ตอนที่ 41 ห้องทางด้านซ้ายมือ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 41 ห้องทางด้านซ้ายมือ
ต๭นที่ 41 ห้องทางด้านซ้ายมือ ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนคุยกันอยู่เพราะคิดว่าไม่มีใครอยู่แถวๆนี้ แต่ก็ต่างชะงักค้างไป พวกเธอเห็นนภสรจากกระจกยืนอยู่ด้านหลังร้องเสียงอุทานตกใจ อีกคนหนึ่งที่กำลังเติมเครื่องสำอางอยู่ถึงกับทำตลับแป้งร่วง “เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” รูปร่างหน้าตาผู้หญิงทั้งสองดูโดดเด่น คนหนึ่งผอมเหมือนเสาไม้ไผ่ด้านหน้าด้านหลังราบเรียบเท่ากัน มองจากด้านหน้าก็ไม่มีส่วนโค้งส่วนนูนออกมาเหมือนคนหันหลังให้ ส่วนอีกคนหนึ่งทั้งเตี้ยทั้งอ้วนเหมือนฟักเขียว เมื่อสักครู่คนที่ว่า “ลีลาบนเตียงดี” คือผู้หญิงคนที่เตี้ยกว่า นภสรจำเสียงของเธอได้ นภสรเดินไปข้างหน้าสองก้าว เชิดคางขึ้นด้วยความเคยชิน มองพิจารณาผู้หญิงคนที่รูปร่างอ้วนเตี้ยขึ้นลงไปมา ถึงแม้ผู้หญิงที่รูปร่างอ้วนเตี้ยจะสวมรองเท้าส้นสูงแต่ก็ยังสูงแค่คางของนภสรที่สวมรองเท้าไม่มีส้น ผู้หญิงที่รูปร่างอ้วนเตี้ยก็รู้สึกได้ว่านภสรกำลังพิจารณาส่วนสูงของตัวเธอเองอยู่ เธอเกลียดที่สุดคือการที่คนอื่นสนใจส่วนสูงของเธอ “เธอมองอะไร” เพราะตัวเธอเองนั้นที่เตี้ยกว่านภสรอยู่มาก เวลาเธอยืนพูดต่อหน้านภสรแม้แต่คำพูดยังดูเหมือนไม่มีพลัง “พูดประโยคที่เธอพูดเมื่อสักครู่อีกรอบสิ” นภสรเอามือกอดอกดวงตาสวยหรี่ตาลง ทำให้คนมองไม่ชัดว่าเธออารมณ์ไหนกันแน่ดูท่าทีไม่ได้สนใจอะไร นภสรแต่งหน้าแต่งตัวเรียบง่ายแต่กลับดูมีพลังแผ่ออกมาโดยไม่รู้ตัว ผู้หญิงตัวผอมที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก้าวออกมาด้านหน้าเบียดให้ผู้หญิงตัวอ้วนเตี้ยไปอยู่ที่ด้านหลังตัวเอง “เธอจะเอายังไงแอบอยู่ในห้องน้ำตั้งใจแอบฟังคนอื่นคุยกัน” “คุณคนนี้” นภสรเอียงหัวมองพิจารณาถึงพูดต่อไปว่า “คุณผู้หญิงคะ ห้องน้ำเป็นที่สาธารณะฉันต้องลงทุนมาแอบฟังคนคุยกันหรือในเมื่อพวกคุณมาคุยเรื่องแบบนี้ที่นี่แสดงว่าก็ไม่ได้กลัวคนอื่นจะได้ยินเข้า” “เธอ...” นภสรหน้าเรียบเย็น เธอไม่อยากจะมาเสียเวลากับผู้หญิงที่ไม่มีคุณสมบัติผู้ดีที่นี่ นภสรก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวพิงที่กำแพงสีหน้าท่าทางเฉื่อยชา “มีความสุขคนเดียวไม่สู้แบ่งปันความสุขกับทุกคน ยังไงฉันก็บันทึกเสียงเอาไว้แล้วพอดีเลยฉันกำลังจะกลับไปที่ห้องจะได้แบ่งปันให้ทุกคนฟังด้วยกัน” นภสรยิ้มแฝงไปด้วยเจตนาไม่ดีพูดจบจึงเดินก้าวยาวๆออกไปข้างนอก แต่เพียงแค่ชั่วพริบตาก็ออกมาจากห้องน้ำ เหลือไว้เพียงผู้หญิงทั้งสองคนที่ตาตื่นเบิกกว้างอยู่ภายในห้องน้ำหลังจากพวกเธอนั้นจึงรีบวิ่งตามนภสรออกไป เมื่อทั้งสองคนวิ่งตามออกมาได้เห็นแค่ด้านหลังไวๆของนภสรบนระเบียงทางเดินที่ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมา จึงตะโกนเรียกนภสร “เธอหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ” ได้ยินเสียงคนเรียกตามมาข้างหลัง แต่นภสรยังคงไม่หยุดเดิน ผู้หญิงทั้งสองคนจึงวิ่งตามมาจนทันนภสร “คุณผู้หญิง พวกเรามีอะไรก็ค่อยๆพูดจากันดีๆ” “จริงด้วย พวกเราทุกคนอยู่บริษัทเดียวกันยังไงต้องเจอหน้ากันบ่อยๆแบบนี้มันจะดูไม่ดีนะ” ทั้งสองคนพูดสลับกันไปมาคนละประโยคด้วยท่าทีอ่อนโยน ประธานปองพลขึ้นชื่อว่ายุติธรรมเที่ยงตรงไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าแต่ไหนแต่ไรมาจะไม่เคยใช้อารมณ์ว่ากล่าวลูกน้อง แต่ถ้าเขาได้จ้องเขม็งมองใครก็ทำให้คนตกใจกลัวได้แล้ว พวกเธอสามารถคาดการณ์ได้ว่าถ้านภสรเปิดเสียงที่บันทึกไว้ออกไปพวกเธอต้องเป็นฝ่ายผิดอย่างแน่นอน อาจจะเป็นไปได้ว่าต้องถึงขั้นตกงาน ตอนนี้งานยิ่งไม่ได้หากันง่ายๆอยู่ด้วย นภสรมองไปที่ผู้หญิงสองคนอย่างเย็นชาเลิกคิ้วขึ้น “พวกเธอจะให้ฉันไปได้หรือยัง” “เธอ” สายตาของนภสรมองไปที่ด้านหลังของผู้หญิงทั้งสองคนเห็นโยธินเลขาของปองพลกับผู้บริหารหญิงระดับสูง นภสรเม้มริมฝีปากสายตาแผ่รังสีเย็นชาออกไปหลุบตาลงคิ้วตกอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าพวกผู้หญิงสองคนนั้นจะพูดอะไรเธอก็ทำเพียงแค่ก้มหน้าลง ดูเผินๆไปแล้วเหมือนเธอกำลังถูกรังแก โยธินเลขาของปองพลเป็นฝ่ายมองเห็นนภสรก่อนจึงเดินเข้ามาแล้วพูด “พวกเธอทำอะไรกันอยู่” ในสายตาของเขาเห็นพนักงานสองคนกำลังขวางทางไม่ให้นภสรเดิน ใบหน้าของนภสรดูลำบากใจแต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรทำได้แค่ฟัง “พวกเรา.... เพียงแค่อยากคุยกับคุณผู้หญิงนภสรเฉยๆค่ะ” เมื่อผู้หญิงทั้งสองคนเห็นคุณโยธินเลขาของคุณปองพล ใบหน้าของพวกเธอดูสับสนมึนงงไปหมดไม่รู้ว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วกันเมื่อกลับไปมองที่นภสรอีกที่ กลับไม่เหลือเค้าโครงเย็นชาอย่างเมื่อสักครู่ ผู้หญิงทั้งสองคนต่างก็เข้าใจแล้วว่าพวกเธอหลงกลถูกนภสรจัดฉากเสียแล้ว “พวกคุณก็มาเข้าห้องน้ำหรือ” นภสรมองไปที่คุณเลขา “พวกเธอไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นแหละ...” พูดถึงตรงนี้เธอหยุดนิ่งไปเพียงแค่ยิ้มอย่างไม่มีทางเลี่ยง ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็เข้าใจสถานการณ์โดยอัตโนมัติ ต่างก็เป็นผู้หญิงกันนั้น อีกทั้งคุณนภสรยังเป็นคุณผู้หญิงของประธานปองพลอีก คุณปองพลเองยังเป็นคนที่ผู้หญิงต่างก็ชื่นชอบ “ถ้าอย่างนั้นคุณผู้หญิงรีบเข้าไปข้างในห้องเถอะครับ มิฉะนั้นคุณปองพลอาจจะออกมาตามคุณแน่ๆ” คุณเลขาพยักหน้าบอกนภสรอย่างมีมารยาทแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ รอกระทั่งคุณเลขากับผู้จัดการระดับสูงเข้าไปในห้องน้ำ รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้านภสรจึงหายไปไม่สนใจผู้หญิงทั้งสองคนนั้นเลย ผู้หญิงทั้งสองคนหลงกลแผนแผนของนภสรที่วางไว้ คิดว่านภสรน่าจะไม่ปล่อยเสียงที่บันทึกไว้ออกไปแล้วจึงเดินตามหลังเธออย่างระมัดระวังเหมือนกำลังอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เมื่อเดินพ้นมุมออกมากลับดันเจอคุณปองพลที่ออกมาหานภสร ปองพลยื่นมือมาจูงนภสรมองทอดยาวออกไปที่ด้านหลังของเธอ “ทำไมไปนานขนาดนั้น” นภสรกระตุกมุมปาก สายตาของปองพลนั้นทำให้เธอรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ปองพลต้องเห็นแล้วแน่นอน ไม่ได้รอคำตอบของนภสร ปองพลได้ดึงเธอเดินไปข้างหน้า “ตอนนี้เวลาพอสมควรละ พวกเรากลับกันก่อนฉันบอกโยธินไปแล้ว” นภสรพูดอย่างเกียจคร้าน “ตามใจ” หลังจากนั้นนภสรยังหันไปแกล้งผู้หญิงทั้งสองด้วยการโบกมือให้พวกเธอ ซึ่งในมือนั้นยังถือโทรศัพท์อยู่ เป็นอย่างที่คิดไว้ใบหน้าของพวกเธอซีดเผือดลง เมื่อเดินออกมาถึงหน้าประตูของ club beautiful night นภสรจึงเก็บโทรศัพท์ไว้ ปองพลมองดูไม่ได้ใส่ใจมากเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม พูดแค่ว่า “สนุกไหม” นภสรเม้มปากรู้สึกเก้อเขินและหงุดหงิด จริงอย่างที่คิดไว้ปองพลเห็นเหตุการณ์อยู่แล้ว ปองพลเห็นนภสรมองเขาอย่างนั้นจึงยิ้มกว้างออกมา เสียงโทรศัพท์ช่วยนภสรให้หลุดออกมาจากบรรยากาศที่ดูกระอักกระอ่วนนั้น เห็นปองพลรับโทรศัพท์ นภสรจึงรีบวิ่งไปโบกมือเรียกรถเข้ามา ขึ้นรถแล้วทำหน้าผีล้อเลียนใส่ปองพลแล้วบอก “ฉันจะกลับคนเดียว” ปองพลถึงกับตกใจ สีหน้าเขาไม่อาจคาดเดาได้ว่านภสรจะพูดแบบนี้ หลังจากนั้นจึงยิ้มน้อยๆและกดรับสาย พอวางสายโทรศัพท์ เขาเห็นรถแท็กซี่คันนั้นได้แล่นหายไปแล้วเขาหมุนตัวเดินกลับเข้าไปใน club beautiful nightอีกครั้ง นภสรนั่งอยู่ในรถหันไปมองที่ด้านหลังเห็นว่าปองพลไม่ได้ตามมาจึงเบาใจลง ด้วยความเคยชินเธอลูบที่ข้อมือของเธอ ถึงรู้ว่าที่ข้อมือของเธอมีบางอย่างหายไป นาฬิกาของเธอยังคงอยู่ในห้องนั้นก่อนที่เธอจะกินข้าวเธอได้ปลดนาฬิกาออกจากข้อมือแล้ววางไว้ อยากจะโทรไปบอกให้ปองพลเอามาให้แต่พอคิดถึงสายตาเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มของเขา นภสรจึงหน้าบึ้งขึ้นพูดกับคนขับรถ “คุณคะ รบกวนขับรถวนกลับไปที่เดิมหน่อยค่ะ ฉันลืมของ” เมื่อกลับมาถึงclub beautiful nightนภสรรู้สึกงงเล็กน้อยตอนที่ปองพลพาเธอมาไม่รู้ว่าอยู่ชั้นสามหรือชั้นสี่ “น่าจะเป็นชั้นสี่นะ” นภสรพูดพึมพำกับตัวเองแล้วกดเลขขึ้นลิฟต์ไปชั้นสี่ ชั้นสี่ห้องทางด้านซ้ายมือ นภสรผลักประตูห้องเข้าไปแล้วเดินเข้าไปทันทีแต่ว่าข้างในนั้นมีคนอยู่ในนั้นแล้วสามคน คนหนึ่งเห็นหน้าไม่ชัดนอนอยู่ที่พื้นทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด อีกคนหนึ่งด้านหลังดูคุ้นเคยสวมสูทสีฟ้ากำลังพูดกับผู้ชายคนนั้นด้วยความเคารพนบนอบ “ท่านประธาน เขา....” คำพูดประโยคท้ายนั้นหยุดไปเพราะจู่ๆนภสรก็พุ่งพรวดเข้ามา ส่วนผู้ชายที่ถือบุหรี่อยู่ ซึ่งเขาถูกพงศกรเรียกว่าท่านประธานนั้น เป็นบุคคลที่นภสรรู้จักเป็นอย่างดี 
已经是最新一章了
加载中