ตอนที่ 14 ริจะทำหน้าที่แม่สื่อ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 14 ริจะทำหน้าที่แม่สื่อ
ต๭นที่ 14 ริจะทำหน้าที่แม่สื่อ แสงอาทิตย์เจิดจ้า แสงแดดต้นฤดูร้อนยังคงมีกลิ่นอายหอมอยู่นิดๆ สนามกอล์ฟที่ออสวอลด์นี้ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของเมืองกีธูร์น ติดภูเขาใกล้แม่น้ำ เงียบสงบท่ามกลางเมืองวุ่นวาย ที่นี่เป็นสถานที่เอาไว้ฆ่าเวลาของพวกคนรวยโดยเฉพาะ ไม่เคยขาดเงินหมุนเวียนเลย นาราสวมชุดกอล์ฟสีขาวสะอาดทั้งตัว รูปร่างที่มีส่วนเว้นส่วนโค้งทำให้เห็นทรวดทรงชัดเจน ตนเองเลยกลายเป็นจุดชมวิวในสนามหญ้า ตำแหน่งทางด้านหน้าของหมวกแก๊ป มองเห็นปณิดากับโค้ชกอล์ฟแตะเนื้อต้องตัวกัน ‘อย่างสนิทสนม’อยู่ไกลๆ คิ้วขมวดไม่พอใจ มาตรฐานอยู่ที่ไหน? ปณิดายืนอยู่หน้าหลุมมีโค้ชรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านหลัง ภายนอกดูเหมือนว่าทั้งสองคนกำลังฝึกเทคนิคอยู่ แต่ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกหรือการกระทำก็ดูคลุมเครือไปหมด นาราไม่ได้เขินอายแต่เดินไปแล้วกระแอมเสียงดังสองที “อะแฮ่ม” กลัวปณิดาจะไม่ได้ยิน พอปณิดาเห็นเธออยู่ก็สำรวมขึ้น เข้าไปใกล้โค้ชแล้วพูดอะไรไม่รู้ข้างหู จากนั้นก็เดินไปที่ส่วนพักผ่อนของสโมสร แล้วมานั่งกับนารา เอ่ยถามอย่างสุภาพว่า “คุณทนายนารา ฉันเห็นสองมือคุณว่างเปล่า ไม่มีของขวัญอะไรมาให้ฉันเลยเหรอ?” นาราถามเธอกลับ “แล้วข้อมูลที่ฉันขอให้คุณหาให้ล่ะ?” ปณิดาหยิบเอกสารข้อมูลออกมาจากกระเป๋า “อยู่ในนี้หมดแล้ว คุณดูได้เลย” นารารับมาแล้วไม่แม้แต่จะตรวจดูเอาใส่กระเป๋าเลยทันที ดูเธอไม่รู้สึกอะไร ปณิดาเลยเป็นกังวล “ทนายนารา คุณคงไม่ใช่พวกต้มตุ๋นหรอกนะใช่ไหม?” เมื่อคืนวานนาราแอบโทรศัพท์หาเธอ พูดดูลึกลับสุดๆว่าเตรียมของขวัญชุดใหญ่ให้เธอ แต่เธอถามกลับย้ำๆซ้ำๆ แต่นาราไม่เผยออกมาสักนิด นารายิ้มจนตาหยี “อดทนรอก่อนอีกไม่นาน ละครดีๆจะอยู่ข้างหลังเสมอ” ปณิดาเอนพิงผนักเก้าอี้แล้วหยิบน้ำผลไม้มาดื่มอย่างช้าๆ นาราเห็นโค้ชฟิตเนสที่สะดุดตาอยู่ไม่ไกลแล้วพูด “คุณปณิดา โปรดจำคำพูดของฉันไว้ ตอนนี้เป็นช่วงสำคัญอย่าเผลอทำจนเกินไป ถ้าให้อีกฝ่ายกุมจุดอ่อนได้ มันจะจัดการยาก” ปณิดาตอบรับ “ทนายนารา ฉันจำคำเตือนของคุณได้เสมอ” การกระทำที่คลุมเครือเล็กๆเมื่อครู่ไม่ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่อง เธอทำตัวสำรวจมากขึ้น นาราไม่เห็นด้วยกับคำที่เธอพูดและพูดแทงจุด “อย่างเช่นการกระทำเมื่อสักครู่ ถ้าโดนอีกฝ่ายถ่ายรูปไว้ได้ ทนายของอีกฝ่ายจะต้องฉวยโอกาสใช้ความประพฤติไม่ซื่อตรงของคุณมาใส่ความเป็นแน่ แล้วโดนประธานคณะผู้พิพากษาถามถึงบุคลิกกับความจริงใจของคุณ” ไม่นึกว่านาราจะพูดตรงแบบนี้ ปณิดานั่งตัวตรง ใช้รอยยิ้มบนหน้าปกปิดความอาย “ทนายนารา ฉันทราบแล้ว” ดวงตาของนาราที่แต่เดิมสงบนิ่งปรากฏมีคลื่นบางๆ เธอเห็นเงาคนเดินย้อนแสงมาหาพวกเธอแต่ไกลๆ แสงแดดสาดส่องร่างของเขาดูราวกับเป็นภาพเพ้อฝันรอยยิ้มที่มุมปากของเขายิ่งดูพิศวง หมวกเบสบอลสีดำ เสื้อโปโลสีขาวบริสุทธิ์พร้อมกางเกงลำลองสีเบจทั้งหมดทำให้เขาดูหนักแน่นและมีพลัง ใบหน้าที่แผ่ความหล่อก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนจับจ้อง ใกล้ตัวเขายังมีชายเดินตามหนึ่งคนคงจะเป็นผู้ช่วยเขาแปดสิบเปอร์เซ็นต์ นาราขมวดคิ้วนิดหน่อย “คุณปณิดา ของขวัญคุณมาถึงแล้ว” ปณิดามองตามทิศทางที่เธอมอง แล้วยิ้มจนหางตาปรากฏรอยย่นชัดเจน แล้วพูดสุภาพทันที “ทนายนารา คุณนี่เก่งจริงๆ!” “ก็แค่เล่นไปตามสถานการณ์เท่านั้น ส่วนจะจับได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพี่แล้ว” นาราเห็นธีมนต์เดินมาถึงก็รีบเงียบทันที ธีมนต์เดินมาตรงหน้าและทักทายนาราโดยไม่แม้แต่ชำเลืองมองปณิดา “ทนายนารา บังเอิญจริงๆ!” นัยวิทที่อยู่ข้างๆตาเบิกกว้างมองด้วยความประหลาดใจ จนแน่ใจว่าคนนี้คือนาราแน่ๆ! ว่าแต่เธอกลับประเทศมาตั้งแต่เมื่อไหร่? เมื่อสองวันก่อนเขาตรวจสอบเรื่องของเธอแต่ไม่มีชื่อเธอในรายชื่อเที่ยวบินกลับประเทศเลยนี่นา? “ชะตาต้องกัน!” นารามองออกแต่ไม่พูดถึง ปณิดายิ้มอย่างน้ำใสใจจริง “คุณธีมนต์ สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อปณิดา ครั้งที่แล้วพวกเราก็มีชะตาต้องกันที่หน้าออฟฟิคนะคะ” ธีมนต์ถึงได้รับรู้ว่ามีผู้หญิงอีกคนอยู่ถัดจากนารา ดูจากความสัมพันธ์ของทั้งสองคนแล้วเธออาจจะเป็นลูกค้าของนาราก็เป็นได้ จึงพยักหน้าตอบรับอย่างสุภาพ แล้วหันไปสนใจนาราอีกครั้ง “ทนายนารา หากเราไม่ได้บังเอิญมาพบกันงั้นมาเล่นกันสักตาไหม” นารายิ้มให้อย่างเจิดจ้า ใช้เหตุผลชอบธรรมพูดแก้ตัว “เสียใจจังเลยค่ะ ฉันยังต้องดูเอกสารข้อมูลที่คุณปณิดาเอามาให้ ไม่งั้นทำไมพวกคุณไม่ไปเล่นกันก่อนล่ะ?” เธอพูดพร้อมปรายตาไปทางปณิดา ปณิดารีบพูดทันที “ได้ยินมาว่าคุณธีมนต์มีเทคนิคยอดเยี่ยม งั้นทำไมพวกเราไม่มาลองกันสักตาล่ะคะ?” ธีมนต์รู้สึกเหมือนตนเองติดอยู่ตรงกลางจะขึ้นจะลงก็ไม่ได้ ถ้าไม่รับคำปณิดาก็จะดูไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยพยักหน้ารับไป มองดูทั้งสองคนเดินไปจนในที่สุดหยุดที่สนาม นาราถือข้อมูลไว้แต่ไม่ได้เปิดอ่าน ดีดนิ้วที่อยู่บนเอกสารเบาๆ และเผยรอยยิ้มที่แผนการสำเร็จ ปณิดากับธีมนต์ต่างก็เช็ดไม้กอล์ฟของตัวเอง ธีมนต์แทบไม่ได้พูดอะไรเลย เป็นปณิดาที่คอยหาหัวข้อมาคุยกับเขาเรื่อยๆ “คุณธีมนต์ ไม่ต้องสุภาพกับฉันก็ได้นะ” ปณิดายิ้มให้อย่างสดใส ดวงตาอิ่มน้ำเป็นธรรมชาติของผู้หญิง สำหรับหญิงสาวที่เป็นผู้ใหญ่แล้วอย่างปณิดา มันคือการแสดงออกถึงเสน่ห์ของตัวเอง แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติและไม่ฝืน นี่เป็นสิ่งที่พวกเธอถนัดที่สุด ธีมนต์ยิ้มน้อยๆ “สนามกอล์ฟเปรียบเหมือนสนามรบ ผมไม่มีทางประมาทคู่ต่อสู้” พูดแล้วเขาทำท่า “เชิญ” เพื่อให้ปณิดาเริ่มก่อน ปณิดาบิดเอวเล็กๆและเดินไปถึงหน้าหลุม เล็งจ้องมองที่หลุมทำหน้าตาตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นท่ายืนหรือท่าสะบัดไม้แม้กระทั่งการออกแรง ล้วนแต่เป็นพื้นฐานที่โค้ชสอน พูดได้ว่าเทคนิคของปณิดาค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงทั่วไป เมื่อสวิงไม้กอล์ฟอีกครั้ง ลูกกลมๆสีขาวก็โค้งอย่างงดงาม ลงหลุมอย่างแม่ยำ ปณิดายิ้มอย่างพอใจ มองไปที่ธีมนต์อย่างมั่นใจ “คุณธีมนต์ คุณว่าลูกที่ฉันตีไปพอใช้ได้ไหม?” ธีมนต์ชื่นชมจากใจ “เทคนิคของคุณปณิดาไม่เลวเลย” “แต่คุณธีมนต์ต้องทำดับเบิ้ลอีเกิ้ล ไม่งั้น...” เธอเดินเข้ามาใกล้ธีมนต์ จนรู้สึกถึงกลิ่นบนร่างของเขาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น “คุณธีมนต์ ช่วยอธิบายให้ฉันฟังทีได้ไหมคะ ว่าดับเบิ้ลอีเกิ้ลต้องตียังไงถึงจะทำได้?” ธีมนต์ถอยไปหนึ่งก้าวเพื่อรักษาระยะห่างจากเธอ ในขณะกำลังคิดคำตอบ สายตามุ่งร้ายจากส่วนพักผ่อนก็พุ่งมาที่พวกเขา ตกใจจนคิ้วขมวด แล้วนาราล่ะ? มีลางสังหรณ์ไม่ดีแวบขึ้นในอก เขาใช้ความอยากกลับไปเอาโทรศัพท์มาเป็นข้ออ้าง เพื่อสลัดปณิดาแล้วกลับไปส่วนพักผ่อน แต่ก็พบว่ามีโน็ตฉบับหนึ่งทิ้งไว้บนโต๊ะ “คุณธีมนต์ คุณปณิดา ต้องขอโทษจริงๆเนื่องจากมีธุระด่วน ฉันขอตัวกลับก่อนนะ” ธีมนต์ขยี้กระดาษในมือด้วยความโกรธ เขาติดกับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว เมื่อคืนเธอจงใจเปิดเผยที่อยู่เพื่อล่อเขามาที่นี่ ยัยปีศาจสาว ริจะเป็นแม่สื่อ ไม่เพียงแค่ใช้ความคิดวางแผนแต่ยังถึงตัวเขาด้วย เรื่องนี้เธอต้องรับผิดชอบ!
已经是最新一章了
加载中