ตอนที่97ใบหน้าที่แดงแบบนั่น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่97ใบหน้าที่แดงแบบนั่น
ตอนที่97ใบหน้าที่แดงแบบนั่น จากนั่นก็พูดไปสักสองสามประโยคเขาเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นสิ่งล่องหนโดยสิ้นเชิงทำให้คนอื่นอดที่จะเชื่อไม่ได้ ข้างๆหูยังมีนักข่าวเรียกถามแต่ว่าตอนนี้คำถามเหล่านั้นกับไม่เข้าหูเพ็ญนีติ์หลังที่เขาได้ยินสิ่งที่เขาตอบไปทั้งหมดเหมือนท่อนแข็งทื่อที่เดินไปจนถึงรถปุริมถึงขั้นเป็นลองมือเปิดประตูให้เธอเองพาเธอนั่งรถตรงข้างหลังด้วยกันหัวของเขาที่ใส่หมวกใบหนึ่งเพื่อปกปิดแผลที่อยู่บนหัวเขาแต่สำหรับขาก็ปกปิดไม่ได้เลยสักนิดแต่ว่าในขณะที่เขาเดินไปไม่มีแม้แต่ความรู้สึกที่ต่ำลงราชาแห่งพายุนั่นไม่มีใครกล้าถามไถ่ถึงอาการบากเจ็บของขาเขาเลย ไม่พูดไม่ได้แล้วปุริมเปลื่ยนไปอย่างเข้มแกร่งพูดว่ามันคือสิ่งลึกลับมากนี่คือที่ไม่เคยพบเจอเหตุการณ์นี้มาก่อนและเพ็ญนีติ์คงทำไม่ได้แน่นอน ขวดน้ำดื่มได้มาอยู่ตรงหน้าเธอ“ดื่มสิ” เพ็ญนีติ์ไม่ได้คิดอะไรรีบรับมันมาเห็นน้ำขวดนี้เธอถึงรู้อาการคอแห้งขึ้นมาเมื่อกี้คือเธอตื่นเต้นจริงๆ “อึกอึก”จนดื่มหมดปุริมจึงยกมือขึ้น“ขับรถ”จากนั่นเขาก็แย่งน้ำดื่มที่ดื่มถึงครึ่งขวดมาดื่มต่อ“แชะๆ”จากนั้นซึ่งไม่ได้เสียงกล้องดังแต่แสงที่กล้องถ่ายมาทางเพ็ญนีติ์ทำให้เธอนึกขึ้นได้“แชะๆ”เสียงปุริมตั้งใจเขาจงใจจะให้คนอื่นรู้ว่าเขากับเธอดื่มน้ำที่เธอเคยดื่มเหมือนกับสามีภรรยาทั่วไปเหมือนเรื่องปลอมที่เป็นเรื่องจริง “ปุริมทำไมไม่ดื่มน้ำที่ยังไม่ได้เปิด?แล้วทำไมต้องมาดื่มน้ำที่เหลือของฉัน?”เธอรู้โมโหกับการกระทำนี้ “เธอไม่รู้สึกเราเหมือนสามีภรรยาหรอ?”ยิ้มอ่อนอารมณ์เขาดีขึ้นมาเลย “แต่ระหว่างเรา......” “ตกลงกันแล้วนิว่าหกเดือนนี้เธอเองต้องแสดงละครนี้ดีๆถ้าเธอแสดงได้ดีเผลอๆไม่ต้องถึงหกเดือนฉันอาจจะปล่อยให้เธออิสระเร็วกว่านี้” รู้สึกไม่ค่อยดีเลยเพ็ญนีต์ใจเต้น“ครั้งต่อไปงั้นฉันก็แย่งคุณดื่มน้ำครึ่งหนึ่งของคุณ?” “ก็ได้ผมไม่ถือสา”คำพูดของขำให้เขาเหมือนปุริมคนเดิมรู้สึกเหมือนกับวันนี้เขาไม่ได้ไร้เยื่อใยเพราะเหตุผลบางอย่างแต่ว่าฉากนี้ถูกสะกดแล้วดูไปที่เธอและเขาก็เดาไม่ออกเลย ลูบริมฝีปากนั่งอยู่ข้างๆเขาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเธอก็ได้แต่นั่งขยับไปข้างประตูรถเพื่อที่จะนั่งห่างเขายิ่งห่างยิ่งดีแค่นี้คงจะกำจัดความตื่นเต้นของเขา “เพ็ญนีติ์คุณกลัวอะไร?” “ไม่......ไม่มี......”เธอทำไมไม่ได้เรื่องเลยถึงขั้นนั่งแบบนี้ข้างเขาเธอรู้สึกแค่ครบคุมตัวเองไม่ได้เลย “แล้วคุณหลบผมทำไม?ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นคงถูกจับได้แน่ๆเลยนะ” “อ๋อฉันเข้าใจแล้ว”ยังเลือกที่จะนั่งห่างเขาอยู่ความห่างระหว่างครึ่งตัว ปุริมมองไปที่เธอและไม่อยากบังคับเธอและวางสายตาไปยั้งหน้ารถจากนั้นก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมา “พวกนักข่าวไปกันหรือยัง?” “......” “กลางคืนรีบไปสืบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบริษัททัดธนกรุ๊ปจำกัดจากสำนักงานหนังสือพิมพ์และเปลื่ยนแปลงทุกข้อมูลทั้งหมด” ฝีมือเขาไม่ธรรมดาแค่นี้ก็พาเธอไปแล้วหนึ่งขั้นแล้วแค่ก็ปิดปากทุกอื่นแล้วเพ็ญนีติ์จึงรู้ความสำคัญของตนเอง จากนั่นไม่นานที่สั่งจบไปยั้งโทรศัพท์ก็วางลงรถก็มุ่งหน้าไปยั้งมหาวิทยาลัยดรัลด้วยความเร็วที่ค่อยวิ่งไปมองไปนอกหน้าต่างรถไม่ไกลมากเธอตกใจคือที่ที่เธอและเขาเคยนั่งกินราเม็งด้วยกันนึกย้อนไปเธอมีความสุขมาก ใจของเธอเริ่มลอยไปด้วยกำลังคิดอยู่รถก็จอดลงกับที่หน้าร้านของร้านนั้น เปิดประตูรถมือของเขาก็เริ่มจับไปที่มือเธอเหมือนที่ทำแบบนี้จะทำให้คนอื่นรู้ว่าเขาเป็นสามีภรรยากัน ตอบสนองเขาแค่เธออยากให้เวลาหกเดือนนี้ลดลงมาหน่อยแบบนี้เธอถึงจีอิสระที่ไวขึ้น “ฉันจำได้ว่าเธอชอบคนราเม็งร้านนี้ก็เลยให้คนขับรถพามาที่นี้ที่นี้แบบนี้ยิ่งดูสนิมสนมดี” เขาเปลื่ยนไปแล้วจริงๆจากที่เคยว่าและไม่ยอมให้เธอที่มาร้านนี้ตอนนั่นเธอสั่งราเม็งมากินนั่งกินแต่เขากลับไม่กินเลยสักคำนึกไม่ถึงที่พวกเขามาที่นี่ด้วยกันและครั้งเดียวเขายังจำมันได้ถึงตอนนี้ การเขาทำแบบนี้กับเธอคือจะดีหรือจะร้ายกันแน่? เธองงไปหมดแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเดินเข้ามาในร้านนี้ได้“ราเม็งสองถ้วยครับ”ปุริมพูดขึ้นมาอย่างปกติไม่เหมือนหลายปีก่อนที่เธอพาเขามาที่นี้เธอเป็นคนสั่งส่วนเขาจ่ายตัง เวลาผ่านไปไม่นานสองคนก็นั่งลงที่โต๊ะจากนั่นก็มีพวกกับแกล้มมาเสริฟ์“คุณผู้ชายแฟนของคุณหรอคะ?สวยจังเลยนะคะ” ฟังจากคำถามจากคนแปลกหน้าของเด็กเสริฟ์ถามไปยั้งปุริมเพ็ญนีติ์ถึงกับคางเกือบตกเธอฟังไม่ผิดแน่พนักงานผู้หญิงพูดเหมือนกับสนิทกันยังมีอีกนิดหน่อยที่วันนี้เธอแปลกใจตอนเช้าออกไปกับนภนต์ก็ถามว่าเธอเป็นอะไรกันตอนนี้กับปุริมก็มีคนมาถามว่าเป็นอะไรกันเป็นวันที่เจอผีจริงๆ “ไม่ใช่ครับ” “คุณผู้ชายไม่เคยพาใครมาแสดงว่าผู้หญิงคนนี้คงเป็นเพื่อนที่ดีของตุณสินะคะ”พนักงานเสริฟ์คนนี้ฉลาดพูดเหมือนแค่คำสองคำสามารถประสานกันได้ “เฮอะไม่ใช่ครับ” “งั้นเป็น?”พนักงานผู้หญิงเสริฟ์คนนั่นก็ถึงกับมึนงงยิ่งไม่ได้คำตอบก็ยิ่งอยากรู้คำตอบขึ้นมาอีก“คุณผู้ชายแนะนำหน่อยสิคะยังไงคุณก็เป็นลูกค้าประจำของเราถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนคุณฉันเป็นคนเลี้ยงมื้อนี้เองค่ะ” “โฮะๆไม่ใช่ครับเธอเป็นภรรยาผมครับ”ตอบไปอย่างไม่ช้าเพ็ญนีติ์เห็นพนักงานหญิงเสิรฟ์ตนนั้นอ้าปากค้างเธอตกใจมาก ที่จริงตัวเองก็ตกใจเหมือนกันว่าเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าปุริมกลายเป็นลูกค้าประจำร้านนี้หลายปีแล้วที่พนักเสริฟ์ร้านนี้คงเปลื่ยนไปหลายครั้งแน่ๆเลยจากที่เธอดูจากความสนิมของเขาและพนักงานเสริฟ์หญิงเขาต้องเป็นลูกค้าประจำร้านนี้แน่ๆเลย “คุณผู้ชายที่จริงแล้วคุณแต่งงานแล้วหรอคะภรรยาคุณสวยมากเลย” “ถ้างั้นคืนนี้คุณช่วยเพิ่มเนื้อกับไข่ดาวในราเม็งทั้งสองถ้วยเลยนะครับ” “ได้ค่ะฉันจะทำตามที่คุณสั่งค่ะ”พนักงานเสริฟ์รีบไปทำตามที่สั่งเพ็ญนีติ์เอาตะเกียบไปกินผักกาดดองบนจานเล็กเปรี้ยวๆหวานๆแครอทกับหัวไชเท้าอร่อยจังเลย “เป็นยังไงไม่เปลื่ยนเลยใช่ไหม?” เธอยิ้มออกมากจากที่ทั้งตอนเย็นเธอตื่นเต้นมาตลอดแต่เวลาตอนนี้มีแค่เธอกับเขาเธอสังเกตว่าเธอสามารถผ่อนคลายลงได้แล้วบรรยากาศที่นี้ดีมากดีกว่าห้องทำงานของเขามาก“อือไม่มีการเปลื่ยนแปลงเลยไม่ได้มาที่นี้นานมาก” “งั้นก็กินเยอะๆเลยเอามั้ยฉันสั่งเพิ่มอีกถ้วยให้เธอไหม?” “ฉันไม่ใช่หมูนะไม่เอาหรอกถ้วยหนึ่งก็พอแล้ว”คิดไม่ถึงจริงๆเลยว่าเขาจะเป็นลูกค้าประจำที่นี่ “ขอบคุณค่ะ” “คุณผู้ชายมาบ่อยๆก็ดีนะคะซึ่งสามารถทำให้ร้านดำเนินไปได้” เขายิ้มแล้วฟันที่เรียงสวยโผล่มาให้เพ็ญนีติ์เห็นเธอกลับสังเกตเห็นตัวเขาที่มีรสชาติอย่างอื่นไม่ใช่แค่ท่าทางที่เย็นเฉียบ “ปุริมทำไมไม่พาเธอมากินด้วยละ?”ถ้าชอบที่นี้มากเธอรู้สึกว่าก็ควรที่พาพนินีมากินราเม็งที่นี้สิเป็นรสชาติเหมือนที่บ้านมาพร้อมกับรสชาติในแบบที่แม่ทำ ตะเกียบในมือปุริมและเอาหยุดชะงักตะเกียบกลางอากาศมองไปที่ไอของราเม็งถ้วยนั้นแล้วก็เอาตะเกียบวางไว้บนโต๊ะที่เดิม”เพ็ญนีติ์ในเวลาที่เราอยู่ด้วยกันฉันไม่อยากพูดถึงพนินีได้มั้ย?” “หือทำไมละ?คุณไม่ใช่ว่าชอบเธอหรอ?ฉันถามคุณหน่อยเธอชอบดอกไม้เยอบีร่าใช่มั้ย?” เขาเงียบไปร่างก็พิงไปหลังเก้าอี้มือไปสางไปที่หน้าอกดวงตาคู่นั้นที่มองไปที่ใบหน้าของเธอเหมือนกับว่าหน้าเธอนั้นมีอะไรติดอยู่ “ใช่สิเนอะเธอเป็นถึงคุณหนูเธออ่อนโยนขนาดนั้นเธอคงไม่ชอบร้านเล็กๆแบบนี้หรอกเธอชอบสถานทีดูสวยและใหญ่ถ้าให้ดีมีไวโอลีนของคุณด้วยแบบนั่นถึงจะสวยงาม” ปุริมก็ยังเงียบแต่ดวงตาคู่นั้นที่บ่งบอกว่าเขาอะไรอยู่ในใจเขาอดทนไว้ในแววตาเหมือนอยากจะลุกไปฆ่าเธอทันที “ปุริมไม่งั้นเราสั่งไปให้เธอด้วยให้เธอลองกินดูเผื่อว่าเธอจะชอบราเม็งที่นี่ไงคุณดูคุณก็คือตัวอย่างไง” พูดไปยิ้มไปและขณะที่เอาราเม็งเข้าไปปาก“อร่อยจัง” “เพ็ญนีติ์คุณพูดจบหรือยัง?”เสียงของเขาก็ฟังออกเขาพยายามฝื่นตัวเองอยู่ไม่งั้นเขาคงจะชกหมัดมาที่เธอแน่ๆ “ฉันแค่รู้สึกว่าพี่พนินีเป็นคนที่ดีนะเธอก็เป็นถึงแม่บุญธรรมของอ้อยและส้มนิเป็นถึงแม่บุญธรรมฉันจะชวนเธอมากินข้าว” “หุบปาก”เขาตะโกนและหมัดก็ชกไปยั้งบนโต๊ะเสียงดังไปทั่วร้านจะธรรมดาที่คนทั้งร้านอาหารนี้จะหันมามองที่โต๊ะเขา “ทำไมถึงพูดถึงเธอไม่ได้?หนึ่งเขาก็เป็นแม่บุญธรรมของลูกๆสองเธอไม่ใช่เป็นภรรยาของน้องชายคุณปุริมการต่อสนองของคุณมากเกินไปหรือเปล่า”เธอไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยไม่โกรธไม่รีบไม่หวั่นพูดต่อไปจากนั้นก็เอาราเม็งเข้าไปอีกคำโดยไม่ได้ใส่ถึงการกระทำของเขาเลย ปุริมเริ่มหน้านิ่งอย่างเย็นชาจากนั้นพูดไปว่า“กินราเม็งไป”จากนั่นก็พูดมาอีกว่า“การกินราเม็งคงอุดปากคุณไม่ได้หรือไง?” “ก๊ากก”เพ็ญนีติ์ขำ“ปุริมระหว่างกินข้าวไม่ค่อยพูดแต่ตอนนี้ฉันกำลังกินราเม็งไม่ใช่กินข้าว” เธอกัดไปคำหนึ่งก็คือจะให้เขาลงกักดักเธอสังเกตที่สามารถทำให้เขาหน้าแดงขึ้นมาแบบนี้ยิงดูยิ่งสนุก
已经是最新一章了
加载中