ตอนที่ 40 ระวังฉันจะพ่นพิษใส่เธอให้ตาย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 40 ระวังฉันจะพ่นพิษใส่เธอให้ตาย
ต๭นที่ 40 ระวังฉันจะพ่นพิษใส่เธอให้ตาย ธีมนต์เดินเข้ามาพร้อมกับไวน์และแก้วไวน์ เมื่อเปิดฝาไวน์เบา ๆ ก็ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของไวน์ลอยมาเตะจมูก แต่น่าเสียดายที่ลมพัดแรงเกินไปจนทำให้ความหอมเมื่อสักครู่หายออกไปหมด เมื่อรินไวน์ใส่แก้วทั้งสองใบเสร็จ เขาก็ยื่นส่งไปให้เธอ “อารมณ์เป็นไงบ้าง” นารามองไปทางเขา แล้วพูดขึ้นเบา ๆ “ไม่สุขไม่ทุกข์ ไม่โกรธไม่แค้น” ธีมนต์เม้มปาก เมื่อเขาดื่มไวน์เสร็จ มองไปรอบ ๆ ด้านไม่เห็นมีใครเขาจึงถามเธอขึ้นว่า “ลงมือตอนไหน” ลมทะเลที่พัดแรง ไม่ได้ทำให้เสียงของธีมนต์หายไปแต่อย่างใด นาราไม่คิดที่จะยอมรับว่าตัวเองเป็นคนทำพร้อมกับแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ฉันไม่เข้าใจว่านายกำลังพูดเรื่องอะไร” ผู้หญิงที่เก่งอย่างเธอขนาดกำลังโกหกต่อหน้าเขายังมีท่าทีที่สงบนิ่งได้ แต่ธีมนต์ไม่เคยคิดที่จะปล่อยเธอลอยนวลอยู่แล้ว “ท่ออากาศหายใจของผู้หญิงคนนั้น เธอทำใช่ไหม” นาราจิบไวน์เบาๆ พร้อมกับยิ้มอย่างเย็นชา “นายมีหลักฐานเหรอ หรือว่านายเห็นว่าฉันเป็นคนทำ?” เธอไม่เชื่อว่าจะมีคนเห็นการกระทำของเธอเมื่อสักครู่นี้ ถ้าสมมุติว่ามีคนเห็นละก็ พวกเขาจะไม่ลงไปดำน้ำแน่นอน ธีมนต์ไม่โกรธ พร้อมกับก้มหน้าเข้ามาโอบไหล่ของเธอและกระซิบเบาๆ “แม่จิ้งจอกน้อย นับวันฉันยิ่งรู้สึกสนใจในตัวเธอมากขึ้น ทำไงดี” เธอเหมือนกับปัญหาเชาว์ ที่ต้องการใครสักคนเข้ามาแก้และพบคำตอบของปัญหานั้น ซึ่งเขาอยากจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่เข้าไปขุดสำรวจแต่ละจุดของร่ายกายเพื่อให้ได้คำตอบเหลือเกิน รอบ ๆ ด้านปกคลุมไปด้วยความมืดมิด มีแค่แสงจากพระจันทร์และแสงไฟจากเรือสลัว ๆ เท่านั้น สองคนนั้นอยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนกระทั่งเขาสามารถได้กลิ่นลมหายใจที่ชัดเจนของเธอ เมื่อยิ่งใกล้ก็ยิ่งมองเห็นแววตาที่เป็นประกายจากรอยยิ้ม นาราไม่กลัวเขาเลยสักนิด พร้อมกับเอามือจับคางเขาเบา ๆ “ร่ายกายของฉันมีพิษนะ ระวังฉันจะพ่นพิษใส่เธอให้ตาย” ธีมนต์กุมมือเธอไว้แน่น พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง “เธอชอบพูดประโยคนี้อยู่เรื่อย ถ้าพูดบ่อย ๆ ก็หมดสนุกแล้ว ตอนนี้ฉันเข้าใจว่าเป็นแค่วิธีการที่จะปกป้องตัวเธอเองแบบหนึ่งใช่ไหม” สีหน้าที่เรียบเฉยของนาราค่อย ๆ ยิ้มออกมาอย่างเบา ๆ “ตอนกลางวันที่นายทำเจ็ทสกีพลิกคว่ำ ยังไม่กลัวสักนิดเลยเหรอ” ในใจกลับมีความสุขมากขึ้น ยิ่งดึงดูดเขาได้ยิ่งดี แค่ดึงดูดความสนใจของเขาอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แค่นี้เป้าหมายของเธอก็จะเห็นผลได้ง่ายขึ้น “ชีวิตของคนเรามีหลายเรื่องที่ไม่สามารถสมปรารถนาได้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่รอให้เราไปค้นเจอ ทำไมถึงต้องกลัวล่ะ เหมือนกับเด็กที่หัดเดิน เดินครั้งแรกแน่นอนว่าต้องล้ม แต่เมื่อล้มแล้วก็จะล้มเลิกความตั้งใจแล้วไม่ลุกขึ้นหัดเดินอีกเหรอ งั้นก็หมายความว่าเขาไม่มีทางที่จะเรียนรู้เรื่องการเดินไปได้ตลอดชีวิต มันเหมือนกับเธอนั่นแหล่ะ รู้ว่ายากแล้วยังถอย งั้นฉันก็ไม่มีวันที่จะได้เธอมา” ธีมนต์ไม่พูดอะไรต่อก็โยนเข้าเรื่องของนาราซะแล้ว นาราดื่มไวน์จนหมดโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับรินไวน์ลงในแก้วอย่างช้าๆ ดวงตาที่นุ่มลึกเหลียวมองมาทางเขา “คนอย่างนาย ก็ยังมีมุมที่พิเศษอยู่เหมือนกันนะเนี่ย” “แล้วเธอชอบไหมล่ะ” ดวงตาที่นุ่มลึกของธีมนต์เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสนสุขพร้อมกับสายตาของเขาที่คลุมเครือไม่บริสุทธิ์ “แค่นี้ก็ให้ชอบนี่นะ? มันผิวเผินเกินไป !” เธอส่ายหัวอย่างไม่เห็นด้วย ธีมนต์พูดอย่างมั่นใจ “ฉันจะรอแบบนี้ รอจนกว่าฉันจะสามารถชนะใจเธอได้สักวัน” น้ำเสียงที่นุ่มลึกของเขา แววตาที่มั่นคง ผู้หญิงคนนี้ ฉันตองเอาชนะใจเธอให้ได้ จากสีหน้าของเขาที่แสดงออกมา ก็ทำให้นารารู้สึกได้ถึงความหวังที่จะเอาชนะใจเธอ เธอหยุดหัวข้อสนทานี้พร้อมกับวางแก้วไวน์ไว้ที่ข้างๆ “ของที่ฉันอยากได้ เมื่อไหร่นายถึงจะให้ฉัน” มีแค่เขาสองคนเท่านั้นที่เข้าใจ “ดูๆแล้วเธออยากจะรีบลงมือจัดการกับพวกนาโนเบย์ใช่ไหม” นาราเหลือบมองเขาเบาๆ จากนั้นก็นอนราบลงไปพร้อมกับเอามือมามาหนุนรอง แต่น้ำเสียงนั้นกลับฟังดูเหมือนมีระยะห่าง“นายแค่ขอให้ฉันมาทะเลเป็นเพื่อน ไม่ได้ขอให้ฉันมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังสักหน่อย” เธอแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เธอไม่อยากจะบอกเขา ยิ่งเป็นแบบนี้ธีมนต์ก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ พร้อมกับซักถามต่อไปเรื่อยๆ “คุณนิรุทธ์คือพ่อของเธอ เธอกับเขามีความแค้นอะไรต่อกันกันแน่ ถึงได้ถึงขั้นต้องฆ่าแกงกัน ” นาราไม่คิดแม้แต่จะโกรธ “ธีมนต์ เมื่อกี้ที่ฉันพูดฉันยังไม่พอที่จะเข้าใจอีกหรอ” ธีมนต์ไม่มีคำจะพูด คำพูดของเธอที่แสดงออกอย่างชัดเจน มันเหมือนกับทำให้เขาเสียหน้าอย่างมาก “ฉันก็แค่เป็นห่วง” ธีมนต์แก้ตัวพร้อมกับสายตาที่ยังมีความอบอุ่นอยู่ในนั้น แต่นารากลับไม่รับ “ฉันไม่ต้องการความเป็นห่วงของนาย” จากที่ไม่เคยได้รับความใส่ใจแบบนี้มาก่อนอย่างเธอ มันทำให้เธอชอบที่จะอยู่โดดเดี่ยวแบบนี้ดีกว่า ทั้งสองคนคุยกันพอประมาณ ธีมนต์พ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อนารามองดูเวลาก็เห็นว่าพอประมาณแล้วจึงได้ลุกขึ้นยืน “ฉันเหนื่อยแล้ว กลับห้องไปพักผ่อนก่อนนะ” “ไม่รอฉันเหรอ”ธีมนต์ยิ้มอย่างมีเลศนัย นาราหันกลับมา นัยน์ตาสดสวย ริมฝีปากแดงที่สวยเป็นกระจับ “ต้องดูที่โชคชะตาแล้วล่ะ” ขณะที่เธอกำลังเดินจากไป ก็ได้เจอเข้ากับนรัตว์พอดี ทั้งสองสบสายตากันเหมือนมีความในจากนั้นจึงได้แยกย้ายกันไป นรัตว์เดินเข้ามาพร้อมกับนั่งลงข้างๆเขา ธีมนต์ก็ได้นำแก้วไวน์แก้ใหม่ขึ้นมาพร้อมกับรินไวน์ส่งไปให้เขา ทั้งสองดื่มไวน์อย่างไม่พูดไม่จา จากนั้นนรัตว์ก็พูดขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนั้นไม่ธรรมดา นายต้องระวังนะ” เมื่อกี้ที่เกิดเรื่องขึ้นกับมะนาวขนาดคนโง่เขลาก็ยังมองออกว่าต้องมีคนวางแผนไว้แน่ๆ และคนๆนั้นต้องเป็นนาราไม่ผิดแน่ นี่เป็นข้อสงสัยได้เลยว่าจะต้องเป็นเรื่องพิพาทกันระหว่างผู้หญิงแน่ เพราะผู้ชายไม่ลงมือทำอะไรแบบนั้นหรอก “ฉันรู้ว่าเธอไม่ธรรมดา”ลูกเล่นตื้นๆแบบนี้มันทำอะไรเขาไม่ได้หรอก “เธอลงมือได้อย่างเลือดเย็นมาก” นรัตว์เห็นนาราที่พบเสื้อผ้าของตัวเองที่ห้องมะนาวก็รู้เลยว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นมายังไง การเกิดเรื่องตอนดำน้ำของมะนาว แน่นอนว่าต้องเป็นนาราที่ลงมือ นี่ก็ถือเป็นการข่มขวัญของนาราอย่างหนึ่ง แต่การข่มขวัญครั้งนี้เกือบทำให้มีคนตาย “ขอบใจนะที่เตือน”เขาจิบไวน์เบาๆ สายตาที่นุ่มลึกยากที่จะคาดเดา “แต่ฉันแค่ชอบความท้าทาย” “ทำไมถึงชอบผู้หญิงแบบนั้น” “เธอเป็นดอกฝิ่นที่สวยงามทั้งอันตรายและน่าหลงใหล และดอกฝิ่นอย่างเธอนี้ เขาจะต้องเด็ดมันลงมาให้ได้” ธีมนต์วางแก้วไวน์ลงแล้วตบบ่านรัตว์เบาๆ “กลับแล้ว” นรัตว์ไม่เข้าใจ พร้อมกับดื่มไวน์ลงไปอย่างเงียบๆ เรื่องที่ควรเตือนเขาก็เตือนแล้ว ส่วนธีมนต์จะเลือกแบบไหนนั้น มันก็เป็นเรื่องของธีมนต์ไม่เกี่ยวกับเขา ธีมนต์ถือถุงกระดาษมาที่หน้าประตูห้องของนารา “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เคาะยังไม่ทันไร นาราก็เปิดประตูอกมา ธีมนต์มองก็รู้ว่าเธอ เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เพราะเส้นผมยังปียกอีกทั้งยังใส่เสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ น้าอกที่โหนกนูนกำลังทำให้เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “นี่เธอกำลังยั่วฉันเหรอ?” ร่างกายเธอเป็นสีแดงระเรื่อ สิ่งล่อใจของสาวงามที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมันทำให้เขาไม่สามารถที่จะต้านทานได้ นาราถอยไปก้าวหนึ่งเพื่อให้เขาเดินเข้ามาข้างใน เมื่อปิดประตูลง เธอก็ไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย แต่กลับสนใจสิ่งที่เขากำลังจะนำบางอย่างออกมาจากถุงนั้น คนอย่างธีมนต์ถ้าไม่ได้ลิ้มลองอะไรหวานๆก่อนละก็ ก็ไม่สามารถที่จะมอบถุงนี้ให้กับเธอไปได้ง่ายๆ เขาจงใจหลบเธอแล้วเดินไปนั่งบนเตียง “แม่จิ้งจอกน้อย ทำแค่นี้เองเหรอถึงจะสามามารถนำแผนงานของโครงการนี้ไปได้” ”เธอรู้ไหมว่าฉันต้องเหนื่อยแค่ไหนถึงจะสามารถนำของพวกนี้มาอยู่ในมือได้” นาราปะทะหน้ากับเขา พร้อมกับสบตากับเขาอย่างไม่กระพริบและโน้มตัวลงไปอย่างช้าๆ “นายขอให้ฉันออกมาเที่ยวทะเลด้วย ตอนนี้ฉันก็พานายมาแล้ว หวังว่านายคงไม่กลับคำนะ” “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ฉันก็แค่หลงเสน่ห์เธอเข้าอีกแล้ว” ธีมนต์ถูกดวงตาที่เงาเป็นประกายคู่นั้นของเธอดึงดูดเข้าอย่างจังทำให้เขาไม่ได้คิดที่จะระมัดระวังตัวอะไรเลย นาราต้องการให้เป็นแบบนี้แหล่ะ เธอโน้มตัวลงไปถือโอกาสที่เขาไม่ได้ระมัดระวังตัวรีบหยิบหนังสือแผนงานโครงการมาหลังจากนั้นก็รีบถอยกลับมานั่งบนโซฟาทันที ดวงตาเป็นประกายของเธอในขณะที่เปิดถุงนั้นออกมาดู พร้อมกับจ้องมันไว้อย่างไม่วางตา ธีมนต์ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดแต่อย่างใดแต่กลับเดินเข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับจ้องมองสีหน้าของเธอ “ครั้งแรกที่ฉันเห็นผู้หญิงตาเป็นประการเมื่อเห็นเพชรเลยนะเนี่ย” “นี่นายชมฉัน หรือว่ากำลังทำร้ายฉันกันแน่” นาราเหลือบตามามองเขาเพียงเสี้ยววินาที จากนั้นสายตาก็กลับไปจับจ้องหนังสือแผนงานทันที “แน่นอนว่าต้องชมเธอสิ ดังนั้นเธอจึงเป็นผู้หญิงที่พิเศษที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอมา” ธีมนต์บีบไหล่เธอเบาๆ “ดูทีเรื่องของบริษัทนาโนเบย์จะดึงดูดความสนใจของเธอได้อย่างมาก” พูดมาก เมื่อเธอต้องการที่จะแก้แค้นแน่นอนว่าจะต้องรู้เรื่องของศัตรูให้ดีที่สุดสิ แต่เธอกลับรู้ดีว่า ธีมนต์นั้นกำลังใช้คำพูดลวงความลับจากเธออยู่ “นายไม่ได้บอกว่าฉันดึงดูดนายได้มากหรอกเหรอ” เธอรีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาเพื่อเปลี่ยนความสนใจของเธอทั้งสองคน ธีมนต์ฉีกยิ้ม เขารู้ดีว่านาราต้องการที่จะเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา ในเมื่อเธอไม่อยากตอบคำถาม เขาก็จะไม่ถามต่อ เขายึดตามหัวข้อที่เธอพูด “ใช่เธอดึงดูดฉันมาก แต่ว่าทุกครั้งเธอก็แค่ทำให้ฉันอยากแล้วก็จากไป” เพียงเสี้ยววินาที อารมณ์ของเขาก็เริ่มพลุกพล่าน “น้องชายของนายรู้จักแค่อารมณ์แต่ไม่รู้จักแยกแยะคน ถ้ามันมากนักนายก็หาผู้หญิงมาปลดเปลื้องความทุกข์นี้สิ แต่ถ้าอยากให้หาได้ง่ายๆละก็ นายก็ใช้มือทั้งสองข้างของนายเข้ามาช่วยสิ” เมื่อเธอนำหนังสือแผนงานวางลง เธอก็ได้หันหลังให้เขาพร้อมกับถอดเสื้อคลุมอาบน้ำ จากนั้นเธอก็หยิบกระโปรงยาวเข้ามาสวมใส่ ช่วงที่เธอสวมใส่กระโปรงนั้น ร่างกายของเธอช่างเคลื่อนไหวได้อ่อนช้อยเหมือนปลาเสียจริงๆ ธีมนต์โดนแผ่นหลังของเธอดึงดูดเข้าอย่างจัง เขาใช้ร่ายกายที่กำยำของเขาเข้ามาเบียดร่างกายของเธอไว้แน่น “แม่จิ้งจอกน้อย อย่าบอกนะว่าต่อหน้าผู้ชายคนอื่นเธอก็ใจกล้าแบบนี้” นารายิ้มอย่างมีเลศนัย “ความใจกล้าก็ต้องฝึกฝนกันหน่อยถึงจะมีได้ ไม่ใช่เหรอ” เธอตอบคำถามได้อย่างคลุมเครือ ธีมนต์เองก็ไม่อยากถามอะไรต่อ มือใหญ่ๆของเขาได้เข้าไปในผ้าห่มนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาก้มลงเพื่ออยากที่จะประทับกับริมฝีปากแดงระเรื่อนั้นไว้ แต่ทว่านารากลับผลักเขาออกไปก่อน “คืนนี้เพื่อนของนายอยู่กันหมด ถ้านายจะมานอนกับฉันที่นี่เลย มันคงดูไม่ดี” ธีมนต์จับข้อมือของเธอไว้ นาราถือโอกาสใช้ความเร็วของร่างกายที่เธอมี กระโดดออกจากเขตควบคุมของเขา แล้วกลับมานั่งที่ปลายเตียง ธีมนต์กลับไม่โกรธเลยสักนิด กลับคิดว่าเกมนี้มันเริ่มสนุกแล้วสิ “ความสัมพันธ์ของพวกเรา ในสายตาของพวกเขามันไม่บริสุทธิ์ตั้งนานแล้ว เข้ามาเถอะ” นาราจะเข้าไปได้ยังไงล่ะ เมื่อธีมนต์เห็นว่าเธอไม่ขยับ เขาก็รีบเคลื่อนตัวไปที่ปลายเตียงทันที เมื่อระยะห่างระว่างเธอกับเขาอยู่ไม่ถึงวา เธอก็รีบวิ่งหนีอีกครั้ง ทั้งสองคนเล่นสงครามกันอยู่บนเตียง เสียงอืออือของค่ำคืนที่ดึกสงัดนี้มันทำให้คนอยากที่จะเข้าไปร่วมด้วยเสียจริงๆ ทัศสัยบังเอิญเดินผ่านมา เมื่อได้ยินเสียงนี้เข้าก็รู้สึกตกใจ แต่เขาที่เป็นคนมองโลกในแง่ดีนั้นกลับคิดว่าพวกเขาคงไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่เมื่อเสียงนั้นยิ่งฟังยิ่งดัง เขาเริ่มขมวดคิ้วพร้อมสายตาที่บ่งบอกถึงความอิจฉาริษยา นางฟ้าของผม ไม่น่าเลย โกรธโมโหหงุดหงิดแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้แค่เดินกลับไปที่ห้องของตนเองเท่านั้น เมื่อเขากลับมาถึงห้องก็รีบขึ้นไปบนตียง จากนั้นก็กอดผ้าห่มนั้นไว้แน่น พร้อมกับหลับตาและเริ่มจินตนาการว่าตัวเองกำลังกอดนางฟ้าและมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเธอ ความฝันของฤดูใบไม้ผลิ ดูสวยงามเป็นพิเศษในค่ำคืนนี้ 
已经是最新一章了
加载中