ตอนที่ 29 ซื้อรถแถมแฟนไหม
1/
ตอนที่ 29 ซื้อรถแถมแฟนไหม
เกมรักลวงใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 29 ซื้อรถแถมแฟนไหม
ตนที่ 29 ซื้อรถแถมแฟนไหม ณ โรงพยาบาลในเมือง หน้าประตูโรงพยาบาลห้อมล้อมไปด้วยกลุ่มนักข่าวจนแทบจะไม่เหลือช่องว่าง มาพร้อมกับอุปกรณ์ กล้องถ่ายวิดีโอ มากมาย ล้วนกำลังแย่งกันถามคำถามจากคุณหมอ "หมอครับ จรรย์ธรอยู่ห้องไหนครับ" "หน้าของเธอตอนนี้เป็นยังไงบ้าง จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้รึป่าว" "จมูกเบี้ยวผิดรูปแล้วจริงๆไหม หมอที่รักษาเธอสามารถออกมาให้สัมภาษณ์ได้ไหมครับ" …… นักข่าวกลุ่มหนึ่งคล้ายกับหมาป่าที่กำลังล้อมรอบประตู ทุ่มสุดชีวิตเพื่อให้ได้ข่าวกลับไป ฝั่งโรงพยาบาลก็เพิ่มกำลังรปภ กั้นเป็นกำแพงเพื่อเอาไว้เผชิญหน้ากับปัญหาของจรรย์ธร อย่างเงียบๆไม่ทำอะไรตอบกลับไปเลย "แม่ จะทำยังไงดี ทุกอย่างถูกทำลายไปหมดแล้ว ต่อไปหนูจะกล้าออกไปเจอคนอื่นได้ยังไง" ทางฝั่งเตียงผู้ป่วย จรรย์ธรร้องไห้ฟูมฟายและอาละวาดไปทั่ว อารมณ์ในตอนนี้ดาวน์อย่างมาก สภาพแย่ๆของเธอถูกแพร่ออกไปจนทุกคนได้เห็นกันหมดแล้ว ต่อไปเธอจะมองหน้าใครได้? แล้วธีมนต์จะมองเธอยังไง? ณัฐนิชนั่งลงข้างๆเธอ พูดปลอบใจ "ไม่ต้องร้องแล้ว ตอนนี้ต้องรีบรักษาแผลก่อน รอให้แผลบนหน้าดีขึ้นเมื่อไหร่ หน้าของลูกยังไปศัลยกรรมแก้ใหม่อีกได้ ตระกูลหันมณีของเรามีเงิน ทำให้ลูกกลับมาสวยเหมือนเดิมได้อยู่แล้ว" "แต่ธีมนต์ต้องรู้แล้วแน่ๆว่าหนูทำศัลยกรรมมา เขาเห็นรูปพวกนั้น เขาจะทิ้งหนูไปไหม" ใบหน้ารูปไข่ที่จรรย์ธรภูมิใจมาก ตอนนี้กลับถูกทำลายไม่เหลือซาก และยังโดนนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณชนอีก นั่นหมายความว่าความพยายามความตั้งใจที่เธอทำมาทั้งหมดถูกทำลายไปหมดแล้วภายในวันเดียว นี่มัน...... "ใจเย็นๆก่อนลูก แม่ให้สัญญา จะแย่งธีมนต์กลับมาหาลูกให้ได้" ดวงตาณัฐนิชแฝงไปด้วยความโหดร้าย จรรย์ธรพยักหน้า เธอเชื่อว่าแม่ของเธอทำได้อย่างที่พูด ตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าแม่จะทำ ไม่มีอะไรที่ไม่เคยทำสำเร็จ "รูปภาพที่ถูกแพร่ออกไป ลูกคิดไว้ไหมว่าใครเป็นคนทำ" ณัฐนิชถามด้วยความจริงจัง "ปณิดา ต้องเป็นนังผู้หญิงแพศยาคนนั้นแน่นอน เป็นคนของมันที่พาหนูพาส่งโรงพยาบาล มันต้องการจะแก้แค้นหนูแน่ๆ" เมื่อพูดถึงผู้หญิงคนนี้ อารมณ์ของจรรย์ธรก็ปะทุขึ้นอย่างมาก อารมณ์ที่กำลังโกรธมากจนหน้าบิดเบี้ยวทำให้ใบหน้าเกิดอาการเจ็บปวดขึ้นมา "แค้นครั้งนี้พวกเราต้องชำระแน่นอน และก็ต้องทบต้นทบดอกให้หมด" ใครที่กล้าแตะต้องลูกสาวของณัฐนิช เธอจะทำให้พวกนั้นได้รู้ซึ้งว่าการเล่นกับไฟผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง ขณะนั้น เสียงเปิดประตูดังขึ้น สองแม่ลูกหันไปมองทางประตู นิรุทธ์ เดินเข้ามาด้วยท่าทางที่ดูไม่ค่อยปกติ ณัฐนิชมองออกถึงความผิดปกติของสามี จึงถามไปว่า "คุณนิรุทธ์ เกิดอะไรขึ้นรึป่าว" "ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ เอส.ที. กรุ๊ป ได้ออกมาตอบกลับแล้ว ธีมนต์ตัดความสัมพันธ์แบบแฟนกับจรรย์ธรแล้ว และยังบอกอีกว่า บริษัทของเขาและเราตอนนี้เป็นแค่การร่วมงานกันธรรมดาๆ ถ้าหากว่าเรื่องอะไรที่เป็นการทำให้ เอส.ที.กรุ๊ปต้องเสียผลประโยชน์หรือเสื่อมเสียชื่อเสียง พวกเขาจะเรียกหาความรับผิดชอบจากอีกฝ่ายอย่างถึงที่สุด" "เป็นไปไม่ได้ ธีมนต์ไม่ทำกับหนูอย่างนี้แน่......" จรรย์ธรไม่สามารถยอมรับการปฏิเสธจากธีมนต์ได้ ลุกขึ้นจากเตียง "หนูจะไปหาธีมนต์ตอนนี้เลย หนูต้องไปอธิบายให้เขาเข้าใจ" ณัฐนิชรีบรั้งเธอเอาไว้ พูดตำหนิ "แกบ้าไปแล้วหรอ นักข่าวข้างนอกรอถ่ายรูปสภาพของแกกันเต็มไปหมด ถึงแกจะเจอธีมนต์แล้วยังไง ทำอะไรได้ เขาเห็นสภาพแกตอนนี้ก็จะยิ่งรังเกียจแกเข้าไปอีก" "หนูไม่ยอม จะให้ธีมนต์เข้าใจผิดหนูอย่างนี้ต่อไปรึไง" "ลูก ใจเย็นๆก่อนเถอะ แกไปหาธีมนต์ในสภาพแบบนี้ ก็มีแต่จะทำให้เขายิ่งพยายามถอยห่างไปอีก" นิรุทธ์ก็พูดหว่านล้อมอยู่ข้างๆ "แต่หนูไม่สน" "หนูไม่ยอม" เธอโกรธจนตีไปบนเตียง แต่ละหมัดที่ตีลงไปบนเตียงเหมือนตีโดนเข้าไปข้างในใจของเธอเอง "ฉันรู้ว่าตอนนี้แกไม่อยากจะยอมขนาดไหน แต่แกส่องกระจกดู ธีมนต์เขาจะรักแกที่หน้าตาแบบนี้ได้ลงไหม? ตอนนี้ ณ เวลานี้แกยังมีโอกาสอยู่ ทำไมไม่รอให้แผลบนหน้าของแกหายดีกลับมาเหมือนเดิมก่อน แล้วไปหาเขาด้วยใบหน้าที่สวยที่สุดหล่ะ" ณัฐนิชพูดด้วยสีหน้าจริงจัง รู้สึกไม่พอใจในตนเองที่ไม่สามารถช่วยอะไรไปมากกว่านี้ได้ "พ่อ,แม่, หนู......" ถูกแม่ว่าไปชุดใหญ่ จรรย์ธรรับรู้ถึงความหนักหนาสาหัสของเรื่องนี้แล้ว มองพวกเขา อารมณ์ก็เริ่มที่จะนิ่งลง ** แสดงแดดส่องสว่างอย่างอบอุ่น ไร้เมฆหมอกบนท้องนภา ข่าวซุบซิบโพสต์แล้วโพสต์เล่า สร้างสรรค์ยิ่งกว่าละครประจำปี แต่โลกก็ยังคงหมุนต่อไป คนที่มีความสุขก็ยังคงมีความสุข ดังเช่นนารา ข่าวซุบซิบของจรรย์ธรแพร่กระจายไปทั่ว ไม่มีใครจะมีความสุขได้เท่ากับนาราแล้ว แต่ทว่า นี่ยังเป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อยที่เธอมอบให้กับตระกูลหันมณี อาหารจานหลักยังไม่ทันได้เสิร์ฟเลยนะ! ในขณะที่จรรย์ธรได้แต่นอนอย่างน่าเวทนาอยู่ในโรงพยาบาล นารากลับมาปรากฏตัวอยู่ที่โชว์รูมรถAudi 4s ตั้งใจจะมอบรางวัลให้ตัวเอง ซื้ออุปกรณ์ช่วยในการเดินทางสักคัน นาราสวมเสื้อปาดไหล่สีขาวเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่เซ็กซี่ กระโปรงรัดสะโพกผ่าข้างแต่งโค้งเว้า เข้ากับรองเท้าส้นเตี้ยสีนู้ด และกระเป๋าถือ เธอเปรียบเหมือนกับดอกป๊อปปี้ที่สวยงามจนผู้คนไม่อาจละสายตาได้ แต่เมื่อไม่ทันระวังตัว ก็จะถูกเธอกลืนกินเข้าไปจนไม่เหลือซาก "คุณครับ ออดี้A6คันนี้ การกระจัดของเครื่องยนต์2.5L ความเร็วระดับแรงม้า ราคาไม่สูงมาก เหมาะสมกับคุณเป็นอย่างมากเลยครับ" พนักงานขายหนุ่มพานาราดูรถหลากหลายสไตล์ พูดแนะนำกับเธออย่างกระตือรือร้น นาราเปิดประตูดูภายในรถ ราคาและดีไซน์ถือว่าไม่เลว พยักหน้าอย่างพอใจ "ซื้อรถตอนนี้ยังแถมการบำรุงรักษารถยนต์ให้ฟรีด้วยนะครับ ที่อื่นไม่มีสิทธิ์พิเศษนี้แน่นอน รวมกับการบำรุงรักษาทั้งสามครั้งของคุณ มูลค่าก็เท่ากับได้ค่ารถคืนแล้วครับ" นาราหัวเราะ พูดเหน็บแนม "แล้วถ้าซื้อรถแถมแฟนให้ไหม" พนักงานถึงกับตกตะลึง ตอบกลับไปอย่างทันที "คุณสวยขนาดนี้ ยังไม่มีแฟนอีกหรอครับ" "ฉันชอบกินหญ้าอ่อนหน่ะ อย่างเช่น....." เธอหัวเราะออกมา "แบบเธอ" เมื่อพนักงานได้ยินคำนั้น หน้าเริ่มแดงและรีบเปลี่ยนหัวข้อคุยทันที "คุณเล่นมุกเก่งนะครับ คุณว่ารถคันนี้เหมาะกับคุณไหมครับ" "มีสีดำไหม ฉันอยากลองขับดู" "มีครับ คุณรอสักครู่นะครับ" ถึงตอนนี้ หนุ่มพนักงานถอนหายใจอย่างโล่งใจ เผชิญหน้ากับผู้หญิงที่มีเสน่ห์ขนาดนี้ ทำให้เขาตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว ครู่นึง นารานั่งลงบนเบาะนั่งคนขับ รัดเข็มขัดนิรภัย มองพนักงานหนุ่มที่อยู่ข้างๆ ถามไปว่า "พร้อมรึยัง" "พร้อมแล้วครับ" เวลานี้ไม่ใช่เวลาเร่งด่วนที่ผู้คนเข้าหรือเลิกงาน ถนนจึงค่อนข้างโล่ง เธอจึงสามารถลองรถได้ตามสบายอย่างที่เธอต้องการ ตอนแรกพนักงานหนุ่มคิดว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นจะขับรถได้ค่อนข้างนุ่มนวล แต่นารากลับเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างน่าตกใจ มองดูเข็มชี้ความเร็วตอนนี้เพิ่มขึ้นไปถึง80 แล้ว เขากลืนน้ำลายลงคอ กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงนุ่ม "คุณครับ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งนะครับ ขับรถในเขตเมืองความเร็วควรอยู่ที่ประมาณ60จะดีที่สุดนะครับ" 60? นารายิ้มเยือกเย็น "ไม่ต้องห่วง ถนนสายนี้ฉันคุ้นเคยเป็นอย่างดี ถึงจะขับ120ก็ยังรับประกันความปลอดภัยของนายได้" 1......120! พนักงานหนุ่มถึงกับแทบหยุดหายใจ สายตาบ่งบอกถึงความกลัว "คุณ คุณครับ แต่ถนนเส้นนี้จำกัดความเร็ว......." เขายังไม่ทันพูดจบ คำพูดก็เหมือนกับจมลงไปในพายุ นารามองไปยังเบนท์ลีย์คันข้างหน้า ขับช้ายิ่งกว่าเต่าคลาน ตั้งใจมองเข้าไป ที่แท้ในรถก็เป็นคู่ชายหญิง กำลังพลอดรักกันอยู่ โอ้โห อยู่บนถนนยังกล้าพลอดรักกัน มุมปากเหยียดยิ้มอย่างดูถูก เหยียบคันเร่ง เปลี่ยนเกียร์ เกิดเป็นเสียงที่รถเปลี่ยนเกียร์อย่างกะทันหัน เร่งความเร็วไปถึง100 แซงเบนท์ลีย์คันนั้นไป "คุณชายทัศ ดูรถคันหน้าเราคันนั้นสิ กล้าดียังไงมาแซงรถของเรา" ผู้หญิงในรถของทัศสัย ชี้ไปที่รถออดี้คันใหม่เอี่ยมนั่น ทัศสัยที่ตอนแรกกอดหญิงสาวไว้ด้วยมือข้างเดียว มองไปยังรถตรงหน้า หรี่ตาลง โอ้โห แค่รถออดี้ยังกล้าขับแซงเบนท์ลีย์ของเขา ใครมันกล้าได้ขนาดนี้นะ? ต้องรักษาหน้าเอาไว้หน่อย เขาบอกให้หญิงสาวนั่งดีๆ เร่งความเร็วของรถ เพื่อที่จะได้ไล่ตามออดี้คันหน้าให้ทัน เห็นว่าระยะห่างระหว่างออดี้คันนั้นเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ รถคันนั้นดึงความสนใจของเขาได้สำเร็จ กระตุ้นความอยากเอาชนะของเขาได้เป็นอย่างมาก ความตื่นเต้นที่ซ่อนอยู่ในใจของทัศสัยพลุ่งพล่านขึ้น เห็นว่าใกล้จะตามออดี้คันนั้นทันแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความเร็วอีก แยกไฟแดงกั้นกลางระหว่างรถสองคันเอาไว้ ออดี้ข้ามผ่านไฟเขียวก่อนที่จะแดงไปได้อย่างพอดิบพอดี หายวับไปในพริบตา แต่ทัศสัยกลับติดไฟแดง ทำให้ต้องหยุดรถอย่างเสียไม่ได้ "โถ่โว้ย" เขาจำใจต้องหยุดรถ ตบพวงมาลัยรถด้วยความรู้สึกขัดใจ เขาถอนหายใจไม่ลง รอจนไฟเขียว เขาเร่งความเร็วไล่ตามไปข้างหน้า ไม่สนใจว่าจะขับเกินความเร็วที่กำหนด ในระหว่างที่เขาขับผ่านโชว์รูมออดี้4s สายตาหยุดอยู่ที่รถออดี้คันสีดำที่จอดอยู่หน้าประตูนั่น นั่นมันรถคันที่เพิ่งแข่งกับเขาเมื่อกี้นี้ไม่ใช่หรอ เขาชิดริมแล้วจอดรถ อยากจะดูคนขับรถว่าเป็นใครหน้าไหนกัน ตอนนั้นเอง ประตูฝั่งคนขับของรถออดี้ก็เปิดออก ขาขาวเรียวยาวหนึ่งข้างออกจากประตูรถมาก่อน ช่วงเอวโค้งเว้า และใบหน้าที่สวมแว่นกันแดดเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถปิดบังใบหน้าที่งดงามของเธอได้ ทัศสัยถึงกับอ้าปากค้าง "แม่เจ้า วันนี้ได้เจอของดีอะไรอย่างนี้เนี่ย?" ด้วยใบหน้างดงามราวนางฟ้านางสวรรค์ รูปร่างของผู้หญิงตรงหน้า ดูเหมาะเจาะเข้ากันอย่างไร้ที่ติ เขาเหมือนกับโดนสะกดจิตไปแล้ว รีบลงจากรถ หญิงสาวในรถเรียกเท่าไหร่ก็รั้งเขาไว้ไม่อยู่ ด้านหน้า นาราเพิ่งลองรถกับพนักงานหนุ่มเสร็จเดินเข้าไปในร้าน สายตามองไปยังหนุ่มคนนั้น เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเขา หุบยิ้มแล้วถามเขา "นายโอเคไหม" น้ำเสียงสุภาพน่าฟังของเธอเรียกสติเขากลับมา พนักงานหนุ่มแสดงสีหน้าไม่ถูก "ผมไม่เป็นไรครับ" ทัศสัยที่เดินตามเข้ามา ส่งเสียงทักทายอย่างไม่เกรงกลัว "ฮาย คนสวย ยังจำผมได้ไหม" พูดไป ก็ใช้สายตาชี้ไปยังเบนท์ลีย์ตรงหน้าประตู นาราเหลือบตามองเขา แล้วก็มองไปที่เบนท์ลีย์คันนั้น ก็เข้าใจในการมาของเขาในทันที เขาก็คือ’ม้าตัวผู้’ คนที่กอดจูบลูบคลำกับผู้หญิงในรถบนถนนเมื่อกี้นี้เอง *** [ม้าตัวผู้ คือคำที่ใช้เปรียบผู้ชายที่มีเสน่ห์เป็นพิเศษสามารถทำให้ผู้หญิงหลงใหลคลั่งไคล้ได้และยังมีความสามารถพิเศษทางเพศอีกด้วย] *** นาราไม่ได้คิดจะสนใจเขาอยู่แล้ว ผู้ชายที่ไร้คุณค่าแบบนี้ เธอเจอมาเยอะ เห็นท่าทีที่เย็นชาของเธอ เป็นครั้งแรกที่ทัศสัยถูกปฏิเสธ สมองตื้อไปหมดทำอะไรไม่ถูก นึกสงสัยว่าช่วงนี้เสน่ห์เขาลดลงหรือป่าว แต่หญิงสาวตรงหน้าช่างงดงามถึงขนาดนี้ เขาก็ไม่อยากจะยอมแพ้ ยังคงหน้าด้านต่อไป "คนสวย คุณอยากซื้อรถหรอ" นาราถอดแว่นกันแดดออก สายตาที่เย้ายวนน่าค้นหาคู่นั้น มองเขาอย่างเย็นชา "มาโชว์รูมรถถ้าไม่ซื้อรถ จะให้ซื้อคนรึไง" "ถ้าคุณต้องการ ผมขายตัวผมให้คุณได้นะ" ทัศสัยขยิบตาให้เธอ เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ ผู้หญิงคนนี้ภายใต้แว่นกันแดดนั่น มองแล้วยิ่งสวยเข้าไปอีก เรียกได้ว่าเป็นเทพธิดาในสายตาของโอตาคุอย่างแท้จริง ใช่ เธอก็คือเทพธิดา! "คุณ....ให้ฟรีฉันก็ไม่เอา" นาราไม่สนใจผู้ชายลูกคุณหนูอย่างเขาเลยแม้แต่น้อย หันกลับไปพูดกับพนักงานหนุ่ม "ฉันเอารถคันนั้น" ทัศสัยผุดคิดขึ้นได้อีก "คนสวย งั้นคุณเลี้ยงข้าวผมหนึ่งมื้อ ผมให้เบนท์ลีย์คันนั้นกับคุณเลย" นาราชำเลืองมองไปยังเบนท์ลีย์ ตอบกลับไปอย่างเย่อหยิ่ง "มีคนอยากให้เบนท์ลีย์กับฉันตั้งมาก ต่อคิวให้ตายยังไงก็คงไม่ถึงคุณ" "คนสวย คุณทำแบบนี้มันทำร้ายจิตใจผมเกินไปไหม" ทัศสัยแสดงละครทำท่าทางกุมอกอย่างเหมือนเสียใจมาก นารายกมือกอดอก ริมฝีปากแดงยิ้มเยาะ พูดแดกดัน "หัวใจเปราะบางขนาดนี้ยังจีบหญิงแบบคนอื่นเขา กลับบ้านไปให้แม่โอ๋เถอะค่ะ" จบประโยค เธอเดินออกไปกับพนักงานหนุ่ม เพื่อจัดการเรื่องซื้อรถ ทัศสัยตันจนไม่รู้จะตอบอะไร เทพธิดาผู้เย็นชานี้นี่แสบจริงๆ ไม่มีหน้าจะไปไล่ตามเธอต่อแล้ว หญิงสาวในรถเบนท์ลีย์ทนอยู่คนเดียวไม่ไหว วิ่งออกมา จับแขนของเขา "คุณชายทัศ ทำไมไม่สนใจฉันเลย" น้ำเสียงที่หวานเยิ้มจนเลี่ยน กับเทพธิดาผู้แสนเย็นชาเมื่อกี้ ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ในใจทัศสัยเกิดความสับสนจนอธิบายออกมาไม่ได้ มองกลับไปยังนาราที่ไกลออกไป เขาปัดมือของหญิงสาวออก "สร้อย คุณกลับเองนะ ผมมีธุระด่วนต้องกลับบริษัท" หญิงสาวรู้สึกไม่ดี รีบเข้าไปตอแยเขาทันที "คุณชายทัศ ถ้าคุณไปแล้วฉันจะกลับยังไงหล่ะคะ" ทัศสัยหยิบธนบัตรออกมาให้เธอหลายใบ "คงพอค่ารถละนะ" ในใจเขารู้สึกหดหู่มาก เเม้ว่าเขาจะไม่เคยขาดมือในเรื่องผู้หญิง แต่ก็ไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนเมินใส่เลยแม้แต่คนเดียว แถมยังทำให้เขาตันจนพูดอะไรไม่ออกได้ถึงขนาดนี้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 29 ซื้อรถแถมแฟนไหม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A