ตอนที่ 102 ฉันไม่ได้หักอกคุณไปแล้วหรอกหรือ 2   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 102 ฉันไม่ได้หักอกคุณไปแล้วหรอกหรือ 2
ต๭นที่ 102 ฉันไม่ได้หักอกคุณไปแล้วหรอกหรือ 2 "ดนา ผมได้รับภาพวาดสีน้ำมันของคุณแล้วนะครับ" "ชอบมั้ยคะ?" ดนาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน "ชอบมาก ดีมากเลยล่ะ" นิรุทธ์ดีใจที่ได้ยินเสียงของเธอ ช่างอ่อนหวาน รู้ความ มากความสามารถ สาวน้อยเช่นนี้หาได้ยากนัก "จริงสิ คุณอยู่ที่นั่นเป็นยังไงบ้าง?" เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขาได้จัดการให้ดนาย้ายไปอยู่เมืองเมฆา แต่ไม่ได้เจอเธอหลายวันแล้ว "ปรับตัวได้แล้วค่ะ แต่ฉันคิดถึงคุณมากในตอนกลางคืน ฉันก็เลยวาดภาพสีน้ำมันของคุณ เวลาที่คุณไปทำงานที่ออฟฟิศจะได้เห็นมันทุกวัน!" เสียงของดนาฟังดูน่ารัก ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นของพวกเขารึเปล่า ที่ทำให้เขารู้สึกว่ายิ่งนับวันดนายิ่งรักเขามากขึ้น "โอเค ผมอยู่ในออฟฟิศแล้ว คุณอยู่ที่นั่นก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี แล้วก็โทรหาผมได้ตลอดเวลา" "เข้าใจแล้วค่ะ" นิรุทธ์คำนวณเวลา "ผมจะไปหาคุณสัปดาห์หน้า รอผมนะ" "ค่ะ" โทรศัพท์ถูกวางสายไปแล้ว ยิ่งนิรุทธ์มองภาพวาดสีน้ำมันนั้นมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งชอบมันมากขึ้นเท่านั้น สิ่งสำคัญก็คือมันทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูดี สิ่งที่เขาชอบในตัวสาวน้อยคนนี้ก็คือความอ่อนโยนและมีน้ำใจและไม่ดัดจริต ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษ แต่กลับมีผู้มาเยือนที่ไม่คาดคิดมาถึง ณัฐนิชไม่ได้เคาะประตูแต่เปิดเข้ามาตรงๆ นิรุทธ์ผู้ซึ่งกำลังมีความหลงใหลอยู่ในสายตา ไม่ได้ตระหนักเลยว่ามีคนเข้ามา ยังคงเผชิญหน้าอยู่กับภาพวาด ส่วนณัฐนิชผู้มีความรู้สึกไวกว่าคนทั่วไป เธอเดินไปจ้องดูภาพวาดสีน้ำมันที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนนี้ ถามว่า "ภาพนี้ใครส่งมา?" เมื่อนิรุทธ์ได้ยินเสียงเธอก็พบว่าเธออยู่ที่นี่แล้ว สายตาของเขามีความตื่นตระหนกพาดผ่านและสักพักก็สงบลง "เพื่อนเก่าส่งมาให้" "เพื่อนเก่าเหรอ?" ณัฐนิชจับคำสำคัญแล้วรู้สึกว่าไม่ถูกต้องจึงถามต่อไปว่า "เพื่อนเก่าคนไหน?" นิรุทธ์ตอบเบาๆ "คุณไม่รู้จักหรอกน่า" เขาอยากจะเอาภาพวาดนี้ออกเสียแล้ว เพราะเกรงว่าปีศาจเฒ่าตัวนี้จะถามไม่เลิก "คุณมีเพื่อนเก่าคนไหนที่ฉันไม่รู้จักบ้าง เว้นแต่จะเป็นเพื่อนเก่าของคุณตอนที่อยู่บ้านนอก แต่คนบ้านนอกพวกนั้นแต่ละคนช่างไร้อารยธรรมแล้วจะวาดภาพสีน้ำมันได้เหรอ?" เธอคว้าภาพวาดออกมาและพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียด เพราะมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าเขากำลังซ่อนอะไรบางอย่าง "เอาคืนมา!" นิรุทธ์ก้าวเข้าไปหาเพื่อคว้ามัน เมื่อเห็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ณัฐนิชสงสัยมากขึ้น เมื่อพลิกดูด้านหลังของภาพ ก็เห็นชื่อวีรา เธอจึงถามถึงเจ้าของชื่อว่า "ชื่อวีรานี่คือใคร?" "เป็นเพื่อนเก่าของคุณคนนั้นที่ชื่อวีราใช่มั้ย?" "โธ่ คุณก็พูดไปเรื่อย!" เมื่อถูกถามอย่างต่อเนื่อง นิรุทธ์ก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงแล้ว "ผมไม่รู้หรอกนี่เป็นชื่อของใคร เป็นคนอื่นที่ส่งภาพนี้มา แล้วผมจะไปรู้เหรอว่าใครเป็นคนวาด" แน่นอนว่าเขารู้ ว่าชื่อวีรานี้เป็นใคร เพราะนี่เป็นชื่อที่ใช้ในการแสดงของดนา แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงในแวดวงอุตสาหกรรม ดังนั้นณัฐนิชไม่มีทางหาเธอเจอ เขานำภาพวาดกลับมาด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย "แค่ภาพวาดภาพเดียว คุณจะตื่นเต้นอะไรนักหนา" ณัฐนิชโมโหจึงแย่งภาพกลับมาและโยนมันลงพื้นอย่างแรงก่อนจะเหยียบมันเต็มแรง "คุณบอกว่าไม่รู้ แต่ดูจากท่าทีสำนึกผิดของคุณแล้ว ภาพนี้คนวาดจะต้องเป็นผู้หญิงใช่มั้ย ชื่อวีรานั่นเป็นของผู้หญิงคนนี้ใช่มั้ย?" นิรุทธ์มองดูความพยายามของดนาถูกทำลาย จึงถอนหายใจอย่างเจ็บปวด "ณัฐนิช คุณเป็นคนปกติอยู่มั้ย?" "ทำไม ฉันผิดปกติตรงไหน?" เธอจิ้มหน้าอกของเขา "คุณต้องมีผู้หญิงอื่นแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคุณจะสนใจภาพวาดนี่มากขนาดนี้เหรอ?" การเหยียบลงบนภาพวาดจนสกปรกนั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้ความโกรธของเธอสงบลง เธอจึงหยิบมันขึ้นมาแล้วฉีกมันออกเป็นชิ้น ๆ "นังปีศาจจิ้งจอกวาดภาพวาดให้คุณสินะ ยิ่งคุณได้มันมามากเท่าไหร่ ฉันก็จะทำลายมันมากเท่านั้น คุณนิรุทธ์ ทางที่ดีคุณควรจะภาวนาว่าอย่าให้ฉันรู้ว่านังผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ไม่อย่างนั้น ฉันฆ่ามันแน่" ณัฐนิชยังโกรธไม่หาย เธอพูดได้ เธอก็ทำได้ "ผมไม่ได้มีผู้หญิงอื่น คุณอย่ามาพูดจาสงสัยไร้สาระ" สีหน้าของนิรุทธ์เต็มไปด้วยความหนักใจ แต่จะกัดเขาให้ตายเขาก็ไม่ยอมปริปากยอมรับ "ฉันสงสัยไร้สาระ? ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว แต่สามีไปมีผู้หญิงอื่นลับหลังจะเป็นยังไง ตอนนี้คุณใช้ประโยชน์จากฉันเสร็จแล้วก็คิดจะเตะฉันออกไปงั้นเหรอ?" ณัฐนิชคว้าคอเสื้อของเขาและพูดอย่างโหดเหี้ยม "ผลที่ตามมาจากการทิ้งฉันคืออะไร? คุณเคยคิดบ้างไหม?" "ผมก็บอกแล้วไงว่าไม่มีผู้หญิงอื่น ที่นี่คือที่ทำงานนะ ไม่ใช่ที่ที่จะมาทะเลาะกัน!" นิรุทธ์ผลักเธอออกและมองดูเศษเล็กเศษน้อยนั่น แล้วหัวใจของเขาก็ไร้รสชาติ "เฮอะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน คุณจะก้าวหน้าและประสบความสำเร็จได้ไหม ป่านนี้คุณคงยังใช้ชีวิตอย่างอัตคัดอยู่กับภรรยาเก่าของคุณ ทุกวันนี้ที่คุณมั่งคั่งร่ำรวยได้ก็เป็นเพราะฉันให้คุณ!" การทะเลาะกันระหว่างคนทั้งสองทำให้พนักงานที่อยู่ข้างนอกตกใจ ถึงแม้ว่าออฟฟิศจะเก็บเสียง แต่พวกเขาก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากข้างใน ทุกคนได้แต่มองสบตากันไปมา แต่ด้วยความที่กลัวว่าคนข้างในจะออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ไม่มีใครกล้าจับกลุ่มนินทา แต่ภรรยาของท่านประธานของพวกเขาก็เป็นเหมือนเสือตัวเมียที่มักจะคำรามเสียงดัง ซึ่งก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่อะไร เสียงที่ดังในตอนท้ายสุดคือเสียงณัฐนิชที่กวาดเอาแฟ้มเอกสารหล่นกระจายไปทั่วทั้งออฟฟิศเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนจะชี้ไปที่นิรุทธ์ที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความโกรธ เตือนว่า "ฉันจะย้ำประโยคนี้อีกครั้งนะ อย่าให้ฉันเจอว่าคุณมีผู้หญิงอื่น ไม่อย่างนั้น....." เสียงประตูปิดกระแทกดัง "ปัง" แล้วสำนักงานก็เงียบลง นิรุทธ์มองดูสถานการณ์ที่น่าหดหู่ในออฟฟิศแล้วในใจเขาก็ทั้งเศร้าและโกรธ เขาไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ จึงได้แต่ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ คำพูดของณัฐนิชทำให้เขานึกถึงคุณงามความดีของอานนท์ เขาย้อนนึกถึงทุกรอยยิ้มทุกความบึ้งตึงของเธอเมื่อยี่สิบปีก่อน เธอทั้งอ่อนหวาน จิตใจดีและอ่อนโยน พวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แต่เธอเกลียดเขาที่มีความโลภในหัวใจ อานนท์เป็นคนดีอย่างที่ณัฐนิชไม่อาจเทียบได้ ถ้าไม่ใช่เพื่ออนาคตของเขา ... เขาหลับตาและถอนหายใจอย่างหดหู่ เขาสำนึกเสียใจต่อพวกเธอแม่ลูก หากไม่ใช่เพื่อตัวเอง นาราก็คงจะไม่ถูกเนรเทศไปจนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาและลุกขึ้นนั่ง หันมองปฏิทินที่อยู่บนพื้นที่เละเทะ เพื่อที่จะพบว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของอานนท์ 
已经是最新一章了
加载中