ตอนที่ 24   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 24
ต๭นที่ 24 หลังจากที่เซี่ยหลิงหลิงหัวเราะออกมา ก็รู้สึกตลกตัวเองเหมือนกัน ในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธอเข้าใจหยางหลิวมากๆ แม้แต่ในวันที่ฟ้ามืดครึ้ม เธอก็ยังทาครีมกันแดด ตากแดดที่แรงเป็นเวลานานขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกภาพเลย รอบนี้เกรงว่าถึงปีหน้าผิวก็อาจจะไม่กลับมาขาวเหมือนเดิม พอเห็นว่าหยางหลิวตาแดง ร้องไห้สะอึกสะอื้น เซี่ยหลิงหลิงก็รู้สึกเห็นใจ จึงเข้าไปปลอบสักหน่อย พอได้ยินคำปลอบของเธอ หยางหลิวกลับร้องไห้หนักกว่าเดิม ในตอนเย็น หยางหลิวผู้ที่ออกมาจากห้องก็ทาครีมฟื้นฟูหลังโดนแดดทั้งตัวที่ซื้อมาใช้ชั่วคราว เธอสวมใส่กระโปรงยาว หมวกบังแดด แว่นกันแดด กางร่ม ใส่ผ้าปิดปาก ปกปิดตัวเองไว้อย่างแน่นหนา มีพนักงานเอาเตาปิ้งย่างไปตั้งไว้ให้เรียบร้อย พวกเขาสามารถกินพวกของย่าง ดื่มเบียร์ นั่งตากลม อยากสบายแค่ไหนก็สบายได้ มีแค่หยางหลิวเพียงคนเดียวที่เหมือนมีเมฆสีเทาครึ้มฝนอยู่บนหัว ไม่เข้าพวกกับคนที่กำลังแฮปปี้ดี๊ด๊าอยู่ในขณะนั้น เจียวฝันไม่ได้รู้สึกว่าตากแดดจนตัวดำไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น เธอลืมไปนานแล้ว และเลือกที่จะไปหาของกินอร่อยๆกับพวกนั้นดีกว่า พ่อครัวสองสามคนกำลังจัดเตรียมเตาถ่านและเครื่องปรุงสำหรับปิ้งย่าง สายตาแว๊บหนึ่งมองเห็นสาวสวยที่สวมเสื้อนอกทับกำลังก้มเล่นก้อนหินเล็กๆ ดูน่ารักไร้เดียงสา ดวงตาสีดำทั้งสองข้างของเธอส่องประกายระยิบระยับราวกับดวงดาว เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นในทุกๆเรื่อง ช่างดูสวยงามเหลือเกิน พวกเขาแอบอู้งาน ทนไม่ไหวที่จะดูอีกสักครู่หนึ่ง หลังจากนั้น ก็มองดูสาวสวยหยิบปูตัวใหญ่ขึ้นมา แล้วหัวเราะเสียงดัง “เฉิงรุ่ย รีบมาดูนี่สิ ฉันจับปูได้” เฉิงรุ่ยค่อยๆถอยไปตรงที่ที่ปลอดภัย “...” ทุกคนที่กำลังมุงดู “...” ปูที่ถูกจับมาได้ถูกพ่อครัวจับเอาไปล้าง เตรียมที่จะใส่เครื่องปรุงลงไป เซี่ยหลิงหลิงเล่นอย่างมีความสุขสบายใจ เธอเก็บก้อนหินเล็กที่ถูกน้ำทะเลขัดจนเป็นกลมๆมามากมาย คิดที่จะกลับมาให้ร้านให้เจาะให้ แล้วสามารถทำออกมาเป็นสร้อยข้อมือได้พอดี นี่สามารถถือเป็นกำลังทำมือของแพนดอร่ามั้ยนะ เมื่อเธอหันมา เกือบชนกับใครบางคน เซี่ยหลิงหลิงลุกยืนขึ้นมาถึงจะมองเห็นว่าเป็นหยางหลิว “ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ” หยางหลิวไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ไม่มีความสวยงาม สง่าผ่าเผยที่อ่อนโยน สายตาจ้องมองไปที่เซี่ยหลิงหลิง “ฉันไม่สนใจหรอกนะ ว่าเธอจะแกล้งโง่ หรือว่าในใจจะมีแผนการอะไร แต่เฉิงรุ่ย...ฉันจะต้องได้เขามา” เซี่ยหลิงหลิง “ได้เลย” หยางหลิว “ฉันไม่ได้ล้อเล่น!” เซี่ยหลิงหลิง “ฉันก็ไม่ได้ล้อเล่นเหมือนกันหนิ คุณก็ทำตามแผนการของคุณไป แต่เราก็ยังคงเป็นพี่สาวน้องสาวกันได้อยู่ ใช่มั้ยคะ” หยางหลิว “......” เซี่ยหลิงหลิงยิ้มหรี่ตาพูดว่า “ควรบอกแบบนี้ว่า ระหว่างฉันกับเขาไม่ได้มีความรู้สึกที่เป็นสามีภรรยากันมากนัก ถ้าคุณอยากจะงัดมุมกำแพงก็เชิญงัด ไม่จำเป็นต้องมาบอกตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉัน เพราะว่าเฉิงรุ่ยเขาก็ไม่ได้ชอบฉันอยู่แล้วด้วย” หยางหลิวเริ่มจะเกิดความสงสัย ไม่กล้าพูดว่าชอบ แต่เธอมั่นใจแน่ว่าเฉิงรุ่ยแคร์เซี่ยหลิงหลิง แต่เมื่อเห็นท่าทางของเซี่ยหลิงหลิงแบบนี้ ใครจะแคร์มากกว่ากัน ก็คงดูออก หยางหลิวทั้งอิจฉาทั้งรู้สึกเจ็บอย่างพูดไม่ออก เฉิงรุ่ยผู้สูงส่งที่อยู่ในใจของเธอนั้น กลับไปปกป้องคนอื่นอยู่ฝ่ายเดียว เดิมทีเธอคิดว่าคนอย่างเฉิงรุ่ยน่าจะเป็นได้แค่คนที่ถูกรัก แต่หัวใจที่เย็นชาดวงนั้นกลับไม่คิดที่จะเปิดใจเลย หยางหลิวไม่พูดอะไรแล้ว เซี่ยหลิงหลิงกำลังทบทวนคำพูดตัวเอง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรผิด ในตอนนั้นไม่เข้าใจจริงๆว่าหยางหลิวกำลังคิดอะไร หยางหลิวกัดริมฝีปาก และพูดว่า “ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะปล่อยวางเขา” บนโลกนี้จะมีผู้ชายอย่างเฉิงรุ่ยสักกี่คนกันเชียว เซี่ยหลิงหลิงเริ่มอึดอัด ผู้หญิงดีแบบนี้ทำไมไม่ไปหาผู้ชายที่ทั้งฉลาด หล่อและรวยอย่างกู้โหยว ทำไมต้องมาติดที่เฉิงรุ่ย เธอพูดโน้มน้าวเธอด้วยความหวังดี “ทำไมฉันจะต้องเสียดายเขา ผู้ชายอะนะ คนเก่าก็ไม่ไป คนใหม่ก็ไม่มา…” ตอนที่เซี่ยหลิงหลิงพูดประโยคนี้ เฉิงรุ่ยกับพวกถูหนานก็บังเอิญเดินมาพอดี จึงได้ยินทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อได้ยินพี่สะใภ้พูดแบบนั้น คนอื่นๆก็มองไปที่บอสอย่างเงียบๆ แล้วคิดว่าบอสไปแอบมีคนอื่นหรือไม่ เฉิงรุ่ย “.....” “เฮอะๆ...เอ่อ ไปกินข้าวกันเถอะ ” ถูหนานรีบขัดขวางก่อนที่เซี่ยหลิงหลิงจะพูดต่อไป เซี่ยหลิงหลิงถูกเรียกตัวมาคุยโดยไม่ได้กินปูนร้อนท้องใดๆ เธอกลับไปกินปิ้งย่างอย่างมีความสุข เนื้อสดใหม่ที่ปรุงแล้วก็ถูกทาด้วยน้ำมันอีกชั้น แล้วย่างบนเตาถ่าน มีเสียงย่างฉ่าๆออกมา กลิ่นที่หอมกรุ่น ทำลายเซี่ยหลิงหลิงกลืนน้ำลาย หยางหลิวนั่งสวยอยู่บนเก้าอี้อย่างไม่ขยับ.. เซี่ยหลิงหลิงเดินผ่านก็ปากมากถามออกไป “ไม่กินเหรอคะ” เธอขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ “ฉันเป็นมังฯ” เซี่ยหลิงหลิง “ขอโทษที่มากวนนะคะ” คนที่ไม่มีเนื้อไม่กินแบบเธอ ไม่มีทางที่จะคุยกับหยางหลิวรู้เรื่องจริงๆ หยางหลิวเดินไปที่ถังน้ำสีแดงถังหนึ่ง มองปลาที่กำลังดิ้นอยู่ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “อย่ากินปลาพวกนี้เลย เห็นมั้ยว่ามันกำลังมีความสุข เราปล่อยพวกมันไปดีมั้ย” เสียงของเธอไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้เฉิงรุ่ยที่นั่งอยู่แถวนั้นได้ยินอย่างชัดเจน เซี่ยหลิงหลิงปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่ ฉันอยากกิน” “เธอทำแบบนี้โหดเหี้ยมเกินไปแล้ว ปลามันก็มีชีวิตนะ” เซี่ยหลิงหลิง “???” “ฉันเข้าร่วมกิจกรรมไถ่ชีวิตปล่อยสัตว์น้ำอย่างปลากับเต่าทุกปี” หยางหลิวพิสูจน์ความจริงโดยโชว์รูปที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือให้ดู “เธอดูสิ เต่าตัวนี้ตัวโตเท่านี้แล้ว ไม่รู้ว่ามันมีชีวิตอยู่มานานเท่าไหร่แล้ว” เซี่ยหลิงหลิงเอ่ยถามด้วยความลังเลใจ “นี่คือ….เต่าญี่ปุ่นใช่มั้ย…” เต่าญี่ปุ่นได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฆาตกรในระบบนิเวศ เป็นสัตว์ที่กินอาหารหลายประเภท มีลักษณะนิสัยดุร้าย แม้แต่คนก็ยังกล้ากัด เซี่ยหลิงหลิงคาดการณ์ไว้ว่า เต่าตัวนั้นที่หยางหลิวปล่อยไป คงกินปลาอยู่ในทะเลเกือบหมดแล้ว นี่มันเป็นการปล่อยสัตว์ประเภทไหนกัน หยางหลิวรู้จักเต่าญี่ปุ่นก็จริง แต่เธอกลับไม่รู้รายละเอียดอย่างแน่ชัดว่าหน้าตามันเป็นยังไง เธอทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากเฉิงรุ่ย จากนั้น เธอก็เบิกตากว้างมองเฉิงรุ่ย และชี้ไปที่ปลาเหล่านี้ พูดว่า “เอาไปย่างให้หมดเลย” หยางหลิว “.....” ผู้ชายไม่ได้ชอบผู้หญิงที่รักสัตว์และใจดีหรอกเหรอ ถูหนานยิ้มแบบอึดอัด ลากหยางหลิวกลับไป เพื่อที่จะให้เธอยอมแพ้ ก็ต้องอย่าปล่อยให้หยางหลิวไปกวนพวกเขาสองคน เซี่ยหลิงหลิงกลับไปนั่งที่ตัวเอง ตามองกุ้งที่ย่างสุกแล้ว เธอยื่นมือออกไปด้วยสายตาที่หิวโหย แต่กลับมีคนที่หยิบกุ้งตัวนั้นไปเร็วกว่าเธอหนึ่งวิ เฉิงรุ่ยมองไปที่เซี่ยหลิงหลิง เซี่ยหลิงหลิงนิ่งไป เธอคิดว่าเขาจะหยิบกุ้งมาให้ตัวเอง เธอยื่นมือออกมาและพูดว่า “ขอบใจ...อีตาบ้า!” ตาของเธอมองไปเห็นกุ้งเผาตัวหนึ่งกำลังเข้าไปอยู่ในปากของเฉิงรุ่ย เขาถูกกุ้งลวกปากเล็กน้อย อ้าปากเป่า แก้มขยับตามจังหวะเคี้ยวและคอมเม้นท์ว่า “อร่อย” เซี่ยหลิงหลิงกัดฟันกรามกรอดๆอย่างโหดร้าย เธอเดินไปหยิบปลาหมึกย่าง แต่เฉิงรุ่ยไวกว่าเธอมาก ขายาวๆของเขาก้าวไปถึงเตา และหยิบปลาหมึกย่างที่เซี่ยหลิงหลิงมองไว้ขึ้นมาเป่า แล้วเอาเข้าปาก “อร่อย” เซี่ยหลิงหลิง “.....ไม่ทราบว่าอยากตายเหรอคะ” เธอหมดความอดทนแล้ว เธอยื่นมือออกไปหยิบหอยนางรม ครั้งนี้เฉิงรุ่ยไม่ขัดขวาง เซี่ยหลิงหลิงยื่นมือออกไปอย่างสบายใจ “ร้อนๆๆๆๆ!” เฉิงรุ่ย “ฮา” “.....” เธอได้ยินว่าขอบคุณ เซี่ยหลิงหลิงอยากจะจับเฉิงรุ่ยพันไว้กับจรวดแล้วส่งขึ้นฟ้า ทางที่ดีก็ไม่ต้องได้กลับมาอีกอีกครั้ง เธอมองใบหน้ารูปไข่ของเฉิงรุ่ย ที่กำลังเคี้ยวอยู่อย่างคนไม่ได้ก่อเรื่อง ยิ่งมองก็ยิ่งโมโห ไม่รอปฏิกิริยาตอบกลับของเขา ทันใดนั้นเธอก็เอามือลากหน้าของเฉิงรุ่ยมา แล้วก็ขยำๆบี้ๆ ผิวหน้าของเฉิงรุ่ยบาง แค่ขยำไม่กี่ทีก็แดงแล้ว เซี่ยหลิงหลิงพูดอย่างยินดียินร้าย “ให้นายแย่งอีก” ทันใดนั้นเฉิงรุ่ยตกใจนิ่งไป สาวสวยที่อยู่ในจิตใจของเขานั้นมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ปกติจะจืดชืด แต่ ณ วินาทีนี้ กลับสัมผัสมันได้ชัดเจน มือของเธออบอุ่นมาก ปลายนิ้วมีความอุ่นจากการที่ถูกลวกเมื่อกี้ติดแนบบนแก้มของเขา หัวใจของเขาเหมือนกันถูกความร้อนแผดเผา เซี่ยหลิงหลิงในตอนนี้มองเห็นใบหน้าเองซูมอยู่ในลูกตาดำของเขา เกือบที่จะเต็มพื้นที่ในลูกตาดำ เธอตกใจไปชั่วขณะ ทันใดนั้นก็นึกได้ว่าตัวเองในตอนนี้เหมือนจะจับเฉิงรุ่ยมาจูบ ทั้งสองสบตากัน และอยู่ใกล้กันมาก “……” “……” “ที่ตาของเธอ มี….” เซี่ยหลิงหลิงทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “หุบปาก” คนสองสามคนที่นั่งอยู่เห็นทุกอย่างชัดเจน ถูหนานยกเบียร์มาดื่มหนึ่งที พูดว่า “หยางหลิว ยอมแพ้รึยังล่ะ เธอดูสิว่าบอสเคยทำแบบนี้กับเธอสักนิดมั้ย” พวกเขาก็ไม่ได้โง่ ถึงแม้ว่าเฉิงรุ่ยจะเย็นชา ท่าทางดูไม่แคร์อะไร และยังตั้งใจยั่วโมโหเซี่ยหลิงหลิง นอกจากว่าอีกฝ่ายถือสา ก็ไม่มีเหตุผลอื่นแล้ว ... หยางหลิวเม้มริมฝีปากแน่น ไม่พูดอะไร “ทางที่ดีก็ควรรีบไปขอโทษให้เร็วที่สุด ตอนนี้บอสเค้าก็เก็บไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่าบอสจะอนุญาตให้ทำแบบนี้” หยางหลิวรู้สึกทรมานใจขึ้นมาทันที “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าฉันแย่กว่านังนั่นตรงไหน ทำไมพวกนายต้องเข้าข้างยัยนั่นด้วย งานแต่งงานที่มีเพียงแค่การขึ้นชื่อ จะต้องดูแลเหรอ นี่มันสมัยไหนแล้ว การที่ชอบคนคนหนึ่งมันก็เป็นอิสระของเราไม่ใช่เหรอ” “เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างคนมันเอามาเทียบกันได้ที่ไหน หยางหลิว เธอคิดง่ายไปแล้ว” เจียวฝันที่เงียบๆมาตลอด อยู่ ๆ ก็สีหน้ามาดเข้มขึ้นมา “ไม่ว่าจะเหตุผลใด ๆ ก็ไม่สามารถเอามาเป็นข้ออ้างในการที่จะเข้าไปแทรกงานแต่งงานของคนอื่นได้ อย่าทำให้ฉันต้องดูถูกเธอนะ” “……” * เซี่ยหลิงหลิงหลับสนิทไปแล้ว เฉิงรุ่ยกลับยืนตากลมอยู่ข้างนอก เสื้อที่เขาสวมใส่สบายๆ ปลิวพลิ้วไสวตามทิศทางลม เขายืนอยู่บนหาดทรายที่ละเอียดอยู่คนเดียว ไม่รู้ว่ากำลังพินิจพิเคราะห์คิดอะไรอยู่ ข้างหลังมีเงาหนึ่งค่อยๆเดินตรงมายังเขา เจ้าของเงาก็คือหยางหลิว ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน หยางหลิวพูดออกมาเบาๆ “ไม่มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอคะ” เฉิงรุ่ยเดิมอ้อมไปอีกทาง หันหลังใส่เธอ พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง “อย่าเอาความน่าเชื่อถือจากการทำงานไปแลกกับการท้าทายอย่างอื่น” “คุณหมายความว่า….” ทันใดนัั้นสีหน้าของเธอก็ขาวซีด “เขียนจดหมายลาออกซะ” หยางหลิวไม่อยากจะเชื่อว่าเฉิงรุ่ยจะเป็นคนพูดเรื่องให้เธอลาออกจากงานเอง เธอกำมือแน่น กัดฟันและพูดว่า “ถ้าฉันไปก็ไม่มีใครสามารถที่จะรับงานต่อจากฉันได้ คุณคิดให้ดีนะ! เฉิงรุ่ยหันตัวอย่างช้าๆ ในบรรยากาศยามค่ำคืน แววตาของเขามืดมิด นี่เป็นความเย็นชาความเงียบเซี่ยหลิงหลิงไม่เคยเห็นมาก่อน เขาเงียบๆ หยางหลิวน้ำตาไหลไม่หยุด และไร้อารมณ์บนใบหน้า “ในการทำงานมันไม่มีใครที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์หรอก” ดังนั้น การที่วางแผนที่จะใช้ประสบการณ์ของตัวเองและตำแหน่งเพื่อได้มาซึ่งสิทธิ์พิเศษในด้านอื่นๆ มันเป็นสิ่งที่ยิ่งผิดไปอีก หยางหลิวตัวสั่นไปทั้งตัว เธอนึกถึงคำพูดของถูหนานขึ้นมาได้ “หยางหลิว เธอยังไม่เข้าใจเฉิงรุ่ยหรอก” แต่ก็เหมือนกับเธอยังไม่เข้าใจถ่องแท้ ทำไมไม่ว่ากับเรื่องอะไร เขาจะต้องหลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญด้วย หยางหลิวปาดน้ำตา และพูดอย่างไม่อยากยอมรับ “ฉันยังมีคำถามสุดท้าย… ในโลกของคุณ จะมีคนที่เป็นหนึ่งเดียว ไม่เหมือนใครมั้ย” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ในบรรยากาศยามค่ำคืน เขาก้าวเท้าเดินไปยังทะเลอันกว้างอย่างไม่สนใจ บรรยากาศเงียบอย่างได้ยินเสียงคลื่นซัดฝั่งอย่างชัดเจน “ไม่รู้” …… วันต่อมา ห้องของหยางหลิวว่างเปล่า มีเพียงจดหมายลาออกหนึ่งฉบับ พอเพื่อนร่วมงานรู้ข่าวก็ตกอกตกใจกับเป็นแถว เจียวฝันรีบร้อนโทรไปหาเธอ แต่ก็ถูกเฉิงรุ่ยที่ไม่รู้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ขวางไว้ “ไม่จำเป็นหรอก” “บอสครับ งานทำไปถึงตั้งครึ่งทางแล้ว บอสจะให้เขาไปแบบนี้เลยเหรอ” “อืม” คำพูดของเฉิงรุ่ย เมื่อพูดออกมาแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะต่อแย้งได้อีก ถูหนานถอนหายใจ เกาหัวยิกๆ แล้วพูดว่า “งั้นบอสลองบอกมาสิครับว่าควรทำยังไง” การตอบสนองของเฉิงลุ่ยจืดชืด “ไม่ใช่รวบรวมนักวาดแล้วเหรอ ก็ลองบอกงานพวกเขาไปก่อน” นักวาดที่ถูกรวบรวม?! คนอื่นๆ มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ที่หนึ่ง คือเซี่ยหลิงหลิงไม่ใช่เหรอ! “ฮัดเช้ยยย !” เซี่ยหลิงหลิงจามหนึ่งที ใช้มือถูๆ จมูก เมื่อคืนนอนไม่ค่อยสบาย ผมยุ่งจนเป็นรังนก เธอพลางหวีผมพลางยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กลับเห็นข้อความหนึ่งจากเบอร์ไม่รู้จัก ชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามโกรธมาก ใส่เครื่องหมายตกใจมาเยอะมาก “ฉันไม่มีทางที่จะเป็นพี่สาวน้องสาวกับเธอ!!!!” เซี่ยหลิงหลิง “???” ทันใดนั้นเธอก็นึกได้ว่าคนที่ส่งมาคือใคร เซี่ยหลิงหลิงสีหน้ารู้สึกตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไร หยางหลิวนี่แปลกคนแหะ 
已经是最新一章了
加载中