ตอนที่ 72 ทำไมขี้ขลาดแบบนี้ 2   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 72 ทำไมขี้ขลาดแบบนี้ 2
ต๭นที่ 72 ทำไมขี้ขลาดแบบนี้ 2 ปณิดาโมโหจนสีหน้าดำคล้ำ เธอยังคิดคำพูดตอกกลับเขาไม่ออก อนพัชรก็เรียกบุณวัทน์เข้ามาก่อนจะเอ่ยขึ้น “ส่งแขก!” เขามองใบหน้าดำคล้ำของปณิดาก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณจะเดินออกไปเองหรือว่าจะให้บรรดานักข่าวเป็นคนพาคุณออกไปล่ะ?” ปณิดาชี้หน้าอนพัชรด้วยนิ้วมืออันสั่นๆ “แก...ไอ้สารเลว” อนพัชรหยิบมือถือขึ้นมาอย่างใจเย็น “ผมมีเบอร์นักข่าวไม่น้อยเลยจะลองโทรดีไหมนะ…” ปณิดาไม่มีทางเลือก ก่อนจะจากไปก็เอ่ยกับอนพัชรด้วยความไม่พอใจ “อนพัชรแกคอยดูนะ ฉันจะฟ้องแก!” “ได้เลย รอช่วงที่คุณมีเวลาแล้วกันผมยินดีรอรับหมายฟ้อง” ** ณ บ้านตระกูลหันมณี ณัฐนิชที่เป็นคนวางแผนนี้รับสายด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้แกทำได้ดีมาก!” “เป็นเพราะได้รับคำแนะนำจากคุณหญิงต่างหาก!” “เงินส่วนที่เหลือฉันจะโอนให้บ่ายนี้ รอรับได้เลย!” ณัฐนิชเอนหลังพิงโซฟาด้วยความสบายใจ เธอเคยบอกแล้วว่าจัดการผู้หญิงอย่างปณิดานั้นไม่ยากเกินความสามารถเธอ “ขอบพระคุณคุณหญิงมาก!” ณัฐนิชมองหน้าลูกสาวที่เดินลงมาด้วยสีหน้าอมทุกข์ “ยัยจรรย์ แกเป็นอะไร?” “คุณแม่!” จรรย์ธรที่กำลังทุกข์ใจเมื่อได้ยินเสียงมารดาเรียกก็ตอบรับเสียงอ่อน “แกมานี่” ณัฐนิชกวักมือเรียกเธอเข้ามาหา เมื่อจรรย์ธรนั่งลงเธอจึงเอ่ยถามขึ้น “ตอนนี้ชื่อเสียงของนังปณิดาก็ป่นปี้หมดแล้ว แกไม่ดีใจเหรอ?” “หนูดีใจ!” จรรย์ธรฝืนยิ้มออกมา ณัฐนิชกุมมือของลูกสาวก่อนจะเผยรอยยิ้มชั่วร้ายพลางเอ่ยขึ้นเสียงเย็น “ฉันจะคอยดูว่าจะมีผู้ชายคนไหนกล้าคบกับนังปณิดาอีก นี่มันสะใจกว่าการฆ่านังนั่นให้ตายเป็นไหนๆ” การแก้แค้นไม่จำเป็นต้องเป็นการทำร้ายร่างกาย บางครั้งการทำร้ายจิตใจก็ดีกว่าเห็นๆ จะคอยดูว่ามันจะยังมีหน้าไปหาผู้ชายอีกไหม! และจะมีผู้ชายคนไหนถูกสวมเขาอีก จรรย์ธรนั่งฟังมารดาตัวเองบ่นแต่จิตใจกลับเหม่อลอยนัยน์ตาก็ฉายแววความสิ้นหวัง ธีมนต์ไม่สนใจเธอแล้วต่อให้ไม่มีปณิดาก็ไร้ประโยชน์! “ยัยจรรย์ จรรย์ธร...” ณัฐนิชเขย่าตัวเธอกระทั่งเธอรู้สึกตัว “จรรย์ธรแกเป็นอะไรทำไมใจลอยแบบนี้?” “แม่ หนู....” เธอก้มหน้าพลางอึกอักไม่รู้ว่าจะตอบแม่ตัวเองอย่างไร “มีอะไรก็พูดออกมาตรงๆ” ณัฐนิชขมวดคิ้วมองลูกสาวตัวเอง “แกกลายเป็นคนขี้ขลาดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” “แม่ จมูกหนูถูกคนหัวเราะเยาะมาตั้งนานแล้ว เมื่อไหร่จะได้ไปทำศัลยกรรมสักที?” เธอได้แต่โยนความอัดอั้นตันใจไปที่จมูกของเธอ แต่เรื่องจมูกก็เป็นเรื่องที่เธอกังวลอยู่จริงๆ ก็นึกว่ามีเรื่องอะไร? ณัฐนิชก็นึกว่ามีเรื่องอะไร “แกวางใจเถอะ ฉันติดต่อแพทย์ฝีมือดีไว้ให้แกแล้ว สองวันนี้ก็จะมาผ่าตัดศัลยกรรมให้แกแล้ว ถึงตอนนั้น...” ณัฐนิชลูบแก้มของเธอพลางนัยน์ตาก็ฉายแววเจ้าเล่ห์ “ใบหน้าของแกนี้ยังต้องกลัวธีมนต์ปฏิเสธอีกเหรอ?” พูดถึงธีมนต์เธอก็ยิ่งสิ้นหวัง ราวกับณัฐนิชเดาใจเธอออก “จรรย์ธร แกกลายเป็นคนขาดความมั่นใจตั้งแต่เมื่อไหร่?” กลัวมารดารู้เธอจึงกระแอมออกมาพลางฮึดสู้อีกครั้ง “เปล่าค่ะ หนูแค่รู้สึกเพลียๆ อ้อใช่ แล้วที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง?” “ไม่เป็นไร ไม่มีเอส.ที. กรุ๊ปเราก็หาบริษัทอื่น แกไม่ต้องสนใจเรื่องบริษัทปล่อยให้พ่อแกเป็นคนจัดการก็พอ เรื่องพวกนี้แกไม่ต้องเป็นห่วง” ณัฐนิชมองบนใส่เธอครั้งหนึ่ง “แกเอาเวลาคิดเรื่องพวกนี้ไปคิดหาผู้ชายดีๆสักคนดีกว่า” จรรย์ธรได้ยินดังนั้นก็เงียบไป แต่ทางด้านนิรุทธ์กลับไม่อยู่ที่บริษัท พอได้รับสายจากดนาเขาก็หาข้ออ้างออกไปทันที “ดนา ตอนนี้อาการดีขึ้นหรือยัง?” ดนาเงยหน้าอันซีดเซียวมองนิรุทธ์ก่อนจะเผยรอยยิ้มอ่อนโยน “แค่คุณมาหาฉัน ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ช่วงนี้ลูกถีบฉันบ่อยมากโดยเฉพาะช่วงเช้า!” คิ้วเรียวสวยนั่นขมวดเข้าหากันบวกกับดวงตาอันฉ่ำวาว นิรุทธ์มองหน้าเธอด้วยความรักใคร่ก่อนจะโอบหน้าท้องเธอด้วยความระมัดระวัง “เจ้าลูกชาย ทำไมถึงเล่นซนถีบคุณแม่แบบนี้ หืม?” ดนาเห็นท่าท่างของนิรุทธ์ที่ยิ้มจนตาปิด รอยยิ้มของเธอก็ค่อยๆหุบลง นัยน์ตาของเธอก็มีความกังวลเพิ่มเข้ามา “เห้อ!” เธอถอนหายใจยาวๆด้วยน้ำเสียงหนักใจ นิรุทธ์ก็ถูกดึงความสนใจกลับมา “ดนาเป็นอะไรหรือ?” เธอกอดแขนของนิรุทธ์ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ฉันกลัวเหลือเกิน!” สีหน้าของเธอราวกับได้รับบาดเจ็บ นิรุทธ์อดไม่ได้ที่จะกอดเธอไว้ในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีก “กลัวอะไร?” “เมื่อคืนฉันฝันว่าภรรยาคุณรู้เรื่องของเราแล้วและไล่ฉันกับลูกออกไป เธอประกาศว่าจะฆ่าลูกของฉัน ฉัน...” เธอเล่าไปขอบตาก็เริ่มแดง น้ำเสียงก็เริ่มสั่น “ฉันกลัวว่าถึงวันนั้นฉันจะต้องกลายเป็นคนไม่มีที่ซุกหัวนอน ฉันลำบากไม่เป็นไรแต่ฉันไม่อยากให้ลูกต้องลำบากด้วย” “สามีคะ ฉันกลัว!” คำว่าสามีที่เธอเรียกทำเอานิรุทธ์ใจอ่อนยวบ วิญญาณของเขาราวกับถูกเธอดูดออกจากร่าง เขาจึงรีบเอ่ยปลอบโยนเธอ “เด็กโง่เธอยังมีฉันไง? กลัวอะไรกัน?” “แต่คุณต้องดูแลบริษัทคงไม่สามารถคอยดูแลฉันกับลูกได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง! ตอนนี้แม้แต่ออกจากห้องฉันยังไม่กล้า ภรรยาคุณดุขนาดนั้น ถ้าเกิดว่า...ฮือๆ....” ดนาร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร เขามีเรื่องต้องคิดเพิ่มมาอีกเรื่อง เขาเช็ดน้ำตาให้เธอพลางเอ่ยขึ้น “แบบนี้ดีไหม ฉันจะซื้อบ้านที่เมืองเมฆาให้เธอ ฉันลองมาคิดดูแล้วถ้าเธอย้ายออกจากเมืองกีธูร์นจะปลอดภัยกว่า”
已经是最新一章了
加载中