ตอนที่ 81 เละเป็นโจ๊ก   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 81 เละเป็นโจ๊ก
ตอนที่ 81 เละเป็นโจ๊ก ตอนนี้จิรภาสนั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวจนเมาอยู่ที่ผับบาร์แห่งหนึ่ง เรื่องราในวันนี้ทำให้เขารู้สึกสะเทือนหัวใจอย่างมาก เขารู้สึกว่าในหัวสมองของเขามีเรื่องวุ่นวายเต็มไปหมด เขารู้ว่าแม่ของเขาไม่ชอบจรีภรณ์ รู้ว่าแม่ของเขาเป็นคนวางแผนให้เขาและยังรู้อีกว่าชญาภาชอบเขามากและอยากจะแต่งงานด้วย เขารู้ เขารู้ทั้งหมดทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่านอกจากแม่ของเขาจะคอยจ้องจับผิดจรีภรณ์แล้วยังได้วางแผนให้กับชญาภาอีกด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ของเขากับนพนา เขาเองก็รู้ดีว่าเป็นอย่างไร เป็นเพราะว่าแม่พอใจในชญาภาและเกลียดจรีภรณ์ และเขาก็ไม่คิดว่าแม่ของเขาจะร้ายขนาดที่วางแผนให้กับชญาภา จริงๆแล้วแม่ของเขาชอบชาติตระกูลของชญาภามากกว่า ถ้าชญาภาไม่ได้ร่ำรวย ถ้าเธอไม่ได้มีชาติตระกูลที่ดีแบบนี้ เขาเชื่อว่าแม่ของเขาก็ไม่เลือกให้เธอมาเป็นลูกสะใภ้หรอก แม่ของเขาจะบอกว่าเขาดี เขาดีอย่างนั้นอย่างนู้น เขาดีเสมอซึ่งทั้งหมดนี้มันคือข้ออ้าง เธอเองไม่เคยพูดว่าเธอเบื่อที่จะพูดหรือเบื่อที่จะฟังเขา ถ้าบอกว่าเขาดีจริงๆ ตอนแรกเขาจะไม่มีทางที่จะบังคับให้จรีภรณ์ไป ถ้าเขาดีจริงก็ไม่มีทางที่เขาจะได้อยู่กับจรีภรณ์ แต่นี่คือแม่ของเขา เป็นแม่ที่มีความเห็นแก่ตัว โหดร้ายและเอาแต่ใจ เพื่อเป้าหมายและประโยชน์ของตัวเองและแม้ว่าเธอจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกำจัดลูกสาวของเพื่อนเธอ แม้ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะยอมรับว่าเขามีแม่แบบนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเขาคือลูกของเธอ จิรภาสรินเหล้าด้วยความรู้สึกที่โดดเดี่ยวมาก เขารู้สึกอยากจะดื่มเหล้าจนตัวเองพิการ แต่พอเขายิ่งดื่มก็ยิ่งรู้สึกโล่ง เขารู้สึกว่าสมองของเขากำลังจะปะทุออก คำพูดของชญาภายังคงสะท้อนอยู่ข้างหู อารมณ์ที่น่าสงสารและความเจ็บปวดที่ไม่มีเสียงนั้น ทำให้เขารู้สึกแย่มาก เขาเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรใดๆเลย เป็นแค่คนไร้เดียงสาคนหนึ่งแต่ทำไมแม่ของเขาถึงทำให้เขาเสียศูนย์ได้ขนาดนี้ เขารู้สึกว่าเขาอยากจะระบายความเจ็บปวดที่อัดอั้นมาตลอดระยะเวลาสามปีกว่าออกมา เขารู้สึกว่าหน้าแกเขาจะระเบิดและในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น จิรภาสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและเห็นว่าเป็นสายแม่ของเขา ดังนั้นเขาจึงตัดสายด้วยความไม่เป็นสุข ตอนนี้เขาไม่มีทางที่จะพบเจอแม่เขาได้เขาได้อย่างแน่นอน เขากลัวที่จะได้ยินถ้อยคำที่รุนแรงกระแทกแดกดัน เขารู้สึกว่าเขาทนไม่ได้อีกแล้ว เขากลัวว่าเขาจะเสียศูนย์ความเป็นตัวของตัวเอง หลังจากที่วางสายไปโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก จิรภาสขวดคิ้วและมองไปที่โทรศัพท์ก็ยังคงเป็นแม่ของเขาที่โทรมาและยังคงโทรต่อเนื่องไม่หยุด โทรมาแล้วโทรมาอีกจนกว่าตัวเองจะพอใจ ไม่มีใครรู้ว่าความอดทนและสิ่งที่เธอเคยพบเจอมาผ่านมาทำไมถึงได้เยอะขนาดนี้ หลังจากที่รับโทรศัพท์ขึ้นมา แม่เขาก็พูดด้วยเสียงที่ดัง ตอนที่จิรภาสกำลังจะวางสายใส่ นวิยาก็สวนกลับด้วยเสียงที่ ขึ้นมาทันที จิรภาสตกใจเพราะแม่ของเขาไม่เคยไม่มีสติขนาดนี้มาก่อนและที่มันเกิดขึ้นก็เพราะมันต้องมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน คิดแบบนี้แล้วทำให้ตาของเขากระตุกตลอดเวลา เขาได้ยินเสียงแม่ของเขาในโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง ทำให้จิรภาสต้องรีบถามหาที่ที่แม่เขาอยู่และรีบออกไปทันที ตอนที่อยู่บนถนนเขาไม่รู้เลยว่าเขาหยุดไปกี่ไฟแดง เขาไม่ได้สนใจอะไร เขาไม่สามารถนึกถึงภาพที่จรีภรณ์กับแม่ของเขาต้องมาเจอกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ครั้งที่แล้วจรีภรณ์ตบแม่ของเขาเรื่องลูกตอนอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เห็นจรีภรณ์ร้ายแบบนั้น ทำให้เขารู้ขึ้นมาทันทีว่าครั้งนี้จะต้องมีเรื่องไม่ดีอีกแน่ๆ มิฉะนั้นจรีภรณ์จะไม่อยากไปเจอแม่ของเขาแน่ๆ เพราะเธอเองก็ไม่อยากไปไหนหรือออกจากบ้านมาไกลๆอยู่แล้ว พอคิดถึงตรงนี้จิรภาสก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที หน้าอกของคนเต็มไปด้วยความอารมณ์เสีย เขายอมที่จะโดดเดี่ยวดีกว่า หลังจากที่ถึงแล้วจิรภาสก็เห็นจรีภรณ์กับแม่ของเขากำลังตบตีกันอยู่ พื้นที่ตรงนั้นเละเทะไปหมด จรีภรณ์จิกหัวแม่ของเขาและแม่ของเขาก็บีบคอจรีภรณ์ เทพวีกับพนักงานที่อยู่ตรงนั้นก็พยายามขวางพวกเขาให้ออกจากกัน แต่ทั้งคู่ต่างก็สู้กันเอาเป็นเอาตายราวกับว่าไม่ฉันก็เธจะต้องตายไปข้างหนึ่ง จรีภาสรู้สึกแย่มากและรีบเขาไปห้ามพวกเขาทั้งคู่ออกจากกัน นวิยาเห็นลุกชายตัวเองกำลังเดินมา เธอก็รีบเปลี่ยนลักษณะท่าทางหญิงปากร้ายทันที พร้อมกับร้องไห้และพูดว่า “ลูก ในที่สุดลูกก็มา ถ้าลูกไม่มาหาแม่ แม่ก็คงไม่มีชีวิตอยู่เจอลูกอีกแล้ว ” พอพูดจบก็รีบมาฟุบลงที่ตรงอ้อมกอดของจิรภาสทันทีพร้อมกับร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด จิรภาสมองหน้าของแม่ที่มอมแมมไปด้วยฝุ่น โดยเฉพาะบนหัวที่ยังถูกตีจนบวมขึ้นมา ในใจก้โกรธมากและหันกลับมาพูดกับจรีภรณ์ว่า “จรีภรณ์ คุณทำอะไร ฮะ” “ฉันทำอะไรหรอ ฉันทำอะไรงั้นหรอ ” เมื่อจรีภรณ์ฟังคำพูดของจิรภาสเธอก็รีบลุกขึ้นมาด้วยความโกรธ “คุณถามแม่ของคุณดูสิ ว่าแม่ของคุณทำอะไร คุณถามสิ เธอยังจะมีหน้ามาตอบไหม” จิรภาสมองจรีภรณ์ที่โกรธบ้าคลั่ง ในใจก็เต็มไปด้วยความสับสน แน่นอนว่าแม่ของเขาต้องไปก่อเรื่องที่ผิดต่อจรีภรณ์แน่ๆ ดังนั้นเขาจึงจำใจที่จะต้องถามแม่ของเขาว่า “แม่ครับ ครั้งนี้แม่ก่อเรื่องอะไรอีก แม่หยุดก่อเรื่องสักทีได้ไหม ” “นี่ลูก ครั้งนี้แม่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ” นวิยารีบตอบกลับ “ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เหอะ คุณนวิยา คุณนี่ทั้งพูดจากลับกลอกทั้งหลอกคนอื่นไปทั่ว ถ้าคุณบอกว่าคุณยังไม่ได้ทำอะไร แล้วลูกชายของฉันจะหายได้ยังไง คุณไม่ได้โทรเรียกฉันมาที่นี่เพื่อมาคุยหรอกหรอ คุยเรื่องอะไร คุยเรื่องที่ให้ฉันย้ายออกจากเมืองซูไม่ใช่หรอ ” “จรีภรณ์” นวิยารีบตะโกนพูดขึ้นมาทันที “เธอจะมากล่าวหาคนอื่นแบบนี้ไม่ได้นะ ลูกของเธอหายแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน ที่พูดออกมามีหลักฐานไหม ถ้าเธอไม่มีหลักฐาน ฉันก็บอกได้ว่าเธอหนะใส่ร้าย ” “อ๋อ ท่าทางการพูดจาของคนบ้านคุณนายศิริวัชรภัทรสินะ บ้านพวกคุณเป็นสถานีตำรวจหรอ ทำไมถึงได้ป่าเถื่อน ไร้กฎเกณฑ์สิ้นดี” เทพวีมองนวิยาอย่างด้วยความถือดีและก็กดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาอีกว่า พอลูกชายแล้วแล้วยังไง หรือว่าหาพวก “ลุกดูสิ พวกเธอทั้งคู่ด่าแม่ใหญ่เลย แม่อายุเยอะขนาดนี้แต่กลับถูกแม่หนูเหล่านี้ด่าทอและรังแก แม่ไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหน” นวิยาร้องไห้หนักขึ้น ความปากจัดของเทพวี เธอก็ได้เห็น คำพูดที่เสียดสีกระแทกแดกดันและดุด่าว่ากล่าว เธอเกลียดเทพวีอย่างมา “แม่ แม่ทำแบบนี้กับลูกของเธอได้ยังไง” จิรภาสมองดูพวกเขาเถียงกันไปมา โดยไม่สนใจภาพลักษณ์ ทำให้จิรภาสตาสว่างมากขึ้น “แม่ไม่ได้ทำร้ายลูกเธอเลยนะ จิรภาส ลูกต้องเชื่อแม่นะ แม่ไม่เคยทำร้ายลูกของเธอเลยนะ ” นวิยารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอไม่ได้ทำจริงๆ และก็ไม่รู้ว่าลูกของเธอไปไหน “คุณยังกล้าพูดอีกหรอ ว่าไม่ใช่คุณ ครั้งที่แล้วที๋โรงพยบาลคุณก็เอาลูกของฉันไปซ่อนและยังมาขู่ให้ฉันออกจากเมืองซูอีก ตอนนี้คุณเห็นว่าฉันยังไม่ไป ก็เลยมาเล่นลูกไม้เดิมๆ คุณนวิยา จิตใจคุณมันนี่สกปรกสิ้นดี ไม่คิดเลยว่าจะมาใช้วิธีเอาเด็กคนหนึ่งมาข่มขู่ฉัน สกปรกสิ้นดี คุณยังเป็นแม่คนอยู่ไหม คุณไม่กลัวผลกรรมจะตามทันบ้างหรือไง ” “นี่ จรีภรณ์จะพูดจะจาอะไรก็ระวังหน่อยนะ ฉันไปยุ่งกับลูกเธอตอนไหนไม่ทราบ เสียสติจนเป็นบ้าวิ่งมาหาฉันถึงที่นี่จะมาเอาลูกคืน ถ้าไม่เชื่อฉันก็แจ้งความมาจับพวกเธอืุกคนเลย ” “ก็ดี งั้นคุณบอกมาสิ คุณเรียกฉันมาที่นี่ทำไม ” จรีภรณ์พูดพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้ๆ เพื่อที่เธออยากจะเข้าไปใกล้ๆเพื่อดูว่าแม่ของเขาจะมีฤทิธิ์มากขนาดไหน “เรียกหาเธออะไรกัน เธอบอกว่าเรียกหาเธออะไรกัน เธอจะเสียสติไปแล้วหรอ ถ้ามันไม่ใช่เพราะเธอลูกชายของฉันก็จะไม่เลิกกับชญาภา ตอนนี้เธอพอใจหรือยังล่ะ ทำไมเธอชอบทำตัวเป็นมือที่สามอยู่เรื่อยเลย ฮะ เธอเป็นผู้หญิงที่เคยมีลูกมาแล้วและยังอยากจะเข้ามาอยู่ในบ้านศิริวัชรภัทร ฉันคิดนะว่าคนอย่างเธอก็คงจะมาประจบสอพลอคนใหญ่คนโตเพื่อที่จะรวยทางลัดล่ะสิ” นวิยาถูกจรีภรณ์ด่าด้วยความโกรธและโมโหอย่างมาก ดังนั้นก็เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะพูดทุกอย่างออกมาหมด เมื่อจิรภาสได้ยินคำพูดแบบนี้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ไม่คิดว่าแม่เขาจะเอาเรื่องนี้มาพูดใส่จรีภรณ์ ดังนั้นเขาจึงมองแม่เขาด้วยอาหารที่พูดไม่ออก “แม่ครับ ผมพูดแล้วใช่ไหมครับว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีจรีภรณ์ ผมก็ไม่สามารถอยู่กับชญาภาได้ เพราะผมไม่ได้รักเธอ ไม่รักเลยสักนิด ทำไมแม่ถึงไม่เข้าใจอะไรเลย” “ทำไม ทำไมกันล่ะ ชญาภาเป็นเด็กผู้หญิงที่ดีขนาดนั้นและยังมีชาติตระกูลที่สูงศักดิ์ บ้านก็มีฐานะ มีเพียงเธอเท่านั้นแหละที่คู่ควรกับแก ” นวิยาไม่อยากจะเข้าใจอะไรทั้งนั้น ลูกชายของเธอทำไมถึงไม่เข้าใจข้อดีและข้อเสียบ้าง แต่งงานกับชญาภาไปก็จะมีแต่เรื่องดีๆ ลูกชายของเธอหลงใหลกับผู้หญิงเลวทรามต่ำช้าพรรค์นี้ไปแล้ว พอคิดถึงตรงนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกเกลียดจรีภรณ์มากขึ้น “ชาติตระกูลดี เหอะ เหอะ ” จิรภาสหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้า ถ้าแม่ของเขารู้ฐานะของจรีภรณ์จริงๆไม่รู้ว่าแม่จะรู้สึกยังไง อาจจะเสียใจกับสิ่งที่ทำกับเธอในตอนแรก แล้วก็จะรู้ว่าเธอไม่ใช่มือที่สาม เขามองแม่ของเขาด้วยความเย้ยหยันและไม่ได้พูดอะไร “คุณนวิยา ฉันขอถามคุณอีกรอบหน่อย คุณเอาลูกฉันไปไว้ที่ไหน ฉันจะบอกอะไรคุณให้นะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยคุณไว้แน่” ส่วนเรื่องระหว่างจิรภาสกับชญาภา เธอไม่ได้อยากจะฟังหรือรับรู้อะไรทั้งนั้น ตอนนี้เธอแค่อยากรู้ว่าตะวันลูกชายของเธอไปไหน เธอเป็นห่วงลูกชายของเธอมาก และเธอหมดความอดทนกับนวิยาเหลือเกิน “ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่รู้ ไม่! รู้!” นวิยารู้สึกเบื่อที่จะตอบ
已经是最新一章了
加载中