ตอนที่ 87 ก้างขวางคอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 87 ก้างขวางคอ
ต๭นที่ 87 ก้างขวางคอ ห้องทำงานที่ทัศสัยเตรียมไว้ให้เธอนั้นก็อยู่ในชั้นนี้ ห้องไม่ได้จัดว่าหรูหราแต่กลับดูเรียบง่ายโปร่งสบาย หน้าต่างสูงจรดเพดานทำให้แสงสว่างจากด้านนอกส่องเข้ามาได้ มีโต๊ะทำงานเข้าชุดกันตั้งอยู่กลางห้อง บริเวณด้านข้างมีมุมพักผ่อนเล็กๆ “นางฟ้า ผมรู้ว่าคุณเน้นประโยชน์ใช้สอย ถึงแม้ห้องนี้จะถูกจัดขึ้นอย่างเร่งด่วนแต่ก็ถือว่าดูดีใช่ไหม?” “ก็ดีค่ะ” นาราเดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานก่อนจะวางเอกสารในมือลง “คุณไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมถ้าฉันจะให้ผู้ช่วยมาอยู่ที่นี่ด้วย?” “ไม่มีปัญหาครับ ถ้าขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลยนะครับ” ทัศสัยดูเวลาก่อนจะเอ่ยขึ้น “แต่ก่อนที่คุณจะทำงานควรจะเติมพลังก่อนไหมครับ?” “อะไรนะคะ?” นาราที่กำลังจมอยู่กับงานก็ไม่ได้สนใจนัก ทัศสัยเคาะลงบนนาฬิกาข้อมือ “เที่ยงแล้ว ผมมีวาสนาพอที่จะร่วมทานข้าวกับนางฟ้าไหมครับ?” นาราครุ่นคิดสักพัก “ได้ค่ะ” “คุณอยากกินอะไรหรือว่าให้ผมเป็นคนเลือกเอง?” ทัศสัยดีใจมากสลัดท่าทางเป็นการเป็นงานเมื่อสักครู่ทิ้งไปทันที “ฉันอยากไปที่....”เธอยังพูดไม่ทันจบเสียงมือถือก็ดังขึ้นก่อน “ฮัลโหล!” นารารับสายขณะเดียวกันนั้นเองทัศสัยก็แอบมองรายชื่อคนที่โทรเข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นสายจากธีมนต์ก็ดีใจไม่ออกไปชั่วขณะ “ทำไมมีก้างขวางคอโผล่มาอีกแล้วเนี่ย!” ทัศสัยบ่นพึมพำในใจ “เป็นยังไงบ้าง?” “ฉันรับคดีต่อแล้วกำลังศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม” มุมปากนารายกยิ้มขึ้น เธอไม่เชื่อว่านี่คือจุดประสงค์ที่เขาโทรมาหาเธอ “ไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันไหม?” ว่าแล้วธีมนต์ก็เผยจุดประสงค์ที่โทรมาในประโยคถัดไปทันที นารามองหน้าทัศสัยแวบหนึ่งก่อนจะตอบรับคำชวน “ได้ค่ะ!” “ร้านอาหารชาร์ลส์นะ ผมจองโต๊ะไว้แล้ว” ราวกับว่าธีมนต์รู้อยู่แล้วว่าเธอต้องตอบตกลง “โอเคค่ะ” แววตาเธอแฝงไปด้วยรอยยิ้ม หลังจากวางสายนาราก็มองทัศสัยเงียบๆ แต่กลับเป็นทัศสัยที่คาดเดาเอาเอง “อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นก็ชวนคุณไปทานข้าว?” นาราไม่ได้ตอบคำถามของเขา รอยยิ้มจากแววตาเธอก็บอกความจริงทั้งหมดแล้ว ปีศาจในตัวเธอเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เธอเริ่มอยากเห็นแล้วว่าอาหารมื้อนี้จะมีเรื่องตื่นเต้นอะไรเกิดขึ้น! ร้านอาหารชาร์ลส์เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของย่านเศรษฐกิจ แสงอาทิตย์ยามเที่ยงส่องสว่างไปทั่วบริเวณบวกกับดอกไม้ที่จัดวางไว้อย่างสวยงามส่งเสริมให้ธีมนต์ที่นั่งอยู่ดูหล่อเหลาดึงดูดสายตามากกว่าเดิม ชุดสูทสีดำที่สวมอยู่ กระดุมแขนเสื้อคริสตัลที่สะท้อนกับแสงจนเป็นประกาย บนใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆประดับอยู่ เขาจ้องมองนาฬิกาที่หมุนผ่านไปรอบแล้วรอบเล่าเพื่อรอคอยการมาถึงของนารา บนโต๊ะมีดอกบอลลูนสีม่วงช่อใหญ่ส่งกลิ่นหอมจางๆวางอยู่ บริกรที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีก็เดินเข้ามาพร้อมกับไวน์ขวดหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ “คุณผู้ชายคะ ต้องการให้ดิฉันรินไวน์ให้ไหมคะ?” “ไม่ต้องครับ” น้ำเสียงทรงเสน่ห์ฟังดูอารมณ์ดีตอบกลับ สายตาก็มองเวลาที่เดินไปเรื่อยๆ ในที่สุดคนที่เขารอคอยก็ปรากฏตัวที่หน้าประตู ชุดทำงานพอดีตัว องค์ประกอบบนใบหน้าที่ลงตัวบวกกับสายตาที่ดูเย็นชาเหมือนเดิมขับให้เธอดูมีเสน่ห์น่าดึงดูด แต่เมื่อธีมนต์เห็นผู้ชายคนที่เดินมาพร้อมกับเธอคิ้วคมเข้มของเขาก็ขมวดเข้าหากันทันที เจ้านี่มาทำไม! ทั้งสองคนเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนทัศสัยที่เห็นสีหน้าของธีมนต์ก็หัวเราะชอบใจทันที เขาลากเก้าอี้ออกก่อนจะนั่งลงพลางหยิบดอกไม้ช่อนั้นขึ้นมา “ไอ้ธี แกนี่รู้ใจฉันจริงๆ รู้ได้ไงว่าฉันชอบดอกบอลลูน!” สีหน้าธีมนต์อึมครึมมากกว่าเดิม “อย่าคิดไปเอง” “อ้าวเหรอ?” ทัศสัยแกล้งทำท่าทางตกตะลึง “แกจะมอบให้นางฟ้าเหรอ?” ทัศสัยเบนสายตาไปมองนาราแวบหนึ่งก่อนจะจิ๊ปากด้วยท่าทางกวนๆ “นางฟ้าจะชอบดอกไม้แบบนี้ได้ยังไงกัน?” ธีมนต์ขบกรามแน่น “แกหุบปากไปเลย!” “ไอ้ธี ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าแกไม่มีรสนิยม จะให้ทั้งทีก็น่าจะเป็นดอกกุหลาบสิ!” “ดอกกุหลาบมันเชยเกินไป มีแต่แกนั่นแหละที่ชอบเอาไปแจกสาวๆพวกนั้น!” ธีมนต์แขวะเขา ดอกไม้ช่อนี้เขาตั้งใจสั่งจองจากร้านดอกไม้ไว้เมื่อเช้า “แกไม่เชื่อแกลองถามนางฟ้าดูว่าเธอชอบดอกอะไร?” ทัศสัยเข้าใจรสนิยมผู้หญิงดี ธีมนต์ถามนาราทางสายตา นาราหยิบไวน์มาเทก่อนจะเอ่ยขึ้น “ผิดทั้งคู่นั่นแหละ ฉันชอบดอกปักษาสวรรค์” 
已经是最新一章了
加载中