ตอนที่ 26 ใครใช้ให้ลูกชายคุณลากฉันกลับมาหล่ะ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 26 ใครใช้ให้ลูกชายคุณลากฉันกลับมาหล่ะ
ต๭นที่ 26 ใครใช้ให้ลูกชายคุณลากฉันกลับมาหล่ะ ทางบันไดเงียบมาก ธีมนต์ยืนอยู่ข้างๆ เว้นระยะห่างพอให้สองพี่น้องได้มีที่ว่างคุยกัน "ฉันรอดกลับมา แม่ของเธอคงผิดหวังน่าดู" นาราหัวเราะอย่างเย็นชา แต่หัวใจของเธอเย็นชายิ่งกว่า "พี่นารา หนูขอโทษ หนูขอโทษแทนแม่และพี่จรรย์ธร" นภินทร์คือลูกสาวคนเล็กของตระกูลหันมณี ลูกรักของณัฐนิชและนิรุทธ์ ถ้าหากจะพูดถึงคนที่ยังพอมีจิตใจดีงามในตระกูลหันมณีอยู่ละก็ คงมีเพียงแค่น้องสาวต่างแม่คนนี้คนเดียวเท่านั้น "เมื่อกี้นี้ที่เธอบอกว่าเขายังไม่ตายหมายความว่ายังไง ใครจะฆ่าเขา แม่และพี่สาวของเธอหรอ?" ธีมนต์ที่เงียบมานาน นึกถึงความเป็นไปได้นี้ขึ้นมาจึงอดไม่ไหวที่จะถามออกไป นภินทร์มองธีมนต์ด้วยความรู้สึกกลัว เธอก้มหัวลง "เมื่อก่อนฉันเคยแอบฟังแม่คุยโทรศัพท์บ่อยครั้ง เขาจ้างนักฆ่าไปตามฆ่าพี่นาราที่อเมริกา ตอนนี้ก็ยังคงตามหาพี่อยู่" เธอห่อไหล่ลง "ฉันไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้เลย......" นภินทร์เป็นคนไร้เดียงสา ผิดกับแม่และพี่สาวของเธอทุกอย่าง นาราสงสัยมาตลอดว่ายัยเด็กน้อยคนนี้เป็นลูกสาวของณัฐนิชจริงๆรึป่าว ทำไมถึงไม่มีนิสัยเย่อหยิ่งแบบพวกนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว นาราอยู่ในตระกูลหันมณีมา10ปี ไม่เคยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเด็กน้อยคนนี้เลย 5ปีก่อนจรรย์ธรจ้องจะเล่นงานเธอ ก็มียัยเด็กน้อยนี่เเหละที่รีบมาบอกให้เธอรู้ ให้เธอได้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า แล้วสุดท้ายยังลากธีมนต์เข้ามาเกี่ยวในเรื่องนี้อีก เธอตบไหล่น้องเบาๆ พูดอย่างอบอุ่น "ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันยังอยู่ดีอยู่นี่" "อืม พี่นาราต้องระวังตัวนะ ถ้าเกิดแม่หนูรู้ว่าพี่กลับมา ต้องไม่ปล่อยพี่ไปแน่ๆ" นาราพยักหน้า "วันเวลาเปลี่ยนไปแล้ว ฉันจะไม่อยู่ใต้เท้าของพวกเขาอีกต่อไป 5ปีมานี้ฉันแอบซ่อนมามากพอแล้ว" "ตอนนี้เขายังมีฉันอยู่" ธีมนต์พูดเสริมขึ้นมา นารามองหน้าธีมนต์อย่างเอือมๆ พูดกับนภินทร์ว่า "ไม่ต้องไปสนใจเขา เธอรีบไปเถอะ ทำเป็นว่าไม่ได้เจอฉัน แต่หลังจากนี้บ้านนั้นจะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น เธอไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น แค่ตั้งใจเรียนหนังสือก็พอ เข้าใจไหม" นภินทร์เข้าใจที่นาราพูด พยักหน้ารับ "พี่นารา หนูไปแล้วนะ" "ไปเถอะ" นภินทร์เพิ่งออกไปจากทางบันได ธีมนต์ก็ผลักเธอติดกับกำแพง และจ้องมองเธอ "จะว่าไป5ปีที่เธออยู่ต่างประเทศ ก็ดูชีวิตมีสีสันดีหนิ" นาราหัวเราะเบาๆ "ใช่มีสีสันมาก" มีสีสันจนยากที่จะลืมไปตลอด มีสีสันจนเธอไม่กล้าที่จะไว้ใจใครได้อีก พวกนักฆ่าพวกนั้น เคยทำทีท่ามาเป็นเพื่อนกับเธอ ความรู้สึกที่ถูกเพื่อนแทงข้างหลัง เธอลองมามากจนเกินพอแล้ว "คุณจะเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังได้ตอนไหน" ธีมนต์อยากรู้เรื่องราวประสบการณ์ชีวิต5ปีมานี้ของเธออย่างมาก ทำไมณัฐนิชถึงอยากจะฆ่าเธอ รึว่าตระกูลหันมณีมีความลับอะไรที่ไม่สามารถบอกคนอื่นได้ นาราไม่สนใจ ผลักเขาออก "นี่เป็นความลับของฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ" "ความลับ" ธีมนต์เหมือนกับว่าได้ฟังเรื่องตลก เขาจับคางของเธอ ดวงตาที่กลายเป็นแหลมคม น้ำเสียงที่ดูดุอย่างมาก "คุณใช้ผมเป็นเครื่องมือแก้แค้นจรรย์ธรครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้คุณดึงผมเข้ามาในเรื่องนี้แล้ว คุณก็จำเป็นที่จะต้องบอกเรื่องจริงกับผม" สองสายตาสบประสานกัน ธีมนต์จ้องมองดวงตาที่แหลมคมแต่กลับเงียบสงบของเธอ เป็นประสบการณ์แบบไหนกันแน่ ถึงทำให้ดวงตาแปรเปลี่ยนไปเช่นนี้ แต่เวลาก็สามารถนำมาซึ่งบาดแผลได้ ทำให้เขานึกถึงดอกกุหลาบที่ซ่อนหนามไว้ภายใต้ความงดงาม ทั้งสองเหมือนหยุดชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง สุดท้าย นาราก็เบนสายตากลับออกมา "ฉันหิวแล้ว ไม่มีแรงจะพูด" "งั้นไปบ้านผม ผมทำอะไรอร่อยๆให้ทาน" ธีมนต์โอบเธออย่างอัตโนมัติ นาราเบ้ปาก พูดหยอก "ไปที่บ้านคุณเพื่อดูกลุ่มนักข่าวบันเทิงพวกนั้นหรอ" "บ้านผมถูกนักข่าวล้อม ไม่ใช่เพราะว่าคุณรึไง" ธีมนต์สวนกลับ ในรอยยิ้มนั้นมีแต่ความสมยอม พูดต่อว่า "ไปกันเถอะ ผมจะพาคุณไปในที่ที่ปลอดภัยและมีอาหารอร่อยๆ" "ที่ไหน" คราวนี้เป็นเธอที่ถามอยากสงสัย ธีมนต์มองใบหน้าสวยของเธอ ทนไม่ไหวจึงหยิกไปที่แก้มเธอทีนึง "เดี๋ยวก็รู้น่า" พูดไปก็กึ่งบังคับเธอออกจากที่นี่ นาราเริ่มสงสัยอีกว่าเขาจะพาไปที่ไหน เมื่อรถหรูไมบัคมาถึงทะเลสาบหวานใจ เธอมองตึกที่มีรูปร่างเหมือนๆกันยาวไปตามแนวถนน เธอก็เดาออกเลยว่าจุดหมายปลายทางของเขาคือที่ไหน ที่จริงแล้ว ทะเลสาบหวานใจหยุดอยู่ตรงหน้าประตูที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง นารามองเห็นตัวอักษรแกะสลักสีทองหน้าประตู [บ้านใหม่จิวะพงษ์] ขณะลงจากรถ นารามองเขา "ที่แท้ก็เป็นพวกคนรวย ที่บ้านยังมีเชฟนานาชาติอีกหรอ" ไม่ใช่ว่าธีมนต์ไม่ได้ยินคำเยาะเย้ยของเธอ เขาเดินไปข้างๆเธอ "เชฟนานาชาติคนนี้ เขาอยากให้ฉันเลี้ยงดูเองต่างหากหล่ะ" นาราขมวดคิ้ว เชฟที่เขาหมายถึง กลัวว่าจะเป็นแม่ของเขาเองนะสิ คุณหญิงเพ็ญรดีได้ยินเสียงจอดรถ ก็รีบมาที่หน้าประตูทันที เมื่อเธอเห็นนารา ก็ตกใจอย่างกับเห็นผียังไงอย่างงั้น ปีศาจจิ้งจอก? คุณหญิงเพ็ญรดีชี้ไปที่เธอ มองไปที่ธีมนต์และถามว่า "ลูก ทำไมถึงพาผู้หญิงคนนี้กลับมา" รึว่าลูกชายจะชอบเธอจริงๆ คุณหญิงเพ็ญรดีในใจซับซ้อนจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดออกมาได้ "เจอลูกแมวหิวโซอยู่ข้างถนน ก็เลยพากลับมาด้วย" ธีมนต์เดินไปตอบคำถามของแม่ไปด้วย นาราได้ยินคำพูดของเขาก็หัวเราะออกมา "ใช่ค่ะ ลูกแมวหิวโซเจอกับหมาป่า ก็เลยถูกลากมา เพราะงั้น....." เธอมองไปที่คุณหญิงเพ็ญรดี "ลูกแมวหิวโซถูกบังคับมา คุณป้าอย่าเข้าใจผิดนะคะ" คุณหญิงเพ็ญรดีดวงตาว่างเปล่า มองไปยังพวกเขา ลูกชายเขากลายเป็นคนมีอารมณ์ขันแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน และมองกลับไปที่นารา เธอรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ทำไมยิ่งมองยิ่งดูน่าสนใจ ไม่รอให้คุณหญิงเพ็ญรดีพูด ธีมนต์ก็พูดขึ้นมาว่า "แม่ครับ ผมหิวแล้ว มีข้าวเย็นให้ผมกินไหม" นาราที่เดินเข้าไปก็ไม่ได้เกรงใจ ทำเหมือนกับว่าเป็นบ้านของตัวเอง นั่งลงแล้วเทน้ำ บริการตนเอง "มีสิ แต่ฉันไม่ทำให้แม่นี่กินหรอกนะ" คุณหญิงเพ็ญรดีบ่นออกมาอย่างจงใจ นาราตอบกลับอย่างไม่เกรงใจ "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันกับลูกชายคุณทานด้วยกันก็ได้ค่ะ" ธีมนต์ช่วยเธอโดยอัตโนมัติ พยักหน้า "ได้ครับ" คุณหญิงเพ็ญรดีจ้องหน้าธีมนต์ "ยัยปีศาจจิ้งจอกหน้าด้านจริงๆ" นาราหัวเราะและมองคุณหญิงเพ็ญรดีที่เดินไปยังห้องครัว "นั่นก็เป็นเพราะเลียนแบบมาจากลูกชายของคุณนั่นแหละ" ความหมายในคำพูดของเธอก็คือ ใครใช้ให้ลูกชายคุณบังคับฉันมาที่นี่หล่ะ คุณหญิงเพ็ญรดีหมดคำจะพูด ยืนอยู่ตรงประตูห้องครัว มองมาทางธีมนต์อย่างอารมณ์ขุ่นเคือง "ลูก ช่วยแม่พูดบ้างไม่ได้หรอ" ยังไม่ทันแต่งเข้ามาก็ยังโดนรังแกขนาดนี้ หลังจากนี้ถ้าแต่งเข้ามาแล้วจะรับมือได้ยังไงกัน ธีมนต์ก็ยังคงช่วยแต่นารา "แม่ครับ เธอพูดถูกแล้ว ผมมันหน้าไม่อายจริงๆนั่นแหละ" เขาดูเหมือนว่ามีเป้าหมายคือจะได้แอ้มเธอให้ได้ ก่อนที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น เขาจะหน้าด้านให้ถึงที่สุด คุณหญิงเพ็ญรดีจงใจกระซิบ "แม่จะทำให้นังคนนี้น้อยๆเลย" ประโยคที่กระซิบเพียงเบาๆ ไม่คิดว่านาราจะได้ยินเข้า "คุณป้า ดีเลยค่ะฉันจะได้ไดเอทไปด้วย" คำพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงนั่น ทำให้คุณหญิงเพ็ญรดีถึงกับพูดไม่ออกเลย 
已经是最新一章了
加载中