามา ถามเธอ : “ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง?” “รู้สึกจะเป็นลม แล้วก็เจ็บนิดหน่อย” หมอเป็นชายวัยกลางคน เห็นใบหน้าซีดเผือดของเธอ เขาก็ส่ายหน้าและพูดว่า : “มันเจ็บหน่อยนะ มันกระทบกระเทือนถึงกระดูก มันไม่ง่ายที่จะฟื้นตัวได้ไว แล้วก็ยังเสียเลือดมากด้วย ดังนั้นต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสองวัน” ตอนที่เธอลงมือก็ไม่ได้ยั้งมือเลย เธอเพียงเดาว่าอาการบาดเจ็บจะรุนแรงนิดหน่อย “ขอบคุณหมอ” หมอลงบันทึกพลางถามขึ้นมา “ญาติคุณยังไม่มาอีกหรอ?” นภสรถูกถามแบบนั้นก็หยุดชะงักไป เธอตอบออกไปอย่างรู้สึกหดหู่ “เดี๋ยวก็มาแล้วหล่ะ” เธอก็แค่เจ็บหัวไม่ใช่ว่าไม่มีแรงจะเดินหรือขยับตัวสักหน่อย เธอไม่อยากบอกปองพลหรือบ้านไชยกาล หรือไม่ว่าใครก็ตาม เหตุผลในยามเจ็บป่วย ต้องมีครอบครัวอยู่เคียงข้าง เพราะจะได้รับการดูแลและเฝ้าอาการ ปองพลอาจจะเต็มใจที่จะดูแลเธอ แต่เธอไม่ได้ต้องการที่จะเปิดเผยมุมอ่อนแอให้เขาเห็น เธอยังจำได้เสมอว่าเธอและเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ ไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งอะไรขนาดนั้น หลังจากที่หมอออกไป นภสรก็มองดูเวลา มันเกือบเที่ยงคืนแล้ว อุณหภูมิในห้องพักอยู่ในตัวเลขที่เหมาะสม แต่เธอยังรู้สึกหนาวนิดหน่อย เมื่อเธอกำลังจะเอาโทรศัพท์เก็บ จู่ๆมันก็สั่นขึ้นอย่างอรง นถสรใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ในเวลาแบบนี้ คนที่จะโทรหาเธอได้จะเป็นใครไปได้อีกหล่ะ อย่างที่เธอคาดไว้จริงๆ เมื่อมองดูหน้าจอที่ขึ้นมาสองพยางค์ ‘ปองพล’ นภสรลังเลอยู่แปปนึงก่อนจะหยิบขึ้นมารับ ในเวลาแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ข้างเคียง แม้ว่ามันจะเป็นแค่เสียงของความกังวล เธออยากฟังเหมือนกัน “มีอะไรรึเปล่า? ” เพราะว่านภสรตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปหลายชั่วโมง นั่นทำให้เสียงยังค่อนข้างแหบแห้ง ปองพลถามด้วยเสียงรื่นหูปกติของเขา “คุณอยู่ที่ไหน?” นภสรเอนหลังพิง เอาร่างกายส่วนบนทั้งหมดพิงเตียงเอาไว้ เสียงที่อ่อนแอ : “ฉันอยู่ที่บ้านพิมลแขวันนี้ไม่กลับนะ” “บ้านพิมลแข?” ปองพลถามอย่างไม่เชื่อ “อือ ฉันต้องนอนแล้วหล่ะ คุณก็นอนไวๆด้วยหล่ะ” พอพูดจบเธอก็วางสายลง ก่อนจะเอาโทรศัพท์โยนทิ้งไปแล้วหลับตา และยกมือกดมันไว้เพื่อที่จะข่มความรู้สึกขื่นขมภายในเอาไว้ มันไม่ใช่เวลาที่ลำบากหรือทุกข์ใจอะไร มีอะไรต้องร้องไห้ด้วยหล่ะ แต่การที่เธอได้ยินเสียงของปองพล นั่นทำให้เธอรู้สึกเศร้ามาก โทรศัพท์มือถือก็ไม่ดังขึ้นอีกรอบ นั่นก็เธอรู้สึกค่อนข้างผิดหวัง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน นภสรก็รู้สึกดีขึ้น เธอเอามือออกแล้วลืมตาขึ้น แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหัวเตียงเธอก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันที “คุณมานี่ได้ยังไง!” นภสรร้องขึ้นเสียงดังด้วยความประหลาดใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ ผู้ชายที่ยังคุยกับเธอทางโทรศัพท์เมื่อก่อนหน้านี้ แค่พริบตาเดียวก็มายู่หน้าเตียงคนไข้ ดวงตาที่ลึกซึ้งดูเหมือนจะตรึงไว้กับเธอ เขามองเธออยู่เป็นเวลานาน ความเงียบปกคลุมพักใหญ่ก่อนที่เขาจะเริ่มพูด : “ขี้โกหก” เสียงของเขาฟังดูดี แต่ก็เชือดเฉือนอยู่ในที นภสรก้มหน้าลง เป็นครั้งแรกที่เธอไม่ตอบโต้เขากลับ นภสรผอมซูบตั้งแต่ไหนแต่ไร ยิ่งตอนนี้ทั้งหัวโดนห่อด้วยผ้าก๊อซ มันก็ยิ่งดูน่าสงสารและอ่อนแอ ปองพลจิ๊ปาก ก่อนจะถาม “ตอนเย็นได้กินอะไรรึยัง?” “เปล่า” นภสรไม่อยากพูดโกหกอีก แล้วก็ไม่อยากให้เขาไป ปองพลได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นออกไปข้างนอก นภสรจึงร้องเรียกเขาไว้ “ปองพล!” ชายหนุ่มเดินไปที่ประตูได้ยินเสียงเธอก็หยุดลง แต่ก็ไม่ได้หันกลับมา “ตรงข้ามโรงพยาบาล มีร้านข้าวต้มเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมจะไปซื้อมาให้ ยังไงก็ตามถ้าคุณจะอาศัยจังหว่ะนี้หนีผมไปก็ได้นะ” เสียงของเขาก็สงบเงียบ แต่นภสรมีลางสังหรณ์ว่า ถ้าเธอออกไปในช่วงเวลานี้ ปองพลจะไม่สนใจเธออีกแน่ๆ พอพูดจบเขาก็เดินออกไป แต่ก็ยังปิดประตูให้เธออย่างระมัดระวัง นภสรมองไปที่ประตู แล้วเธอจะไปได้ยังไง ไม่มีใครไม่อยากได้การดูแลเอาใจใส่จากผู้อื่นหรอก --โปรดติดตามตอนต่อไป 10/11/2019--
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่30 คนขี้โกหก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A