ตอนที่ 32 ถึงจะเรียนดีก็ไม่สู้ได้แต่งงานดีหรอกนะ
1/
ตอนที่ 32 ถึงจะเรียนดีก็ไม่สู้ได้แต่งงานดีหรอกนะ
เกมรักลวงใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 32 ถึงจะเรียนดีก็ไม่สู้ได้แต่งงานดีหรอกนะ
ตนที่ 32 ถึงจะเรียนดีก็ไม่สู้ได้แต่งงานดีหรอกนะ ณัฐนิชมองดูลูกสาวหลังจากวางสายโทรศัพท์ พูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันบอกแกไปแล้วว่าแกจะถูกปฏิเสธ แต่แกกลับไม่ฟังที่ฉันพูดเลย” ความรู้สึกของเธอถูกแสดงไว้บนใบหน้าหมดแล้ว จรรย์ธรเอนกายอยู่ตรงนั้นอย่างท้อแท้ ภายในจิตใจไม่สงบเอาเสียเลย ในตอนนี้แม้กระทั่งคุณหญิงเพ็ญรดีก็ไม่สนใจเธอ ชีวิตของเธอในวันข้างหน้าคงจะต้องลำบากซะแล้วล่ะ ! ณัฐนิชเดินมาอยู่ข้าง ๆ เธอ และยังคงล้างสมองของเธอต่อไป “รอให้หน้าหายดีแล้ว ลูกต้องการผู้ชายแบบไหนอย่างไร อย่าว่าแต่ธีมนต์คนเดียวเลย สิบธีมนต์ก็จะต้องหลงใหลในตัวลูก!” จรรย์ธรจับมือแม่ของเธอไว้ราวกับว่าเป็นเพียงความหวังสุดท้ายความหวังเดียว “คุณแม่คะ แม้กระทั่งคุณหญิงเพ็ญรดีก็ไม่สนใจฉันเลย คุณแม่ว่าฉันยังจะสามารถทำอะไรได้อีกล่ะคะ?” เธอกลัวมาก หลายปีที่ผ่านมานี้เธอจะต้องพยายามอย่างไม่ลดละมาโดยตลอด ถึงจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับคุณหญิงเพ็ญรดีได้ขนาดนี้ แต่หลังจากเหตุการณ์นี้แล้วดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ณัฐนิชหลับตาลงอย่างเย็นชา ใช้ความคิดอยู่นาน แล้วจึงพูดว่า “นิสัยของคุณหญิงเพ็ญรดีเป็นคนที่ใจอ่อนหลังจากนี้ไปลูกแค่เกลี้ยกล่อมเธอให้มาขึ้นก็พอแล้ว!” รังสีความเยือกเย็นของแผนการเลวร้ายในดวงตาของเธอ ยกยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย จรรย์ธรที่จนปัญญา หลังจากได้ฟังคำพูดของแม่ ภายในใจก็ยังไม่ค่อยสบายใจ “คุณแม่คะ จะทำได้จริง ๆ หรอคะ” คุณหญิงเพ็ญรดีเขาเป็นแม่ของธีมนต์ เพียงแค่เธอยืนอยู่ข้างลูก ธีมนต์เขาต้องไว้หน้าแม่ของเขา ดังนั้นอย่างน้อย ๆ เขาจำเป็นต้องไว้หน้าลูกบ้าง ณัฐนิชวางแผนไว้หมดแล้ว ถ้าเกิดว่าจะต้องทำให้ธีมนต์ไม่มีทางปฏิเสธ มีแต่ต้องใช้ให้ทางด้านคุณหญิงเพ็ญรดีเป็นฝ่ายลงมือ จรรย์ธรได้ฟังดูแล้ว ก็คิดว่ามีเหตุผลแต่ก็กลุ้มใจว่า “ตอนนี้แม้แต่บ้านของคุณหญิงเพ็ญรดีฉันยังเข้าไปไม่ได้เลย แล้วจะเข้าใกล้คุณหญิงเพ็ญรดีได้อย่างไรล่ะคะ?” ณัญนิชขมวดคิ้ว “นี่ลูกโง่หรือเปล่า? คุณหญิงเพ็ญรดีจะไม่ออกจากบ้านเลยหรืออย่างไรกัน?” จรรย์ธรลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงเห็นด้วยกับคำพูดของแม่ คน ๆ หนึ่งอาจจะอยู่บ้านได้สักวันสองวัน แต่ยังไงก็ต้องมีเวลาที่ออกจากบ้านบ้างล่ะ ระหว่างคิ้วที่ลอยไปมามีรอยยิ้มที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ก็เหมือนกลอุบายของแม่มด ที่รอให้เหยื่อเป็นฝ่ายออกมาเองนั่นแหละ “จรรย์ธร เพียงแค่เราไม่เลือกวิธีการ ต่อให้ขั้นตอนจะยุ่งยากสักแค่ไหน สุดท้ายแล้วเราก็จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้” “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” คิดมาเยอะขนาดนี้แล้ว ฟังมาเยอะขนาดนี้แล้ว จรรย์ธรเธอรู้แล้วว่าตอไปนี้ควรจะต้องทำอย่างไร แต่ว่าปณิดานั้น ไม่สามารถกำจัดได้ภายในวันเดียว นั่นเป็นความหนักใจของเธอเลยล่ะ นภินทร์ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง คอยมองสีหน้าและท่าทางที่แสดงออกมาอย่างชั่วร้ายของแม่และพี่สาว เธอไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยกลัวว่าตัวเองจะไม่ทันได้ระวังแล้วหลุดปาก ทำให้เรื่องของพี่นารารั่วไหลออกมา ณัฐนิชหันกลับไปมองลูกสาวที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวบนโซฟา แล้วตะโกนว่า “นภินทร์ นภินทร์ ลูกกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ?” จรรย์ธรดูถูกเหยียดหยาม “คงไม่ใช่อ่านอะไรโง่ๆอยู่หรอกนะ” “จรรย์ธร ว่าน้องแบบนี้ได้ยังไงลูก” ณัฐนิชส่งสายตายไปปรามเธอ แต่เมื่อหันสายตากลับมามองที่ นภินทร์ น้ำเสียงก็อ่อนลงไม่น้อย “ลูกกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ ทำไมตั้งใจคิดเชียว” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ศาสตราจารย์ให้พวกเราเขียนวิทยานิพนธ์ ฉันเลยกำลังนั่งคิดหัวข้อค่ะ” นภินทร์เก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ แววตาดูเหมือนใสสะอาดเอามาก ๆ ไม่เหมือนคนพูดโกหกเลยสักนิดเดียว ณัฐนิชเบาใจลง “นภินทร์ ลูกตั้งใจเรียนนะ อย่าเหมือนพี่สาวของลูก แม้แต่มหาวิทยาลัยก็ยังเลยไม่จบ แล้วก็ไม่อยากจะเรียนแล้วด้วย ลูกต้องพยายามให้หนักขึ้นหลังจากนี้นาโนเบย์ก็จะถูกยกให้กับลูก เข้าใจใช่ไหม” “ค่ะ” นภินทร์ตอบน้ำเสียงแบบใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จรรย์ธรที่พิงอยู่บนโซฟา เคืองในคำพูดของแม่จึงตอบกลับไปแบบไม่พอใจว่า “คุณแม่คะ ฉันในสายตาของคุณแม่ เป็นคนที่ไม่เอาไหนขนาดนั้นเลยเหรอคะ?” “ลูกไม่อายที่จะพูดบ้างหรอ เรียนมหาวิทยาลัยแล้วสุดท้ายก็ออกกลางคัน ถ้าเกิดว่าบ้านเราไม่มีนภินทร์แล้วล่ะก็ ครอบครัวของเราแม้แต่คนที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ไม่มีเลยสักคน” เมื่อก่อนจรรย์ธรก็ทำ“เรื่องดี” เธอไม่อยากเอ่ยถึงมันอีกแล้ว จรรย์ธรรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด เธอไม่สามารถโต้แย้งแม่ของเธอได้ จึงเอาความรู้สึกคับแค้นใจไปลงไว้ที่น้องสาว “เรียนดีแล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ เรียนจบแล้วก็ยังต้องทำงาน ไม่สู้สวยหุ่นดี แต่งงานกับเศรษฐีไปเลย ยังจะต้องเป็นทุกข์เรื่องกิน เป็นทุกข์เรื่องเสื้อผ้า เป็นทุกข์เรื่องทำงานอยู่อีกไหม?” นภินทร์ รู้สึกรังเกียจมากสำหรับคำพูดของเธอ “ผู้หญิงยุคใหม่น่ะนะ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออิสรภาพทางเศรษฐกิจ ความคิดแบบนี้ของพี่น่ะเขาเลิกใช้กันไปนานแล้ว” “อิสรภาพทางเศรษฐกิจ จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่การเกาะผู้ชายกินไปวัน ๆ หรอกนะ” จรรย์ธรไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ หลังจากมองหน้าเธอแล้ว “หน้าของเธอก็เหมือนกับฉัน สันจมูกไม่โด่ง ตาเล็ก ถ้าจะให้ดีก็ไปทำจมูกให้โด่งขึ้น ทำหางตา ทำตาสองชั้น หลังจากนั้นก็สวยขึ้นแล้ว มันจะต้องทำให้ผู้ชายหลงใหลได้แน่นอนเลยล่ะ” “พี่ ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้เหมือนกับพี่หรอกนะ ถูกคนตีจมูกมามันเป็นจุดอ่อนที่น่าหัวเราะ” นภินทร์ขมวดคิ้วอย่างระเอือมระอา ไม่แม้แต่หันมาสนใจเธอเลย “เธอนภินทร์ ฉันเป็นพี่เธอนะ เธอพูดแบบนี้กับฉันได้อย่างไร ?” บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ ณัฐนิชมองดูพี่น้องทั้งสองทะเลาะกัน จึงตวาดไปหนึ่งประโยค “ลูกทั้งสองคนถอยกันคนละก้าว อยู่ต่อหน้าแม่ยังจะมาทะเลาะกันอีก ไม่เห็นแม่อยู่ในสายตากันเลยใช่ไหม” “ไม่ใช่ฉันต้องการจะทะเลาะกับเธอนะ เพียงแค่แนะนำด้วยความหวังดี แต่เธอกับไม่ซาบซึ้ง อย่างน้อยฉันก็เป็นคนที่เคยมีประสบการณ์มาก่อน จะฟังหรือไม่ฟังก็เรื่องของเธอ” พี่น้องทั้งสองคนทัศนคติไม่ตรงกัน เป็นธรรมดาที่จะคุยกันไม่ได้ นภินทร์ไม่สนใจ หยิบกระเป๋าขึ้นมา “คุณแม่คะ ฉันกลับไปที่มหาวิทยาลัยก่อนนะคะ” ไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนโง่ คนโง่ได้ยินคำพูดแบบนั้นของเธอแล้ว จรรย์ธรพรวดพราดร้องตะโกนตามหลัง “นภินทร์ กลับมาหาฉันเดี๋ยวนี้นะ นึกไม่ถึงเลยนะว่าเธอจะกล้าด่าฉัน ?” “จรรย์ธร หุบปากซะ!” ระหว่างลูกทั้งสองคนแล้ว ณัฐนิชเลือกที่จะเอนเอียงไปทางลูกคนเล็กมากกว่า “คุณแม่คะ คุณแม่ดูนภินทร์สิคะ ถูกคุณแม่ให้ท้ายจนกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว” “ลูกทำเรื่องไม่ดีไว้อย่าไปโทษน้องเลยที่ว่าลูก ตัวเองทำจมูกมายังจะไปหาเรื่องทะเลาะกับคนอื่นอีกนะ” “คุณแม่คะ คุณแม่พูดเรื่องนี้มากี่ครั้งแล้ว แต่ว่าฉันกลับรู้สึกว่าช่วงนี้นภินทร์ไม่เหมือนเดิมนะคะ” “นภินทร์เชื่อฟังแม่ขนาดนี้ ไม่มีทางที่จะทำเรื่องอะไรเลว ๆ แบบลูกหรอก” ณัฐนิชพาตัวออกจากประเด็นที่คุยกันได้สำเร็จ “คุณแม่คะ ฉันจะพูดกับคุณแม่อย่างจริงจังนะคะ คุณแม่ไม่คิดว่าช่วงนี้นภินทร์สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว จิตใจล่องลอยตลอดบางเหรอคะ” ณัฐนิชนิ่งไปสักครู่ มองเธออย่างไม่แน่ใจ “ที่จริงแล้วลูกต้องการจะพูดอะไรกันแน่?” “ฉันหมายความว่า นภินทร์อาจจะกำลังมีความรักหรือเปล่า” “เป็นไปไม่ได้หรอก นภินทร์มีผู้ชายที่ชอบอยู่แล้ว ต้องบอกแม่แน่นอน” ณัฐนิชเชื่อใจลูกสาวคนเล็กของเธอมาก ๆ ตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะเรื่องอะไรจะต้องบอกเธอเสมอ ทั้งน่ารักและเฉลียวฉลาด “ค่ะ ในเมื่อคุณแม่มั่นใจขนาดนี้แล้วฉันก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้ว บางครั้งก็อาจจะเป็นเพราะวิทยานิพนธ์บ้า ๆ นั่นก็ได้ถึงทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้” จรรย์ธรพูดอย่างหน้าเหยเกไปสองประโยค ถึงยังไงก็ตามเธอพูดมาเยอะขนาดนี้แล้วคุณแม่ก็จะยังไม่เชื่อ “ลูกควรที่จะดูแลเรื่องของตัวเองให้ดีก่อนดีกว่านะ เรื่องของน้องน่ะไม่ไปทำให้ลูกลำบากใจหรอก” เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้แม่บ่นต่อไป จรรย์ธรจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาและนอนหลับตาลงไป “คุณแม่กลับไปเถอะค่ะ ฉันต้องการจะพักผ่อน” “ได้ ฉันจะไปแล้วล่ะ” ณัฐนิชโบกไม้โบกมือ แล้วก็ไม่ได้สนใจเธอ “ฉันจะกลับบ้านสักหน่อย พ่อของลูกอาจจะมาค่ำ ๆ ” หลังจากนั้น เมื่อแน่ใจว่าแม่กลับไปแล้ว จรรย์ธรจึงลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้วนำโทรศัพท์ออกมา โทรออกไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่คุ้นเคยอีกครั้ง ภาวนาขอให้ธีมนต์รับสายเธอ.....
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 32 ถึงจะเรียนดีก็ไม่สู้ได้แต่งงานดีหรอกนะ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A