ตอนที่40 โดนวางแผนอีกแล้ว   1/    
已经是第一章了
ตอนที่40 โดนวางแผนอีกแล้ว
ต๭นที่40 โดนวางแผนอีกแล้ว เมื่อมองเห็นผู้ชายที่เหมือนปีศาจร่างสูง นีราถึงรู้ว่าเธอโดนวางแผนแล้ว เป็นอย่างที่คิด ชาลินีจงใจเลิกคิ้วให้เธอ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสุขของความสำเร็จหลังจากการวางแผน และความเกลียดชังที่เข้ากระดูกของเธอ “พวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่?” โตษณมองนีราอย่างไม่พอใจ เมื่อสักครู่ในห้องทำงาน เขารู้สึกผิดต่อนีราบ้าง รู้สึกคำพูดเมื่อสักครู่อาจทำให้เธอไม่มีความสุข แต่ว่าตอนนี้รู้สึกผิดที่มีอยู่ได้หายไปแล้ว “โต……”คำพูดของนีราติดอยู่ที่ลำคอ เธอรู้จากสายตาของเขาว่าเขาเข้าใจเธอผิด แต่เมื่อมองเห็นสายตาที่เย็นชาของเขาเธอกลืนคำพูดที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง ในเมื่อเขาไม่เชื่อเธอ ทำไมเธอจะต้องอธิบายให้มากความอีก? “ประธานโตษณ!” ชาลินีชายตามองนีราแล้วรีบวิ่งไปด้านหน้าของโตษณอธิบายเสียงต่ำ “ประธานโตษณ ไม่มีอะไรค่ะ ฉันกับนีรา……” “ชาลินี!” นีราตะโกนแทรกเสียงดัง “ชาลินี คุณพูด”เห็นได้ชัดว่าโตษณยืนอยู่ข้างชาลินี สองมือของนีรากุมเข้าหากันแน่น แน่นอนว่าชาลินีต้องพูดบิดเบือนข้อเท็จจริง “ประธานโตษณ เมื่อสักครู่นีรากำลังพูดกับฉันถึงสถานการณ์ในแผนกเอกสาร” ชาลินีพูดอย่างเยือกเย็น “ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเรื่องงาน และไม่มีเรื่องอะไรที่ท่านควรจะต้องรู้ค่ะ” เธอยืนอยู่ด้านหน้าโตษณ คางยังคงยกขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากเม้มแน่น แววตาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ นีรามองชาลินีอย่างไม่เข้าใจ ชั่วพริบตาเดียวเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ชาลินีในตอนนี้ เหมือนกับคนที่ยืนอยู่ในตำแหน่งที่เป็นกลาง ไม่เหมือนผู้ช่วยที่มีความรู้สึกส่วนตัวมาพัวพัน “ฉันได้ยินทุกอย่าง”โตษณโบกมือให้ชาลินีถอยไปข้างหลังเขา “ชาลินี คุณไม่ต้องปกป้องเธอ” ลูกตาดำของนีราหดเล็กลงทันที คาดไม่ถึงว่าเขาจะปกป้องชาลินีและยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ ชาลินีถอยไปถึงด้านหลังโตษณอย่างช้าๆ เธอยิ้มให้นีราอย่างผู้ชัยชนะ ดวงตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ นีราเข้าใจทันทีว่าทำไมเธอถึงโกหก เธอคุ้นเคยกับบุคลิกของโตษณมานาน เมื่อสักครู่ยิ่งเธอแสดงออกว่าอยู่ตรงกลางโตษณยิ่งเห็นใจเธอ นอกจากนี้ ชาลินีเดาว่าโตษณคงจะได้ยินการสนทนาของพวกเธอแน่ๆ “ไม่มีธุระแล้วฉันขอตัว” นีราเพียงหนึ่งนาทีก็ไม่อยากอยู่บนชั้นสามสิบเอ็ดอีกจึงรอคอยที่จะได้ลงไปสักที “นีรา!” โตษณมองด้านหลังเธอแล้วพูดโดยไม่มีความรู้สึก “คุณยายจะชอบคุณก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เธออยู่ที่ตระกูลภูลพิพัฒน์จะสามารถ……” “ฉันเข้าใจแล้ว” นีราหันกลับมาอย่างเย็นชาและเดินจากไปจากสายตาของเขา โตษณหรี่ตา เธอทำกับเขาคล้ายกับไม่ได้รักใคร่เขาเหมือนแต่ก่อน แต่ว่า เขาทำกับเธอ ดูเหมือนว่าจะมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน “ประธานโตษณ……” “ประโยคที่นีราพูดก็ดีนะ” โตษณหันกลับมามองชาลินีพูดเบาๆด้วยใบหน้าที่งดงาม “การอยู่ในฐานะที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญมาก” “ฉัน ……”ชาลินีหน้าซีดทันที มองไปที่ประตูล็อคแน่นหนา หัวใจเธอเต้นแรงด้วยความเจ็บปวด ตั้งแต่เมื่อแรกเจอโตษณ ชาลินีกำหนดชัดเจนว่าเขาเป็นคนเดียวที่เธอต้องการที่จะแต่งงานด้วย เนื่องจากกลัวเขาจะต่อต้าน เธอจึงคอยระมัดระวังซ่อนหัวใจเธอเอาไว้ แต่ว่าตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว “นีรา เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?” โมลีลุกลี้ลุกลนมาต้อนรับเธอ “เป็นยังไงบ้าง ประธานโตษณทำไมดีกับเธอหรือเปล่า?” นีราส่ายหัว “นีรา จริงๆแล้วเธอกับประธานโตษณมีความสัมพันธ์อะไรกันหรอ?” โมลีอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย “เรื่องนั้น……” เธอนึกถึงคำที่โตษณเตือนเธอที่zero club ทันที โมลีปิดปากทันทีและส่ายหน้า :“ไม่ใช่ คราวที่แล้วไม่ใช่ได้ยินว่าประธานโตษณยินดีไปอบรมแทนเธอหรอ?” “ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้น” นีรากระตุกมุมปาก “ฉันลงไปก่อนนะ ยังมีงานที่ยังทำไมเสร็จ” โมลีส่ายหัวถอนหายใจ :“ยิ้มน่าเกลียดกว่าร้องไห้ คงจะดีกว่าถ้าไม่ยิ้ม” นีราพึงเข้าไปในลิฟท์ ก็ได้รับข้อความจากโตษณ ตอบรับเงื่อนไขของเธอ “เฮ้ พวกเธอดูกระดานสนทนาของบริษัทพวกเราหรือยัง?” “ดูแล้ว ตอนนี้ติดอยู่ด้านบนละ ทุกคนกำลังถกกัน” “หรือว่านีราคนนี้มีเบื้องหลังไม่ธรรมดา ?ได้ยินมาว่าประธานโตษณกับเธอคล้ายกับว่ามีความสัมพันธ์บางอย่าง คุณทยุติเมื่อกลางวันก็ออกรับหน้าแทนเธอ ไม่ธรรมดาเลย” “ไม่หรอกมั้ง ว่าแต่คุณทยุติคนนั้น เทียบได้กับประธานโตษณของพวกเราเลย แถมยังหล่ออีกด้วย” ช่วงเวลาเลิกงาน ลิฟท์ทุกตัว บันไดทุกชั้นต่างถกกันเรื่องตอนกลางวันที่เกิดขึ้นในร้านอาหาร หน้าลิฟท์ชั้นสามสิบเอ็ดก็มีผู้หญิงถกกันเสียงเบา โมลีเงี่ยหูฟังว่าทุกคนถกเรื่องอะไรกัน เธอต้องการฟังว่ามีคนพูดเรื่องการทะเลาะของนีราหรือไม่ “เลิกงานแล้วก็รีบกลับไป” เวทัยขากเสลดอย่างไม่พอใจ เป็นอย่างที่คิดไว้ที่ไหนมีผู้หญิงที่นั้นต้องมีเรื่องมีการนินทา “ประธานโตษณ คุณเวทัย” “ประธานโตษณ คุณเวทัย” ทุกคนรีบหลีกทางให้กับเขาสองคน ถึงแม้ว่าโตษณและเวทัยจะใช้ลิฟต์พิเศษ แต่คนชั้นสามสิบเอ็ดก็รู้ตัวว่าต้องหลีกออกมาไกลสักหน่อย โมลีอยู่ด้านข้างคอยสังเกตการณ์โตษณ เธออยากรู้ว่าเมื่อเขาได้ยินข่าวลือเหล่านั้นแล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไร แล้วก็ทำเธอผิดหวัง สีหน้าของโตษณเต็มไปด้วยความเย็นชา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสักนิด เหมือนกับคำพูดเหล่านี้เข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาของเขา “โมลี เธอจ้องประธานโตษณมาได้สักพักแล้ว” ในที่สุดเวทัยก็อดไม่ได้เดินไปด้านหน้าโมลี เขาลูบคางพูดเสียงเบา “เธอมองโจ่งแจ้งขนาดนี้ ดูไม่ค่อยงามเลยนะ” “ฉัน……” โมลีหน้าแดงทันที เธอไม่ได้มองใบหน้าของเขา เธอกำลังคอยสังเกตการณ์เขาต่างหาก! แต่ว่า เธอกลับไม่สามารถพูดออกมาได้ ดังนั้นจำใจต้องให้ทุกคนเข้าใจผิด “ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ” โมลีทำใจดีสู้เสือถอยหลังมาบ้างเล็กน้อย ในขณะที่ลิฟท์มาถึง ก่อนเข้าลิฟท์ โตษณหันกลับไปมองโมลี สายตานั้น ทำให้โมลีกลัวตัวสั่น ทันใดนั้นเธอละทิ้งความคิดเดิมที่คืนนี้จะชวนนีราออกไปเที่ยวที่บาร์ “คุณผู้ชาย ท่านกลับมาแล้ว” ป้าเหมียวรับกระเป๋าทำงานจากมือของโตษณกล่าวด้วยความเอ็นดู “ท่านนั่งรอในห้องนั่งเล่นสักครู่ อาหารใกล้เสร็จแล้วค่ะ” “อืม” โตษณมองไปรอบๆห้องนั่งเล่นโดยไม่รู้ตัว เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ชั้นสอง “คุณผู้ชาย ท่านดื่มน้ำสักแก้วค่ะ” มะลิส่งแก้วน้ำอุ่นให้อย่างอ่อนโยน “คุณหนูล่ะ?” โตษณแกล้งถามเหมือนไม่สนใจ “เมื่อสักครู่คุณหนูโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าคืนนี้ไม่กลับมากินข้าว เธอพูดว่าคืนนี้อาจจะกลับช้าหน่อย ไม่ต้องให้พวกเรารอเธอ” “พูดไหมว่าอยู่กับใคร?”แต่ไหนแต่ไรเขาไม่ได้รู้จักเพื่อนของเธอ มะลิส่ายหัว:“ แค่พูดว่าไม่กลับมากินข้าว มีธุระข้างนอกนิดหน่อย” “ฉันเข้าใจล่ะ ลงไปได้” โตษณโบกมือบอกให้เธอลงไป เขารู้ว่าความสัมพันธ์ทางสังคมของนีรานั้นเรียบง่าย อยู่ที่เมือง S ไม่มีเพื่อนสนิท ดังนั้น คนเดียวที่เธอไปมาหาสู่ก็มีแค่โมลีหญิงสาวคนนั้น เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ โตษณกดโทรศัพท์ต่อสายออกทันที :“เวทัย ช่วยฉันหากระดาษสนทนาของบริษัทของวันนี้หน่อยสิ……” 
已经是最新一章了
加载中