ตอนที่ 85 นางฟ้ากลายเป็นของพวกคุณตั้งแต่เมื่อไหร่

ต๭นที่ 85 นางฟ้ากลายเป็นของพวกคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อเห็นนาราวางสายคุณหญิงเพ็ญรดีก็รีบเอ่ยขึ้นทันที “ลูกชายฉันให้เธอไปรับคดีเหรอ? ที่บริษัทมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” “วางใจเถอะค่ะ มีคนเจ้าเล่ห์เพทุบายอย่างลูกชายคุณป้าอยู่ที่บริษัทจะมีปัญหาอะไรได้” “เธอเอาความจริงมาพูดแบบนี้ได้ไงแต่ยังไงเขาก็ยังดูเป็นการเป็นงานอยู่นะ แล้วสรุปใครมีปัญหาอะไร?” คุณหญิงเพ็ญรดีถามต่อ “ทัศสัยเพื่อนของเขามีปัญหานิดหน่อยค่ะ” นาราตอบกลับพลางหยิบขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าปาก “งั้นก็สู้ๆนะนารา ค่อยๆแก้ปัญหาไปเดี๋ยวคืนนี้ฉันจะตุ๋นซุปสมองหมูให้กินเพื่อบำรุงสมอง” นาราคิดถึงรูปร่างของสมองหมูก็รีบปฏิเสธทันที “ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ!” “กินอะไรบำรุงอันนั้นไง เธอไม่เข้าใจหรอก” นารามองคุณหญิงเพ็ญรดีเก็บกวาดโต๊ะกินข้าวแล้วเดินเข้าห้องครัวไป เธอลองมานั่งวิเคราะห์คำพูดของคุณหญิงเมื่อสักครู่ กินอะไรบำรุงอันนั้นเหรอ? ทำไมยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามันแปลกๆนะ? เป็นไปตามที่ธีมนต์บอกไว้ ผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงทัศสัยก็มารับนาราไปที่บริษัทด้วยตัวเอง เมื่อเห็นทัศสัยคุณหญิงเพ็ญรดีก็กำชับเขาเป็นอย่างดี “ทัศสัยดูแลนาราของบ้านเราดีๆล่ะ” ทัศสัยตะลึงงัน “คุณป้าครับ นางฟ้ากลายเป็นคนของบ้านคุณป้าเร็วขนาดนี้เลยเหรอครับ?” เขาหันไปมองนาราที่นั่งอยู่บนโซฟาแวบหนึ่ง เป็นไปได้ไง แม้แต่คุณหญิงเพ็ญรดีก็โดนตกแล้วเหรอเนี่ย? นางฟ้าก็คือนางฟ้า! “จะช้าจะเร็วก็ต้องกลายเป็นของบ้านเราอยู่ดี อีกอย่าง ถ้าเธอกล้าให้นาราของฉันทำงานล่วงเวลาล่ะก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าป้าอีกต่อไป” คุณหญิงเพ็ญรดีหวงนาราเป็นอย่างมาก “รับทราบครับคุณป้า นางฟ้าย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วเหรอครับ?” เขาลองคิดดูก็รู้สึกแปลก เช้าขนาดนี้ไม่น่าจะมาทัน นอกเสียจากว่าอยู่ที่นี่อยู่แล้ว “ก็ใช่น่ะสิ นาราและลูกชายฉันกำลังปลูกต้นรักกันอยู่เพื่อจะมีหลานให้ฉันอุ้ม!” คุณหญิงเพ็ญรดีก็ตั้งแง่กับเขาอยู่หน่อย ๆเธอจึงตั้งใจพูดแบบนี้ “เหอะเหอะ!” คำตอบของคุณหญิงเพ็ญรดีทำเขาไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว คุณหญิงเพ็ญรดีเดินมาส่งทั้งสองคนบริเวณหน้าประตู ระหว่างทางก็ย้ำแล้วย้ำอีกบอกให้นารารีบกลับบ้าน อย่าหักโหมงานเกินไป ราวกับเป็นแม่แท้ๆของเธอ แม้แต่ทัศสัยก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ “คุณป้าครับ เกรงว่าแม้แต่ธีมนต์คุณป้าก็ไม่ได้ห่วงขนาดนี้มั้งครับ?” คุณหญิงเพ็ญรดีโบกไม้โบกมือ “เจ้านั่นชอบหาว่าฉันขี้บ่น ขับรถก็ระวังกันด้วยนะ! ” ขึ้นมาบนรถทัศสัยก็รีบเอาข้อมูลให้เธออ่านทำความเข้าใจก่อนคร่าวๆทันที “นางฟ้า คุณลองดูก่อนตรงไหนไม่เข้าใจก็ถามผมได้ เมื่อถึงบริษัทจะให้คุณประสานงานกับผู้รับผิดชอบโดยตรง” นาราพยักหน้ารับ เธอจึงเริ่มอ่านข้อมูลด้วยความตั้งใจ ข้อมูลที่เธออ่านเป็นข้อมูลพื้นฐานคดีเกี่ยวกับเรือยอชท์ เธอจึงตั้งชื่อคดีนี้ว่าคดีพิพาทเรือยอชท์ ตลอดการเดินทางนั้นด้านนาราทำตัวเงียบเชียบซึ่งต่างจากทัศสัยที่แอบมองนาราผ่านทางกระจกมองหลังอยู่บ่อยครั้ง เขาอยากชวนเธอคุยแต่เห็นเธอนั่งอ่านเอกสารตาไม่กระพริบก็ไม่กล้ารบกวน แสงแดดในยามเช้าส่องเข้ามาอาบไล้ร่างกายของเธอ ใบหน้าด้านข้างและคางเรียวแหลมนั่นบวกกับคิ้วเรียวสวยที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแสดงถึงความตั้งใจในการอ่าน นางฟ้าในลุคทำงานเท่ห์ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย! เขาไม่กล้ารบกวนแต่เมื่อมีโอกาสก็มักจะแอบมองเธอผ่านกระจกมองหลังเสมอ เขามักมองเธอด้วยสายตานับถือชื่นชม นางฟ้าก็คือนางฟ้าไม่ว่าทำอะไรก็ดูสวยงามไปหมด ผ่านไปประมาณสี่สิบนาที รถก็ขับเข้ามาถึงเขตเศรษฐกิจบริเวณใจกลางเมืองก่อนจะจอดลงบริเวณหน้าบริษัท ทัศสัยจึงกล้าเอ่ยปากเสียที “นางฟ้า ถึงแล้วครับ” นาราจึงเรียกสติกลับมาก่อนจะมองออกไปด้านนอก เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน! ทัศสัยทำตัวเป็นสุภาพบุรุษด้วยการเดินไปเปิดประตูด้านหลังให้นารา เรียวขาขาวก้าวออกมาก่อน ข้อเท้าได้รูป ปลีน่องเรียวสวย แค่ขาข้างเดียวก็สามารถเรียกความสนใจจากผู้ชายทั้งบริษัทได้ ในขณะเดียวกันก็มีพนักงานบางส่วนที่มองมาด้วยความสงสัย ผู้หญิงที่สามารถทำให้คุณชายมาเปิดประตูรถให้ได้เป็นใครกันนะ? กระทั่งนาราลงจากรถอย่างสง่างามด้วยชุดทำงานเข้ารูป ในมือถือเอกสารที่ทัศสัยนำมาให้ หน้าตาสวยงามไร้ที่ติ แววตาเคร่งขรึม ผู้ชายร้อยทั้งร้อยก็ต้องสยบ ทัศสัยเดินนำเธอเข้าไปด้านในบริษัท นาราจึงเดินตามเขาเข้ามาพร้อมกับการตกเป็นเป้าสายตา “เดี๋ยวผมจะพาคุณไปรู้จักกับแม่ผมก่อนแล้วค่อยไปห้องประชุม ที่ปรึกษาด้านกฎหมายและผู้รับผิดชอบของทางบริษัทรอคุณอยู่ที่ห้องประชุมแล้ว” “ค่ะ” งานก็ส่วนงาน นาราจะไม่มีทางเอาอารมณ์ส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน เห็นท่าทางตั้งใจของนาราทัศสัยก็ไม่กล้าทำตัวเล่นๆอีกต้องรักษาภาพลักษณ์เป็นการเป็นงาน ช่วงนี้บริษัทเนวิลล์กรุ๊ปมีคุณหญิงจันดาและทัศสัยเป็นผู้ดูแล ส่วนพ่อของทัศสัยไปเจรจาโครงการใหม่ที่ต่างประเทศ คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องวุ่นวายจะมาเกิดในช่วงนี้ “ก๊อก ก๊อก ก๊อก” “เข้ามา!” เสียงอ่อนโยนของผู้หญิงดังมาจากด้านใน ทัศสัยเดินนำนาราเข้าไปด้านใน คุณหญิงจันดาเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่สายตาจะจับจ้องอยู่ที่นารา ท่าทางที่ดูเป็นมืออาชีพ หน้าตาจริงจังโดยเฉพาะแววตาอันเฉียบคมนั่น แค่ดูก็รู้ว่าไม่ธรรมดา! ทัศสัยเอ่ยขึ้นกับมารดา “แม่ครับคนนี้คือทนายนาราที่ผมแนะนำ” “สวัสดีค่ะคุณหญิงจันดา!” นาราทักทายอย่างสุภาพ คุณหญิงจันดาเบนสายตาไปมองลูกชาย เธอคิดไปเองหรือ? ทำไมรู้สึกว่าแม้แต่ลูกชายเธอก็ดูเป็นการเป็นงานขึ้นมา “ทนายนารา ได้ข่าวว่าเธออยู่ที่นิวยอร์คนี่ เพิ่งกลับมาหรือ?” คุณหญิงจันดาหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเธอมาก่อนแล้ว “ใช่ค่ะ” นาราเชื่อว่าธีมนต์ก็คงไม่ได้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเธออย่างละเอียดมากนัก “คุณแม่ทนายนาราเก่งมากครับ คราวก่อนสามารถทำให้เอส.ที. กรุ๊ปต้องชดใช้สามร้อยกว่าล้าน” ทัศสัยบอกเล่าด้วยความภาคภูมิใจ