ตอนที่ 38
ตนที่ 38
ฝ่ายตรงข้ามอยากจะได้ภาพร่างต้นแบบของเจียเฉิง ก็เอาภาพต้นแบบให้ไป เฉิงรุ่ยพูดแบบนั้น
แต่ถ้า…..ต้องให้ภาพต้นแบบจริงๆ ภาพแบ้คกราวน์ในแผนเอก่อนหน้านี้ก็จะใช้งานต่อไปอีกไม่ได้แล้ว
มาหาเรื่องเองถึงที่ ถ้าไม่ได้รับเงินฝ่ายนั้นไม่พวกเขาก็คงไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีของตน หลังจากที่เซี่ยหลิงหลิงคุยกับเฉิงรุ่ยเสร็จแล้ว ก็เปิดประชุมเล็กๆกับพวกถูหนานและเหล่าเมิ่ง เหล่าเมิ่งตัดสินใจว่าควรจะเลือกรูปใดบ้าง แถมยังจะเลือกรูปที่เขาไม่ชอบและออกแบบได้ห่วยที่สุดให้
พอคุยเรื่องรายละเอียดกันเรียบร้อยดีแล้ว เซี่ยหลิงหลิงก็ส่งข้อความไปหาหลินลี่ “ฉันได้ของแล้ว พวกเราจะเจอกันเมื่อไหร่”
หลินลี่เห็นข้อความดังกล่าวก็ตื่นเต้นดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ในวันนั้นเขานัดเซี่ยหลิงหลิงให้มาเจอกันที่ร้านขนมหวานร้านเดิม แถมยังกำชับให้เซี่ยหลิงหลิงระวังตัวว่าจะถูกคนของบริษัทสะกดรอยตามมา เซี่ยหลิงหลิงก็ตอบตกลงออกมาได้อย่างเต็มปาก
วันนี้มีลมหนาวรุนแรงเหมือนเดิม เซี่ยหลิงหลิงหนาวจนตัวสั่นไปหมด และในตอนที่เธอถึงร้านขนมหวาน เธอก็เห็นผู้ชายอ้วนๆคนหนึ่ง เป็นหลินลี่จริงๆ หลินลี่กำลังกินเครปเค้กราดเนยอยู่ เซี่ยหลิงหลิงเห็นก็แยะยิ้มมุมปาก เธอเดินเข้าไปหาเขา แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย
เธอมองหลินลี่เหมือนเป็นถุงที่เต็มไปด้วยเงินเล็กๆ ไม่ว่ามองยังไงก็น่ารัก
เธอยิ้มออกมา
แม้ว่าหลินลี่จะเห็นคนสวยๆมาจนชินแล้ว แต่พอเธอมองแบบนั้นเขาก็เขิน โดยเฉพาะรอยยิ้มกับสายตาในตอนที่เธอมองเขา
หลินลี่รีบหยิบทิชชูมาเช็ดปาก แล้วบอกให้เซี่ยหลิงหลิงนั่งลงก่อน
“คุณสั่งอะไรหน่อยมั้ย”
เซี่ยหลิงหลิงสั่งชานมไข่มุกแก้วหนึ่ง
หลินลี่ถาม “นั่นมัน…”
เซี่ยหลิงหลิงเลิกคิ้วสูง “คุณต้องเก็บไว้ให้ดีนะ กว่าจะได้มาไม่ใช่ง่ายๆเลย” เพราะเลือกกันตั้งเป็นวัน
“แน่นอนครับ แน่นอน”
เซี่ยหลิงหลิงเอาแฟลชไดรฟ์วางไว้บนโต๊ะ แล้วเลื่อนไปให้หลินลี่ หลินลี่รีบหยิบมันขึ้นมาเช็ดอย่างระมัดระวังหลายครั้ง จากนั้นใส่ลงไปในกระเป๋าเอกสารสีดำของเขา เซี่ยหลิงหลิงเห็นท่าทีที่ระมัดระวังมากๆของเขา ก็อดที่จะขำไม่ได้
หลินลี่ “ตอนนี้ผมจ่ายให้คุณก่อนสามล้าน ส่วนที่เหลือจะจ่ายตามไปทีหลัง หลังจากที่บริษัทผมดูภาพแล้วนะครับ”
เซี่ยหลิงหลิงหนังตากระตุก สีหน้าท่าทางเหมือนเฉิงรุ่ยไม่มีผิด จากนั้นคิ้วที่เรียวยาวก็เลิกขึ้น น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวล ดูสบายใจ และไม่ทุกข์ร้อนลงมาทันที “พวกคุณจะทำตามที่พูดจริงๆใช่มั้ย”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ”
พอถูกเธอจ้องแบบนั้น หลินลี่ก็เหงือท่วมจนขนลุกขนชันไปหมด แล้วเขาก็โบกไม้โบกมือ
“ถ้าหากว่าเป็นภาพปลอม พวกเราก็เสียเงินฟรีๆเลยใช่มั้ยล่ะครับ ดังนั้น...รอให้พวกเรา…”
“ขอโทษค่ะ ฉันอดทนรอนานขนาดนั้นไม่ได้ ฉันรอได้นานสุดถึงตอนที่บริษัทพวกคุณจะประกาศเปิดตัวเกมใหม่นะคะ”
เซี่ยหลิงหลิงกอดอก แล้วนั่งไขว่ห้าง “หรือว่าพวกคุณจะปฏิเสธ ฉันอัดเสียงที่พวกเราคุยกันครั้งก่อนไว้แล้วนะคะ ถ้าพวกคุณไม่ให้เงินฉัน ฉันจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับเจียเฉิง
หลินลี่ปาดเหงื่อ “ผมต้องกลับไปปรึกษากับพรรคพวกสักหน่อย”
เซี่ยหลิงหลิงยิ้มแต่เหมือนกับไม่ยิ้ม “ขอเตือนคุณไว้ก่อนนะคะ เท่าที่ชั้นรู้ เจียเฉิงจะยื่นเรื่องฟ้องร้องไม่ต้องรอถึงสามวันก็ได้ขึ้นศาลแล้ว”
วันต่อมา
ณ สโมสรกอล์ฟแห่งหนึ่ง
หลินลี่ยืนอยู่ข้างๆ ปล่อยให้พวกแค้ดดี้ออกไปที่อื่นก่อน เขาโค้งคำนับและรายงานคำพูดของเซี่ยหลิงหลิงให้รองประธานทราบ รองประธานหรี่ตา เลียปาก และพูดว่า “งั้นก็รีบไปดำเนินการซะสิ”
“เงินล่ะครับ”
“ให้หล่อนไปก่อน ถึงเวลาแล้วค่อยหาวิธีทำให้เธอคายมันออกมา” เขาพูดพลางยิ้มเย้ยหยันอย่างเลือดเย็น
ยังไงชู้ของตัวเองก็ต้องมอบรางวัลให้เป็นขวัญกำลังใจสักหน่อย
พอคิดได้ดังนี้ รองประธานก็จิตใจฟุ้งซ่าน รองประธานรู้สึกร้อนรนแปลกๆ ได้ยินพวกเขาบอกว่า เขาบริหารบริษัทไม่เป็น มาด่าเค้าว่าใช้เงินของคนในครอบครัวไปวันๆ นี่เค้าก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จแล้วเหมือนกันเหรอ
เขาคิดไว้ดีแล้วว่าในงานเลี้ยงแสดงความยินดีจะพูดบรรยายการประสบความสำเร็จของตัวเองยังไง
แม้กระทั่งกับผู้หญิงคนนั้น?
เหอะ ใครที่กล้ามาลองดีกับหนานกงอ้าวเทียน ก็คือรนหาที่ตาย!
*
เซี่ยหลิงหลิงได้รับเงินจากบริษัทรุ่ยฟาง เงินก้อนแรกจำนวนสามล้านหยวน เงินก้อนที่สองจำนวนเจ็ดล้านหยวน รวมแล้วโอนเข้าบัญชีเธอมาสิบล้านหยวน ทำให้เธอดีใจจนทำอะไรไม่ถูก
อีกฝ่ายเป็นมือโปร การโอนเงินแต่ละขั้นตอนลึกลับซับซ้อนจนหาต้นตอไม่ได้ เซี่ยหลิงหลิงนับจำนวนเลขศูนย์ที่อยู่ในบัญชี….ทันใดนั้นเธอก็ได้เข้าใจว่าคนที่ตื่นเต้นดีใจตอนถูกหวยมันเป็นยังไง
พระเจ้า หาเงินนี่ง่ายไปมั้ย!
เซี่ยหลิงหลิงยืนพิงขอบประตูมองมือถือพลางพูดกับเฉิงรุ่ย “คำว่ารวยแต่โง่นี่มันมีจริงๆด้วยนะ”
เฉิงรุ่ยกำลังยุ่งอยู่กับการกินมื้อเช้า เขาดื่มนมวัวไปแก้วหนึ่ง จากนั้นก็หยิบถุงขนมแผ่นข้าวโอ้ตยี่ห้อฮวาลาลาขึ้นมา เป็นแผ่นข้าวโอ้ตที่อบให้แห้งแล้ว พอกินก็จะมีเสียงกรุบกรอบ เขาอาศัยช่วยที่เซี่ยหลิงหลิงไม่สนใจนำแผ่นข้าวโอ้ตมาเรียงกันเป็นกองภูเขาเล็กๆ
เซี่ยหลิงหลิงที่ได้ยินเสียงหันมาก็พบว่าเฉิงรุ่ยกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ “.....หยุดเลยนะ!”
ไม่ว่าจะเป็นจำพวกธัญพืชแบบไหนก็จะต้องใช้วิธีการกินแปลกๆแบบนี้เลยเหรอ
เฉิงรุ่ยหยุดการกระทำที่ทำอยู่อย่างผิดหวัง ฉวยโอกาสตอนที่หลิงหลิงไม่ได้สนใจเขย่าข้าวโอ๊ตจนแตกเป็นเศษกรอบๆหวานๆจนเกือบจะหกออกมาจากถุง
เซี่ยหลิงหลิง”....”
ที่ว่ารวยแต่โง่นี่พูดถึงใครกันแน่นะ?
“พวกเรามาแบ่งเงินกันเถอะ เป็นเพราะบริษัทช่วยอย่างเต็มที่ ฉันสามสิบนายเจ็ดสิบดีมั้ย ถ้าน้อยเกินไปก็คุยกันได้นะ” เซี่ยหลิงหลิงดึงเก้าอี้ออกมานั่งอยู่ตรงข้าม แล้วมองเขาด้วยดวงตาที่สวยงามเปล่งประกายเจิดจรัสดั่งดอกท้อที่ทำให้คนเห็นต้องหลงใหล
เฉิงรุ่ย “กรุบๆ…”
เซี่ยหลิงหลิง “น้อยไปเหรอ...งั้นนายแปดสิบฉันยี่สิบก็ได้”
เฉิงรุ่ย “กรุบๆ…”
เซี่ยหลิงหลิง “นี่!”
ในที่สุดเฉิงรุ่ยก็เงยหน้าจากถ้วยซีเรียล แล้วพูดอย่างช้าๆว่า “ให้หมดเลย”
เซี่ยหลิงหลิงนิ่งไปสักพัก แล้วพูดว่า “ถึงนายจะมีเงินอยู่แล้ว แต่จะให้เงินฉันทั้งหมดไม่ได้นะ”
เฉิงรุ่ยยังคงพูดต่อไป “เธอเก็บไว้ก่อน ไว้ฉันไม่มีเงินค่อยขอจากเธอ”
เซี่ยหลิงหลิง “.....” พล่ามบ้าอะไรกันเนี่ย
“ทรัพย์สินร่วมกันของสามีภรรยา ใครเก็บไว้ก็เหมือนกันนั่นแหละ” เขาพูดน้ำเสียงเรียบๆ พูดจบก็ก้มหน้าแกะแผ่นข้าวโอ้ตอบแห้งต่อ
เซี่ยหลิงหลิงขัดใจเขาไม่ได้เลยจริงๆ เธอจึงได้แต่ขมวดคิ้วและพูดว่า “ก็ได้ งั้นฉันเก็บไว้ก่อนนะ”
เงินก้อนนี้เธอจะเก็บไว้ก่อน แต่เธอจะไม่ใช้ เก็บไว้ในธนาคารเพื่อสะสมดอกเบี้ยก็ดูไม่เลว
รุ่ยฟางดำเนินการอย่างรวดเร็วตามคาด
ไม่นึกว่าจะทำงานล่วงเวลาในช่วงก่อนเทศกาลวันคริสต์มาสเพื่อเผยแพร่ภาพร่างต้นแบบคร่าวๆอย่างเป็นทางการ ดูเหมือนก้อปมาจริงๆ ก่อนหน้านี้เจียเฉิงได้ประกาศชื่อเกมอย่างเป็นทางการแล้ว ชื่อเกมของเจียเฉิงคือ Legend of knight ส่วนรุ่ยฟางก็ใช้ชื่อเกมว่า knight Saga
เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามได้ซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมทเกม ใช้วิธีการโฆษณาผ่านทางแอพโซเชียลที่มียอดฟอลมากกว่าห้าแสนคน ทำให้เห็นว่าเกมดูยิ่งใหญ่มาก บอกว่าเกมนั้นได้เชิญผู้ที่เก่งกาจมาออกแบบ จะทำให้ทุกคนได้เห็นโฉมหน้าใหม่ของเกม
ติดท็อปการค้นหาหนึ่งวันเต็ม ก็มีคนแสดงความคิดเห็นต่างๆนาๆ ชาวเน็ตที่เล่นเกมบ่อยเต็มไปด้วยความสงสัยในตัวรุ่ยฟาง เพราะยังไงเมื่อก่อนพวกเขาก็เคยทำเรื่องมิดีมิร้าย และก็มีคนไม่น้อยที่ตั้งตารอคอยการเปลี่ยนแปลงโฉมใหม่ของบริษัท
ในขณะเดียวกัน บนเน็ตก็มีหัวข้อใหม่ขึ้นมา มีบอกว่าภาพในเกมของรุ่ยฟางดูเหมือนกับของเจียเฉิงเล็กน้อย ล้วนแต่เป็นแนวโบราณที่มีสีสัน ทำให้คนรู้สึกดูสว่าง แต่ถ้าให้พูดถึงการวาดที่แท้จริง ยังไงของเฉิงรุ่ยก็ดูดีกว่า
ในขณะเดียวกัน จริงๆแล้วเจียเฉิงจะต้องประกาศโฆษณาไตเติ้ลเกมในวันที่สอง แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย แค่ออกมาบอกว่ามีปัญหานิดหน่อย สามวันต่อมาถึงจะประกาศโฆษณาไตเติ้ลเกม เมื่อข่าวคราวออกมา ชาวเน็ตล้วนแต่ตกตะลึง ไม่รู้ว่าเจียเฉิงมีปัญหาอะไร
แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเปิดตัวเกมช้า ไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือไม่
ส่วนรุ่ยฟางนั้นก็บูมดังขึ้นมา
ใช่จริงๆ! ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ให้รูปปลอม เจียเฉิงจะต้องเกิดปัญหาแน่ๆ
พวกพนักงานของเจียเฉิงเสียงดังอื้ออึง นอกจากผู้บริหารชั้นสูง ก็ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นกันแน่ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือว่าบริษัทมีหนอนบ่อนไส้ที่เอา เอาต้นฉบับเดิมของบริษัทออกไปเผยแพร่ และชื่อของผู้ที่เป็นหนอนบ่อนไส้ กลับแอบชี้ว่าเป็นเซี่ยหลิงหลิง
ในตอนที่เซี่ยหลิงหลิงถึงบริษัท ก็รู้สึกได้ทันทีว่าสายตาของพนักงานบางส่วนที่มองเธอนั้นผิดปกติไป ตอนที่เซี่ยหลิงหลิงเข้ามานั้นมีเสียงคุยโว แต่เธอก็ชินกับสายตาเหล่านั้น ก็เลยไม่ได้คิดอะไรไปโดยธรรมชาติ
เมื่อถึงตอนที่มีคนมาวิจารณ์อยู่ข้างหลังเงียบๆ “ดูสิ ขายบริษัทแล้วยังจะมาทำงานอีก”
ถูหนานส่งข้อความไปหาเซี่ยหลิงหลิง
“มีคนในบริษัทปล่อยข่าวลือว่าคุณเอาข้อมูลลับของบริษัทไปขาย คาดว่าน่ารุ่ยฟางน่าจะส่งหนอนบ่อนไส้มาอยู่ในบริษัทเรา พี่สะใภ้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรมสักหน่อย พวกเราจะรีบจับตัวคนที่ปล่อยข่าวลือมาให้จงได้ครับ”
...
เซี่ยหลิงหลิงงุนงงไปสักพัก ทันใดนั้นก็ยิ้มแล้วตอบข้อความกลับไป “โอเค ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น”
เหล่าเมิ่งนั่งอยู่ในออฟฟิศ เขาเอ่ยถามออกมาเหมือนกับดูว่างงาน “เป็นไง อยากจะมาผ่อนคลายอารมณ์มั้ย”
เซี่ยหลิงหลิง “ผ่อนคลายอารมณ์?”
เหล่าเมิ่งดวงตาเป็นประกายอย่างแปลกประหลาด “มาดู One-punch man ด้วยกันเถอะ! แล้วเธอจะหลงรักไซตามะเซ็นเซย์!”
เซี่ยหลิงหลิง “....ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันไม่ค่อยสนใจคนหัวล้านน่ะค่ะ”
ในขณะที่พูดอยู่ หลินลี่ก็ส่งข้อความมาหาเซี่ยหลิงหลิง “คืนเงินมาครึ่งนึง เพื่อปกป้องไม่ให้เธอถูกเจียเฉิงตามทวงหนี้ ดีมั้ย”
เซี่ยหลิงหลิงบล็อกเขาทันที
บ้ารึเปล่า ยังจะให้เธอคืนเงินครึ่งนึงอีกเหรอ
พอตอนบ่าย พนักงานของเจียเฉิงก็ใจเต้นตุบตับด้วยความตื่นตระหนก
จากนั้นก็มีพนักงานถูกเรียกเข้าไปสอบถามสองสามละคน ใครใครก็ดูออกว่าต้องเป็นปัญหาเกี่ยวกับเกมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวแน่ๆ ถ้าเกิดมีหนอนบ่อนไส้จริงๆ ก็ถือว่าจะเป็นเกิดปัญหาเลวร้ายกว่าเดิม แต่ก็ยังบางคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมองเซ๊่ยหลิงหลิงที่โดนเรียกเข้าไปข้างในออฟฟิศ
แต่ผ่านไปสองสามชั่วโมง ถูหนานก็ลากตัวคนคนหนึ่งออกมา ดีที่เขาลองไปตรวจสอบ คนคนนี้เป็นทั้งคนที่มีบุญคุณและตัวอันตรายของบริษัท ในที่สุดก็จับหมากที่มาทำแบบนี้จากรุ่ยฟางได้ หนอนบ่อนไส้นี้เซี่ยหลิงหลิงรู้จัก ติดไม่ถึงว่าจะเป็นเสี่ยวฟางที่อยู่ฝ่ายออกแบบ
ในที่ทำงานเสี่ยวฟางก็ทำตัวถือว่าดี แต่ก็แค่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ทำให้เธอรู้สึกคับแค้นใจ ไม่รู้ว่าไปจับมือกับรุ่นฟางตั้งแต่เมื่อไหร่
ก่อนหน้านี้ ต้นฉบับออกแบบในเกมของเจียเฉิงเคยเกิดปัญหาจุกจิกสองสามครั้ง โชคดีที่สามารถแก้ไขได้เร็ว พอเอามาปะติดปะต่อกับวันนี้ก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่าปัญหาคือการวาดของเสี่ยวฟาง ภายใต้การไถ่ถามจากถูหนาน เธอก็ยอมรับอย่างติดๆขัดๆ
ในตอนที่เธอรู้ว่าเซี่ยหลิงหลิงขายข้อมูลบริษัท ก็อยู่ในช่วงที่เธอกำลังรู้สึกโกรธแค้น แล้วก็พูดตามคำเล่าลือทั้งหมดของรุ่ยฟางที่พูดในห้องน้ำชา พวกเขาคิดว่าเป้าหมายหลักของบริษัทจะไปโฟกัสอยู่บนที่มาของเรื่องว่าต้นฉบับหาย
เสี่ยวฟางพูดกับถูหนานที่ดูเด็ดขาดน่าเกรงขามอย่างเก้กังๆและหวาดกลัวว่า “ไม่มีทาง! เซี่ยหลิงหลิงต้องขโมยข้อมูลลับของบริษัทไปแน่ๆ! ทำไมพวกคุณถึงไม่สอบสวนเธอล่ะ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย!”
ถูหนานไม่ได้ยิ้มอย่างอบอุ่นอีกแล้ว เขาขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียดและจริงจัง
“เรื่องมันถูกจับได้แล้ว และมันต้องเป็นไปตามนี้ เธอทำแบบนี้จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ต่อไปอย่างหวังว่าจะสามารถได้คลุกคลีกับวงการนี้อีก เสี่ยวฟาง ทำไมเธอถึงได้งี่เง่าแบบนี้”
เสี่ยวฟางถูกทำให้ตกใจจนหน้าซีดเผือด
“ขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ อภัยให้ฉันด้วยเถอะนะ ฉันไม่อยากออกจากเจียเฉิง!”
เมื่อเห็นสภาพการณ์ร้องขอจากเธอ ถูหนานไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร “เก็บข้าวของแล้วกลับไปหารุ่ยฟางของเธอเถอะ ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ
เมื่อกำจัดหนอนบ่อนไส้ของบริษัทออกไปได้ ทำให้ถูหนานถอนหายใจอย่างโล่งอก ถ้ายึดตามแผนเดิม เสียวฟางจะได้เลื่อนตำแหน่งและเพิ่มเงินเดือนหลังจากที่ทำเกมนี้เสร็จ และจะได้รับความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ก็แค่ไม่รู้ว่าในบริษัทจะมีคนแบบนี้อีกเท่าไหร่ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ
เมื่อนึกถึงคนบางคนที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ในบ้าน ถูหนานก็รู้สึกผิด ไม่แฮปปี้เลย
เสี่ยวฟางร้องไห้กอดกล่องใส่ของ ทั้งบริษัทมีแต่เสียงนินทาและวิจารณ์
ผ่านไปไม่ถึงสามนาที เซี่ยหลิงหลิงก็ถูกเชิญเข้าไปที่ห้องทำงานของถูหนาน
พวกพนักงานที่นั่งอยู่ในลานทำงานก็ฮือฮา มีคนอั้นความอยากรู้อยากเห็นไว้ไม่อยู่ ก็แกล้งทำไปเป็นเข้าห้องน้ำ เดินผ่านห้องทำงานของถูหนาน แล้วก็ยืนหลังกระจก พวกเขากำลังเตรียมใจที่จะตกใจว่าจะเห็นเซี่ยหลิงหลิงโดนด่าอยู่บนเก้าอี้ แต่พวกเขากลับเห็นว่าผู้จัดการถูหนานที่หล่อเหลาโค้งตัว และยื่นกาแฟให้ฝ่ายตรงข้ามด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
พวกพนักงานที่มุงดูเห็นถึงฉากนี้ “!!!”
พระเจ้า ที่แท้จริงแล้วพวกเขาเห็นอะไรกันแน่!
*
ในขณะเดียวกัน
รองประธานของรุ่ยฟางไม่ได้รับข่าวล่าสุดจากเสี่ยวฟาง
เขารู้เพียงแค่ว่าตอนนี้เจียเฉิงจะหาตัวหนอนบ่อนไส้มาให้ได้
เขายืนอยู่ในออฟฟิศ มือข้างหนึ่งจับไม้กอล์ฟแล้วยิ้มอย่างเย็นชา
“ฟ้าสว่างแล้ว ให้เจียเฉิงจะล้มละลายเถอะ