ตอนที่ 33 ฉันรอมาทั้งวันแล้ว
1/
ตอนที่ 33 ฉันรอมาทั้งวันแล้ว
รักแค้นหรือรักแท้ คำถามจากหัวใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 33 ฉันรอมาทั้งวันแล้ว
ตนที่ 33 ฉันรอมาทั้งวันแล้ว ราวกับใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดในการลงโทษเธอไป นเทพจูบจูบหญิงสาวจอมเจ้าเล่ห์ มือทั้งสองข้างกดไหล่เธออยู่ มือทั้งข้างราวกับกำลังจะล้วงไปตรงหัวไหล่ พลันได้กลิ่นเลือดที่ปลายลิ้น เขาสงสัย แต่ก็ไม่ได้ปล่อยเธอ เขากลับจูบล้ำลึกยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการไม่ให้คนในอ้อมแขนหนีไปไหน ทันใดนั้น ความปรารถนาในตัวเธอก้พลุ่งพล่านขึ้นมา แม้กระทั่งลืมได้ว่าตัวเองคือใคร และเธอคือใคร เมื่อมาคิดดูแล้ว เธอก็ไม่ได้ต่างจากหญิงอื่นเลย ความต้องการของเขาจึงหยุดอยู่ตรงนั้น เศวยากัดริมฝีปากของเขา กัดจนช้ำไปหมดก็ยังไม่ยอมปล่อย จ้องดวงตาที่กลมโตนั้น นอกจากความแค้นแล้ว ก็มีแต่ความโกรธ เธอเกลียดผู้ชายคนนี้! เมื่อก่อนเกลียด ตอนนี้ก็เกลียด! มองจากแววตาที่โกรธเกรี้ยวของเธอ เขาก็มองเห็นเปลวไฟแห่งความโกรธในนั้น ลุกราวกับเป็นลาวา แทบจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว! ธนเทพตกใจ ไม่ว่าจะเกลียดประเภทไหน เขาก็ไม่อยากจะคาดเดา แต่ก็ไม่ได้ปล่อยเธอไป เขากลับกอดเธอแน่นยิ่งขึ้น และจูบเธอลึกขึ้น... เศวยาขัดขืนอย่างสุดชีวิต มือทั้งสองข้างทุบตีที่แผ่นหลังของเขา ขาทั้งสองข้างเตะมั่วไปหมด แต่ก็ไม่ส่งผลอะไรกับเขา ผู้ชายตรงหน้านั้นแน่นิ่งเสียยิ่งกว่าก้อนหิน ค่อยๆรุกล้ำเธอเข้ามาเรื่อยๆ จูบของเขา ยังคงเป็นจูบที่เผด็จการที่สุดในความทรงจำ และเป็นจูบที่เย็นราวกับน้ำแข็งเช่นกัน แต่ว่า เพราะจูบนี้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บไปทั้งใจ เธอพยายามจะลืม แต่ทำไม... มันลืมไม่ลง? ธนเทพ นายรู้ไหมว่านายเคยทำร้ายฉันลึกขนาดไหน? ช่องระหว่างลิ้นพลันได้รสชาติของน้ำตา ธนเทพอึ้งไป กวาดตามองหน้าเธอ มองคราบน้ำตาที่อยู่เต็มหน้า เขารีบปล่อยเธอออก เศวยาค่อยๆถอยหลัง แล้วยกมือขึ้น “เพี๊ยะ” เธอตบลงที่หน้าของเขาอย่างแรง ใบหน้าอันหล่อเหลาของธนเทพหับไปข้างหนึ่ง เขายืดอกขึ้น แล้วรวบสองมือของเธอเอาไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว ลมหายใจร้อนๆรดลงที่ข้างกายเธอ ราวกับกำลังแผดเผา เขาค่อยๆหันหน้ามา แล้วมองหญิงสาวด้วยสายตาเย็นชา ริมฝีปากที่เต็มที่ด้วยเลือดที่ถูกเธอกัดนั้น เลือดไหลซึมออกมาเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด “ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้?” ไม่สนใจในอารมณ์ของเขา เศวยาใช้แรงทั้งหมดตะโกนใส่เขา “ฉันหลบนายมาตลอด นายยังจะต้องการอะไรจากฉันอีก? ปล่อยฉันไปไม่ได้เหรอ?” ธนเทพหรี่ตาลง มองทะลุอารมณ์ที่โกรธจนถึงขีดสุกของเธอ กำหมัดแน่น แล้วค่อยๆปล่อยออก เศวยาพุ่งไป ทุบที่หน้าอกของเขา “สารเลว ฉันเกลียดนาย ฉันเกลียดนาย ฉันเกลียดนาย!” น้ำตาไหลพราก เปียกชุ่มไปทั้งหน้าสวยๆของเธอ และเลือดของเขาที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ เธอปลดปล่อยเรื่องเลวร้ายเมื่อสองปีก่อนที่อยู่ในใจออกมา อย่างบ้าคลั่ง และธนเทพในตอนนี้กลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ธนเทพขมวดคิ้ว แล้วจับมือทั้งสองของเธอขึ้นมา ค่อยๆพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “บอกฉัน ระหว่างเรามันเป็นอะไร?” สารเลว! นายมันสารเลว!” เศวยายังคงขัดขืน เธอร้องไห้จนตาแดงก่ำ “ฉันเกลียดนาย ธนเทพ ฉันเกลียดนาย!” ธนเทพถูกเกลียดอย่างไม่รู้สาเหตุที่มาที่ไป จับข้อมือของเธอแน่น แล้วจ้องตาที่แดงก่ำคู่นั้น “ให้ตายสิ! บอกฉัน ว่าเกิดอะไรขึ้น?” ต่อให้เกลียด ก็ต้องมีเหตุผล! ธนเทพเขาไม่เคยชมว่าตัวเองเป็นคนดี และที่ไม่พอใจคือ เขาไม่ยอมแบกรักฉายาที่ว่า”สารเลว”แน่ๆ โดยเฉพาะอีกฝ่ายคือเธอ ยิ่งไม่อยาก “นายไม่เหมาะที่จะได้รับรู้!” เศวยาบอกปัด น้ำตายิ่งไหลออกมามากขึ้น เรื่องที่ผ่านมา ไม่ใช่ไม่เจ็บปวด แต่เธอไม่ยอมที่จะเจ็บปวดแบบนั้นอีก ที่น่ารังเกียจคือ ทำไมเขาถึงไม่ยอมอยู่ข้างกายชวนีเฉยๆไป? ทำไมเขาถึงต้องพยายามยั่วโมโหเธอด้วย? ธนเทพ คิดว่าใจเขาเธอทำจากเหล็กหรือไง? “SHIT!” ธนเทพสบถอย่างบ้าคลั่งออกมา แล้วดึกเธอที่ร้องไห้อยู่นั้นเข้ามาในอ้อมกอด “เศวยา เธอลองร้องอีกสิ” ไม่สนใจสิ่งที่เขาขู่ เธอร้องไห้ออกมาโฮใหญ่อีกครั้ง ธนเทพจ้องเธอ ใบหน้าหล่อเหลานั้นกระตุก “เธอ...” ในที่สุด เขาก็ทำให้เธอเงียบลงได้ มือใหญ่นั้นลูบหลังเธอ ในขณะที่กำลังพยุงอยู่นั้น ก็พูดขึ้นอย่างเยาะเย้ย “เธอร้องไห้จนเป็นสภาพนี้แล้ว ทำเหมือนกับฉันทำอะไรเธอไปแล้วอย่างนั้น! รู้อย่างนี้ ฉันน่าจะพาเธอไปเปิดห้องเสียสิ้นเรื่อง” น้ำตาที่เศวยากลั้นมานาน ก็ไหลลงมาไม่ขาดสาย เธอร้องจนเหนื่อย ตะโกนจนไม่มีเสียง ไม่แม้แต่จะขัดขืนอีก ยอมถูกขังอยู่ในอ้อมกอดนั้น อยู่ในแผงอกของเขา และทำเสื้อเขาเปียกชุ่ม ถึงแม้ริมปากจะเจ็บมาก แต่ริมฝีปากของเธอยังคงสวยงาม ลมหายใจนั้นทำให้เขาใจปั่นป่วน มองไปที่เธอ แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงแหบซ่าน “แล้ว เธอมาจากไหนกันแน่?” เศวยาค่อยๆสงบลงมา นิ่งลงที่อ้อมกอดของเขา ลมหายใจของเขานั้นเป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคย และความอบอุ่นในตอนนี้ เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน เธอบอกตัวเอง อีกสักพัก เพียงอีกสักพัก ให้เธอได้ลืมเรื่องในอดีตและตอนนี้ ให้เธอได้จำว่าเขาชื่อธนเทพก็พอแล้ว ความโอนอ่อนของเธอ ทำให้ธนเทพผ่อนคลายขึ้น สายตาเขามองลงมาที่ใบหน้าขาวซีด ผู้หญิงคนนี้ใจกล้าจริงๆ กล้าตบเขา แต่ว่า เขาไม่อยากจะสืบความยาว! ...เขาเป็นซาดิส? ลมทะเลพัดแรงมาก คลื่นทะเลก็แรง ทะเลในเวลากลางคืนนี้ ลมเย็นๆพัดผ่านๆ ทำให้ผู้คนหนาวสั่น เศวยาพลันจามขึ้นมา ธนเทพดึงเธอเข้ามาในอ้อมอก แล้วพูด “พวกเรากลับกันเถอะ” อาจเป็นเพราะเธอปลดปล่อยมาจนหมดแล้ว จนไม่มีอะไรจะพูด เขากอดเธอแน่นมาก ไม่อยากให้เธอหนีไปอีก เธอก็ขี้เกียจจะเปลืองแรง เพียงแค่อยากจะรีบกลับบ้าน กลับไปนอน หลังจากพรุ่งนี้ เกลียดในสิ่งที่ควรเกลียด ลืมในสิ่งที่ควรลืม วันนี้...ถือซะว่าฝันไป เธอหันกลับมา เงยหน้า แล้วนิ่งไป ตาแหลมคมนั้น มองไปที่ชายหนุ่มที่อยุ่ไม่ไกลนัก ธนเทพมองไปตามสายตาเธอ วินาทีนั้น เขากลับรู้สึกชนะ ได้ใจ มุมปากยกขึ้นมา มองเขาราวกับเป็นผุ้ชนะ “นินัทธ์...” เศวยาได้สติคืนมา อยากจะเดินเข้าไป ธนเทพรั้งเอไว้ แล้วกระซิบเอที่ข้างหู “เขาน่าจะอยู่ตรงนี้มานานแล้ว ที่ควรเห็นหรือไม่นั้น ก็เห็นจนหมดแล้ว เอยังคิดว่าเขาจะฟังที่เธออธิบายเหรอ? ที่รัก เธอนี่ใสซื่อจริงๆ” เศวยามองคนตรงหน้าอย่างตกตะลึง อ้าปากค้าง เหมือนมีอะไรติดอยู่ในคอ ไม่มีเสียงออกมาแม้แต่นิดเดียว ลมทะเลพัดขึ้นมาแรงมา จนเสื้อเชิร์ตของเขายุ่งเหยิงไปหมด ผมบนหน้าผากปกลงมาปิดตา รูปที่ถืออยู่ในมือค่อยๆหล่นลงมา ถูกลมพัด จนเห็นได้ว่า เป็นรูปของสองคนที่กอดกันริมถนน ปลิวว่อนไปจนถึงริมทะเล “ฉัน...รอมาทั้งวัน...” เขายกมือขึ้นมา ดูโทรศัพท์สีดำในมือ มองมันด้วยความสงสัย แล้วพูดขึ้นเบาๆ “มันกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบฉัน...” “นินัทธ์...” เศวยาอยากจะอธิบาย แล้วไม่รู้ว่าจะอธิบายอะไรดี “มันพังแล้วใช่ไหม?” นินัทธ์เงยหน้า แววตายังคงอบอุ่นดังเดิม “มันพังแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ” เหมือนกับหาเจอคำตอบ เขาโยนโทรศัพท์ลงทะเลอย่างไม่ลังเล “ไม่!” เศวยาวิ่งไป แต่ทำได้เพียงพอดทศัพท์เครื่องนั้นตกลงทะเลไป เธอยังจำได้ ความดีใจตอนที่เขามอบโทรศัพท์ให้เธอ ยังจำตอนที่เขาบอกความสำคัญของเบอร์นั้นแก่เธอได้ ยังจำได้ว่าให้รอโทรศัพท์จากเขา... และเป็นเธอที่ทำลายความหวังสุดท้ายของเขาลงใช่ไหม? เมือเห็นแววตาที่ผิดหวังและรู้สึกผิดของเธอ ดวงตาอันเย็นชาของธนเทพหรี่ลง อาจจะก่อนวันนี้ เขารอเรื่องสนุกของสองคนนี้ ดูพวกเขาทั้งสองคนเจ็บปวด จะสะบักสะบอมขนาดไหน! แต่ตอนนี้ เขาไม่ยอมให้เธอแสดงความเสียใจต่อชายอื่น ไม่ยอมให้อารมณ์ของเธอถูกเขาพาไป และยิ่งไม่ยอม ให้ในใจเธอหลงเหลือคนอื่นอยู่! เขาไม่ชอบ ธนเทพหรี่ตาลงอย่างอันตราย เดินมุ่งไป กดมือลงไปที่ไหล่เธอ ล็อคเธอเข้าไว้ในอ้อมแขน แล้วหันมา มองนินัทธ์ด้วยความเย็นชา แล้วค่อยๆพูดขึ้น “นินัทธ์ นายคิดว่าทุกอย่างคือของนายเหรอ? หึหึ” เขาหัวเราะเยาะ “เลิกฝันซักที นอกจากได้ชื่อว่าเป็นคุณชายตระกูลวรวงศ์คุณากรแล้ว นายก็ไม่มีอะไรอีกเลย! รวมถึงผู้หญิงคนนี้ด้วย!” เขาผลักเศวยาไปตรงหน้า แววตาดุดันกว่าปกติ “เธอไม่เคยเป็นของนาย เธอแค่สงสาร สงสารที่นายไม่มีอะไร สงสารที่แม้กระทั่งชื่อยังเต็มไปด้วยคำสาปแช่ง!” เพียงแค่สงสารนาย... นินัทธ์เงยหน้าขึ้นมา ทั้งความไม่เข้าใจ ความสงสัย และหลายอารมณ์ รวมอยู่ในเส้นเลือดแดงก่ำในตานั้น “พอแล้ว” เศวยาสะบัดทือเขาออก เนื้อตัวสั่นเทา แล้วค่อยๆพุดทีละคำ “ธนเทพ ฉันไม่อนุญาตให้นายพูดอีกแม้แต่คำเดียว!” แววตาเย็นชา มองลึกเข้าไปที่ธนเทพ เธอผิดเองจริงๆ ยอมที่ลืมไปชั่วขณะ เพื่อความอบอุ่นนั้น? เธอลืมความเจ็บปวดของเขา ความเห็นแก่ตัวของเขา ความเห็นแก่ได้ของเขาได้อย่างไร! ไม่แม้แต่จะมองเขาอีกครั้ง ไม่กลัวที่จะดำดิ่ง กลัวแต่จะเกลียดมากขึ้น เธอหันตัวแล้ววิ่งไปทางนินัทธ์ จับเขาไว้ทั้งสองมือ “นินัทธ์ นายอย่าฟังเขาพูดมั่ว” นินัทธ์ยืนอยู่ที่เดิม มองแววตาของเศวยา ที่มีความบ้าคลั่ง เส้นเลือดแดงก้ำในดวงตานั้นแจ่มชัด “เธอ... แค่สงสารฉันเหรอ?” “นินัทธ์! นายมองฉัน มองฉันนี่!” เศวยาเขย่าตัวเขาอย่างแรง แต่นินัทธ์เบิกตาโพลง แล้วถูกปกคลุมด้วยหมอกแห่งความลุ่มหลง เห็นภาพของเธอเลือนราง “เศวยา ที่ผ่านมาไม่ใช่ฉัน... เพียงแค่สงสาร...” เขาถอยไปสองก้าวอย่างแรง มือทั้งสองข้างกุมหัวเอาไว้ แล้วส่ายไปมาสองครั้งอย่างแรง แล้วกรีดร้องออกมาราวกับสัตว์ป่า แล้ววิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว “นินัทธ์!!” เศวยาตะโกน อยากจะตามไป แต่ธนเทพดึงเธอเอาไว้ นัยน์ตาดุดันนั้นจ้องมองเธอ “เศวยา ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสเธอ ถ้าเธออยู่ต่อ ให้จะยอมให้เธออยู่เคียงข้างฉัน” “ปล่อยฉัน” เศวยาสะบัดเขาออก สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธนั้นยากที่จะอธิบาย “ธนเทพ นายจะเข้าใจอะไร? คนที่ไม่มีอะไรเลย คือนายต่างหาก!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 33 ฉันรอมาทั้งวันแล้ว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A