ตอนที่ 50 การคุกคามเริ่มต้นขึ้นแล้ว
1/
ตอนที่ 50 การคุกคามเริ่มต้นขึ้นแล้ว
วิวาห์ร้าย แต่งกับผี
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 50 การคุกคามเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ตอนที่ 50 การคุกคามเริ่มต้นขึ้นแล้ว ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีวันที่ฉันใช้ชื่อของเทียนปู้หยู่เพื่อขู่คนอื่น ตอนนั้นที่อยู่ที่ถนนหยินนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น แต่ทว่าตอนนี้ ฉันรู้สึกว่ายิ่งอยู่ยิ่งต้องการความช่วยเหลือจากเขามากเท่านั้น ฉันคิดว่าประโยคนี้จะสามารถมีผลอะไรกับจ้าวซิ้วบ้างแล้วนะ เพราะไม่มีอะไรจะมาควบคุมเธอได้เลย อย่างน้อยๆก็ให้เธอรู้สึกกลัวบ้าง แล้วหยุดในสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ แต่ทว่า จ้าวซิ้วกลับหัวเราะกลับมา ทว่ากลับมีลมพัดเข้ามาทำให้ผมที่เปียกของเธอนั้นพัดออกจนเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเธอ บวกกับมีแสงไฟรำไรตรงทางเดินจึงทำให้ฉันเห็นว่าใบหน้าของเธอเริ่มเน่าแล้ว แต่ทว่าบนตัวไม่มีหนอนชอนไชเลยสักนิด มีแต่อาการบวมที่น่ากลัวเท่านั้น ครั้งนี้ยิ่งเป็นเหมือนตัวยืนยันกับความคิดของฉัน ใช่แล้ว ยังมีจ้าวซิ้วอีกคนนึงนี่นา ศพของจ้าวซิ้วตอนนี้กำลังแช่อยู่ในน้ำ บ่อน้ำนั่นพึ่งจะมีน้ำเติมเข้าไปใหม่ แต่ฉันไม่ใช่ตำรวจ ไม่รู้ว่าการจะเอาศพขึ้นมานั้น จะยากสักแค่ไหน ไม่ทันคาดคิด วิธีที่ฉันแอบอ้างชื่อของเทียนปู้หยู่นั้น ก็ดูไม่ได้มีผลอะไรกับจ้าวซิ้วเลย เธอมองไปที่ด้านหลังฉันพร้อมกับหัวเราะออกมา “เทียนปู้หยู่งั้นเหรอ อะไรฉันก็ไม่กลัวทั้งนั้น ทำไมฉันต้องกลัวเขาด้วย ! เขาอาจจะเป็นกษัตริย์ผีก็จริง แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก !” ฉันหันไปมองเมียนปู้หยาด้วยสายตาแห่งความสงสัย แต่กลับพบว่าตอนนี้เทียนปู้หยู่ขมวดคิ้วเบาๆ พร้อมทั้งท่าทางที่มีความกังวลอยู่ในนั้น คล้ายว่าจ้าวซิ้วพูดถูกอย่างไรก็ไม่รู้ น้ำเลือดใกล้ท่วมถึงศีรษะของไป๋เวยเวยแล้ว ไป๋เวยเวยเริ่มจะจมน้ำไปทั้งตัว ในขณะที่น้ำเริ่มสูงขึ้นไป๋เวยเวยก็รีบหายใจเข้าปอดอย่างสุดความสามารถ จนปัญญาจริงๆฉันจึงทำได้แค่หลอกล่อเท่านั้น “จ้าวซิ้ว พวกเรารู้แล้วว่าศพของเธออยู่ที่ไหน พวกเราจะฝังเธออย่างดี ให้เธอได้ไปเกิดใหม่เสียที!” ขณะนั้น ซูหลินก็วิ่งออกมาจากห้องโถงพอดี ฉันพึ่งจะสังเกตว่านอนที่ซูหลินพบว่าตัวเองไม่มีเครื่องรางอยู่จึงรีบวิ่งกลับไปเอา จ้าวซิ้วยังคงไม่สนใจฉัน อีกทั้งยังหันไปแสยะยิ้มให้ไป๋เวยเวยอีก เหมือนแค่ทำอย่างไรก็ได้ให้ไป๋เวยเวยตายไปเท่านั้นเอง อีกทั้งยังมองดูสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไปด้วยความสนใจอีกด้วย เหมือนกำลังพึงพอใจกับผลงานของตัวเองก็มิปาน ฉันเห็นซูหลินเอาผ้ายันต์ออกมาหนึ่งผืน มือขวาถือดาบรูปพีชอยู่ ไม่รู้ว่ากำลังคิดจะทำอะไร แต่เขาเอาผ้ายันต์ติดไว้ที่ดาบนั้น หลังจากนั้น ก็ขว้างไปที่จ้าวซิ้ว แต่ทว่าผ้ายันต์หลุดออกจากดาบนั้นแล้วลอยไปหาจ้าวซิ้ว เห็นซูหลินใช้พละกำลังมากขนาดนี้ ฉันก็เชื่อมั่นว่าจะต้องสำเร็จ แต่ทว่าผ้ายันต์ที่ยะงไม่ได้ไปใกล้จ้าวซิ้วเลยนั้น จู่ๆก็มีลูกบอลสีเลือดมาโจมตีผ้ายันต์คล้ายกับกำลังปกป้องจ้าวซิ้วอยู่ ดังนั้นจึงทำให้ตอนนี้จ้าวซิ้วและไป๋เวยเวยกำลังจะตายอยู่ข้างในนั้นย่างสมบูรณ์ ผ้ายันต์นั้นก็ได้ลุกไหม้เป็นจุล และจ้าวซิ้วก็ยังคงปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน พร้อมทั้งยืนมองไป๋เวยเวยที่กำลังสำลักน้ำด้วยความสบายใจ ฉันพยายามอย่างมากที่จะนึกย้อนไปถึงจ้าวซิ้วที่คุยกับฉันในหนังสือหยิน พยายามหาวิธีที่จะกำจัดเจ้าผีชุดแดงนี้สักที แต่ทว่าในหัวฉันขาวโพลนไปหมด ใช่แล้ว ! จู่ๆฉันก็นึกออก หนังสือหยินไง ! คิดได้ถึงตรงนี้ ฉันก็รีบวิ่งไปในห้องเพื่อที่จะเอาหนังสือหยินอแกมา แต่ทว่าฉันยังไม่ได้เปิดประตูเลย กลับได้ยินเสียงของเทียนปู้หยู่พูดว่า “จ้าวซิ้ว ยอมแพ้สะ!” ยังพูดไม่ทันจบ ลูกบอลที่ปกป้องจ้าวซิ้วก็ได้รวมตัวกันเป็นชั้นๆเหมือนแก้ว ค่อยๆเริ่มทีละนิดๆจนกลายเป็นเส้นๆ สุดท้ายสียงเพล้ง เสียงแก้วแตก แก้วที่แตกจำนวนนับไม่ถ้วนนั้นกลายเป็นเลือดสด ทำให้ลานถูกย้อมไปด้วยสีเลือด แล้วเราจะทำยังไงกันดีละ ทันใดนั้นซูหลินก็เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เหมือนกำลังวางแผนที่จะโจมตีใส่ผีชุดแดงนั้นที่ตอนนี้เห็นว่าแรงจ้าวซิ้วกำลังปิดปากของไป๋เวยเวยได้อ่อนแรงลง และตอนนี้ที่รอบๆไป๋เวยเวยที่เป็นเหมือนเกราะคุ้มกันก็ได้หายไปแล้ว ปริมาณน้ำเลือดมหาศาลที่อยู่กลางอากาศก็ไหลลงมาด้านล่างเหมือนน้ำตกขนาดย่อมก็มิปาน ทำให้ไป๋เวยเวยร่วงลงพื้น แต่ทว่าซูหลินรีบวิ่งเข้าไปรับตัวไว้ได้ทันพอดี จ้าวซิ้วจ้องเขม็งมาที่เทียนปู้หยู่ พร้อมทั้งพูดกลับมาด้วยเสียงที่แหบพร่า “แกเข้ามาแส่ไม่เข้าเรื่องนะ ไม่กลัวตายรึไง ฮ่าฮ่าฮ่า” เสียงค่อยๆลอยหายไป พร้อมทั้งจ้าวซิ้วที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซูหลินที่โอบไป๋เวยเวยเอาไว้ในอ้อมกอดก็ได้ถามไป๋เวยเวยว่า “เป็นไงบ้าง รู้ซึ้งรึยะงว่าจุดจบของคนหัวแข็งเป็นยังไง ตอนนี้เธอก็คิดดูให้ดีละกัน พวกเราต่างทำแบบนี้เพราะใคร” พูดจบ ซูหลินก็มีท่าทีหมดแรง วางไป๋เวยเวยเอาไว้บนพื้น ส่วนตัวเขาเองไม่สนใจอะไรวิ่งเข้าไปในห้องแล้ว พร้อมทั้งสลัดเสื้อผ้าที่ติดเลือดออก แล้วพูดโดยไม่หันกลับมามองว่า “ฉันจะไปอาบน้ำ ฉันจะอาบก่อน เดี๋ยวเฉินน่อก็ช่วยไป๋เวยเวยอาบละกัน อาบเสร็จก็มาช่วยกันทำความสะอาดที่ลานด้วยละ” พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องไป พร้อมทั้งทิ้งไป๋เวยเวยที่เสียสติอยู่กับพื้น ที่กำลังหายใจเข้าอย่างแรง และจับหน้าของตัวเองที่ชุ่มไปด้วยเลือก อีกทั้งปากก็ไม่รู้พึมพำอะไรอยู่ คงเป็นอะไรไร้สาระกระมัง ฉันไม่ได้สนใจอะไร แต่ดูสภาพเธอแล้ว เห้อ คงจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้หรอกมั้งเนี่ย ฉันเลยหันไปมองเทียนปู้หยู่อย่างจนปัญญาพร้อมทั้งเดินไปหาไป๋เวยเวยเพื่อจะพยุงตัวขึ้น “อย่าจับนะ สกปรก” เทียนปู้หยู่ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีนักพูดออกมา ฉันรู้ ว่าจริงๆแล้วเขาหมายถึงอะไร ไป๋เวยเวยล้วนแต่หาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น พวกเราไม่จำเป็นต้องสนใจเลยด้วยซ้ำ ฉันได้แต่ถอนหายใจ ทางนึงคิดอย่างเทียนปู้หยู่นะ แต่ อีกทางนึงก็คือสังคมมนุษย์ก็ต้องช่วยเหลือกันอะ เทียนปู้หยู่ที่โน้มน้าวฉันไม่สำเร็จ ก็ไม่พูดอะไรอีก พร้อมทั้งหายไปเงียบๆในความมืด ไป๋เวยเวยที่ทั้งตัวตอนนี้เต็มไปด้วยเลือด ฉันไม่รู้จะเริ่มช่วยเธอจากตรงไหนดี เลือดบนเสื้อผ้าเธอเลอะตัวฉันเต็มไปหมด ฉันแอบรู้สึกเสียใจภายหลังนะเนี่ยที่ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเผื่อจากหอหน่ะ แต่ก็นะ ทำอะไรไม่ได้แล้วละ ฉันได้แต่ลากไป๋เวยเวยเข้าไปในบ้านโดยสอดเข้าใต้แขน ตั้งแต่แรกจนตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเธอกำลังพึมพำอะไรอยู่ “ฉันผิดไปแล้ว อย่าฆ่าฉันเลยนะ อย่าฆ่าฉันเลย..” ได้แต่ถอนหายใจ ถ้ารู้เร็วกว่านี้คงไม่ช่วยตั้งแต่แรกแล้ว ตอนทำเขาไว้ทำไมไม่คิดบ้างว่าวันนึงจะได้รับผลกรรมนั้นเข้าสักวัน ฉันใช้แรงย่างมากในการลากไป๋เวยเวยเข้าบ้านมา ขณะที่กำลังจะเข้าไปนั้น ซูหลินก็วิ่งทั้งหัวเปียกออกมาว่า “ห้ามพาเข้ามานะ เดี๋ยวข้างในจะสกรปก ปู่ฆ่าฉันแน่” ได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา แต่ตอนนี้ฉันไม่มีแรงแล้วละ ไป๋เวยเวยจึงไหลลงไปนอนกองกับพื้นจมกองเลือดอีกครั้ง ซูหลินยืนมองไป๋เวยเวยที่หมดสภาพเช่นนี้ ก็ได้แต่เหนื่อยใจ เขายืนอยู่ตรงหน้าไป๋เวยเวยด้วยท่าทางที่เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างอยู่ จู่ๆเขาก็อุ้มไป๋เวยเวยรีบวิ่งเข้าไปวางไว้ในอ่างอาบน้ำ ฉันเดินตามหลังไปจึงทำให้ในห้องมีแต่รอยรองเท้าที่ติดเลือดเท่านั้น ขณะที่ซูหลินกำลังวางไป๋เวยเวยลงนั้น ฉันจึงแกล้งพูดเล่นๆว่า “ดูท่าละนะ หลังจากเรื่องนี้จบลง พวกเธอสองคนมีแววว่าจะได้พัฒนาต่อไปอีกขั้นนึงละนะ” จริงๆแล้วฉันแค่แกล้งเขาเท่านั้นเอง แต่ซูหลินกลับคิดจริงจัง เขารีบตอบกลับมาด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมทั้งมองมาที่ฉันว่า “อย่าพูดอะไรไร้สาระนะ!” พูดจบก็ส่งไป๋เวยเวยให้ฉัน พร้อมทั้งเดินออกไปเพื่อไปทำความสะอาดในห้อง หลังจากที่ฉันทำความสะอาดไป๋เวยเวยเสร็จแล้ว เธอก็เริ่มกลับมามีสติอีกครั้ง และไม่ได้สนใจว่าตัวฉันเลอะเลือดแค่ไหน กลับร้องไห้เสียงดังพร้อมทั้งเข้ามากอดฉัน “เฉินน่อ ฉันขอโทษ เมื่อกี้ฉันเกือบจะตายไปแล้ว ฉันเห็นจ้าวซิ้วด้วย ! เธอช่วยฉันด้วยนะ ฉันขอโทษ ..” เวลานี้ ในใจฉันคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ แต่ฉันก็ไม่กล้าจะดันไป๋เวยวยออกนะ ทำได้เพียงแค่ลูบหลังเธอเบาๆ หลังจากที่ไป๋เวยเวยสงบลงแล้ว ฉันก็ต้องพาเธอไปอาบน้ำอีกรอบและพาเธอกลับห้อง จนกระทั่งเธอหลับไปฉันจึงออกไปด้านนอก พร้อมทั้งเริ่มกลุ้มใจเรื่องของตัวเองบ้างแล้ว ไป๋เวยเวยเริ่มดีขึ้นแล้ว ไม่กี่วันหลังจากนั้นก็ออกไปซื้อของใช้ใหม่ทั้งหมด แต่ฉันก็แค่คนจนๆคนนึง มัวแต่ช่วยเหลือเธอแต่ลืมไปว่าตัวฉันเองก็ไม่ได้มีอะไรติดตัวเลย ฉันกลับถึงห้องของตัวเองแล้วนั้น คราบเลือดที่หน้าอกแห้งกรังไปแล้ว ทำให้เสื้อเริ่มแข็งกระด้าง แต่ทว่าฉันกลับพบว่ามีเสื้อผ้าที่พับเอาไว้อย่างเป็นระเบียบทั้งชุดชั้นใน เสื้อผ้าต่างๆ ครบทั้งตัวเลย ในขณะที่ฉันกำลังสงสัยอยู่นั้น ก็เห็นกระดาษแผ่นนึงวางไว้ข้างๆกันเขียนว่า “ฉันไม่ชอบเวลาเธอสกปรกมอมแมม” ถึงแม้จะไม่ได้เขียนชื่อเอาไว้แต่ทว่าฉันจำได้ดีว่าเป็นลายมือของเทียนปู้หยู่ เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เคยให้กระดาษแบบนี้กับฉัน แต่ทว่าในกระดาษนั่นเขียนอะไรฉันกลับจำไม่ได้สะงั้น เมื่อคลายความสงสัยแล้วนั้น ฉันก็หอบเอาเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างมีความสุข เมื่อฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าและซักทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ฉันก็พบว่ามันเป็นเสื้อผ้าที่ในหอของฉันนี่ คิดไม่ถึงว่าเขาจะดูแลได้ดีขนาดที่ว่าไปเอาจากที่ห้องของฉันมาให้เลยนะเนี่ย ดีเหมือนกันนะ ขนาดชุดชั้นในยังเอามาให้เลย ตายละคิดถึงตรงนี้ก็อดที่จะหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้ “เฉินน่อ เธอเป็นอะไรหน่ะ หน้าแดงเชียวไม่สบายหรือเปล่า” ขณะที่ฉันกำลังใจลอยอยู่นั้น ซูหลินเดินเข้ามาถาม พึ่งจะอาบน้ำเสร็จก็ทำตัวเลอะอีกแล้ว ฉันเขินอายอยู่เล็กน้อยเลยตอบแบบให้ผ่านไปว่า “ไม่ ไม่ได้เป็นอะไร ข้างนอกทำความสะอาดเสร็จแล้วเหรอ เดี๋ยวฉันไปช่วยนะ” พูดจบ ฉันก็กำลังจะเปลี่ยนเป็นชุดที่เลอะเพื่อออกไปทำความสะอาด แต่ทว่าซูหลินห้ามไว้ก่อนพร้อมทั้งบอกว่า “ไม่ต้องๆ ฉันทำเสร็จแล้วละ” พูดจบ ซูหลินก็เดินเข้าห้องน้ำไป หลังจากที่ฉันทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ได้แต่นั่งพักหายใจอยู่บนที่นอน ฉันถึงพึ่งนึกออกว่าฉันลืมถามเทียนปู้หยู่ไปเลยนี่ มามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แล้วไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดปัญหาอะไรหรือเปล่านะ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 50 การคุกคามเริ่มต้นขึ้นแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A