ตอนที่ 47 ในที่สุดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็กลายร่างเป็นคน
1/
ตอนที่ 47 ในที่สุดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็กลายร่างเป็นคน
เกมรักลวงใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 47 ในที่สุดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็กลายร่างเป็นคน
ตนที่ 47 ในที่สุดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็กลายร่างเป็นคน นารารีบลงลิฟต์ไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดิน เธอเห็นธีมนต์ที่ยืนพิงรถอยู่ไกลๆหน้าก็เปลี่ยนสีทันที เธอรีบเดินเข้าไปหาทั้งรองเท้าส้นสูง เห็นสภาพรถใหม่ของเธอที่ถูกเขาชนแล้วสายตาเธอก็แหลมคมราวกับใบมีด ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้เขาคงถูกเธอฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า! “คุณ-ธี-มนต์ มีความสุขบนความทุกข์คนอื่น สนุกมากไหม?” วินาทีนี้เธออยากฆ่าเขาให้ตายจริงๆ ธีมนต์ยกยิ้มอย่างชั่วร้าย “อารมณ์เสียมากเลยเหรอ? เป็นอย่างงั้นก็ถูกต้องแล้ว การกระทำของคุณบ่ายนี้ก็ทำให้ผมอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก!” “คุณพูดอะไรของคุณ? ช่วงบ่ายฉันไปเจอคุณด้วยเหรอ?” “คุณลองดูมือถือตัวเองสิว่าผมโทรหาคุณไปกี่สาย?” ธีมนต์เอ่ยเสียงเย็น เขาจึงต้องใช้วิธีการโหดๆแบบนี้เพื่อเรียกความสนใจของเธอ นาราหยิบมือถือมาดูก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับยี่สิบกว่าสาย เมื่อเอาทั้งสองเรื่องมารวมกันก็เอ่ยขึ้นอย่างโมโห “คุณชนรถฉันเพราะฉันไม่ได้รับสายคุณแค่นั่นเหรอ?” ชนรถเธอแล้วยังทำหน้าภาคภูมิใจ เรื่องแบบนี้คงมีแต่ธีมนต์เท่านั้นที่ทำได้ “ก็ใช่น่ะสิ ใครบอกให้คุณไม่รับสายผมล่ะ อย่าว่าแต่ชนรถคุณเลยถึงผมจะชนรถทั้งลานจอดรถนี้ผมก็มีปัญญาชดใช้!” คำพูดโอ้อวดของธีมนต์ทำให้พนักงานรักษาความปลอดภัยถึงกับอึ้ง แต่ผู้ชายคนนี้หน้าตาคุ้นๆ ยิ่งมองก็ยิ่งคุ้น เขา……เขาคือประธานกรรมการบริหารบริษัทเอส.ที. กรุ๊ปไม่ใช่หรือ? ถึงว่ากล้าโอ้อวดใหญ่โตแบบนี้ เขารวยจริงๆนั่นแหละ! “นี่เป็นรถที่ฉันเพิ่งซื้อใหม่ คุณมีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?” นาราโมโหแล้วเหมือนแมวขู่ฟ่อๆที่พร้อมจะพุ่งเข้ามาข่วนหน้าเขาได้ทุกเมื่อ “มีเงินจะทำอะไรก็ได้น่ะสิ รถนี่ราคาเท่าไหร่ผมซื้อคันใหม่ให้คุณเลยดีกว่า” เขายิ้มอย่างชั่วร้ายเดินเข้ามาหาเธอแล้วโอบไหล่เธอไว้ “ขอแค่คืนนี้คุณไปเยี่ยมแม่ผมที่บ้าน” นาราจ้องมองคนหยิ่งยโสอย่างเขา หลังจากใจเย็นลงเธอก็เห็นด้วยกับคำพูดของเขา ในสังคมนี้ถ้ามีเงินจะทำอะไรก็ได้ เขารวยนักใช่ไหม ได้! นารายื่นนิ้วชี้ออกไปหนึ่งนิ้ว “คุณชนรถฉันชดใช้ค่าเสียหายตามนั้นบวกกับค่าทำขวัญและค่าเสียเวลาของฉันทั้งหมดหนึ่งล้านหยวน!” “ไม่มีปัญหา เรากลับบ้านกันเถอะ!” ธีมนต์โอบไหล่เธอจากไปอย่างมีความสุข พอเดินไปถึงประตูรถเชิญนาราเข้าไปนั่งในรถเสร็จ เขาก็หมุนตัวเดินกลับไปหาพนักงานรักษาความปลอดภัยแล้วหยิบธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนออกมาปึกหนึ่งแล้วยื่นให้เขา “จัดการที่เหลือด้วย ส่วนเงินนี่ให้คุณ” นาราที่นั่งอยู่ในรถได้ยินดังนั้นจึงรีบบอกพนักงานรักษาความปลอดภัย “เรียกช่างซ่อมมาลากรถไปแล้วเขียนเบอร์โทรของฉันให้ไว้ก็พอ” พนักงานรักษาความปลอดภัยน้อมรับคำสั่งด้วยรอยยิ้ม เรื่องง่ายๆแค่นี้แต่ได้เงินถึงพันกว่าหยวน ช่างโชคดีจริงๆ รถไมบัคผู้ชนะขับรถออกจากอาคารใหญ่แล้วหลอมรวมกับขบวนรถบนท้องถนนอย่างรวดเร็ว นารายังมีความโมโหอยู่จึงตั้งใจพูดประชดออกมา “คนรวยก็คือคนรวย เอาเปรียบคนที่ด้อยกว่างานการก็ไม่ต้องทำ” ธีมนต์สวนกลับอย่างนิ่งๆ “ก็ใช่น่ะสิ คุณกล้ารับเงินคนรวยคุณยังโจมตีคนรวยอีกเหรอ?” “ฮึ!” นาราสบถออกมา “เงินนั่นฉันสมควรได้รับ รถคันนั้นฉันเพิ่งซื้อมายังไม่ถึงอาทิตย์เลยด้วยซ้ำก็โดนคุณชน จิตใจฉันโดนทำร้ายใช้เงินเท่าไหร่ก็ไม่สามารถชดใช้ได้” “ผมต้องให้คุณเพิ่มอีกหนึ่งล้านหรือเปล่า?” ธีมนต์อารมณ์ดีมากเขาไม่ใส่ใจกับเงินจำนวนนั้นเลยสักนิด “ไม่จำเป็น!” นาราไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้น “ช่างเป็นทนายความที่จิตใจดีเหลือเกิน ให้เงินก็ไม่เอาแต่ก็นั่นแหละ สามร้อยล้านครั้งก่อนบริษัทเทคโนโลยี่เซนซีคงให้ค่าทนายคุณไม่น้อยเลยสินะ! ” “นั่นพวกคุณสมควรโดนต่างหาก!” นาราหลีกเลี่ยงคำถามของเขา “มาคิดๆดูแล้ว คุณก็ถือว่าเป็นเศรษฐีย่อยๆเลยนะเนี่ย!” ธีมนต์ถือโอกาสช่วงที่รถติดไฟแดงหันไปมองเธอ แต่นาราหันออกไปมองนอกหน้าต่าง เขาจึงเห็นแค่ท้ายทอยของเธอเท่านั้น รอสักพักก็ไม่ได้รับการตอบรับจากเธอแต่ธีมนต์ก็ไม่หงุดหงิด ภายในห้องโดยสารของรถจึงกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง มีเสียงเพลงคลอเบาๆอยู่ในรถ ช่วงนี้เป็นช่วงเลิกงานรถจึงติดเป็นพิเศษ แสงสุดท้ายของวันตกกระทบลงบนกระจกสะท้อนเข้ามาภายในห้องโดยสาร ราวกับมีแสงสีทองอาบไล้ไปทั่วบริเวณ แสงที่สวยขนาดนี้ถ้าเป็นวันปกติที่มีเธอคนเดียวในห้องโดยสาร เธอคงรู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้มีคนสารเลวเพิ่มมาอีกคน ไม่สิคนลามกต่างหาก! เธอโมโหมากถึงแม้เธอจะได้เงินหนึ่งล้านแต่ก็ไม่สามารถดับความโมโหนี้ได้ ตัวรถค่อยๆห่างไกลจากความวุ่นวายในตัวเมืองออกไปเรื่อยๆและมุ่งเข้าสู่ชานเมือง วิวข้างทางจากความศิวิไลซ์ถูกแทนที่ด้วยต้นไม้และดอกไม้ เธอรู้ว่าตอนนี้เข้าสู่หมู่บ้านทะเลสาปหวานใจของเหล่าคนรวยแล้ว คุณหญิงเพ็ญรดีที่ตั้งตารอการกลับมาของพวกเขา เมื่อได้ยินเสียงทักทายของไฉไลจึงรีบเดินไปยังบริเวณโถงทางเดิน ธีมนต์ทำตามที่นัดหมายกันไว้ เขาสามารถพานารากลับมาด้วยกันได้ พอเห็นนาราคุณหญิงเพ็ญรดีก็รีบปั้นหน้านิ่ง “ในที่สุดจิ้งจอกก็กลายร่างเป็นคนแล้ว” เมื่อพบคุณหญิง นาราก็เผยรอยยิ้มออกมาแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ใช่แล้วค่ะ ช่วงนี้ต้องฝึกวรยุทธ์ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวล่อลวงลูกชายคุณหญิงไม่สำเร็จ” ธีมนต์เห็นพวกเธอเริ่มลับฝีปากกัน เขาจึงนั่งลงเงียบๆ “ฮึ ถึงลูกชายฉันจะหลงเธอแต่ถ้าไม่ผ่านด่านฉัน เธอก็ไม่สามารถเข้าบ้านจิวะพงษ์ได้” ไม่รู้ว่าทำไมคำพูดของคุณหญิงเพ็ญรดีถึงให้ความรู้สึกน้อยใจอยู่นิดๆ นาราหัวเราะอย่างขำขัน “ตอนนี้ฉันก็เข้ามายืนอยู่ในบ้านจิวะพงษ์แล้วไม่ใช่เหรอคะ?” “ยัย……” คุณหญิงถูกคำพูดของเธอดักทางจึงเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาเสียเลย “หลายวันมานี้เธอมัวไปทำอะไร ไม่มีความรับผิดชอบเอาเสียเลยพาฉันไปถึงโรงพยาบาลแล้วหายไปเลย!” นารากระพริบตาปริบๆ เธอรู้สึกขำไม่เกี่ยวข้องกันเสียหน่อยทำไมเธอต้องไปเยี่ยม? ถึงแม้ว่าตอนนั้นเธอจะเป็นคนพาไปส่งโรงพยาบาลแต่มันก็เป็นเพียงแค่การช่วยเหลือเมื่อเห็นผู้อื่นเดือนร้อน คุณหญิงคิดมากไปหรือเปล่า? คุณหญิงเพ็ญรดีเห็นเธอไม่พูดอะไรออกมาสักคำก็รู้สึกเสียหน้า “ฉันกำลังพูดกับเธออยู่นะ!” นาราจึงดึงสติกลับมา “คุณหญิงไม่ชอบฉันไม่ใช่เหรอคะ?” “ฉัน……แต่เธอต้องรับผิดชอบฉันไง!” คุณหญิงเพ็ญรดีพึมพำอย่างไม่พอใจ “เธอเป็นคนพาฉันไปส่งโรงพยาบาลนะ” ประโยคสุดท้ายนั้นแม้แต่เธอก็เอ่ยออกมาอย่างไม่มั่นใจ นาราจึงตอบกลับ “ฉันรับผิดชอบต่อคุณหญิงไงคะถึงไม่ไปเยี่ยม ฉันเกรงว่าถ้าคุณหญิงเห็นหน้าฉันแล้วอาการของคุณหญิงหนักขึ้นจะทำยังไงคะ?” “ไม่มีเหตุผล เธอไม่มาเยี่ยมฉันแล้วอาการฉันจะหายเร็วขึ้นหรือไง?” เหมือนว่าคุณหญิงเพ็ญรดีจะดูถูกเธอเกินไป คำพูดของเธอนั้นแม้แต่ข้ออ้างก็สามารถพูดได้อย่างน่าเชื่อถือ “ตอนนี้คุณหญิงก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วไงคะ” นารายิ้มจางๆ เธอต่อกรกับคุณหญิงเพ็ญรดีเธอไม่ต้องปวดหัวมากนัก “เธอ……เธอ” คุณหญิงเพ็ญรดีถูกเธอยั่วโมโหจนต้องหันไปมองหน้าลูกชาย ตอนแรกเธอจะขอความช่วยเหลือจากลูกชายแต่พี่ไฉไลก็เดินมาพอดี “คุณหญิงคะ วัตถุดิบที่คุณหญิงให้เตรียมเรียบร้อยแล้วนะคะ คุณหญิงจะเป็นคนทำเองหรือให้ดิฉันทำคะ?” “ฉันทำเอง” คุณหญิงหันกลับไปมองหน้านาราแล้วชี้ไปที่โต๊ะน้ำชา “ถ้าหิวก็กินผลไม้ไปก่อนนะ อีกไม่นานก็กินข้าวแล้ว” เธอไม่ได้สนใจว่านาราจะตอบหรือไม่ พูดจบเธอก็เดินเข้าห้องครัวไป ในห้องรับแขกจึงเหลือแค่สองคน ธีมนต์เป็นฝ่ายขยับเข้าไปหาเธอแล้วโอบเอวเล็กของเธอไว้ “คุณชอบยั่วโมโหแม่ผมอยู่เรื่อย ทำแบบนี้จะดีเหรอครับ? ” นาราเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว “คุณบอกเองว่าฉันคือยัยปีศาจ ยัยจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ฉันก็ต้องทำลายพวกคุณทั้งบ้านสิ ไม่อย่างงั้นจะสมฉายาที่พวกคุณตั้งให้ได้ยังไง!” ประโยคที่ว่าคนประเภทเดียวกันมักจะอยู่ด้วยกันสามารถใช้นิยามสองแม่ลูกนี้ได้เลย ทั้งสองแม่ลูกนี่เหมือนกันจริงๆแม้แต่ฉายาที่ตั้งให้เธอก็เหมือนกันทุกประการ
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 47 ในที่สุดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็กลายร่างเป็นคน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A