ตอนที่ 93 ใครจะนัดเดทกับคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 93 ใครจะนัดเดทกับคุณ
ต๭นที่ 93 ใครจะนัดเดทกับคุณ บรรยากาศของทะเลสาบหวานใจในยามราตรีมีแสงไฟตกกระทบทอประกายสว่างไสวดูสวยงาม แต่ฝนเจ้ากรรมดันตกหนักขึ้นมาฉับพลันจึงอาจเป็นไปได้ว่าแสงกระจ้อยร่อยเหล่านี้จะเลือนหายไป สายลมพัดพาฝนห่าใหญ่จากไป คืนวันในฤดูร้อนเรียกได้ว่าแปรปรวน ตอนกลางวันมีแสงแดดสดใส ส่วนตอนกลางคืนกลับมีฝนตกหนัก นารานั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องพัก จึงไม่ได้รับผลกระทบจากฝนที่กำลังตกหนักอยู่ข้างนอก ยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะขึ้นศาลและเธอไม่ต้องการเสียเวลาไปแม้แต่วินาทีเดียว เธอจดจ่ออยู่กับกองเอกสาร และหันไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์บ้างเป็นครั้งคราว "สาริทธิ์ Alisa อืม..." นารามองดูวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องบนโต๊ะก็พบเข้ากับภาพถ่ายที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการตกแต่งภายในของเรือยอร์ช จึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและบ่นพึมพำกับตัวเอง อึดใจต่อมา เธอก็หลับตาลงอย่างช้าๆ นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ เธอจมอยู่ในโลกส่วนตัวอย่างสมบูรณ์แบบ ครุ่นคิดเกี่ยวกับปริศนาที่เธอยังแก้ไม่ได้ สาริทธิ์ที่อยู่ในฐานะประธานกรรมการบริษัท ทำไมจึงตั้งชื่อให้เรือยอร์ชลำนี้เป็นชื่อผู้หญิง? เขารู้ว่าเขาแพ้กลิ่นลาเวนเดอร์ แต่เขาก็ยังเลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นลาเวนเดอร์ ทำไมกันนะ? "เปรี้ยง" เสียงฟ้าร้องดังขึ้นและแสงของสายฟ้าที่ดูราวกับแส้สีเงินก็ส่องกระทบลงบนแก้มของเธอจนดูเหมือนมีออร่าเปล่งประกายออกมาจากตัวเธอ เธอลืมตาโพลงและพิมพ์ชื่อสาริทธิ์ลงบนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว เพื่อดูชีวิตแต่งงานและรสนิยมส่วนตัวของเขาเพื่อตรวจสอบทั้งหมดอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แน่นอนว่าภรรยาคนปัจจุบันของเขาคือภรรยาคนที่สองของเขา เขาหย่าร้างกับอดีตภรรยาเมื่อ 15 ปีก่อนโดยมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อว่าศรา หลังจากการหย่าร้างอดีตภรรยาก็พาลูกสาวไปอยู่ที่ฝรั่งเศส เมื่อดูจากประวัติของศรา ในที่สุดเธอก็พบคำตอบที่เธอต้องการ มุมปากของเธอยกสูงขึ้นเล็กน้อยและความสุขในดวงตาก็แทบจะล้นขึ้นไปถึงคิ้ว ชื่อภาษาอังกฤษดั้งเดิมของศรา คือ "Alisa"! "เปรี้ยง ~" เป็นเสียงฟ้าร้องอีกครั้ง และสายฝนขนาดเท่าเมล็ดถั่วก็หล่นลงมากระทบหน้าต่างที่เป็นบานกระจกไม่หยุดหย่อนดุจกองทัพม้านับพัน ไม่รู้ว่าฟังยังไงถึงเหมือนกับการ "รับสารภาพ" ที่กำลังจะเกิดขึ้น และฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก็ดับแสงไฟในทะเลสาบหวานใจได้สำเร็จ ทำให้ทะเลสาบหวานใจทั้งผืนกระโจนเข้าสู่ความมืดมิด แล้วนาราที่กำลังอ่านประวัติของศราก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อหน้าจอดับไปแล้ว หลังจากเคาะแป้นพิมพ์และเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าแม้แต่แสงไฟในห้องก็ดับลงแล้วเช่นกัน ไฟดับงั้นหรือ? นาราเดินออกไปด้วยความงุนงงเพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็เดินชนกำแพง ส่วนคนทั้งหมดก็ล้มลงไปด้านข้าง แต่ ’กำแพง’ กลับพยายามดึงเธอออกมา ทำให้พวกเขาพากันล้มลงไปบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อมีเสียง "ตึง" ดังขึ้น คุณหญิงเพ็ญรดีที่เพิ่งถือไฟฉายมาที่หน้าประตูก็เดินเข้ามาด้วยความเป็นห่วง "หนูนาราเป็นอะไรรึเปล่า?" แสงจากไฟฉายส่องไปทั่ว ก่อนที่วงกลมใหญ่ของแสงนั่นจะตกลงมาบนเตียง และไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะส่องมาที่คนทั้งคู่ได้อย่างแม่นยำ ภาพของคนทั้งคู่ทำให้คุณหญิงเพ็ญรดีตกใจเพราะไม่คาดว่าเธอจะได้เห็นฉากนี้ ชายหญิงสองคนล้มทับกันอยู่บนเตียงในตำแหน่งที่ดูแล้วน่าอึดอัดและคลุมเครือ ฉากในฝันนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณหญิงเพ็ญรดีเห็น เธอยิ้มแก้เก้อก่อนจะเบนแสงจากไฟฉายออก แล้วหรี่ตาลง "พวกเธอทำต่อไปเถอะ ทำต่อไป ..." เธอเข้าใจสถานการณ์และเดินจากไปอย่างรวดเร็วอย่างมีความสุขราวกับมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในใจและยังไม่ลืมที่จะปิดประตูให้อีกด้วย เมื่อได้ยินเสียงปิดประตู ธีมนต์ก็เคลื่อนไหวอย่างอุกอาจ จรดปลายจมูกเข้ากับเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดลงบนใบหน้าของเธอและรอยยิ้มอันชั่วร้ายก็ลอยเข้าไปในรูม่านตาของเธอ "ไม่ได้ยินเหรอ แม่ของผมบอกว่าให้เราทำต่อไป!" ธีมนต์ทำในสิ่งที่เขาพูด เมื่อเขาก้มลงมาพรมจูบ นาราก็เบี่ยงหน้าหนี ไม่เพียงไม่ยินยอมให้เขาทำได้สำเร็จ แต่ยังคว้าจับคอเสื้อของเขาเอาไว้แน่นแล้วดิ้นหนีไปมา ธีมนต์รู้ทันเธอ จึงล็อกเธอไว้ด้วยขายาวๆของเขา แล้วใช้ลำตัวทาบทับลงมาบนร่างกายของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้เธอเคลื่อนไหว คนทั้งคู่ตีกันอยู่ตรง’ขอบเตียง’ท่ามกลางความมืด นาราใช้กำปั้นเล็กๆของตัวเองทำให้เขาหงุดหงิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ’ตุบ’ เสียงที่น่าตกใจดังขึ้น ก่อนที่ธีมนต์จะร้องครางด้วยความเจ็บปวด 
已经是最新一章了
加载中