ตอนที่ 52 เมาเหล้า(1)   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 52 เมาเหล้า(1)
ต๭นที่ 52 เมาเหล้า(1) “คุณเป็นใคร” เสียงที่ไพเราะแต่ก็แฝงไปด้วยเย็นชาจนทำให้คนรู้สึกกลัวตอบรับเมื่อมีคนโทรเข้ามา พนักงานรู้สึกตกใจกับเสียงของเขา ก่อนที่จะพยายามอธิบายว่า “เอ่อ คุณผู้ชาย ที่นี่คือร้านกาแฟ คุณผู้หญิงที่คุณตามหาเมาอยู่ที่นี่ รบกวนมารับเธอไปหน่อยได้ไหม?” หลังเสียงพูดคุยจบลง ความรู้สึกกังวลนั้นอยู่ดีๆ ก็อันตรธานหายไป พนักงานบอกที่อยู่และวางสายโทรศัพท์ ในเวลาไม่นาน ผู้ชายสองคนก็มาถึงร้านกาแฟ พวกเขาทั้งหล่อ ตัวสูง และมีบุคลิกดี เพียงชั่วขณะเดียวก็สามารถดึงดูดทุกสายตาให้จ้องมองมาที่พวกเขา นินัทธ์มองเห็นเศวยานอนฟุบอยู่บนโต๊ะตั้งแต่เดินเข้าไป ดวงตาที่กังวลได้เปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน เขารีบก้าวเท้าเดินเข้าไป ทิ้งตัวลงนั่งยองๆ และลูบแก้มของเธอเบาๆ “เศวยา” เศวยาเมาหนักมาก เมาจนไม่ได้สติ หน้าแดงเหมือนกุ้งที่ต้มสุก นินัทธ์เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ไม่พูดอะไรมากก็อุ้มเธอขึ้นมา และรีบก้าวเท้าเดินออกไป ไม่เหลียวมองจันทรชาที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่นิดเดียว ถ้าจันทรชารู้ คงจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เอฟอยู่ข้างหลังจัดการเรื่องบัญชี ขณะที่เอฟกำลังจะเดินออกจากร้าน พนักงานก็เข้ามารั้งตัวเขาไว้ เบื้องหน้าของพนักงานคือผู้ชายที่มีสีหน้าไร้อารมณ์ความรู้สึกสวมเสื้อคลุมไม่มีแขน พนักงานพูดกับชายผู้นั้นด้วยความหวั่นกลัวว่า “คุณผู้ชายครับ ... ยังมีเพื่อนของคุณอีกคนอยู่ทางนั้นครับ” เอฟหันกลับมา กวาดตาดู ก่อนจะตอบด้วยความเย็นชาว่า “ผมไม่รู้จัก” ถึงแม้ว่า เขายังคงจำได้ว่าเธอชื่อ จันทรชา “เอ่อ แต่ว่า เธอมากับคุณผู้หญิงท่านนั้นนะครับ” เอฟขมวดคิ้ว นึกถึงว่า เมื่อเศวยาตื่นขึ้นมาคงต้องถามหาจันทรชาอย่างแน่นอน สุดท้ายเขาจึงเดินเข้าไปอย่างไม่เต็มใจ เขายืนจ้องเธอพร้อมกับตะโกนเรียกให้เธอรู้ตัว “ฮัลโหล?” จันทรชากำลังนอนกรนหลับสบายอยู่ พนักงานที่ยืนอยู่ข้างๆ มองเขาตาปริบๆ เหมือนจะบอกว่า “คุณผู้ชาย รบกวนหน่อยเถอะ ช่วยพาคุณผู้หญิงท่านนี้กลับไปที” ... ใบหน้าที่เย็นชาของเอฟ อดไม่ได้ที่จะชักสีหน้า ดูเหมือนเขาได้ทำการตัดใจครั้งใหญ่ เขาหิ้วแขนข้างหนึ่งของเธอขึ้นมา แบกตัวของเธอขึ้นไว้บนบ่าอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีที่หยาบคาย แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม ชั่วขณะเดียวเขาก็พิชิตสายตาของสาวๆ ทุกคนในร้าน เธอเหล่านั้นต่างก็เหลือบมองดูบ่าทั้งสองข้างที่ทรงพลังของเขา บนบ่าของเขาโหนกนูนขึ้นมาด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ อีกทั้งแผ่นหลังที่ตรงยาว ... รู้สึกได้ถึงสายตาอันร้อนผ่าวเบื้องหลังเขา ร้อนจนแทบอยากจะกลืนกินเขาลงไปทั้งตัว ร่างกายของเอฟแข็งทื่ออยู่สองสามนาที ก่อนเขาจะเร่งฝีเท้า และรีบเดินออกไปโดยไม่รีรอ ศีรษะของจันทรชาที่ห้อยลงมาข้างล่าง ถูกแสงส่องแยงตา ท้องก็ถูกดันไว้จนรู้สึกไม่สบายท้อง เมื่อเอฟเดินลงบันไดมาจนถึงชั้นล่าง เธอก็อ้าปากอย่างเร็ว “โอ๊กก...” เธออาเจียนออกมา เอฟขาแข็งนิ่งไม่ไหวติง เพียงชั่วแวบเดียวจันทรชาก็ได้อาเจียนเอาซาลาเปา ปาท่องโก๋ โจ๊กและข้าวต้มที่กินเข้าไปตอนเช้า ทั้งหมดออกมาบนเสื้อคลุมแขนสั้นสีดำของเขา ... เขาบีบมือซ้ายที่อยู่ด้านข้างขาเขาไว้แน่น ใบหน้าของผู้ที่เปรียบเสมือนวีรบุรุษ ได้แสดงสีหน้าที่เหลือเชื่อจากการถูกเหยียดหยามจนถึงขีดสุด หลังอาเจียนเอาอาหารในกระเพาะออกมาแล้ว จันทรชารู้สึกสบายขึ้นมาหน่อย จากนั้นศีรษะของเธอก็เอียง และหลับต่อไป พร้อมกับเสียงกรนเบาๆ ... นินัทธ์วางเศวยาลงที่เบาะหลังรถ จ้องมองใบหน้างดงามที่ตอนนี้แดงก่ำเพราะฤทธิ์เหล้า ปากเล็กๆ ที่เปิดออกเล็กน้อย แววตาที่สะท้อนความอ่อนโยน เขาก้มตัวลง ประทับริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากที่เย้ายวนซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยคราบไวน์แดงของเธอ ยิ่งจูบ ลำคอของเขาก็ยิ่งเกร็ง และโดยไม่รู้ตัว สายตาของเขามองลงไปที่หน้าอกของเธอ ก้อนเนื้อสองข้างที่ขาวและนุ่ม ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนเบื้องหน้าของเขา ชั่วขณะเดียวเท่านั้น ดวงตาของเขาเบิกกว้าง กล้ามเนื้อส่วนล่างของเขาร้อนผ่าวจนแทบลุกเป็นไฟ เขารีบถอยออกมาอย่างเร็ว และเบนสายตาไปทางอื่น ไม่มองไปที่หน้าอกของเธอ แม้ว่าความปรารถนาของเขาจะรุนแรงขึ้น รุนแรงจนยากที่จะสกัดกั้นเอาไว้ได้ แต่เขาก็ยังคงพยายามอย่างมากที่จะอดทนต่อไป และไม่ยอมให้ตนเองได้เธอมาโดยปราศจากความยินยอมของเธอ เวลานี้เอง เอฟเปิดประตูรถด้านข้างคนขับออก เขาตีหน้าขรึม พร้อมกับยัดจันทรชาเข้าไปด้วยท่าทีที่หยาบคายอย่างเห็นได้ชัด ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะเหลืออดเหลือทน แต่เขาก็ยังคงฝืนกัดฟันรัดเข็มขัดให้เธอแบบขอไปที จากนั้นก็เดินวนมานั่งอีกฝั่งหนึ่งของรถ พร้อมกับสตาร์ทเครื่อง สายตาของนินัทธ์ยังคงมองสำรวจออกไปที่นอกหน้าต่าง เขาถามเอฟด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเหยียดหยามและเย็นชาว่า “แล้วเสื้อคลุมนายล่ะ” เอฟเริ่มต้นด้วยความเงียบ ต่อมาฟันของเขาก็ขบกัน เงียบไปครู่หนึ่งแล้วจึงตอบกลับด้วยความเย็นชาว่า “ทิ้งแล้ว” นินัทธ์ไม่ได้ถามต่อ เอฟก็ไม่ได้พูดอะไร ในรถมีเพียงเสียงกรนที่ดังมาจากผู้หญิงสองคนที่บัดนี้นอนฟุบอยู่ กระทั่งความมืดยามค่ำคืนได้จางหายไป สีแสงของโคมไฟปรากฏขึ้น เศวยากับสมองที่ยังคงสะลึมสะลือ พยายามกระเสือกกระสนที่จะลืมตาขึ้นมา และสิ่งที่เห็นคือหน้าหล่อๆ ของนินัทธ์ที่ทำให้คนรู้สึกผวาและใจเต้น ดวงตาที่ดูคล้ายกับว่าลุ่มหลง เพ่งมองมาที่เธอโดยไม่ละสายตา ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ทั้งยังแฝงไปด้วยความปรารถนาในตัวเธอ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำให้สมองของเธอตอบสนองช้า เธอเพียงแค่กระพริบตาอย่างมึนๆ และมองดูเขาอย่างซื่อๆ สีแดงเลือดฝาดบนใบหน้าของเธอที่ยังไม่จางลง โบกทับด้วยแป้งนวลใสอีกชั้นหนึ่ง ดวงตาที่งามราวกับหงส์หรี่ลงเล็กน้อย ดั่งแม่น้ำและสายหมอกอันพร่างพราวที่กำลังพลิ้วไหว เหมือนกับของหวานที่น่าลิ้มลอง โดยไม่ลังเลอีกต่อไป ... เขาลิ้มรสเธอ ประคองแก้มของเธอไว้ด้วยมือขวา ทันใดนั้น เขาก็โน้นเอียงมาข้างหน้า และยื่นลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของเธอเบาๆ เศวยานิ่งอึ้งไป เธอตกใจตื่นขึ้นมาทันทีหลังจากนั้น โดยไม่ได้สนใจจูบและลิ้นของเขา ทันใดนั้นเอง เธอก็เปล่งเสียงเรียก “จันทรชา!”
已经是最新一章了
加载中