ตอนที่ 18 ดูสิว่าเธอจะหนีไปไหนได้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 18 ดูสิว่าเธอจะหนีไปไหนได้
ต๭นที่ 18 ดูสิว่าเธอจะหนีไปไหนได้ ช่วงบ่าย สายลมเงียบสงบราวกับตาย มีเพียงตำหนิที่ทำไว้ปรากฏ แต่พอหันกลับไปดูอีกครั้งก็ไร้ร่องรอย สุสานสะอาดสะอ้านราวกับอากาศได้หยุดนิ่ง นารายืมรถจากไวทยุตเดินทางนานกว่าหนึ่งชั่วโมงถึงสถานที่ที่แม่นอนหลับ เธอเดินเข้ามาพร้อมกับช่อคาร์เนชั่นสีขาวในมือ ดวงตาสงบนิ่งไม่มีรอยยิ้มที่มุมปาก ผ่านมาครู่หนึ่งฝีเท้าก็เบาลง ถึงหน้าหลุมศพของแม่ มองไปที่รูปถ่ายที่วางไว้ที่มีรอยด่าง ดวงตาเป็นสีแดงจากความอัดอั้น หลุมศพมีวัชพืชเจริญงอกงามเป็นสีเขียวทุกสิ่งทุกอย่าง วัชพืชแห้งเหี่ยวก็เปรียบดั่งชีวิตเปล่าเปลี่ยวโศกา สุดเส้นทางเหลือเพียงกองกระดูกหนึ่งกอง เธอคุกเข่าวางช่อดอกไม้น้ำเสียงสะอืน “แม่ หนูมีชีวิตกลับมาจากอเมริกาแล้วนะ...” เมื่อเธอเห็นวัชพืชงอกใหม่รอบๆหลุมศพของมารดา เธอจึงตัดและเผาทิ้งด้วยมือเธอเอง มือขาวๆถูกวัชพืชบาด สุดท้ายเธอก็เช็ดหลุมศพจนสะอาด โดยเฉพาะรูปถ่ายที่วางตากลมและฝนมีรอยด่าง หลังจากทุกอย่างสะอาดเรียบร้อย เธอก็วางดอกคาร์เนชั่นลงหน้าหลุมศพ กลิ่นหอมโปรยปรายตามสายลม รูปถ่ายสีขาวดำที่ตัดกัน ทำหัวใจของนาราเจ็บปวดยิ่งขึ้น สายลมอุ่นต้นฤดูร้อนพัดเส้นผมที่ทัดหูปลิวกระจาย แต่ไม่ช่วยให้น้ำแข็งของเธออุ่นขึ้นมาได้ “แม่ หนูบอกไว้ก่อนออกเดินทาง ขอเพียงแค่หนูมีชีวิตรอดกลับจากอเมริกาได้ จะไม่ยอมให้คำในบ้านทำสำเร็จเด็ดขาด ตอนนี้ได้เวลาทำตามคำสัญญานั่นแล้ว” เธอนั่งลงใกล้หลุมศพที่เย็นยะเยือก แต่หัวใจกลับอบอุ่น “แม่เคยบอกกับหนูว่าต้องทำตัวเป็นคนดี คนดีจะได้สิ่งดีๆกลับมา แต่เรื่องที่แม่เจอมาล่ะ? นี่คือ “ค่าตอบแทนที่ดี” ของคนดีเหรอ?” ความโศกเศร้าและความเกลียดชังในดวงตาของเธอถูกรวมเข้าเป็นกลุ่มก้อน แผดเผาดวงตาให้ลุกโชน ฉากความหลังฉายซ้ำในสมองเหมือนภาพยนตร์ เหมือนมือสั้นเฉือนข้อมือของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เลือดในใจไหลรินไร้สุ้มเสียงไม่มีการหยุดพัก ปกติเธอไม่รู้สึกเป็นทุกข์ เวลานี้ความเจ็บในอกสามารถทำให้เธอหายใจไม่ออกได้เลย ความเศร้าในอากาศทำให้เธอแทบสำลัก ฉากที่แม่ตายหวนกลับเข้ามาในสมองอีกครั้งหนึ่ง เลือดแดงสดไหลจากปากแผลขนาดใหญ่ที่ข้อมือท่วมพื้นมากมาย แม่ที่นอนจมกองเลือด ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษบางๆ ตอนนั้นตัวเธอที่อายุเพียงแค่สิบขวบได้เห็นกับตาตนเอง แต่ไม่ว่าเธอจะร้องไห้หือตะโกนยังไงแม่ของเธอก็ไม่ตื่นขึ้นมา เธอฝืนยิ้มที่มุมปาก นิ้วเย็นๆลูบที่รูปถ่ายสีขาวดำ “แม่คะ หนูกลายเป็นผู้หญิงเลว แม่อย่าว่าหนูนะ เป็นเพราะพวกเขาบีบบังคับหนู!” เธอมองขึ้นไปบนฟ้า ดวงตาอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว “การฆ่าคนคนหนึ่งโดยตรง ไม่ทำให้เธอเจ็บปวดทรมานได้ การพรากสิ่งมีค่าที่สุดของเธอไปจึงจะทำให้เธอรู้สึกยิ่งกว่าความตาย” ความรู้สึกนี้จารึกเข้าไปในใจเธอไม่ลืม แม่ของเธอคือความเจ็บปวดที่สุดตลอดชีวิต “แม่คะ แม่ว่าหนูดีหรือเลว แต่เพื่อแก้แค้นแล้ว ต่อให้ต้องกลายเป็นหญิงยั่วสวาทหรือเป็นแม่มดหนูก็ไม่เสียใจเลย” เธอมองทุกอย่างออกตั้งแต่เมื่อก่อน สายลมยะเยือกพัดผ่านปิดกั้นเสียงเธอ แต่รสชาติความอาฆาตแค้นเธอจำได้ขึ้นใจ เธอเอาสองมือโอบกอดหลุมศพแน่น อุณหภูมิที่เย็นเยือกส่งผ่านมายังหน้าอกของเธอ แต่กลับอบอุ่นมากๆ เพราะเธอรู้ว่าถึงแม้แม่จะนอนอยู่ที่นี่ แต่วิญญาณของแม่จะอยู่กับเธอเสมอ ยามดึกสงัด ราตรีในต้นฤดูร้อนยังคงอุณหภูมิต่ำ แต่อากาศแบบนี้เหมาะแก่การวิ่งในตอนกลางคืน คนอื่นวิ่งเพื่อออกกำลังกาย แต่สำหรับนาราการวิ่งเป็นเพียงการระบาย หลังไปหาแม่เมื่อตอนบ่าย ในอกของเธอเต็มไปด้วยเพลิงแค้นคุกกรุ่น จนแทบจะเผาอวัยวะภายในของเธอไปหมด เธอวิ่งไปข้างหน้าอย่างช้าๆและต่อเนื่อง ถนนที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าดูเหมือนไม่ราบรื่นเท่าไหร่ เหมือนเส้นทางแก้แค้นของเธอจะเป็นหลุมเป็นบ่อและมองไม่เห็นจุดจบ เวลานี้บนถนนห่างจากเธอไปด้านหลังประมาณสิบเมตร รถไมบัคคันหนึ่งขับมาใต้แสงจันทร์ ธีมนต์มองเวลา ตอนนี้คือสามทุ่ม เจาเปิดหน้าต่างขว้างก้นบุหรี่ออกมา บังเอิญมองเห็นเงาที่คุ้นเคยกำลังวิ่งอยู่บนทางเท้า “แม่ปีศาจน้อย...” ข้างหน้ามีหัวมุม ธีมนต์เร่งความเร็วจอดรถขวางตรงหัวมุมในแนวนอน ขวางทางเธอไว้ ช่วงท่อนที่คุ้นเคยทำให้นาราขมวดคิ้วนิดหน่อย แล้วก็เป็นไปตามที่คิดเธอเห็นธีมนต์ลงจากรถมา ริมฝีปากสีแดงยกขึ้น ดวงตามีความเจ้าเล่ห์สว่างขึ้น เธอไม่คิดเลยว่าปลาจะติดเบ็ดเร็วขนาดนี้ “ไง เธอคิดว่าตัวเองเป็นปูเหรอ เที่ยววิ่งพล่านไปบนทางเท้า” เธอหยุดวิ่งจ๊อกกิ้งและเดินไปข้างหน้าแบบหอบๆ “งั้นฉันขอหาเรื่องคุณได้ไหม” “อันธพาลต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?” “ฉันเห็นเธอเหนื่อย เลยหวังดีจะไป ‘ส่ง’ ให้” ธีมนต์แก้ตัว นาราคิดตามเหมือนว่าจะมีแผน “ได้ ฉันยอมรับข้อแก้ตัวนี้” สิ้นเสียงเธอก็เดินไปที่รถของเขา ธีมนต์เห็นเสน่ห์ของเธอในใจก็มีความคาดหวังเกิดขึ้น แม่ปีศาจน้อยถูกเขาจับได้ในคืนนี้ ดูสิว่าเธอจะหนีไปไหนได้! 
已经是最新一章了
加载中