ตอนที่63 ทะเลาะกันอย่างรุนแรง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่63 ทะเลาะกันอย่างรุนแรง
ต๭นที่63 ทะเลาะกันอย่างรุนแรง ตอนนี้พี่สาวทั้งสามคนเขายังไม่มา เธอขึ้นไปแอบอยู่ห้องนอนเขา เธอมองซ้ายมองขวา เห็นรูปตอนเด็กของเขา เธอหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายไว้เป็นที่ระลึก ถึงแม้รูปที่ถ่ายในมือถือจะไม่ชัดเท่ารูปถ่ายของจริง แต่ก็พอจะเก็บไว้ดูเล่นได้ พอนึกถึงรูปถ่าย เธอก็นึกถึงรูปถ่ายที่พวกเขาถ่ายด้วยกันที่เซี่ยงไฮ้ เธอเลยหยิบมันออกจากกระเป๋า เธอล้างมาสองรูป ตั้งใจมอบให้เขารูปหนึ่ง หลังจากกลับมาเธอก็ยังไม่มีโอกาสได้ให้ ตอนนี้เธออยู่ที่ห้องเขาแล้ว งั้นก็หาที่ใส่ไป ให้เขาบังเอิญเจอมันเลยก็แล้วกัน เธอเดินอ้อมหนึ่งรอบ เดินมาอยู่ตรงหัวเตียง เธอเลยยกหมอนขึ้น วางมันไว้ใต้หมอน ไม่รู้ว่าพี่สาวทั้งสามของเขาจะมาถึงกันรึยัง เธอสงสัยว่าเขาเรียกพวกพี่ๆมาทำไม เธอเลยเดินออกจากห้อง ไปแอบฟังอยู่ตรงบันได เสียงของแตก เธอตกใจกุมปากตัวเองไว้ เกิดอะไรขึ้น ไม่ทันได้พูดอะไรกัน ก็ได้ยินเสียงคนขว้างข้าวของ “จะให้ผมบอกอีกกี่รอบ เรื่องส่วนตัวของผม ผมจะคบหาใคร พวกพี่ไม่จำเป็นต้องยุ่ง” ดูเหมือนคนที่ขว้างของคือหานจวิ้นซือ คงเป็นแก้วน้ำที่เธอใช้ดื่มเมื่อกี้ “แก ฉันเป็นพี่สาวแกนะ พูดแบบนี้กับฉันได้ยังไง พ่อกับแม่ไม่อยู่แล้ว ฉันมีสิทธิ์จะเป็นห่วงเรื่องของแกไม่ใช่หรอ แล้วมันผิดตรงไหน” “เป็นห่วงหรอ ถ้าการที่พี่ไปหาเรื่องเธอ โดยที่ผมไม่รู้ พี่ไม่คิดว่ามันเกินไปหรอ แล้วอีกอย่างไม่จำเป็น” ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอรู้สึกเหมือนเขาเป็นคนที่อ่อนโยน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาโมโหมากมายขนาดนี้ หานหนานหยงฟังมาสักพักจนทนไม่ไหว จึงเอ่ยพูดขึ้น “เดี๋ยวนะ เดี๋ยวก่อน ขอให้ทั้งสองบอกหน่อยได้มั้ยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ฉันกับเทียนฉิงไม่เข้าใจ” หยางเมิ่งฉีก้มมองผู้หญิงคนที่นั่งดื่มชาอยู่บนโซฟา คนนั้นคงเป็นพี่สาวคนที่สามของเขา เธอนั่งหันหลังให้เลยทำให้มองไม่เห็นหน้าเธอชัดๆ “ฉันก็แค่ไปหาผู้หญิงคนนั้นที่มหาลัย ไปเตือนเธอบางอย่าง ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แกจำเป็นต้องโกรธขนาดนี้เลยหรอ” หานจวิ้นซือยิ้มเยาะ “ไม่ได้ทำอะไรหรอ แล้วที่พี่บังคับให้เธอไปนัดบอด มันไม่เกินไปหรอ ผมไม่รู้ว่าบ้านเรากลายเป็นคนที่ชอบบังคับขู่เข็ญคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่” “คนที่พูดถึงกันอยู่คงไม่ใช่หยางเมิ่งฉีใช่มั้ย” หานหนานหยงนึกย้อนถึงภาพที่เธอเมื่อกลางวัน เธอก็เข้าใจขึ้นมา ทั้งสองคนไม่ปฏิเสธ เธอคงเดาถูก “พี่ใหญ่ อย่าหาว่าฉันเข้าข้างน้องเลยนะ ผู้หญิงคนนั้นฉันเคยเห็น ก็ดูเป็นคนดีนะ หน้าตาสวย นิสัยก็...............” “พอได้แล้ว” หานอวิ๋นหลานพูดขัดขึ้น “พวกแกทุกคนลืมไปแล้วหรอ ผู้หญิงที่เขาต้องแต่งงานด้วยเป็นเชี่ยหยาว พวกแกมีสัญญาที่จะต้องแต่งงานกัน เพราะเราคือตระกูลหานเลยต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ไม่ใช่หรอ” คำพูดของเธอทำให้หานหนานหยงพูดไม่ออก แต่ไม่ได้ทำให้หานจวิ้น ซือกลัว “ถ้าเป็นคนที่ผมต้องแต่งงานด้วย มันก็ต้องดุว่าผมอยากหรือเปล่า ถ้าผมไม่อยากก็ไม่มีใครบังคับผมได้” “แกพูดอะไรของแก พวกแกหมั้นกันห้าปีแล้วนะ ตอนนี้เพิ่งมาบอกว่าไม่ยอม ถ้าพ่อแม่ที่เสียใจได้ยินเรื่องพวกนี้ พวกเขาจะเสียใจมากแค่ไหน” หานจวิ้นซือหันหลังกลับ “ผมรู้ว่าเราต้องแต่งงานกัน พี่ไม่ต้องคอยพูดย้ำทุกวี่ทุกวัน และไม่ต้องเอาพ่อแม่มาขู่ผม ไม่งั้น มันจะทำให้ผมอยากยกเลิกงานแต่งกับเธอเร็วขึ้น” นี่เป็นครั้งแรกที่หานจวิ้นซือมีท่าทีดุเดือดขนาดนี้ เป็นเพราะว่าหยางเมิ่งฉี หานอวิ๋นหลานหัวเสีย กระทืบเท้า “ได้ แกใหญ่สุดแล้ว เรื่องอะไรก็ต้องเอาแกเป็นใหญ่” พี่คนโตเดินออกจากบ้าน คนที่สองและคนที่สามก็เดินตามกันออกไป เพราะพวกเธอรู้นิสัยน้องชายเป็นอย่างดี เขาไม่ใช่คนที่จะโมโหอะไรง่ายๆ แต่ถ้าได้ลองโมโหแล้วจะไม่มีใครห้ามเขาได้ หานจวิ้นซือยืนอยู่ที่เดิม พยายามปรับอารมณ์ หันหลังเดินมายืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้น หยางเมิ่งฉีเดินเข้ามาอยู่ในห้องตามเดิม ก่อนจะถูกจับได้ ประตูถูกเปิดออก เขาเดินเข้ามา สีหน้าไม่ค่อยดีนัก “พวกพี่คุณเขากลับกันหมดแล้วหรอ” “อืม” “ทะเลาะกันหนักเลยใช่มั้ย” หานจวิ้นซือหัวเราะ “เธอแอบฟังอยู่ตรงบันไดขนาดนั้น ยังได้ยินไม่ชัดหรอ” “ถูกคุณจับได้แล้วหรอเนี่ย...........” หยางเมิ่งฉียกมือเกาหัวตัวเองด้วยความเขินอาย “เธอลืมไปแล้วนี่มันบ้านฉัน ไม่มีอะไรจะรอดจากสายตาฉันไปได้หรอก” เธออยากจะหารูหมุดเข้าไป “ขอโทษนะ ฉันแค่อยากรู้ว่าคุยอะไรกัน” “ถ้าสงสัยหรืออยากรู้ก็เดินลงไปตรงๆเลย ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ” เห้อ เห็นได้ชัดว่าเขาเอามาลงที่เธอ “อือ รู้แล้ว” “หลังจากนี้เธอไม่ต้องไปนัดบอดกับผู้ชายพวกนั้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเอง” “โอเค” “ถ้าพี่ใหญ่ฉันยังไปหาเรื่องเธอ เธอต้องบอกฉันทันที ฉันจะจัดการเอง” “โอเค” “ไม่ต้องไปสนิทสนมกับผู้ชายพวกนั้น โดยเฉพาะคนที่บอกว่าเป็นรุ่นพี่ คนหมูบ้านเดียวกัน เพราะเธอไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ คนเลวไม่ได้เขียนไว้ตรงหน้าผาก เธอไม่มีทางรู้ได้” “โอเค” ไม่ว่าหานจวิ้นซือจะพูดอะไร เธอก็พยักหน้าโอเค สักพัก เขาเอ่ยพูดต่อ ด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “หลังจากนี้ ฉันจะถอนหมั้นกับเชี่ยหยาว” เธอเงยหน้ามองอย่างเร็ว ตกใจอ้าปากค้าง เรื่องนี้คงพยักหน้าตอบตกลงไม่ได้ “คุณ...............” “ถ้าเธอกล้าพูดอะไรเพื่อเปลี่ยนใจฉันอีก เธอก็ลองดู” หานจวิ้นซือพูดขัดขึ้น สายตาแหลมคมเอาเรื่องของเขามองมาทางเธอ เธอกลัว “ฉันไม่ได้จะพูดเพื่อให้คุณเปลี่ยนใจ ฉันแค่อยากแนะนำอะไรบางอย่าง” “อ่อ คำแนะนำอะไร” “เมื่อหลายปีก่อนพวกคุณหมั้นกันคุณคงมีเหตุผลของตัวเอง แต่เมื่อมีเหตุผล คุณก็ควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนไม่ใช่หรอ ไม่ต้องด่วนสรุปตัดสินใจ” “แล้วเธอคิดว่านานแค่ไหนถึงจะดี” การที่เขาถามคำถามนี้กับเธอ ความจริงเขามีคำตอบในใจไว้อยู่แล้ว “อย่างน้อยก็ควรใช้สักเดือนหนึ่ง งานแต่งเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าใช้เวลายิ่งนานยิ่งดี” เขาหัวเราะเยาะ “เพราะพอถึงตอนนั้นเธอเรียนจบแล้ว การตัดสินใจของฉันก็จะไม่เกี่ยวข้องหรือส่งผลอะไรกับเธออีกแล้วใช่มั้ย” เธอไม่ได้ปฏิเสธ ก้มหน้ายอมรับด้วยความเงียบ “ฉันบอกเธอไว้ตรงนี้เลย เธอไม่มีทางหนีฉันพ้น” หานจวิ้นซือพูดจบ เดินเข้าไปยืนอยู่ข้างหน้าต่าง อัพเดทครั้งหน้า วันที่6 พ.ย. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน 
已经是最新一章了
加载中