ตอนที่ 46 ถูกบังคับอย่างช่วยไม่ได้
1/
ตอนที่ 46 ถูกบังคับอย่างช่วยไม่ได้
เมียน้อยหรอ?ฉันเมียหลวงต่างหาก
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 46 ถูกบังคับอย่างช่วยไม่ได้
ตนที่ 46 ถูกบังคับอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาทำหน้าที่เป็นนักแสดงในวงการบันเทิง เมื่อถ่ายเสร็จ มันก็ยากที่จะรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ได้ ในอุตสาหกรรมการบันเทิง การจะมีเพื่อนในกองถ่ายเดียวกันมันไม่ง่ายเลย สถานที่กินข้าวคือที่เกสรได้กำหนดไว้ ถึงจะไม่ได้แพงเท่าของตมนา แต่ร้านที่เลือกก็เป็นร้านอาหารขนาดเล็กระดับกลางๆ ที่มีชื่อเสียง ถึงร้านอาหารแล้ว พนักงานก็นำเมนูมาให้ “ร้านนี้อร่อยนะ ลองกินดู” “พี่กินอะไรผมก็กินอันนั้น” เมื่อเห็นเขาไม่สั่งอาหาร เกสรก็ยิ่งอย่างช่วยไม่ได้ “ได้ งั้นฉันสั่งนะ มีหลายอย่างที่ห้ามพลาด อร่อยมาก” หลังจากพนักงงานเสริฟอาหารเสร็จ อาหารเผ็ดร้อนตามสไตล์เฉสวนก็ตั้งบนโต๊ะ ตมนาจึงถาม “พี่เกสร พี่ชอบกินเผ็ดเหรอ?” “ใช่แล้ว ฉันกินเผ็ดตั้งแต่เด็ก ทำไมเหรอ? นายกินไม่ได้?” “ไม่ๆ ผมก็ชอบ” ตมนาหยิบตะเกียบคีบอาหารเข้าปาก สีหน้าไม่เปลี่ยนสี “อร่อย” “งั้นก็กินเยอะๆ นะ ปลาราดพริกอันนี้ขึ้นชื่อมาก” “ครับ” ตมนาคีบปลาเข้าปาก ก่อนจะกลืนลงไป เกสรที่เห็นสีหน้าไม่ดีของเขา ก็รู้สึกผิดปกติทันที “ตมนา นายกินไม่เคี้ยวเลยเหรอ?” “ฮะ? ผมเคี้ยวแล้ว” “นายไม่เป็นไรใช่มั้ย” “ไม่เป็นไร” “ไม่เผ็ดอะไร เหงื่อแตกหมดแล้ว” เกสรตื่นตระหนก “นายกินเผ็ดไม่ได้ใช่มั้ย?” “ผมกินได้” มือของตมนาสั่น มือหยิบแก้วน้ำผลไม้ดื่มอึกใหญ่ “เฮ้ ตมนา ตมนา โอเคใช่มั้ยเนี่ย?” “...” ครึ่งชั่วโมงต่อมา แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาล ที่ทางเข้า พ่อบ้านของตมนาเปิดประตูเข้ามา “คุณเกสร ขอบคุณที่พานายน้อยมาส่งโรงพยาบาลนะครับ รบกวนคุณแล้ว” “ฉันขอโทษสิถึงจะถูก” สีหน้าของเกสรรู้สึกผิด “ฉันไม่รู้ว่าเขากินเผ็ดไม่ได้” “นายน้อยตมนาเป็นคนดื้นรันมาตั้งแต่เด็ก เขาชอบคุณเกสรมาก อาจเพราะว่าคุณเกสรชอบอะไร ก็เลยทำให้ตัวเองชอบด้วย” “นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ต้องฝืนใจตัวเอง อีกสักพักเขาก็ตื่นแล้ว คุณดูแลเขาดีกว่า” เกสรหมดคำจะพูด เธอไม่เคยเห็นเด็กที่มีความคิดแบบนี้มาก่อน กินเผ็ดไม่ได้แต่ก็ดึงดันจะกิน “คุณเกสรจะไม่อยู่รอนายน้อยตื่นก่อนเหรอครับ?” “ไม่ล่ะ พรุ่งนี้ฉันยังต้องถ่ายต่อ เดี๋ยวกลับไปโรงแรมก่อน ตื่นแล้วคุณทำแทนฉันนะคะ” “คุณเกสร” “อะไรเหรอคะ” เกสรรู้สึกว่าลุงทองมีบางอย่างอยากจะพูด “คุณมีอะไรอยากจะบอกฉันหรือเปล่า” ลุงทองขมวดคิ้ว หลังจากไตร่ตรองสักพัก สีหน้าก็จริงจัง “จะไม่ปิดบังคุณอีกต่อไปแล้ว นายน้อยของเราเขามีน้ำใจจริงๆ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนหยิ่งตั้งแต่เล็ก เขาต้องได้ในสิ่งที่เขาชอบ ถ้าไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาจะทำเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ถ้านายน้อยทำอะไรขึ้นมา คุณต้องให้อภัยเขานะครับ” “เขายังเป็นแค่เด็ก” เกสรไม่เก็บมาใส่ใจ ก่อนจะยิ้มอย่างสุภาพ “ถ่ายเสร็จแล้ว การไปมาหาสู่กันระหว่างฉันกับตมนาคงมีไม่มาก” “งั้นผมจะไม่ยื้อเวลาของคุณเกสรแล้วครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ” เมื่อออกจากโรงพยาบาล เกสรไตร่ตรองสิ่งที่พ่อบ้านพูด ฟังดูแล้วแปลก แต่ก็พูดออกมาไม่ถูก เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเธอ คำว่า ‘กัมพล’ ปรากฏแก่สายตา เธอขมวดคิ้วและจ้องอยู่ครู่นึง ก่อนจะกดรับสาย “ฮัลโหล ผู้ช่วยกัมพล ดึกแล้ว มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?” “คุณเยอรมันทำงานล่วงเวลาอยู่ที่บริษัท ตอนนี้ก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย ดังนั้นคุณมาทำอาหารให้คุณเยอรมันได้มั้ยครับ” “อะไรนะ?” เสียงของกัมพลยังสงบเหมือนปกติ “คุณเยอรมันบอกว่า ทำบะหมี่เนื้อครับ” เกสรเพิ่งได้สติกลับคืน “ตอนนี้กี่โมงแล้วคะ? คุณให้เขากินอะไรก็ได้เถอะ” คิดไปถึงตอนที่เธอเซ็นสัญญา ตอนนี้เธอเป็นอิสระแล้ว ยังจะต้องทำอาหารให้เขาเหรอ? “ฉันไม่ว่าง และคุณบอกเขาด้วยนะ แม่ยายเขาให้เงินฉันเพื่อให้ฉันไปจากเขา ฉันไม่สามารถทำให้ผิดใจกันได้อีก เพราะงั้นฉันเลยรับเงินมาแล้วเซ็นสัญญาไปแล้ว อยากกินข้าว ก็ให้เขาไปกินที่บ้านของคู่หมั้นเขา” “คุณ...” กัมพลยังพูดไม่จบ อีกฝั่งก็วางสายโทรศัพท์ไปแล้ว “คุณเยอรมันครับ คุณเกสรเธอ...” เขาเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าเหยเก ด้านหลังโต๊ะไม้ฮอกกานีขนาดใหญ่ ชายในชุดสูทดูเหมือนจะไม่กระทบกระเทือนกับสายเมื่อกี้ พลิกสัญญาในมือไปหน้าสุดท้าย หลังจากเซ็นลงไปก็วางไปด้านข้าง ประกายตาส่อแววเย็นยะเยือก ก็จะยิ้มเยาะ “ข้ออ้างนี้ไม่เลว เธอถือโอกาสไหลตามน้ำเอาเงินของตระกูลคุณยิ่งยศแล้วถือว่าตัวเองเป็นอิสระ คิดว่ามันเป็นการแลกเปลี่ยนที่ดี” เกสรอาบน้ำเสร็จ ผมกำลังเป่าให้แห้งอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงกริ่งดังขึ้น พลางคิดไปว่าเดลิเวอรี่ที่สั่งไปนั้นมาส่งเร็วมาก จึงปิดไดร์และไปเปิดประตู เกรงว่าจะเกิดเหตุจึงส่องตาแมวดูข้างนอก และเมื่อเห็นว่าเป็นคนใส่เสื้อสีน้ำเงินส่งเดลิเวอรี่จริงๆ ก็โล่งใจและเปิดประตู หลังจากเปิดประตู ก็พบว่าสีหน้าของคนส่งไม่ค่อยดี แต่เธอก็ไม่คิดอะไรมาก หางตาเธอเห็นเงาคนสองคนยืนอยู่ข้างๆ ถ้าไม่ใช่เยอรมันและผู้ช่วยกัมพล แล้วจะเป็นใครไปได้? เกสรรีบปิดประตู “โครม” เสียงดังขึ้น มือหนึ่งข้างยันประตูไว้ อีกฝั่งคือเกสรที่พยายามยั้ง แต่ก็ยั้งไว้ไม่ได้ เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็สบเข้ากับสายตาเย็นชาของเยอรมัน “ตอนนี้คุณยิ่งกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ” “ไม่ ฉัน... ฉันไม่คิดว่าจะเป็นคุณ” เกสรพูดพลางยิ้ม “ทั้งง่วงทั้งหิว สายตาก็เลยเลอะเลือน” “ใช่เหรอ?” เยอรมันยิ้มเย็น “ไม่ใช่คุณสั่งเดลิเวอรี่เหรอ? กินเสร็จก็ไม่หิวแล้ว ตอนนั้นก็ดูให้ดีๆ ว่าผมเป็นใคร” “ไม่ต้องแล้ว คุณเยอรมัน กัมพลยังไม่ได้บอกคุณเหรอ? ตอนนี้พวกเราไม่ควรเจอกัน มันจะดีมาก” “คุณแน่ใจเหรอว่าจะให้ผมพูดกับคุณตรงนี้?” อาจมีนักแสดงหรือทีมงานออกมาได้ตลอดเวลา เมื่อถูกพบเข้า เรื่องที่พูดจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก มันค่อนข้างยุ่งยาก ในใจของเกสรอยากจะกัดฟันแน่น แต่เธอก็ต้องถอยไปด้านข้าง กัมพลก็รู้ดี เมื่อประตูเปิดออกก็ให้คนส่งเดลิเวอรี่กลับไป และก็ไม่ลืมที่จะเอาข้าวเข้าไปส่งด้วยตัวเอง แล้วจึงค่อยปิดประตู เสียงปิดประตูดังขึ้น ทั้งห้องก็เหลืออยู่แค่สองคนคือเกสรและเยอรมัน “โครม” เสียงดังขึ้นพร้อมกับแฟ้มดำที่ตกลงมาที่โต๊ะ และมันก็ดังก้องอยู่ในโรงแรมที่เงียบสงบ เสียงค่อนข้างแหลมคมบาดแก้วหูของเกสร “คุณเซ็นมันเหรอ?” เยอรมันมองเธอด้วยดวงตาสีเข้มเย็นชา เกสรเปิดดู แค่ดูที่หน้าแรก ก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว สบสานตากับเยอรมัน มีเหตุผลที่จะพูดออกมาได้ “ใช่ ฉันเซ็น” “งั้น นี่ก็เป็นเหตุผลที่คุณจงใจไม่สนใจผมในเมื่อเร็วๆ นี้?” “คุณกิจพรข่มขู่ฉัน และฉันก็ถูกบังคับอย่างช่วยไม่ได้” “อย่างช่วยไม่ได้?” สายตาของเยอรมันเย็นลงเล็กน้อย “ผมคิดว่าคุณจะชอบซะอีก” “คุณคิดว่าฉันจะชอบมัน? สองวันมานี้ไม่ได้ดูข่าวเหรอ หรือไม่สนใจสิ่งที่เกี่ยวข้องกับฉันเลย?” เกสรหัวเราะเบาๆ เอนหลังพิงขอบโต๊ะ ผมเกือบแห้งของเธอกระจัดกระจายบนไหล่ สวมเสื้อคลุมอาบน้ำไว้หลวมๆ “ฉันเป็นนักแสดงตัวเล็กๆ แต่ถูกค้นหาบนอินเทอร์เน็ตจนยอดนิยม สิ่งที่คุณให้ฉันมาถูกแย่งไปจนหมด ฉันยังชอบได้อีกเหรอ?”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 46 ถูกบังคับอย่างช่วยไม่ได้
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A