บทที่ 60
บ๗ที่ 60
เมื่อสงครามจบลง ทางเจียเซิ่งก็ได้ปล่อยระเบิดลูกใหญ่ออกมาอีกลูก
ออกมาแถลงการณ์หน้าเพจ ความหมายโดยรวมคือ เจียเซิ่งไม่ขอร่วมงานใดๆกับรุ่ยฟางอีกต่อไป ตัดขาดสิ้นเชิง
แอดมินแอบเข้ามาเติมคอมเม้นท์ใต้โพสต์แถลงการณ์ และก็ถูกติดเป็นท็อปคอมเม้นท์ : “อีกอย่าง บอสใหญ่ได้ออกมายืนยันแล้ว เรื่องหย่าจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน [แอบขำ]”
โพสต์แถลงการณ์ถูกปล่อยออกไป ฝูงชนก็เกิดความโกลาหล แม้ว่าเจียเซิ่งจะเป็นบริษัทใหญ่โต อนาคตสดใส แต่เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากทางรุ่ยฟางจึงต้องยกเลิกการร่วมมือกัน และถือได้ว่าเป็นการตัดขาดกันอย่างโดขาด เวยป๋อตอนนี้ได้กลายเป็นจุดศูนย์รวมความรื่นเริงของชาวเน็ตไปแล้ว ไม่รู้ว่าแอดมินคนไหนที่รีบอาศัยช่วงกระแสกำลังดุเดือด แล้วได้ไปสืบหารายชื่อการร่วมกันของเจียเซิ่งและรุ่ยฟางและเปิดเผยมันออกมา ทางฝั่งเจียเซิ่งร่วมมือกับบริษัทชั้นนำหลายแห่งทั้งนั้น ชาวเน็ตต่างพากันออกมาแสดงหลักฐานที่อยากจะขอร่วมมือกับเจียเซิ่งกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับมีม “เรามาอย่างเป็นมิตร! อย่าลั่นปืนนะ!”
พวกกินเผือกก็กินเผือกต่อไป พวกขี้อิจฉาก็พากันเข้ามาอิจฉา Legend of knight ของเจียเซิ่งก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหนึ่ง
เวยป๋อของเซี่ยหลิงหลิงได้ถูกยึดเป็นที่เรียบร้อย
ในคอมเมนท์มีคนที่มาให้กำลังใจ มีพวกที่มารอเผือก มีคนที่มาแสดงความยินดี มีทั้งคนที่อิจฉาริษยา และกลุ่มคนที่พยายามคอมเมนท์ยุยงให้พวกเขารีบแต่งงานกันเร็วๆ แต่ก็มีคนรีบเข้ามาบอกว่า เขาเป็นถึงเถ้าแก่เนี้ยแล้ว คอมเมนท์ต่างๆจึงผันกลายมาแสดงความอิจฉาซะส่วนใหญ่
ถูหนานโทรมาถามสถานการณ์ : “บอสครับ จะออกมานัดรวมประชุมสักหน่อยมั้ยครับ?”
เฉิงรุ่ย : “หืม?”
“ก็เหมือนกับที่ Iron Man ออกมาประกาศว่าตัวเองเป็น Iron Man และ Black Panther ออกมาประกาศตัวว่าเป็น Black Panther บอสเองก็?”
เฉิงรุ่ย : “......”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ถูหนานถูกวางสายใส่ ถูหนานรู้สึกว่าปีใหม่ที่ผ่านมานี้ชีวิตการทำงานของตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยง และแน่นอนหากเขารู้ว่าตัวเองขัดจังหวะการสารภาพรักของเจ้านายตัวเองมาแล้วกี่ครั้ง เกรงว่าเขาคงจะยอมลาตายไปอย่างไม่ต้องลังเล
......
เซี่ยหลิงหลิงกำลังทำศึกอยู่กับเกมส์ diminishing อยู่ แล้วจู่ๆ ประตูห้องของเฉิงรุ่ยก็ถูกเปิดออก เธอหยิบมือถือของเซี่ยหลิงหลิงออกมาวางไว้บนเครื่องกาแฟ
เซี่ยหลิงหลิงนั่งขดตัวเล่นเกมส์บนโซฟา กุมมือถือเอาไว้แน่นไม่ยอมให้เขาเห็น
เฉิงรุ่ยเหร่มองเซี่ยหลิงหลิงเล็กน้อย แล้วถาม : “เล่นถึงด่านไหนแล้ว?”
เซี่ยหลิงหลิง : “......นายอย่าถาม!”
เฉิงรุ่ย : “ ? “
เซี่ยหลิงหลิงเลือกที่จะออกจากเกมส์ ลบเกมส์ทิ้ง ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง : “ผ่านหลายด่านเกิน กลัวนายจะตกใจ เพราะงั้นนายอย่าดูเลยจะดีกว่า”
เขารับมือถือคืนไป พูดอย่างเนือยๆ : “ฉันเชื่อมมันเข้ากับวีแชทไอดี”
เซี่ยหลิงหลิง : “! ! !”
ถ้าเป็นอย่างงั้น แค่เฉิงรุ่ยโหลดเกมส์มาใหม่แล้วเข้าเกมส์ด้วยวีแชทไอดีก็สามารถเห็นความกากของเธอแล้วนะสิ
“ห้ามโหลดมันกลับมานะ!”
มือข้างนึงของเธอจับไปที่พนักโซฟา รีบยันตัวเองขึ้นแย่งมือถือของเฉิงรุ่ย แขนของเฉิงรุ่ยยาวกว่า เขาชูมือถือขึ้น จนเซี่ยหลิงหลิงไม่สามารถคว้าถึงได้ แต่ตัวเธอเอนไปทับร่างของเฉิงรุ่ย เฉิงรุ่ยเองก็ไม่ทันระวังหงายหลังล้มลงบนโซฟาจากน้ำหนักที่เอนทับลงมา และเซี่ยหลิงหลิงก็ล้มทับตามเขาไปโดยปริยาย
เห็นเฉิงรุ่ยดูขี้เกียจแบบนี้ แต่เนื้อหนังบนร่างกายก็ไม่ได้นุ่มนิ่มเลย จนเซี่ยหลิงหลิงนึกว่าตัวเองวิ่งชนกับกำแพง ชนซะจนเธอมึนหัวตาลายไปหมด จนลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังนอนทับเฉิงรุ่ยอยู่
เฉิงรุ่ยที่นอนหงายอยู่บนโซฟามองเธอไม่ละสายตา จนเหมือนโลกหยุดหมุน
ในอ้อมกอดนั้นมีกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ กลิ่นหอมที่โชยออกมานั้นเป็นกลิ่นเจลอาบน้ำของเซี่ยหลิงหลิง กลิ่นหอมบนเส้นผมเธอนั้นเย้ายวนน่าดมมาก จนทำให้เฉิงรุ่ยรู้สึกแปลกใจ ว่าแชมพูราคาถูกๆทำไมถึงมีกลิ่นหอมได้ขนาดนี้
ร่างกายของเซี่ยหลิงหลิงนั้นอ่อนนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนคนที่ไร้กระดูก เป็นแรกที่ทำให้เขารู้สึกอยากจะบีบอยากจะหยิกดูสักครั้ง
“ทำไมตัวนายแข็งเหมือนอิฐแบบนี้ล่ะ เจ็บไปหมดแล้วเนี่ย” เซี่ยหลิงหลิงขยี้จมูกเบาๆ แล้วจู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าเฉิงรุ่ยยังบาดเจ็บอยู่ : “เห้ย! แขนนายโอเคใช่มั้ย!”
เธอรีบลุกขึ้นยืนตัวตรง ทำให้เฉงิรุ่ยรู้สึกผิดหวังเบาๆ
เขาถอนหายใจแล้วตอบ : “โอเคอยู่”
“ลองเปิดดูหน่อยมั้ย? ฉันกลัวว่าเมื่อกี๊จะทับโดนแผล”
เฉิงรุ่ย : “ไม่ต้อง”
เซี่ยหลิงหลิง : “ลองเปิดดูหน่อยเถอะน่า!”
เฉิงรุ่ยยินยันคำเดิม : “ไม่ต้อง”
เซี่ลหลิงหลิงได้แต่คิดว่ามันคงเป็นเพราะผู้ชายศักดิ์ศรีค้ำคอ แต่ในความเป็นจริงแล้วแผลของเฉิงรุ่ยหายดีจนสะเก็ดหลุดหมดแล้ว ดีจนไม่รู้จะดียังไงแล้ว ถ้าโดนเธอจับได้ว่าตัวเองแกล้งทำตัวให้น่าสงสารก็ซวยกันพอดีน่ะสิ
วันนี้ถือเป็นวันที่คู่สามีภรรยาทั้งสองมีความคิดไปคนละทิศคนละทางกัน
“ปัง ปัง ปัง!” เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาในทันใด
ทั้งสองมองหน้ากัน เซี่ยหลิงหลิงเดา : “นายสั่งอาหารมาเหรอ?”
เฉิงรุ่ย : “......เปล่านะ”
“นอกจากคนส่งอาหารแล้ว ยังจะมีใครมาเคาะประตูอีก?” อย่าว่าแต่คนอื่นเลย เพราะแม้แต่ถูหนาน เฉิงรุ่ยเองก็ไม่อนุญาตให้มาเคาะห้องแบบนี้ บ้านหลังนี้เหมือนเป็นพื้นที่ส่วนตัวของทั้งคู่ ห้ามใครเข้าออกโดยพละการเด็ดขาด
ในขณะเดียวกันนั้น มือถือของเซี่ยหลิงหลิงก็ดังขึ้น
ปรากฏว่าเป็นเย่ซี?!
เฉิงรุ่ยเห็นหน้าเซี่ยหลิงหลิงก็รู้แล้วว่าคนด้านนอกนั้นคือใคร สายตาว่างเปล่า เขากำลังจะเดินไปเปิดประตู แต่ก็ถูกเซี่ยหลิงหลิงขวางเอาไว้ก่อน
“ไม่ได้นะ นายยังบาดเจ็บอยู่ นายออกไปต่อกรณ์กับเธอไม่ไหวหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ”
เซี่ยหลิงหลิงยังไม่รู้ตัวเลย ว่าเฉิงรุ่ยได้ช่วยเธอจัดการกับรุ่ยฟางจนรันทดอดสูไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธอทำเหมือนกำลังปกป้องลูกเจี๊ยบตัวน้อยๆอยู่ โดยการบังเฉิงรุ่ยเอาไว้ข้างหลังตัวเอง เธอรีบจัดเพ้าจัดผมจัดเสื้อผ้า รอจนสายเรียกเข้าของเย่ซีนั้นตัดไป เธอถึงจะเดินเปิดประตูออกไป
น่าตลกจริงๆ แม่เลี้ยงยังจะกลับมาขอร่วมเสพความสุขสบายด้วยอีกเหรอ คิดว่าพวกเธอเงินเยอะแต่โง่งั้นสินะ?
อัพเดทครั้งหน้า วันที่20 ธ.ค. 2019
จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน