ตอนที่17   1/    
已经是第一章了
ตอนที่17
ต๭นที่17 ไป๋เซวียนเซวียนรู้สึกเสียใจ เธอไม่ควรเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรมากกับการกระทำของกู้โหยวในเกมและไม่ควรมารู้จักกับภรรยาในอดีตของกู้โหยวจากการเล่นเกมจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวเป็นเหตุให้idของกู้โหยวในวันนี้ถูกใช้มาพูดเป็นเรื่องพูดคุยตลกขบขันในเกม《หรูเมิ่งลิ่ง》ทุกคนต่างพากันเยาะเย้ยว่าเขาไม่เจียมตัวในอดีตเคยอยู่สูงแค่ไหนตกลงมาก็เจ็บปวดมากแค่นั้น ที่เธอรู้สึกผิดและเสียใจในตอนนี้ก็เพราะว่าในอดีตกู้โหยวมีชื่อเสียงเรียงนามขึ้นมาได้ก็เพราะ《หรูเมิ่งลิ่ง》จนบริษัทเจียเฉิงมาซื้อตัวไปไป๋เซวียนเซวียนรู้เรื่องกำลังจะไปได้ดีแต่ก็ต้องมาจบเพราะตัวเธอเอง เมื่อคิดว่ากู้โหยวอาจจะหมดโอกาสเติบโตในสายงานนี้ไป๋เซวียนเซวียนก็เริ่มรู้สึกกลัว ไม่ได้ เมื่อรู้ว่าในสามีในอดีตคือขุนทรัพย์ของเธอเธอไม่มีวันยอมให้เรื่องราวอยู่เหนือการควบคุมของเธอแน่นอน! “ปังปังปัง”เสียงทุ้มต่ำของกู้โหยวลอดผ่านประตู้ห้องเข้ามา:“เซวียนเซวียนฉันเรื่องจะคุยกับเธอ” คืนนั้นไป๋เซวียนเซวียนตื่นขึ้นมากลางดึกค้นพบว่าตัวเองได้ย้อนกลับมาสู่วันที่ทั้งคู่จะหมั้นหมายกันเธอรีบโทรหากู้โหยวทันทีบอกว่าอยากจะขอเจอเขาสักหน่อยกู้โหยวทนฟังเธอร้องไห้ทั้งคืนแบบนั้นไม่ได้ก็รีบขับรถข้ามเมืองไปหาเธอระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุขึ้นโชคดีที่บาดเจ็บที่ขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และก็ด้วยเหตุนี้การหมั้นหมายของทั้งคู่จึงต้องหยุดชะงักไปก่อน เธอจัดรัเบียบเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะเปิดประตูต้อนรับคนที่มาหากู้โหยวที่ยืนอยู่หน้าประตูรูปร่างสูงโปร่งเพียงแต่ดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวาน้ำเสียงของเขาอ่อนโยนอยู่เสมอไม่ว่าจะในอดีตที่ไป๋เซวียนเซวียนเคยขอยกเลิกงานหมั้นกับเขาหรือขอเอ่ยเรื่องงานหมั้นในชาตินี้ไม่ว่าจะตอนไหนท่าทีของเขาก็ยังคงนิ่งเฉยจนไป๋เซวียนเซวียนเองก็ยังดูไม่ออก “เซวียนเซวียนเรื่องงานหมั้นเราพักไว้ก่อนนะ” “อะไรนะ?”สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปในทันที ...... นับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องเพียงแค่เซี่ยหลิงหลิงออนไลน์เข้าเกมไปปุ๊บก็ถูกถล่มจากเพื่อนๆจนแชทแทบจะระเบิดเธอออกจากแก๊งนั้นมาออกมายืนชมนกชมไม้ชมวิวทิวทัศน์เล่นๆในเวลาอันรวดเร็วก็มีแอคเคาท์ที่ตั้งชื่อไอดีเลียนแบบเธอผุดขึ้นมามากมายเหมือนดอกเห็ด ทั้ง“ลิงลิง”,“หลิงหลิงหลิงหลิง”,“หลิงหลิงหลิง”......และส่วนใหญ่ก็ใช้ตัวละครนักทิพย์เหมือนกันทั้งนั้นเยอะแยะลายตาจนทำให้รู้สึกปวดหัวและต่อให้มีคนเห็นไปดีจริงๆของเซี่ยหลิงหลิงออนไลน์เข้าเกมมาก็จะตกใจเล็กน้อยก่อนจะครุ่นคิดว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่า เซี่ยหลิงหลิงฮัมเพลงพร้อมกับวาดรูปในคอมอย่างอารมณ์ดีคลิกเมาส์ไปมาเป็นครั้งคราวผ่านไปครึ่งวันรูปที่วาดก็เสร็จสมบูรณ์ ในภาพวาดนั้นเป็นวิวทิวทัศน์ฤดูใบไม้ผลิของเจียงหนานดอกซากุระบางสะพรั่งลมพัดกรีบดอกร่วงหล่นกระจายไปทั่วพื้นเป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุดในเดือนสองอิฐสีแดงกระเบื้องสีขาวศาลาถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองนักทิพย์ในชุดเสื้อคลุมสีแดงกระโปรงขาวนั่งอยู่บนขอบชายคาที่มีความลาดชันนั่งไขว่ห้างยกแขนขึ้นมาจับขลุ่ยสีเขียวหยอกแล้วเป่าเป็นท่วงทำนองไพเราะผมดำดูจขนนกสีดำปล่อยยาวสยายชายผ้าพริ้วไหวทิ้งไว้เพียงความสง่างามเพื่อให้คนคิดถึง เซี่ยหลิงหลิงรู้สึกไม่ค่อยถนัดมือจึงต้องนั่งแก้ไปมาเป็นเวลานาน ดูภาพที่วาดออกมาได้พอประมาณแล้วเธอจึงบิดขี้เกียจรู้สึกตึงๆที่หลัง ก่อนจะทะลุมิติมาเธอเรียนสายวิจิตรศิป์มาเธอมีความสามารถในการวาดภาพมากพอสมควรเธอมีชื่อมีเสียงมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วหลังจากเรียนจบเธอก็เลือกเป็นนักวาดภาพฟรีแลนซ์เธอไม่ค่อยมีแรงจูงใจเท่าไหร่การวาดรูปก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆไม่มีอะไรมากมายพอประทังชีวิตให้ผ่านไปได้ในแต่ละวัน ตั้งแต่ทะลุมิติเข้ามาในโลกหนังสือนี้ยุ่งอยู่กับการทำครัวเกือบจะละทิ้งความสามารถที่ตัวเองมีไปแล้ว เซี่ยหลิงหลิงคิดว่าช่วงเวลาที่เหลือนี้ถือว่าเป็นช่วงพักฟื้นรอจนถึงวันที่หย่ากับเฉิงรุ่ยแล้วเธอก็จะได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอยากวาดก็วาดไม่ต้องนึกถึงเรื่องเงินทองใช้ชีวิตตามที่ตัวเองวาดฝันเอาไว้ ในขณะที่คิดเซี่ยหลิงหลิงก็ดฑสต์รูปนี้ลงกระดานสทนาในเกมโดยไม่ได้ระบุชื่อ 《หรูเมิ่งลิ่ง》กำลังรวบรวมภาพวาดตัวละครcgนักวาดที่ได้รับคัดเลือกจะได้มีโอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเซี่ยหลิงหลิงรู้สึกประทับใจกับพวกเขา——บริษัทใหญ่ๆแบบเจียเฉิงให้ความสนใจเกี่ยวกับการแข่งขันคัดเลือกผู้มีความสามารถและฝีมือถึงตอนนั้นก็ใช้ความสามารถให้เต็มที่ไปเลย เซี่ยหลิงหลิงปิดคอมลง มื้อค่ำยังไม่รู้ว่าจะทานอะไรดีเธอกะว่าจะออกไปเดินเล่นข้างนอกสักหน่อย ช่วงนี้อุณหภูมิลดต่ำลงมีแต่ลมหนาวรายงานสภาพอากาศบอกว่าอาทิตย์หน้าจะมีหิมะตกเซี่ยหลิงหลิงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังไม่มีเสื้อโค้ทอุ่นๆเธอเก็บของก่อนออกจากบ้านไปห้างขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้บ้าน ท้องฟ้ายามพรบค่ำนั้นใกล้จะสลัวเมฆหนาทึบสีเทาปกคุลมไปทั่วท้องฟ้าลมหนาวพัดผ่านเข้ามาทำเอาใบไม้สีเหลืองร่วงหล่นเต็มพื้นทำให้คนรู้สึกเหน็บหนาวทั้งภายในและภายนอก เซี่ยหลิงหลิงสวมผ้าปิดปากหดคอลงเล็กน้อยอากาศหนาวซะจนเธอเริ่มตัวสั่น จนเมื่อเดินเข้าไปในห้างลมอุ่นๆจากฮีตเตอร์สาดไปทั่วร่างกายเซี่ยหลิงหลิงทำท่าทีเหมือนกำลังนวดหน้าเธอใช้แรงนวดและถูไปที่ใบหน้าเย็นเฉียบอย่างแรงโดยไม่สนภาพลักษณ์ใดๆกลับได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากทางด้านหลังแต่อีกฝ่ายก็เก็บเสียงหัวเราะนั้นลงทันที เธอหันกลับไปมองทันทีเห็นเป็นผู้ชายรูปร่างผอมเพรียวเขาสวมเสื้อกั๊กไหมพรมถักกางเกงขายาวสีดำพาดเสื้อคลุมไว้บนไหล่ใบหน้าดูอบอุ่นและสะอาดสะอ้านถือว่าดูดีมาก สายตาของทั้งคู่ประสานกันผู้ชายคนนั้นมีท่าทีตกใจแปลกๆก่อนจะผงกหัวแล้วยิ้มอ่อนๆมาให้แต่มันเป็นเพียงแค่การยิ้มเพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้นก่อนจะหุบยิ้มแล้วก้มหน้าก้มตาหน้านิ่วคิ้มขมวดเหมือนมีเรื่องหนักใจอะไรอยู่ เซี่ยหลิงหลิงเก็บสายตากลับมาทันทีใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย แปลแฮะเสียงหัวเราะนั่นทำไมรู้สึกคุ้นๆจัง?เคยได้ยินมาจากไหนนะ? ประตูลิฟท์เปิดออกอีกฝ่ายแสดงท่าทีเป็นนัยว่าให้เซี่ยหลิงหลิงเข้าไปก่อนตอนแรกเซี่ยหลิงหลิงตั้งใจเพียงแค่จะหาที่หลบหนาวเพื่อให้มือเท้าอบอุ่นขึ้นก็เท่านั้นแต่เมื่อถูกชายแปลกหน้าผายมือให้ทางเธอจึงคิดว่าหากปฏิเสธไปก็จะเป็นการเสียน้ำใจก็เลยเดินเข้าลิฟท์อย่างเกรงใจ “ชั้นไหนครับ?”เขาถาม เซี่ยหลิงหลิงจ้องมองไปที่แผ่นหลังกว้างๆของเขาก่อนจะตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ:“ชั้นสองค่ะ” “......”ชายคนนั้นชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะกดไปที่ที่ชั้นก่อนจะกดชั้นห้าชั้นห้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารร้านอาหารของห้างนี้ค่อนข้างมีระดับราคาก็ค่อนข้างจะสูงเซี่ยหลิงหลิงมีร้านหนึ่งที่อยากกินแต่ก็ยังไม่กล้าเสียเงินมากินสักที “ขอโทษนะครับผมทำให้คุณเดือดร้อนหรือเปล่าครับเนี่ย”เขาพูดเหมือนรู้สึกผิดแกมหัวเราะ เซี่ยหลิงหลิงโบกมือให้เขา:“เปล่าค่ะขาเจ็บพอดีไม่ชอบใช้บันได” ในขณะที่พูดก็มาถึงชั้นสองพอดีเขาใช้มือกันประตูลิฟท์ให้เซี่ยหลิงหลิงเดินลงลิฟท์ไปเมื่อหันกลับไปจังหวะที่ประตูลิฟท์กำลังปิดเขาเห็นผู้ชายในลิฟท์ส่งยิ้มมาให้เธอเบาๆ ประตูลิฟท์ปิดลง เซี่ยหลิงหลิงขมวดคิ้วเธอรู้เหมือนเหมือนเดจาวูสมองส่วนฮิปโปแคมปัสไม่ค่อยทำงานนึกให้ตายยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินเสียงหัวเราะแบบนั้นมาจากไหนกันแน่ ความสงสัยถูกโยนทิ้งอย่างรวดพนักงานขายเมื่อครั้งก่อนยังจำเซี่ยหลิงหลิงได้ดีเมื่อเธอเดินเข้าไปพนักงานคนนั้นก็รีบแนะนำสินค้าที่ลดราคาถูกที่สุดให้กับเธอทันทีเซี่ยหลิงหลิงเอามือเท้าเอวถือกระเป๋าชาเนลของเธอขึ้นพร้อมท่าทีจองหอง:“เอาสินค้าคอลเลคชั่นใหม่มาให้ฉัน!ฉันจะลองให้หมด!” ซื้อเสื้อผ้าต้องเลือกให้เป็นช่วงฤดูร้อนสามารถซื้อแบบที่ราคาถูกได้ส่วนเสื้อโค้ทเสื้อกันหนาวของฤดูหนาวต้องซื้อแบบคุณภาพดีหน่อยร้านนี้ไม่ได้ถือว่าราคาแพงอะไรราคาของสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ล้วนอยู่ในงบของเซี่ยหลิงหลิงเธอชอบการออกแบบดีไซน์ของร้านนี้ตั้งแต่ยังไม่ทะลุมิติมาแต่ไม่มีเงินแต่ตอนนี้สามารถซื้อซื้อซื้อได้อย่างไร้กังวลแล้ว เซี่ยหลิงหลิงลองเสื้อไปมาทีละตัวๆอยู่หน้ากระจกรูปห่างดีหุ่นสวยมีเสน่ห์ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด ด้านหลังเธอมีผู้ชายที่มาส่งแหนซื้อเสื้อผ้าต่างพากันนั่งรอบนโซฟาบางคนก็แอบมองเธอเป็นพักๆเหมือนไม่รู้ว่าเมียหลวงเมียหลวงมายืนหน้าดำหน้าแดงอยู่ข้างหลังหันหน้าไปก็ถูกหยิกด้วยความโมโห “โอ๊ยโอ๊ยเจ็บ!” ในตอนนั้นเสียงร้องโอดโอยจากการถูกหยิกขึ้นมาในร้านเรื่อยๆทำให้พนักงานถึงกับแอบขำ ตอนที่เดินออกมาจากร้านเซี่ยหลิงหลิงสวมเสื้อโค้ทสีอูฐสวมเสื้อขนแกะสีอ่อนและกางเกงขายาวเดินไปทางไหนก็เป็นจุดสนใจของผู้คนในระหว่างนั้นมีคนเข้ามาจีบเธอก็ปฎิเสธไปอย่างเย็นชา เซี่ยหลิงหลิงเปลี่ยนรองเท้าเป็นบู้ทสั้นยืนดูตัวเองที่อยู่ในหน้าต่างพื้นจรดเพดานจรงหน้าอารมณ์สงบ ใบหน้าที่สวยงามของผู้หญิงสะท้อนอยู่ในกระจกดวงตากลมโตที่มีเสน่ห์คู่นั้นแต่เมื่อเธอเย็นชาคือมาแววตาก็จะดูดุดันขึ้นเป็นเหมือนอาวุธที่ช่วยกันคนออกห่างแม้จะดูสวยงามเพียงใดแต่ก็ไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปจีบ “......โห” เธอมองฝนที่กำลังถล่มลงมาที่นอกหน้าต่างนั้นอย่างไร้อารมณ์ถ้าออกไปตอนนี้ก็คงจะตัวเปียกเหมือนหมาตกน้ำแน่ๆแถมเสื้ออาจจะสกปรกด้วย เซี่ยหลิงหลิงคิดว่านี่เป็นเหมือนคำสั่งจากสวรรค์ถ้าอย่างงั้นก็แวะไปร้านอาหารฝรั่งร้านนั้นเลยละกัน! เวลานี้เฉิงรุ่ยน่าจะกลับไปถึงบ้านแล้วล่ะเซี่ยหลิงหลิงหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความไปหาเฉิงรุ่ย “ฉันยังอยู่ข้างนอกอยู่เลยจะหาอะไรกินสักหน่อยก็กลับแล้วนายจัดการของตัวเองด้วยละกันนะ”หากเฉิงรุ่ยรู้ว่าเธอแอบมาลิ้มรสอาหารฝรั่งคนเดียวล่ะก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่พอใจเพราะงั้นไม่บอกน่าจะดีกว่า เมื่อส่งข้อความเสร็จเซี่ยหลิงหลิงฮัมเพลงหิ้วถุงช็อปปิ้งเดินมุ่งหน้าสู่ร้านอาหารร้านนั้น ...... เฉิงรุ่ยที่ได้รับข้อความกำลังเตรียมตัวกลับบ้านพอดีเมื่อเห็นประโยคที่ขึ้นบนหน้าจอเขาก็เงียบขึ้นมาในทันที ถูหนานและคนรอบๆตัวยังคงถามเขาต่อ:“เจ้านายจะไม่ไปหากู้โหยวกับพวกเราจริงๆเหรอ?ฉันคิดว่าเขาก็เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีอยู่เหมือนกันนะ” เฉิงรุ่ยถามนิ่งๆ:“ร้านไหน?” เมื่อถามแบบนั้นเจียวฝันก็ร่าเริงขึ้นมาทันที:“อยู่ใกล้ๆนี่แหละร้านอาหารฝรั่งชั้นดีร้านนึงนายไม่มีทางผิดหวังแน่นอน!” เฉิงรุ่ย:“ไปกันเถอะ” “งั้นฉันไปด้วย”จู่ๆหยางหลิวก็พูดแทรกเข้ามาวันนี้ที่สวมชุดสูทพร้อมเซ็ตกระโปรงแต่งหน้าดูดีเวลายิ้มดูสวยมากทำให้เจียวฝันถึงกับหน้าแดง ถูหนานตอบอย่างไม่ไว้หน้า:“นี่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับแผนกออกแบบนะพวกเราหนุ่มๆจะไปคุยงานเธออย่าไปด้วยเลยจะดีกว่า” เจียวฝันรีบเอ่ยปากขึ้นมาทันที:“ข้างนอกฝนตกหนักเธอกลับคนเดียวไม่ได้หรอกเดี๋ยวรอทานข้าวเสร็จฉันจะไปส่งเธอเอง” หยางหลิวอมยิ้มรู้สึกเกรงใจมาก:“ขอบคุณนะ” เพียงแต่สายตาของเธอโฟกัสไปที่เฉิงรุ่ยคนเดียวตลอดเวลา เฉิงรุ่ยสวมอยู่ในชุดเสื้อฮู้ทสีดำง่ายๆสบายๆสายตาเรียวยาวมองต่ำไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่มองจากมุมนี้สามารถเห็นจมูกเป็นสันริมฝีปากที่สวยงามสีปากของเขาดูซีดมากนัยตาก็ดูไร้ชีวิตชีวาไม่รู้ว่าผู้ชายแบบนี้หากมีท่าทีตื่นเต้นกระตือรือร้นขึ้นมาจะเป็นยังไง อยู่ๆหยางหลิวก็หน้าแดงก่ำ ถูหนานขัดจังหวะขึ้นมาทันที:“ไปกันเถอะๆคนเขาคงรอนานแล้ว” ในเวลาเดียวกันนั้น เซี่ยหลิงหลิงถูกจัดให้นั่งริมหน้าต่างบานใหญ่เธอกำลังเตรียมตัวนั่งลงกลับเห็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาบังเอิญจริงๆเขาคือผู้ชายแปลกหน้าที่เจอตอนเดินเข้าตึกมานั่นเอง เซี่ยหลิงหลิงทักทายเขา:“ไฮนายรอคนอยู่เหรอ?” อีกฝ่ายรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะตอบยิ้มๆ:“ใช่ครับผมรอเพื่อนอยู่”
已经是最新一章了
加载中